บทที่ 563 เส้นทางใหม่ (4)
ตอนที่ผมจ้องมองเธอ เธออธิบายว่า “พวกเราต้องรวบรวมสมุนไพรหลายชนิดไปจุดไฟและทำอาหารให้ได้มากที่สุด ป่าจะหายไปเมื่อพวกเราขึ้นสู่จุดที่เย็นจัด”
“…เข้าใจแล้ว” ผมพยักหน้าและยกร่างขึ้น
ฮาริน ทำให้ผมดูแปลกๆ
“เธอพักผ่อนแล้วเหรอ?”
“อะ? อ่า ใช่ ไปกันเถอะ”
ค่าสถานะของผมเพิ่มขึ้นเมื่อผมใช้ความแข็งแกร่งดังนั้นมันจึงดีกว่าที่จะทำให้ตัวเองเหนื่อยเล็กน้อย พวกเราหยิบกระเป๋าและเริ่มปีนภูเขาอีกครั้ง ในขณะที่พวกเราขึ้นมาความเขียวขจีบนพื้นดินก็หายไปแทนที่ด้วยสิ่งสกปรก อุณหภูมิที่หนาวเย็นทำลายผิวหนังของผมเหมือนมีดบาด
แต่ด้วย [ระบบเสริมความแข็งแกร่งแบบสุ่ม] การเพิ่มคุณสมบัติการคงทนความร้อนของเสื้อผ้าของผม ผมสามารถทนความหนาวได้ดีขึ้น
ผมมอง ฮาริน เธอทนความหนาวเย็นได้ด้วยการเสริมลมปราณ เมื่อเห็นอย่างนี้ผมก็นึกถึงการตั้งค่าของเธอ [นักล่ามาร] เธอเป็นตัวละครสำคัญในโลกนี้อย่างไม่ต้องสงสัย เธออาจมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ กับ บาอัล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคือคนที่ผมต้องดูแลให้ปลอดภัย
“แฮ่ก แฮ่ก”
เมื่อพวกเราไปถึงจุด 4000 เมตรความเย็นจัดก็มากเกินที่จะทนได้
ผมไม่มีทางเลือกนอกจากเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุปกรณ์ของผมด้วยพลังเวทมนต์ของรอยสัก
“พวกเราไปถูกทางแน่เหรอ? ฉันเชื่อใจนายนะ” ในขณะนั้น ฮาริน ถาม เสียงของเธอเยือกเย็นเพราะความหนาว
“ใช่แค่ติดตามฉันมาก็พอ” ผมตอบอย่างมั่นใจ แต่บางทีเสียงของผมอาจดูแปลกๆเพราะความหนาวและเกล็ดหิมะสีขาวเริ่มเทลงมา มันขาว
ไปหมด ฮาริน ตะโกนทันที
“มันเป็นพายุหิมะ! ระวัง!”
ฮารินมุ่งหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามขณะที่เธอพูดอย่างนั้น คนที่บอกให้ผมระวังตัวก็หายตัวไป เธอสูญเสียความเชื่อใจในการนำทาง เมื่อเห็นเธอมุ่งหน้าไปยังหน้าผาผมจับข้อมือของเธอแล้วดึงเธอกลับมาอย่างแรง
“อา! ใครน่ะ! เป็นนายเอง-?!”
“ใช่ ฉันเอง. ฉันได้ยินเสียงเธอดีดังนั้นเธอไม่ต้องตะโกน เพียงแค่ตามฉันมาก็พอ”
พายุหิมะนี้มีพลังเวทมนต์ผสมอยู่ในอากาศทำให้ยากต่อการอดทน
“อ้อ…ฉันเห็นถ้ำตรงนั้น”
เมื่อพิจารณาว่าพวกเราปีนขึ้นไปโดยไม่มีทางแล้วพวกเราก็หยุดพักที่นี่
ผมเริ่มเดินไปยังถ้ำธรรมชาติประมาณ 500 เมตร
*************************************************************************
28 ชั่วโมงตั้งแต่ต้นปีนเขาถ้ำในภูเขา โปลรีอุน
ซ่าาา— ซ่าาา—
แคมป์ไฟเผาไหม้เป็นปลา 3 ตัวที่เสียบอยู่ข้างบน ฮารินกัดริมฝีปากของเธอแล้วกลืนน้ำลายขณะที่เฝ้าดูปลา เมื่อผมจ้องมองเธอ เธอบ่นราวกับว่าจะแก้ตัว “…มันนานแล้วที่ฉันไม่ได้กินเนื้อ”
“จริงๆเหรอ?”
“แคมป์ไฟจะทิ้งร่องรอยเอาไว้”
“อืมมม…แล้วเธอหนีมานานแค่ไหนแล้ว?”
ฮาริน สะดุ้ง ดวงตาของเธอสั่นเทาราวกับว่าพวกมันกำลังเกิดแผ่นดินไหวภายในนั้น ในไม่ช้าเธอก็ถอนหายใจลึกๆแล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา“…ใช่ฉันกำลังหนีอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกเทือกเขานี้”
“ทำไมเธอหนี”
“…จะดีกว่าที่นายจะไม่รู้เรื่องนี้ เพราะถ้าฉันถูกจับกุมนั่นคือ…”
ฮารินหยิบไม้ขึ้นมา ผมผิดหวังเล็กน้อยที่ผมไม่ได้ฟังเรื่องเต็มๆ แต่ก็ยอมแพ้และปล่อยไปก่อนผมมองออกไปข้างนอกถ้ำ พายุหิมะไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด
ผมหันกลับไปหาฮาริน
งับ งับ
เธอกำลังยุ่งกินปลาอยู่ เธอกระพริบตาแล้วมองมาที่ผมด้วยสายตาที่น่าพึงพอใจและน่าสงสัย
“…งับๆ” ฮารินน้ำเสียงของเธอจริงจัง “นายเป็นทหารระดับ F จริงๆเหรอ?”
ผมตอบด้วยรอยยิ้ม “เธอเห็นรายงานแล้วนะ”
“…ทหารระดับ F ไม่สามารถทนต่อความหนาวเหน็บของ โปลรีอุน ได้”
สิ่งที่เธอพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่ผมให้คำตอบเดียวกับเธอ
“ฉันเก่งกว่าที่เธอคิด”
และแลัวการแจ้งเตือนใหม่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าผม
[ตัวละครหลักของโลกนี้ นักล่ามาร ฮาริน ให้ความสนใจในตัวคุณ]
“…ฉันเข้าใจ.”
ฮาริน ปิดปากของเธอ หลังจากนั้นพวกเราไม่ได้คุยกันและจ้องมองพายุหิมะข้างนอกถ้ำ ในไม่ช้า ฮาริน ก็มองมาที่ผมแล้วก็ส่งไม้เสียบให้ผม ผมบอกเธอว่าเธอควรกินมันนะ
“ฉันมีคำถามอื่น” ฮารินถามขณะที่เธอกัดปลา “ทำไมนายถึงเข้าร่วมกับกองทัพของลอเรนซิโอ”
มันไม่ใช่คำถามที่ผมตอบได้ ผมอยากที่จะอยู่เงียบๆแต่ความคิดที่ดีก็โผล่ขึ้นมาในหัวของผม
“…อะแฮ่ม.”
ผมเอนตัวพิงกำแพงถ้ำและสร้างบรรยากาศ ผมแสดงท่าทางอย่างเคร่งขรึมและทำให้ตัวเองดูประหม่าเล็กน้อย จากนั้นในบรรยากาศที่จริงจังผมก็พึมพำ
“ฉันอยากเอาชนะมาร?”
“… !”
ร่างกายของฮารินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เธอจ้องมาที่ผมด้วยดวงตาเบิกกว้าง ผมรู้สึกว่าชื่อ [มาร] มันทำงานได้ดีกว่าที่ผมคิด
“… มาร?”
“ใช่.”
ผมตอบคำถามเธออย่างเมินเฉย ไม่สำคัญว่าเธอจะมาทำอะไรที่นี่แต่จากการสอบสวนของเธอ เธอพบว่าผมเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีใครรู้ภูมิหลังของผมก่อนที่ผมจะมาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเลยมีอิสระที่จะทำสิ่งต่างๆตามที่ผมพอใจ
“นาย….”
ฮาริน กลืนกินอย่างหนักและถามอีกครั้ง “นายเชื่อเหรอว่ามารมีอยู่จริงๆ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ผมก็ต้องตอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมกัดฟันและกำมือของผมแน่นจนเห็นเส้นเลือด การแสดงของผมดูสมจริงมาก ฮารินสังเกตปฏิกิริยาของผมอย่างระมัดระวัง
“… .”
ผมรักษาใจเย็นและส่ายหัว มันชัดเจนว่าผมหมายถึงอะไร ฮาริน รอไม่ไหวจนเข้าหาผม
“บอกฉัน. นายเชื่อในการมีอยู่ของมารสินะ?”
“… .”
ผมเห็นแสงเจิดจ้าจากแววตาของเธอผมขอให้เธออย่าถามอะไรเพิ่มเติม แต่ฮารินไม่ตอบอะไรกลับลงมา พวกเราแข่งขันจ้องตาสัก 2-3 นาทีจากนั้น ผมพึมพำราวกับว่าผมกำลังจะยอมแพ้
“เมื่อฉันอายุครบ 6 ขวบ…มันฆ่าครอบครัวฉัน”
ใบหน้าของ ฮาริน แข็งทื่อ เธอมักจะคิดถึงภูมิหลังของครอบครัวที่เธออ่านในรายงานเกี่ยวกับผม
“มนุษย์กลายเป็นมอนสเตอร์ที่มีเขาและฆ่าทุกคน”
ผมพยายามที่จะทำเป็นโกรธแค้น
“มารเป็นสิ่งเดียวที่จะอธิบายมันได้”
“… .”
ฮาริน เงียบลง เธอถอยออกไป ในถ้ำมืดเธอหลับตาแล้วไตร่ตรองในไม่ช้าเธอก็พยักหน้าด้วยสีหน้าโศกเศร้า
“…ฉันเข้าใจ.”
ดูเหมือนว่าเธอจะมีความเข้าใจมากขึ้นและพูดอย่างมั่นใจ
“ฉันเข้าใจจริงๆนะ.”
ผมมองเธอ เธอจ้องมองมาที่ผมและพูดออกมา
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไม ไอรัน ถึงส่งนายมาให้ฉัน”
และแน่นอน เธอหลงกลผมแล้ว!!