SD:บทที่ 113 การบริจาค

 

ซูฉิวไป่ รู้สึกงุนงง การแลกเปลี่ยนระหว่างนิวยอร์ก?การประมูล?มันหมายความว่าอะไรกันแน่?

เมื่อเห็นใบหน้าที่สับสนของ ซูฉิวไป่ อาจารย์ตงฟางเริ่มอธิบาย

“จะมีงานประมูลในสัปดาห์หน้า ข้อมูลและรูปภาพของโบราณวัตถุเหล่านั้นถูกเผยแพร่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมเคยเห็นมันในเวลานั้นสมาคมวิจัยประวัติศาสตร์วัฒนธรรมจีนต้องการที่จะหยุดพวกเขา เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นของชนชาติประเทศเรา แต่ชาวต่างชาติกลับไม่ยินยอม…”

มันต้องเป็นสิ่งไม่น่าพอใจเป็นอย่างมากดังนั้นเสียงของอาจารย์ตงฟางจึงแสดงออกถึงความโกรธ

เมื่อมองไปที่สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญในห้องโถงที่พึ่งได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนขมวดคิ้ว ในฐานะที่เป็นคนจีนไม่มีใครรู้สึกสบายใจเมื่อชาวต่างชาติประมูลวัตถุโบราณของตน แม้แต่คนธรรมดาถ้ามีความรู้สึกและมีเลือดเนื้อของประชาชนจีนพวกเขาจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้

“พวกเราคิดว่าอาจไม่สามารถเห็นพวกมันได้อีกต่อไป แต่…ผมไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นพวกมันทั้งหมดอยู่ที่นี่”

อาจารย์ตงฟางรู้สึกตื่นเต้น เขามองเข้าไปในดวงตาของหยกสิงโตขาวราวกับมันเป็นลูกของเขา

ซูฉิวไป่ พูดอะไรไม่ออกเขาไม่ได้คาดหวังว่าโบราณวัตถุที่เขานำมาจากจักรพรรดิเฉียนหลงจะมีความสำคัญเฉพาะเช่นนี้

ทุกคนจ้องมองมาที่ ซูฉิวไป่

นี่มันสุดยอดเกินไป

5สิ่ง โบราณวัตถุที่ควรปรากฏในการประมูลนิวยอร์กกลับอยู่ที่นี่ และ ซูฉิวไป่ กล่าวว่ามันเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งเอาไว้

หากสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงแสดงว่าสิ่งของที่อยู่ในนิวยอร์กนั้นเป็นของปลอม หรืออาจจะเรียกได้ว่า มีการสร้างขึ้นมาซ้ำซ้อน

พวกเขากระตือรือร้นที่จะได้ยินสิ่งที่ ซูฉิวไป่ พูดต่อไป อย่างไรก็ตาม ซูฉิวไป่ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงจึงโกหกพวกเขา

“สิ่งของที่อยู่ในนิวยอร์ก..เป็นของปลอม!”

เมื่อฟังดังนี้ทุกคนเริ่มสับสน แม้ว่าพวกเขาจะคาดเดาเรื่องนี้ไว้แล้วหลังจากที่อาจารย์ตงฟางตรวจสอบสิ่ง ของทั้ง 5 ชิ้น แต่พวกเขาก็ยังไม่เชื่อจนกว่าจะได้ยินคำพูดจาก ซูฉิวไป่

ในการประมูลครั้งใหญ่ในนิวยอร์กนั้นมีชิ้นส่วนของวัฒนธรรมจีนถึง 5 ชิ้นและพวกมันทั้งหมดเป็นของปลอม!! พวกมันทั้งหมดยังคงปลอดภัยอยู่ในประเทศจีน ใครก็ตามที่ได้ยินข่าวประเภทนี้จะต้องประหลาดใจ!

อย่างไรก็ตาม ซูฉิวไป่ ไม่มีเวลาคัดกรองพวกมันก่อน เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตระหนักถึงสัญญาณเตือน ใครว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขานำมาจากห้วงมิติจะสามารถเปิดเผยในโลกใบนี้ได้

ในเวลาเดียวกันเขามีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ สิ่งของ 5 ชิ้นในประเทศนิวยอร์ก เขาเชื่อมั่นในระบบนำทางของเขาดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปดูสิ่งเหล่านั้นที่ประเทศนิวยอร์กสักหน่อย ยิ่งไปกว่านั้น ซูฉิวไป่ ยังมีความคิดที่อาจหาญ ในความคิดของเขาก็คือทำลายสิ่งประดิษฐ์ทั้ง 5 รายการในนิวยอร์ก เพื่อสุดท้ายแล้วของของเขาจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของจริง!

สิ่งของเหล่านั้นเป็นของประเทศจีนพวกเขากล้าประมูลได้ยังไง?อย่างไรก็ตามแม้ว่าของเหล่านั้นจะถูกทำลายแต่ก็ยังมีอีก 5 ชิ้นที่เหมือนกันอยู่ในประเทศจีน

จากความคิดนี้ ซูฉิวไป่ ก็ผ่อนคลายอย่างลึกลับเขามองไปที่อาจารย์ตงฟางและตัดสินใจ

“อาจารย์ตงฟางผมไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มีคุณค่ามากจริงๆ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจบริจาคให้กับประเทศในนามของเซี่ยกรุ๊บ!”

เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง

เซียหรงหรง ยกย่อง ซูฉิวไป่ อย่างลับๆ เธอจะหนักถึงคุณค่าโบราณวัตถุ 5 ชิ้นนี้ การที่ ซูฉิวไป่ ยอมสละมันไม่ได้สูญเสียอะไรเลย นอกจากนี้เธอยังเต็มใจที่จะทำสิ่งนี้อีกด้วย สุดท้ายแล้วสิ่งของเหล่านี้ก็เป็นของประเทศของเธอ ไม่มีใครอยากให้พวกมันหายไปอยู่ในต่างประเทศ

อาจารย์ตงฟางและกลุ่มผู้อาวุโสไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอในครั้งนี้ได้ พวกเขานำสิ่งของทั้ง 5 กลับไปยังเป่ยตู และทำการประกาศเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เพื่อไม่ให้ใครคิดว่าสิ่งของที่อยู่ในนิวยอร์กนั้นเป็นของจริง

นี่คือความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อประเทศของพวกเขา!ตราบใดที่ทุกคนรู้ว่าของจริงอยู่ในประเทศจีนนั้นก็เพียงพอแล้ว!

ในตอนแรกผู้อาวุโสมีความสงสัยในตัว ซูฉิวไป่ มาก่อนตอนนี้เขามองเห็นความตั้งใจของ ซูฉิวไป่ อย่างชัดเจน ช่างเป็นชายหนุ่มที่ลึกซึ้งมาก!

เมื่อมองไปที่ความตื่นเต้นของพวกเขา ซูฉิวไป่ รู้สึกภาคภูมิใจ ทุกคนต้องการการยอมรับจากคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการยอมรับเกี่ยวข้องกับประเทศ

“เราจะนำสิ่งของเหล่านี้กลับไปเป่ยตูโดยเร็วที่สุด จากนั้นผู้คนในนิวยอร์กจะต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างแน่นอน!”

อาจารย์ตงฟางหายใจเข้าลึกๆและตัดสินใจซึ่งคนอื่นๆเห็นด้วย เนื่องจากยังมีการตรวจสอบโบราณวัตถุต่อไป ซูฉิวไป่จึงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับ เซียหรงหรง

เมื่อกลับมายังสำนักงาน ซูฉิวไป่  บอกกับ เซียหรงหรง เกี่ยวกับความคิดของเขา เขาไม่เคยตระหนักถึงคุณค่าของโบราณวัตถุมาก่อนแต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว!

พวกมันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง!

ดังนั้นเขาจึงบอก เซี่ยหรงหรง ว่า เซี่ยกรุ๊บไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชนก่อนที่เขาจะมีพลังในการปกป้องของเหล่านี้ทั้งหมด

ในความเป็นจริงเซี่ยหรงหรงก็มีความคิดคล้ายกัน เมื่อรู้ว่าความคิดพวกเธอใกล้เคียงกันเธอมองเข้าไปในดวงตาของ ซูฉิวไป่ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงความอบอุ่น

“เมื่องานแสดงสินค้าสิ้นสุดลงฉันตัดสินใจที่จะลงทุนในตลาดหยก!”

เซียหรงหรง พูดขึ้นโดยไม่ลังเลเพื่อบอกความคิดของเธอกับเขา

ในอดีตเซี่ยกรุ๊บไม่มีเป้าหมายมากแต่หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปดังนั้นจึงวางแผนที่จะเริ่มต้นก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลง!

ซูฉิวไป่ พยักหน้า เขารู้สึกโชคดีที่ได้พบผู้หญิงคนนี้แต่เขาอายที่จะบอกกับเธอดังนั้นเขาจึงเก็บคำนี้ไว้ในใจ ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นลึกซึ้งมากแต่ไม่มีใครเต็มใจที่จะเป็นผู้บอกก่อน

บางที..นี่อาจเป็นสิ่งที่ดี!

เพียงไม่นานโทรศัพท์มือถือของ ซูฉิวไป่ ก็ดังขึ้น

มันเป็นรายชื่อที่ไม่มีในโทรศัพท์เขารู้สึกแปลกๆเล็กน้อยที่มีเบอร์ไม่รู้จักโทรเข้ามา หลังจากที่ได้รับสายโทรศัพท์คนปลายสายก็บอกว่าเขาเป็นตำรวจ!

“สวัสดีครับคุณชื่อซูฉิวไป่ใช่หรือเปล่า?เพื่อนของคุณหนิ่วไป๋หวานถูกสงสัยในข้อหาทุจริต ตอนนี้เขาอยู่กับเรา..”

ซูฉิวไป่ คิด ว่าเขากำลังฝัน

บัดซบ…ไอ้คนงี่เง่าคนนั้นมีความกล้าที่จะหลอกลวงคนอื่นงั้นหรอ!

หนิ่วไป๋หวานเป็นเพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนสนิทของ ซูฉิวไป่  ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ติดต่อกลับหนิ่วไป๋หวานในตอนกลางคืนเพื่อขออุปกรณ์รักษากวนอูในครั้งก่อน

พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมานานเกือบครึ่งปี หลังจากได้รับโทรศัพท์นี้ ซูฉิวไป่ รีบไปยังสถานีตำรวจทันที เขาค่อนข้างรู้จักนิสัยของนิ่วไป๋หวาน  ยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวชายหนุ่มเองซะอีก พวกเขาเคยทำหลายอย่างด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก

ซูฉิวไป่ ยังเคยแก้ไขคำผิดในจดหมายรักของหนิ่วไป๋หวานให้กับผู้หญิงคนแรก ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นดันชอบซูฉิวไป่ ซึ่งทำให้หนิ่วไป๋หวาน เกือบพ่นเลือดออกมา

เขายังบอกอีกว่าเขาไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับ ซูฉิวไป่ อีกต่อไปแต่ในเช้าวันถัดมาหนิ่วไป๋หวาน ยังคงนำอาหารเช้ามาให้กับ ซูฉิวไป่

ถ้าตำรวจบอกว่าคนอื่นเป็นนักต้มตุ๋น ซูฉิวไป่ จะเชื่อแต่เป็นไปไม่ได้ที่หนิ่วไป๋หวาน จะเป็นนักต้มตุ๋น

“เกิดอะไรขึ้นหรอ?”

เซียหรงหรง สังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติจากใบหน้าของ ซูฉิวไป่ ดังนั้นเธอจึงถามขึ้น

“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเพื่อนของผม ผมต้องขอตัวก่อน”

จากนั้น ซูฉิวไป่ รีบลุกขึ้นและออกจากห้อง เขาได้ยินเสียงของ เซียหรงหรง ร้องบอกอย่างแผ่วเบาว่าระวังตัวด้วย และให้โทรหาเธอหากมีสิ่งใดที่เธอสามารถช่วยเหลือได้

เขาหันศรีษะกลับไปและยิ้มให้กับหญิงสาวก่อนจะเดินจากไป

ในขณะที่ขับรถไปยังสถานีตำรวจ ซูฉิวไป่ ยังคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

——————————–