TB:บทที่ 134 เปล่าประโยชน์
คำพูดของคุณหวงทำให้บันดาลโทสะสุมอยู่เต็มอกหวังหู เขารักและหวงแหนน้องสาวของตัวเอง ดั่งแก้วตาดวงใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนที่กล้ามาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บละก็ หวังหูคนนี้จะจัดการมันเอง และในตอนนี้ ที่คุณหวงพูดออกมาว่า เขาต้องการฆ่าน้องสาวของเขา มันทำให้หวังหูรู้สึกโมโหมาก จึงตอบอีกฝ่ายไปว่า “ตายยยย!”
เสียงคำรามของหวังหูดังก้อง หวังหูก็ได้นำท่าเถี่ยซานเหยาออกมาใช้อีกครั้ง โทสะที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขาทำให้ท่าทางของหวังหูดูดุร้ายและป่าเถื่อนมากกว่าตอนที่เขาอยู่บนเวทีเสียอีก
หลังจากรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหวังหูแล้ว ดวงตาของคุณหวงจ้องเขม็งอีกฝ่าย และท่าทางของเขาก็ดูจริงจังขึ้น หวังหูมีความสามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
ความแข็งแกร่งของท่าเถี่ยซานเหยาของหวังหู สามารถพันธนาการเจียงตงเฉิงไว้ได้ชั่วคราว แต่มันกลับส่งผลต่อคุณหวงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ทันใดนั้นคุณหวงก็ทำท่าม้าแล้วปล่อยหมัดที่แสนจะธรรดาออกไปหนึ่งหมัด
ปัง!
คุณหวงต่อยเข้าไปที่ไหล่ของหวังหู
ท่าเถี่ยซานเหยาที่สามารถจัดการกับเจียงตงเฉิง ถูกสกัดเอาไว้ด้วยหมัดของคุณหวง ยิ่งไปกว่านั้น แรงหมัดของอีกฝ่าย ทำให้หวังหูถึงกับต้องก้าวถอยหลังไปอีกสองก้าว และอวัยวะภายในกายรู้สึกถึงแรงสั่นเล็กน้อย
หลังจากที่ได้รับรู้ถึงความสามารถของคุณหวง หวังหูก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เขาก็เริ่มโจมตีอีกครั้งในทันที ถึงพลังของคุณหวงนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าเขาไม่จริงจัง มีหวังเขากับน้องสาวได้เสร็จเขาแน่ คนอย่างเขาเขาไม่มีวันยอมแพ้หรือหนีเด็ดขาด
หวังหูใช้ท่าต่างๆโจมตีคุณหวง แต่อีกฝ่ายกลับใช้ท่าเดียวก็คือหมัดตรงเพื่อรับมือกับมัน หมัดตรงของคุณหวงเป็นเหมือนกับภูเขาตรงหน้าหวังหู มันทำให้เขาจัดการกับมันไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน แรงกระแทกจากการโจมตีแต่ละครั้ง ทำให้อวัยวะภายในของหวังหูรู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เลือดสีสดไหลออกมาจากมุมปากของเขา
‘แข็งชะมัด! นายนี่ตัวแข็งจริงๆ!’ หวังหูมองไปที่คุณหวงที่อยู่ในท่าม้าอีกครั้ง เขาจึงพูดกับตัวเอง
เมื่อเห็นคราบเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของหวังหู มุมปากของคุณหวงจึงเผยรอยยิ้มจางๆออกมา เขาชี้นิ้วไปที่ประตูอีกครั้ง แล้วกล่าวว่า “ดูสิ นั่นคือทางออก เข้ามาเลย ถ้านายโค่นฉันได้ นายก็ไปได้ อ้อ แล้วก็อย่าลืมพาน้องสาวของนายหนีไปด้วยล่ะ”
หลังจากเห็นความสามารถของหวังหู คุณหวงก็รู้ว่าการเอาชนะอีกฝ่ายนั้นไม่ยากเลยสักนิด ถ้าเขาอยากเอาชนะอีกฝ่ายนั้นง่ายนิดเดียว เขาสามารถใช้การสกัดให้อยู่หมัดจัดการกับร่างของหวังหูได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บภายใน
และในตอนนี้ ดูเหมือนว่าแผนของเขาจะประสบความสำเร็จแล้ว
หวังหูรู้ว่าคุณหวงพูดแบบนี้เพื่อให้เขาใช้ความสามารถทางกายภาพของตัวเอง แต่ตอนนี้ทางเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือ พุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายโดยตรง
ในตอนที่หวังหูกำลังจะพุ่งเข้าใส่คุณหวงอีกครั้ง ทันใดนั้นเฉินหลงและใครอีกคนก็ได้มาถึงที่นี่พอดิบพอดี
“หวงถัง คุณมาทำอะไรที่นี่?” โจวเต๋าหานกล่าวขึ้น เขากำลังมองดูคุณหวงที่กำลังตั้งท่าม้า
ชื่อจริงของคุณหวงคือ หวงถัง
เห็นว่าโจวเต๋าฟานและซูชิงเฟิงมาที่นี่ หวงถังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วตอบว่า “โอ๊ะ คุณซูและคุณโจวนั่นเอง ฉันกำลังต่อสู้กับนักมวยของฉันอยู่ ประตูทางออกอยู่ทางนั้น แล้วก็ขอโทษด้วย ที่ฉันไม่สามารถไปส่งพวกคุณทั้งสี่คนได้ในตอนนี้”
ถ้าซูชิงเฟิงกับโจวเต๋าฟานเข้ามาจุ้นจ้านเรื่องของเขาล่ะก็ เขาคงไม่มีทางต้านทานพวกเขาได้แน่นอน เขาได้แต่หวังว่า เฉินหลงกับคนอื่นๆจะยอมเดินออกไปจากที่ตรงนี้ดีๆ แล้วก็ไม่รบกวนเขา
“ต่อสู้? ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่า นอกจากนี้ ผมอยู่ฝ่ายหวังหู เป็นไปได้ ถ้าคุณสู้กับหวังหูเสร็จแล้ว คุณลองมาสู้กับผมดูสักตั้งสิครับ” เฉินหลงมองดูหวงถัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทำให้คนอื่นไม่สามารถถามอะไรเขาได้
ในตอนที่เขาได้ยินเฉินหลงพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหยามเขาอยู่ ใบหน้าของหวงถังเผยความสุขออกมา แต่เมื่อเห็นว่าเฉินหลงอยู่กับโจวเต๋าฟานแล้ว การจู่โจมในทันทีจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เขาจึงถามโจวเต๋าฟานว่า “คุณโจว คนๆนี้เป็นเพื่อนของคุณ รบกวนคุณถามเขาดูอีกสักครั้ง เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาในเซียงเจียง ผมคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่”
สำหรับโจวเต๋าฟานและซูชิงเฟิงแล้ว คนอย่างหวงถังก็ต้องให้ความสำคัญกับโจวเต๋าฟานที่เกิดในเทียนถางมากกว่าอยู่แล้ว
เฉินหลงไม่แสดงความสามารถของตัวเองออกมา ในตอนที่อีกฝ่ายมาหาหวงถัง เขาคิดว่าเฉินหลงคงเป็นแค่คนธรรมดา บางทีตระกูลของเขาอาจจะมีอำนาจในเทียนถาง และเขาเป็นคนรุ่นที่สองที่ชอบอวดเก่งหรืออะไรสักอย่าง
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือสาเรื่องของคนหนุ่มหรอก” โจวเต๋าฟานส่งยิ้มให้คนทั้งสองที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ความสามารถของเฉินหลงคือกำลังภายในเหมือนกับเขา แล้วคนอย่างเขาจะต้องช่วยอะไรเขาอีกล่ะ?
โจวเต๋าฟานไม่ได้ช่วยเหลือหวงถัง เขาหันไปมองเฉินหลงด้วยรอยยิ้มแปลกๆ แล้วกล่าวว่า “ถ้านายอยากให้หวังหูว่านอนสอนง่าย นายก็แค่เอาเงินห้าร้อยล้านหยวนมาให้ฉัน จากนั้นก็พาเขาไปได้เลย”
“ถึงตอนนี้ผมจะไม่มีเงินสดห้าร้อยล้าน แต่ผมมีสิ่งนี้ ผมจะยกมันให้คุณก็แล้วกันครับ” เฉินหลงเอ่ยขึ้นแล้วหยิบเช็คห้าล้านออกมา พร้อมกับส่งมันให้กับหวงถัง
“ในสายตาของคุณ คุณเห็นผมมีค่าแค่ห้าล้านหยวนหรือว่าแค่อยากทำทานกันแน่?” คำพูดของเฉินหลงทำให้หวงถังแสดงสีหน้าขุ่นเคืองออกมา เขาเป็นถึงบุคคลที่มีมีฐานะในเซียงเจียง ตอนนี้ เขาเป็นเหมือนขอทานที่ใช้ดอกไม้ซื้อใจได้อย่างนั้นหรือ? ไม่แปลกเลยที่เขาจะโมโหอีกฝ่ายขนาดนี้
เฉินหลงไม่สนว่าหวงถังจะโกรธหรือไม่ เขายังคงกล่าวเสียงเรียบออกมา “ผมให้คุณห้าล้าน แต่ผมไม่ได้หมายความว่าในสายตาของผม คุณมีค่าแค่ห้าล้านหยวนนะครับ แต่ผมแค่คิดว่าสำหรับคุณแล้ว หวังหูน่าจะมีค่าแค่ห้าล้านหยวนสำหรับคุณ ส่วนสำหรับผมมันใช้กับผมไม่ได้หรอก แล้วก็ไม่ได้มีค่าเลยสักนิด”
หวงถังไม่ได้แสดงความโกรธออกมา แต่เขากลับตอนอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มแทน “หึ ฉันอยู่ในเซียงเจียงมาตั้งหลายปี นายเป็นคนแรกที่กล้าบอกว่าฉันไร้ค่า ในเมื่อนายพูดแบบนี้ ฉันจะทำให้นายนอนติดเตียงสักสามเดือนเลย คอยดูสิ!”
“หึ ผมก็จะทำให้คุณนอนติดเตียงสักครึ่งปีเลย!” เฉินหลงตอบ
ในเมื่อนายไม่เห็นด้วยกับฉัน นายคงต้องนอนติดเตียงสักสามเดือนแล้วล่ะ และในเมื่อพูดกันดีๆแล้วไม่ชอบ ก็จงนอนติดเตียงไปอีกสามเดือนเสียเถอะ!
จากนั้นเฉินหลงก็เดินไปทางห้องโถงสีเหลือง
“ระวังตัวด้วยนะครับคุณ อีกฝ่ายเก่งมาก” เมื่อเห็นเฉินหลงเดินไปทางห้องโถงสีเหลืองแล้ว หวังหูจึงรีบกล่าวเตือนเขา
ในมุมมองของเขา คนทั่วไปตต้องเจอกับสุดยอดรมาจารย์แล้ว มันก็เหมือนกับเอาไข่ไปทุบหิน ตอนจบเป็นยังไง ไม่เห็นต้องบอก
เฉินหลงส่งยิ้มให้หวังหู แล้วเดินไปหาหวงถัง คนอย่างหวังหูอุตส่าห์ออกปากกล่าวเตือนเขาแบบนี้ มันทำให้เฉินหลงประทับใจในตัวอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก
เมื่อเห็นว่าหวงถังยังคงยืนรอเขาอยู่ที่เดิม เฉินหลงจึงพูดกับเขาว่า “ถ้าคุณไม่ชิงลงมือก่อน คุณก็จะไม่มีโอกาสได้ลงมืออีกแล้วนะครับ”
หวงถังไม่ตอบ ทำเพียงแค่เหยียดยิ้มผ่านใบหน้าของตัวเองเท่านั้น
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับความเมตตาจากเขา เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องสุภาพกับมันอีกต่อไปแล้ว ในตอนที่เฉินหลงอยู่ห่างจากหวงถังออกไปสองเมตร เขายื่นมือขวาออกมา แล้วทำท่ากำมือให้ตรงกับตำแหน่งของหวงถัง
ในตอนแรก เมื่อหวงถังเห็นการเคลื่อนไหวของเฉินหลง เขาถึงกับคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่ไม่นาน สีหน้าของหวงถังก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำลัง ‘ถูกจับ’ ด้วยพลังที่เขาได้ใฝ่ฝันมาโดยตลอด
“ขอบเขตกำเนิด?” หวงถังจ้องหน้าเฉินหลง จากนั้นขาได้เข้าใจว่าทำไมเมื่อกี้โจวเต๋าฟานถึงได้พูดแบบนั้นออกมา เพราะเขารู้ว่าตัวเขาไม่มีทางเอาชนะเฉินหลงได้ ตอนนี้ ในสายตาของคนอื่น เขาได้กลายเป็นไอ้โง่ที่นอกจากจะพูดไม่คิดแล้ว ยังจะปากดีหาเรื่องใส่ตัวอีกด้วย มีหวังเขาได้เป็นปลาหมอตายเพราะปากแหงๆ