เหินห่าง โดย Ink Stone_Fantasy
“นี่คืออะไร?” วิคเตอร์ชี้ไปยังรูปภาพพร้อมถามออกมา “ละครเวทีเรื่องใหม่เหรอ?”
ทิงเกิลขยับเข้าไปใกล้พร้อมมองไปยังหนังสือพิมพ์ “ไม่ใช่ นายท่าน…ภาพวาดนี่น่าจะหมายถึงหนังเวทมนตร์เจ้าค่ะ”
“หนังเวทมนตร์?” เป็นคำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนอีกแล้ว การที่ได้อยู่ในสถานที่แห่งอนาคตนี่มันช่างดีจริงๆ เลย วิคเตอร์รีบถามทันทีว่า “อธิบายให้ข้าฟังอย่างละเอียดหน่อยได้ไหม?”
สาวใช้ทำหน้าลำบากใจนิดหน่อย “อันนี้…ข้าเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกันเจ้าค่ะ เมื่อสองสามวันก่อนตรงลานเมืองก็มีภาพแบบนี้มาติดเอาไว้เหมือนกัน แต่ว่าอันนั้นมันเป็นภาพสี ข้าได้ยินมาว่าหนังเวทมนตร์เป็นการแสดงแบบใหม่ล่าสุด ถึงขนาดต้องสร้างเวทีขึ้นมาให้มันโดยเฉพาะเลยเจ้าค่ะ”
ศิลปะที่…ก้าวข้ามยุคสมัยอย่างนั้นเหรอ การที่กล้าใช้คำแบบนี้มานิยามมัน เรียกได้ว่าราชาแห่งเกรย์คาสเซิลคงจะมั่นใจในตัวมันอย่างมาก วิคเตอร์เอามือลูบไปบนหน้ากระดาษหยาบๆ พร้อมคิดในใจ ดูเหมือนเจ้านี่จะคุ้มค่าแก่การที่เขาจะไปดูมัน
เขาสังเกตเห็นทางด้านล่างของตัวหนังสือใหญ่ๆ ยังมีตัวหนังสือเล็กๆ อีก 3 – 4 แถว โดยมันระบุวันเวลาสถานที่ที่จะทำการแสดงและวิธีการซื้อตั๋ว
จากนั้นวิคเตอร์ก็รู้สึกใจเต้นขึ้นมา
เดี๋ยวๆ….ตั๋วราคา 40 เหรียญทอง?
เขาไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม! นี่มันแพงกว่าค่าตั๋วของคณะละครเวทีระดับสุดยอดของเมืองกลอรีอีกนะ!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาจ่ายเงิน เพียงแต่ในเมืองที่แม้แต่เครื่องประดับยังไม่มีคนถามหานี้ จะไปมีคนยอมจ่ายเงินขนาดนี้เพื่อดูการแสดงหนังเวทมนตร์ได้ยังไง?
ไม่สิ ข้างหลังยังมี….วิคเตอร์ขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกับเลื่อนสายตามองลงไปต่อ ขณะเดียวกันเขาก็อดอ่านเป็นเสียงออกมาไม่ได้ “หากเป็นประชาชนที่ืถือบัตรประชาชนของเมืองเนเวอร์วินเทอร์ ท่านสามารถถือบัตรประชาชนมารับสิทธิพิเศษในการจองตั๋วได้ในราคาเพียง 25 เหรียญเงินเท่านั้น หมายเหตุ : ตั๋วราคาเต็มจะทำให้ท่านได้รับประสบการณ์ในการรับชมที่ยอดเยี่ยมมากกว่า ตั๋วมีจำนวนจำกัด จองก่อนได้ก่อน หมดแล้วหมดเลย : ตั๋วราคาพิเศษไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม แล้วก็ไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มมาเองด้วย โปรดเตรียมตัวให้พร้อม”
ราคานี่มัน….ต่างกันราวฟ้ากับดินเลย!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นสินค้าชิ้นหนึ่งที่ขายสองราคามาก่อน เพียงแต่ราคามันไม่ได้ต่างกันมากขนาดนี้ เพราะว่ามันมีต้นทุนของมันอยู่ อีกทั้งปกติเรื่องแบบนี้ก็มักจะทำกันแบบเงียบๆ ด้วย ไม่มีใครที่จะทำแบบโจ่งแจ้งแบบนี้มาก่อน ไม่อย่างนั้นคนที่จ่ายเงินมากกว่าคงจะไม่พอใจแน่นอน ต่อไปหากอยากจะทำการค้ากับอีกฝ่ายคงกลายเป็นเรื่องยาก แต่วิธีการของเมืองเนเวอร์วินเทอร์นั้นเรียกได้ว่าเปิดโลกให้เขาจริงๆ!
ไม่เพียงแต่จะเขียนออกมาอย่างเปิดเผยบนหน้ากระดาษ แต่ยังมีการระบุเอาไว้ด้วยว่ามีจำนวนจำกัด ราวกับว่าคนที่อยากจะจ่ายเงินแพงกว่ายังต้องแย่งกันอย่างไรอย่างนั้น
แต่เขาก็พบว่าตัวเองได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการจะแย่งจ่ายเงินแพงกว่านี้ไปเสียแล้ว….
ต้องยอมรับเลยว่าวิธีการขายแบบนี้เหมือนมีแรงดึงดูดอย่างน่าประหลาด คนที่สามารถจ่ายเงิน 40 เหรียญทองได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยหรือไม่ก็ตระกูลขุนนาง การที่ได้เข้าไปนั่งอยู่ในนั้นก็ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความร่ำรวย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องความสนใจที่เขามีต่อหนังเวทมนตร์เลยว่ามีมากแค่ไหน
วิคเตอร์กระโดดลงมาจากตั่งพร้อมหยิบเอาเสื้อคลุมขนหมาป่ามาห่ม
“นายท่าน?” ทิงเกิลพูดเสียงเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมตัวพร้อมแล้ว บนตัวเธอมีเพียงผ้าแพรผืนบางๆ ในเวลานี้เธอนอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มพร้อมมองดูเขาเหมือนไม่รู้จะทำอะไรต่อ
วิคเตอร์หยิบเอาเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะโยนไปให้เธอ “ตั๋วหนังเวทมนตร์ซื้อได้ที่ไหน? พาข้าไปซื้อหน่อย ตอนนี้เลย!”
…..
การถ่ายทำ ‘หัวใจแห่งหมาป่า’ เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว
เจ้าหญิงองค์โตกลับสู้ศึกสุดท้ายกับราชาปีศาจในพระราชวัง โรแลนด์ได้ยกพื้นที่ชั้นหนึ่งของปราสาทให้ใช้สำหรับถ่ายทำ
ในเวลานี้เมย์ได้กลายเป็นผู้รับผิดชอบหลักของหนังเวทมนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว เธอถึงขนาดยอมทิ้งบทของตัวเองไปเพื่อที่จะทุ่มเทให้ละครเรื่องใหม่นี้ออกมาดีที่สุด
“หยุด!” ในตอนที่โลก้าถีบประตูจนหมดแล้วพุ่งผ่านประตูเข้าไป เมย์ได้ตะโกนออกมาให้ทุกคนหยุด “ดีมาก วันนี้พอแค่นี้ก่อน เหนื่อยหน่อยนะทุกคน”
“โอ้”
“อาจารย์ก็เหนื่อยหน่อยนะขอรับ” สมาชิกในคณะนักแสดงพูดขึ้นมาพร้อมกัน
ถ้าหากเป็นตัวเธอเมื่อก่อนนี้ เธอคงจะกรอกตามองกลับไป แต่ตอนนี้เธอเพียงแค่พยักหน้ายิ้มๆ
นี่น่าจะเป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นล่ะมั้ง เมย์ครุ่นคิด
หลังย้ายมาอยู่ที่เมืองชายแดน ตัวเองก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก
“ระวังเศษไม้บนพื้นนะ” คาร์เตอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เดินเข้ามา “ให้ข้าอุ้มเจ้าไปไหม?”
“คนอื่นๆ มองอยู่นะ” เมย์ดุกลับไป นิสัยของสามีเธอนั้นเรียกได้ว่าไร้ที่ติ แต่คำพูดและการกระทำของเขากลับดูไม่เหมือนคนที่เป็นอัศวินเลย ไม่รู้ว่าตอนนั้นฝ่าบาททรงคิดยังไงถึงได้เลือกเขามาเป็นหัวหน้าอัศวิน “ข้าเดินเองได้”
“อย่างนั้นข้าเดินนำหน้า” คาร์เตอร์ก้าวไปเดินอยู่ข้างหน้าเธอ ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยพวกเศษไม้ออกไป
แผ่นหลังอันสูงใหญ่บังแสงที่ส่องเข้ามาจนหมด
นี่ทำให้เมย์ยิ้มมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แต่เธอรู้ว่าห้ามให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเองยิ้มเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นมันจะยิ่งทำให้เขาได้ใจ แล้วคืนนี้เธอต้องมานั่งเหนื่อยอีก…
“การแสดงพรุ่งนี้ท่านเตรียมพร้อมหรือยัง? อย่าถูกคุณหนูโลก้าอัดจนลืมบทล่ะ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ คาร์เตอร์ก็ทำหน้าเจ็บปวดขึ้นมาทันที “เจ้าบอกให้นางเบามือหน่อยได้ไหม? ครั้งที่แล้วตอนสู้กันบนพื้นหิมะ ข้าเกือบจะอ้วกเอาข้าวที่กินเข้าไปออกมาแหนะ เรี่ยวแรงของนางตอนที่เปลี่ยนเป็นหมาป่าไม่ได้ต่างอะไรกับแอชเชสเลย ต่างก็อยู่ในระดับสัตว์ประหลาดทั้งคู่”
“ท่านรู้อะไรไหม? ที่ผ่านมามีแต่นักแสดงต้องยอมให้ละคร ไม่เคยมีละครที่ยอมให้นักแสดงมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นหนังเวทมนตร์มันก็เหมือนจริงกว่าละครมาก” เมย์เอามือป้องปากแล้วพูดว่า “ดังนั้นวิธีแก้ไขนั้นง่ายมาก พรุ่งนี้ก่อนถ่ายทำท่านก็แค่อย่ากินข้าวมาเยอะก็พอ”
หัวหน้าอัศวินยิ้มแห้งๆ ขึ้นมาทันที เขาส่ายหัวก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “เออใช่ เจ้าลองทายซิว่าวันนี้ข้าเจอใครอยู่ตรงท่าเรือ?”
“เอ่อ…อดีตคนรักเหรอ?” เมย์ยักไหล่
“จะเป็นไปได้ยังไงเล่า!” คาร์เตอร์รับหันหน้ากลับมาทันที “เคแกน เฟสต่างหากล่ะ”
เมย์หยุดฝีเท้าทันที “จริงเหรอ?”
“แน่นอน เขาก็ถือเป็นคนที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวงเหมือนกัน ข้าจะไปดูผิดได้ยังไงล่ะ” น่าจะเป็นเพราะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในสายตาของเธอ คาร์เตอร์จึงแสยะยิ้มออกมา “ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนอีกกลุ่มนึงเดิมตามเขาลงมาจากเรือ ข้าคิดว่าน่าจะเป็นคณะนักแสดงของเขา คนที่จำเขาได้ก็มีอยู่ไม่น้อย ตอนนั้นตรงท่าเรือเกือบจะเดินเข้าไปไม่ได้แหนะ เป็นยังไง ข่าวนี้คุ้มค่าสำหรับจูบแล้วหรือยัง?”
“คุ้ม!” เมย์ตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าอยากจะไปเยี่ยมเขาหน่อย!”
เคแกน เฟส ชื่อนี้แทบจะกลายเป็นตัวแทนของการแสดงละครไปเสียแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มขึ้นไปอยู่บนเวที เขาก็สะกดผู้ชมมาได้เกือบ 30 ปี ตั้งแต่ดินแดนทางใต้จนมาถึงทางเหนือ นักแสดงคนไหนก็ตามที่อยากจะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดล้วนแต่ต้องมาหาเขา หลังอายุ 50 ปี เขาก็ไม่สามารถขึ้นไปยืนบนเวทีได้อีก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนมาอยู่เบื้องหลังคอยเขียนบทละครแทน ตอนนี้เขายังคงมีอิทธิพลอย่างมากในวงการการแสดง
ในตอนที่เมย์เดินทางไปแสดงละครที่เมืองหลวงเก่า เธอก็ได้ไปยืนอยู่หน้าผู้ชมจากการแสดงละครเรื่อง ‘เจ้าชายตามรัก’ ที่เขาเป็นคนเขียนขึ้นมา หากไม่มีคำชี้แนะและคำชมเชยของเคแกน เฟส เกรงว่าเธอคงไม่ได้กลายเป็นดวงดาราแห่งดินดินแดนตะวันตกอย่างแท้จริง อย่างน้อยก็ไม่มีทางได้รับการยอมรับจากผู้ชมเร็วขนาดนี้
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องพูดเช่นนี้” คาร์เตอร์ส่งกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งให้เธอ “ข้าถามมาให้แล้วว่าพวกเขาพักอยู่ที่ไหน แต่ว่าข้าต้องเฝ้าช่างมาเปลี่ยนประตูอีก ก็เลยไปเป็นเพื่อนเจ้าไม่ได้นะ”
“ขอบคุณนะ” เมย์รับกระดาษโน้ตมาด้วยสีหน้ายินดี “ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าเรียกคนในคณะละครไปเป็นเพื่อนก็ได้” จากนั้นเธอก็มองไปยังสมาชิกในคณะละครที่กำลังเก็บอุปกรณ์อยู่ในปราสาท ก่อนจะเรียกชื่อทุกคนออกมา “เอริน ทีน่า โรเซีย เกธ สวอลโล่ว! มาหาข้าหน่อย!”
ถูกต้อง อาจารย์เคแกนจะต้องมาเพราะงานราชาภิเษกของฝ่าบาทแน่นอน ตอนที่วิมเบิลดันที่สามขึ้นครองราชย์ และก็เป็นเพราะการแสดงต่อเนื่องของเขาที่ทำให้บรรยากาศภายในงานพิธีนั้นพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ขึ้นเวทีแสดงออกแล้ว แต่คณะละครเคแกรที่เขาพามาด้วยยังคงเป็นคณะละครเวทีชั้นยอดของเกรย์คาสเซิลอยู่ อย่างเช่นร็อดเจน เอนเกรโพ….ต่างก็เป็นนักแสดงอัจฉริยะ ถ้าพวกเอรินสามารถได้คำชี้แนะจากนักแสงเหล่านี้ ฝีมือการแสดงของพวกเธอจะต้องพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน!
แล้วก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ ทันทีที่ได้ยินว่าจะไปเยี่ยมเคแกน เฟสทุกคนต่างก็อุทานตกใจขึ้นมา เกธนั้นตื่นเต้นจนพูดติดอ่างออกมา “ข้า ข้าจะได้เจอท่านเคแกนจริงๆ เหรอ?”
“ข้าคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ” เมย์พูดพร้อมผายมือ “เพียงแต่หลังจากนี้พวกเจ้าต้องพยายามให้มากขึ้นอีก จะได้ไม่ทำให้โอกาสครั้งนี้ต้องสูญเปล่า”
“ข้าทราบแล้ว! หลังจากนี้ข้าจะฝึกซ้อมให้หนักขึ้น!” ทีน่าสายตาเป็นประกาย
“อย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ”
ทุกคนเดินทางไปที่ตลาดเพื่อซื้อของไปเป็นของฝาก ก่อนจะรีบเดินทางไปยังที่อยู่ที่เขียนเอาไว้บนกระดาษโน้ต — โรงแรมวิสเซิล
ภายในชั้นหนึ่งของโรงแรมมีชาวบ้านที่ได้ยินข่าวเรื่องเคแกนพากันมารวมตัวกันเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ว่าหลังจากเห็นเมย์เดิน ทุกคนก็พากันเปิดทางให้ เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างก็ให้ความเคารพคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์
บางคนถึงขนาดหยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเหมือนกำลังจะจดบันทึกเรื่องราวการเจอกันของคณะนักแสดงทั้งสอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่พกของพวกนี้ติดตัวจะต้องเป็นนักข่าวของกองประชาสัมพันธ์อย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ทำให้เมย์รู้สึกแปลกใจก็คือหลังผู้จัดการของคณะละครเดินขึ้นไปชั้นบนไม่นาน เขาก็รีบเดินกลับลงมาด้วยสีหน้าเย็นชา
“ต้องขอประทานโทษด้วยขอรับ ท่านเคแกนไม่รู้จักคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ แล้วก็ไม่อยากเจอพวกท่านด้วย เชิญทุกท่านกลับไปเถอะขอรับ”