ตอนที่ 568 ชายแปลกหน้า

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 568

ชายแปลกหน้า

“เฮ้อ….”หลินเฟยถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีโล่งอกหลังจากเห็นว่าหญิงสาวของตนนั้นเดินหายไปในฝูงชนแล้ว ทำให้หลินเฟยเตรียมจะออกไปจากหน้าต่างเรือที่ตนเข้ามาแอบเสีย เพียงแต่…

“เจ้าเป็นใคร”เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของหลินเฟย อาจจะเพราะชายคนนั้นไม่มีพลังวิญญาณหลินเฟยเลยไม่ได้สังเกต แต่โดนจับได้แบบนี้นับว่าหลินเฟยไม่ระวังเอาเสียเลย

“ขะ ข้า….ข้าเป็นลูกจ้างของเรือลำนี้ขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา

“งั้นหรือ ข้าไม่เห็นจำได้เลยว่ามีลูกจ้างแบบเจ้าด้วย”ชายหนุ่มตอบพลางเดินเข้ามามองหลินเฟยใกล้ๆ

“หรือว่าเจ้าจะเป็นคนของนายหญิง”ชายคนนั้นถามพลางมองมาที่หลินเฟยนิ่ง เสื้อผ้าของหลินเฟยเป็นเสื้อผ้าเนื้อดี มองครู่เดียวก็รู้ถึงความแตกต่างของเนื้อผ้าแล้ว แม้จะไม่ทราบว่าราคาค่างวดเท่าไหร่แต่มันก็นับว่ามีราคากว่าเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มใส่แน่นอน และคนที่จะมีเสื้อผ้าแบบนี้ใส่ก็มีแต่พวกผู้ติดตามของนางหญิงเจ้าของเรือเท่านั้น

“ชะ ใช่พี่ชาย ใช่แล้ว”หลินเฟยตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา

“งั้นข้าฝากเจ้านำสิ่งนี้ไปให้นายหญิงด้วย ท่านคงกำลังรออยู่”ชายคนนั้นพูดจบก็ยัดกาใส่สุรามาให้หลินเฟยทันที ทำเอาหลินเฟยได้แต่ตอบรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในใจคิดว่าแค่นำกาสุราไปส่งแล้วค่อยหนีออกมาก็คงพอ

.

.

บนเรือที่หลินเฟยขึ้นมาซ่อนนั้นมีความหรูหราน้อยกว่าเรือของเทียนยี่มาก แต่ก็คงจะเอาเรือของสามัญชนไปเทียบกับเชื้อพระวงศ์คงไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นบนดาดฟ้าเรือก็มีการจัดตกแต่งสำหรับรับชมงานลอยโคมได้งดงามดีทีเดียว บรรยากาศสลัวๆประดับด้วยโคมไฟสีแดงเข้มขนาดเล็กและฉากกั้นรูปดอกเหมยทำให้นึกถึงภาพสาวงามขึ้นมาในหัวเลย ชักสงสัยแล้วสิว่านายหญิงที่ว่าจะงดงามหรือไม่

“นายหญิง ข้านำกาสุรามาให้…”หลินเฟยแกล้งตีเนียนเป็นบ่าวรับใช้อย่างที่มันบอกเอาไว้ พลางเดินเข้าไปหานายหญิงที่นั่งอยู่ตรงจุดชมงานของเรือ

“……..”หลินเฟยเข้าไปยื่นกาสุราให้นางได้ครู่หนึ่งก็ชะงักค้างไป ไม่ใช่เพราะความงามของนางแต่เพราะที่ขอบตาของนางนั้นมีหยดน้ำตาใสๆไหลออกมาเป็นระยะต่างหาก แถมบนโต๊ะของนางยังมีกาสุราที่ดื่มจนหมดแล้วอีกหลายกาเลยทีเดียว

“มาแล้วงั้นหรือ วางเอาไว้บนโต๊ะเลย”นายหญิงของเรือลำนี้พูดพลางดื่มสุราในจอกด้วยท่าทีซึมเศร้าทำเอาหลินเฟยได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีอึ้งๆ งานเทศกาลลอยโคมที่มีแต่คนมาสนุกสนานกันนั้นกลับมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเศร้าใจอยู่ตรงหน้าแบบนี้ทำเอาหลินเฟยอดที่จะรู้สึกคาใจขึ้นมาไม่ได้

“นายหญิง ท่านดื่มมากเช่นนี้ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางวางกาสุราลงบนโต๊ะ นางดูเป็นหญิงสาวที่งดงามมากคนหนึ่งเลย แถมการที่นางเป็นเจ้าของเรือได้ก็ต้องมีฐานะพอสมควร มีเรื่องอะไรที่ทำให้นางเศร้าเสียใจแบบนี้กัน

“เจ้าอยากรู้งั้นเหรอ”อยู่ๆนายหญิงก็หันมาทางหลินเฟยด้วยใบหน้าแดงก่ำเพราะพิษสุรา นางเอื้อมมือมากระชากแขนเสื้อของหลินเฟยก่อนจะดึงให้มันนั่งลงข้างๆตนเอง

“ที่ข้าต้องมาร้องไห้แบบนี้ก็เพราะผู้ชายเลวๆคนหนึ่งยังไงล่ะ”พอหลินเฟยถามก็เหมือนเปิดโอกาสให้นางเล่าไม่มีผิด แถมดูเหมือนนางจะอยากได้คนมาช่วยระบายความในใจอยู่แล้วด้วย แต่เพราะนางกำลังร้องไห้อยู่ก็เลยไม่มีบ่าวรับใช้คนไหนกล้าเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว หลินเฟยผู้สอดปากถามก็เลยต้องรับเคราะห์ไป

“เจ้านั่น….ตอนแต่งงานก็บอกจะดูแลข้าอย่างดี จะมอบความรักให้ข้า”นายหญิงเริ่มเล่าออกมาพลางแย่งกาสุราในมือของหลินเฟยมารินใส่จอกแล้วดื่มเข้าไปจนหมดในครั้งเดียว

“ตอนแรกมันก็ดี พาข้าเข้าตระกูล มีทั้งเงินทั้งคนดูแล….”นายหญิงพูดพลางมองไปรอบๆดาดฟ้าเรือ ของทั้งหมดรวมทั้งเรือลำนี้เองก็เป็นของบ้านสามี นางก็เลยบ่นเรื่องการดูแลไม่ได้หรอก

“แต่อยู่ๆเจ้านั่นก็บอกว่าอยากจะรับเด็กสาวคนหนึ่งมาเป็นเมียรอง แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไรในเมื่อทุกอย่างก็เป็นของสามีอยู่แล้ว”นายหญิงว่าพลางหลั่งน้ำตาออกมามากกว่าเดิมเสียอีกราวกับเรื่องเมียน้อยจะเป็นเรื่องสะเทือนใจของนางมากทีเดียว

“เจ้าเลวนั่นรับปากกับข้าเสียดิบดีบอกว่าถึงจะมีเมียรองแต่มันก็จะรักข้าเช่นเดิม”นายหญิงพูดถึงตรงนี้ก็ส่งเสียง เหอะ! ออกมาเสียงดังราวกับรับไม่ได้กับคำสัญญาที่สามีนางเคยให้เอาไว้

“แม้แต่งานลอยโคมที่สัญญาเอาไว้ว่าจะมาดูกับข้า ก็ยังไปหาเมียน้อย นี่นะหรือจะยังรักข้าเหมือนเดิม”นายหญิงบ่นพลางดื่มสุราเข้าไปอีกจอก หลังจากเริ่มระบายแล้วก็เหมือนน้ำหลาก พอไหลออกมาก็ยากที่จะหยุดยั้ง นางเล่าเรื่องความเจ้าชู้ของสามีตนเองให้หลินเฟยฟังเป็นฉากๆลากยาวกว่าชั่วโมงทำเอาหลินเฟยหน้าแทบชา เพราะคำด่าส่วนใหญ่ก็โดนหลินเฟยเข้าเต็มๆเหมือนกัน

“นายหญิง ท่านใจเย็นก่อนเถอะขอรับ”หลินเฟยโดนระบายใส่เป็นชั่วโมงก็เริ่มเอ่ยปากห้ามนายหญิงเอาไว้ ตัวมันจะร่วมด่าสามีนางก็ไม่ได้เพราะมันเองก็ทำเรื่องเจ้าชู้เช่นกัน ทุกคำที่นางด่าสามีทำเอาหลินเฟยร้อนๆหนาวๆเหมือนกัน

“น้องชาย เจ้าคิดว่าข้าไม่สวยพอหรือยังไง”นายหญิงถามพลางจ้องมองมาทางหลินเฟยด้วยท่าทีเศร้าๆ

“ไม่ขอรับ ท่านเป็นหญิงงามที่หาได้ยากยิ่งคนหนึ่งเลย”หลินเฟยตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา หลินเฟยไม่ได้โกหก แม้จะดูเป็นหญิงวัยผู้ใหญ่ แต่นางก็มีเสน่ห์มากทีเดียว โดยเฉพาะเรือนร่างที่เด่นสะดุดตาของนาง

“แล้วทำไมสามีข้ายังไปมีเมียน้อยอีกล่ะ หรือเพราะข้าแก่เกินไป”นายหญิงถามพลางร้องไห้ออกมาอีก ทำเอาหลินเฟยไม่ทราบจะตอบว่าอะไรดี นายหญิงท่านนี้นอกจากจะงดงามแล้วยังไม่ดูแก่เลยแม้แต่น้อย นางเหมือนจะมีพลังวิญญาณอยู่บ้างท่าทางจะใช้ข้อดีของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่ทำให้แก่ช้าได้มากพอสมควร แถมรูปร่างก็ดี หากเป็นสาวโสดละก็หลินเฟยต้องจีบนางแน่ๆ หลินเฟยเลยไม่ทราบว่าทำไมสามีของนางถึงยังมีชู้อีก

“นายหญิง…..”หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พบว่าอยู่ๆนายหญิงก็เงียบเสียงไป และเมื่อลองมองดูดีๆก็พบว่านางผล็อยหลับไปเสียแล้ว

“……….”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงมานอนข้างๆหลินเฟย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่หลินเฟยเจอผู้หญิงร้องไห้จนหลับไปเองแบบนี้ อาจจะเพราะมันนั่งฟังเรื่องของนางมาเป็นชั่วโมงก็เลยรู้สึกสงสารนางก็ได้ แต่เรื่องนี้มันช่วยอะไรไม่ได้หรอกทำให้หลินเฟยได้แต่ปล่อยให้นางนอนหลับแล้วผละตัวออกมาเท่านั้น

.

.

“คุณชาย ท่านกำลังคิดอะไรอยู่งั้นหรือ”หลายวันต่อมาหลินเฟยก็ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกเช่นเดิมตามประสาชายหนุ่ม และรอบตัวของหลินเฟยยามนี้ก็มีสาวงามสองคนนั่งเคียงคู่กันอยู่ในร้านอาหารหรูกลางเมือง แต่ถึงอย่างนั้นหลินเฟยกลับเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเสียอย่างนั้น

แน่นอนว่าเรื่องที่หายไปกลางงานร่วมชั่วโมงหลินเฟยต้องโดนชิวซุยโกรธจนงอนใส่อยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นหลินเฟยก็ง้อน้องสาวจนสำเร็จไม่มีอะไรต้องกังวลอีก แต่ไม่ทราบทำไมหลินเฟยถึงแกะเอาใบหน้าเศร้าๆของนายหญิงบนเรือลำนั้นไม่ออกเสียที

“คุณชาย….ท่านเลิกคิดมากแล้วมาสนุกกับพวกเราดีกว่านะ”หญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางกอดแขนของหลินเฟยแน่น แต่ก่อนหลินเฟยคงโยนเรื่องปวดหัวทิ้งแล้วสนุกกับการกินดื่มร่วมกับสาวงามไปแล้ว แต่วันนี้หลินเฟยกลับไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้นเอาเสียเลย

“ข้าต้องขอโทษด้วยวันนี้ข้าคงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่”หลินเฟยพูดก่อนจะลุกขึ้นไปจ่ายเงินแล้วผละตัวออกมาเสียอย่างนั้น ยามนี้แม้แต่ตัวหลินเฟยยังไม่เข้าใจตนเองเลยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ปกติมันไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่มีคนรักอยู่แล้วไม่ใช่หรืออย่างไร ยิ่งนางมีสามีอยู่แล้วยิ่งไม่สมควรเข้าไปใหญ่

แต่หลายวันที่ผ่านมานี้หลินเฟยกลับเอาแต่กังวลเรื่องของนาง คิดว่านางจะคืนดีกับสามีแล้วหรือยัง หรือว่าจะยังทำหน้าเศร้าอยู่แบบนั้นเหมือนเดิม….ตัวหลินเฟยสลัดเรื่องนั้นออกจากหัวไม่ได้ถึงกับมาเที่ยวในเมืองเดียวกันกับที่เจอนายหญิงคนนั้นเลยทีเดียว

“……..”ขณะเดินเล่นอยู่บนถนน อยู่ๆสายตาของหลินเฟยก็พลันเหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวในค่ำคืนนั้นเข้าพอดี แม้หลินเฟยจะมาเที่ยวเมืองนี้เพราะแอบคิดว่าจะได้พบนางก็เถอะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้พบง่ายดายเช่นนี้ แถมนางยังเด่นสะดุดตามากอีกด้วยเพราะด้านหลังนางนั้นมีบ่าวรับใช้เดินตามกันมาหลายคนเลยทีเดียว แบบนี้สามีของนางเกรงว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตของอาณาจักรอู๋เสียแล้ว

“นายหญิง….”หลินเฟยเห็นเช่นนั้นก็เดินเข้าไปหานางทันที มันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยแต่อย่างไรเพียงอยากถามว่านางสบายใจขึ้นมาบ้างหรือยังเท่านั้น

“เจ้าเป็นใคร บังอาจเข้ามาใกล้นายหญิงได้อย่างไร”ยังไม่ทันเข้าไปถึงตัวนายหญิง แน่นอนว่าหลินเฟยกลับโดนผู้คุ้มกันเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน

“ใจเย็นน่าพี่ชาย ข้าแค่มีเรื่องอยากจะถามนายหญิงเท่านั้นเอง”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเป็นมิตร น่าเสียดายในกลุ่มบ่าวรับใช้เหล่านี้ไม่มีอสูรเลยไม่อย่างนั้นพลังดึงดูดเหล่าอสูรคงช่วยได้บ้าง

“เจ้าเป็นใครกัน ข้าไม่เคยรู้จักเจ้าเสียหน่อย”นายหญิงที่อยู่ด้านหลังบ่าวรับใช้พูดพลางมองมาทางหลินเฟยด้วยท่าทีงุนงง

“ท่านจำไม่ได้หรือ ก็คืนนั้น….”หลินเฟยกำลังจะพูดถึงเรื่องบนเรือ แต่พูดได้เท่านั้นใบหน้าของพวกบ่าวรับใช้ก็แสดงความขุ่นเคืองออกมาทันที

“สามหาว เจ้าคิดจะพูดให้นายหญิงลู่มัวหมองหรืออย่างไร ไปให้พ้นไม่ได้ยินหรือว่านายหญิงไม่รู้จักเจ้า”พวกบ่าวรับใช้รีบพากันไล่หลินเฟยออกมาทันที แต่เมื่อสบตากับนายหญิงหลินเฟยก็เข้าใจทันทีว่านางจำเรื่องเมื่อคืนนั้นไม่ได้จริงๆ แน่ล่ะนางเมาเสียขนาดนั้นเกรงว่าตื่นมาคงจะลืมหมดทุกอย่างและเห็นหลินเฟยเป็นเพียงชายแปลกหน้าเท่านั้นกระมัง