ตอนที่ 526 อสูรสามตัวปรากฏพร้อมกัน

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ทุกคนต่างก็กำลังตั้งตารอให้ผนึกคลายตัวเพื่อแย่งชิงโอกาสที่กล่าวกันว่าอยู่ใต้สระกายสิทธิ์

ไม่คิดเลยว่าเมื่อเหลือเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยามก่อนผนึกคลายตัว จู่ ๆ ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังแกร่งกล้าที่แผ่ออกจากสามจุดและสีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว

ต้นกำเนิดของพลังทั้งสามทรงอำนาจอย่างแท้จริงและอยู่ในระดับพสุธาเซียนขั้นสูงเป็นอย่างต่ำ

และในบรรดาผู้ที่กระจายตัวอยู่ในที่นี้ จอมยุทธ์ผู้ที่ทรงพลังที่สุดมีพลังเพียงขอบเขตพสุธาเซียนขั้นต้นเท่านั้นซึ่งเรียกได้ว่ายังห่างชั้นอีกมาก ในสถานการณ์นี้ การปรากฏกายอย่างกะทันหันของทั้งสามชีวิตซึ่งมีพลังอยู่ในระดับพสุธาเซียนขั้นสูงเป็นอย่างต่ำนั้นทำให้ทุกคนหวาดหวั่นใจอย่างยิ่ง

ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด พวกนางทราบข้อมูลจากหมาป่าขนทองเกี่ยวกับสถานการณ์ในเทือกเขากายสิทธิ์แล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่มาของพลังทั้งสามจะต้องเป็นอสูรพสุธาเซียนขั้นสูงสุดในเทือกเขากายสิทธิ์ซึ่งก็คือตัวนิ่มพันปี จิ้งจอกเก้าหางและมังกรเหมันต์อย่างแน่นอน

“คิ ๆ ๆ พี่ตัวนิ่ม บังเอิญจริงเชียว”

ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน น้ำเสียงยั่วยวนเสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของทุกคนจนหัวใจของชายฉกรรจ์มากมายถึงกับชะงักไปชั่วขณะ

ต้องกล่าวเลยว่าน้ำเสียงนี้ยั่วยวนใจและชวนให้หลงใหลเป็นที่สุด

“น้องจิ้งจอกเก้าหาง เจ้าก็มาที่นี่เช่นกันรึ ?”

น้ำเสียงร่าเริงอีกเสียงหนึ่งกล่าวตอบซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนของทั้งสองฝ่ายอย่างชัดเจน

“ฮ่า ๆ ๆ แน่นอนว่าข้าต้องมา ข้าจะพลาดโอกาสครั้งสำคัญเช่นนี้ได้ยังไงเล่า ?”

เสียงหวานทรงเสน่ห์ของจิ้งจอกเก้าหางดังขึ้นอีกครั้งและกล่าวต่อ “พี่ตัวนิ่ม เจ้ามังกรเหมันต์ที่เข้ามารุกรานและสร้างปัญหาในเทือกเขากายสิทธิ์ของเราก่อนหน้านี้ก็มาที่นี่เช่นกัน”

“เหอะ มันจะต้องมาเพื่อไขว่คว้าโอกาสใต้สระกายสิทธิ์เช่นกัน”

ตัวนิ่มพันปีแค่นเสียงเย็นชา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ชอบหน้ามังกรเหมันต์เลยสักนิด

มังกรเหมันต์บุกจู่โจมเทือกเขากายสิทธิ์และขับไล่อสูรมายาระดับต่ำทั้งหมดรวมถึงยั่วโทสะพวกมัน หากมิใช่เพราะความแข็งแกร่งของพวกมันทั้งคู่ คาดว่ามังกรเหมันต์คงจะขับไล่พวกมันออกไปได้สำเร็จเช่นกัน เพราะเหตุนั้นพวกมันจึงโกรธแค้นและชิงชังมังกรเหมันต์อย่างยิ่ง

“หึ ๆ พวกเจ้าคิดถูกแล้ว ข้ามาเพื่อ ‘โอกาส’ นั้น”

เสียงของบุรุษวัยกลางคนอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น และนั่นน่าจะเป็นเสียงของมังกรเหมันต์ที่ถูกกล่าวถึง

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ในที่สุดฉินอวี้โม่ก็ไม่สงสัยอีกต่อไป มังกรเหมันต์ตัวนี้คือมังกรน้ำแข็งตัวเดียวกันกับที่สร้างปัญหาให้นางซ้ำแล้วซ้ำเล่าในดินแดนหวนหลิงอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม มังกรเหมันต์ในตอนนี้ทรงพลังยิ่งนัก ภายในเวลาที่ผ่านไปเพียงสั้น ๆ ไม่คาดคิดว่ามันจะกลายเป็นอสูรพสุธาเซียนขั้นสูงสุดไปแล้ว ซึ่งรับมือได้ยากกว่าตอนมันอยู่ในดินแดนหวนหลิงนับร้อยเท่า

ทันทีที่สิ้นเสียงดังกล่าว ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวในพื้นที่โล่งท่ามกลางฝูงชน และตรงข้ามกับร่างนั้นก็ปรากฏอีกสองร่างเช่นกัน

ร่างมนุษย์ของมังกรเหมันต์ยังคงสวมอาภรณ์สีน้ำเงินดูเหมือนสุภาพบุรุษเช่นเคย ทว่าทุกคนที่เคยประสบพบเจอกับมันล้วนทราบดีว่ามังกรเหมันต์แท้จริงแล้วชั่วช้าและเจ้าเล่ห์เพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น มันก็มักที่จะรังแกอสูรมายาทุกตัวที่อ่อนแอกว่าตนและชื่อเสียงของมันในโลกของอสูรมายาก็ไม่น่าอภิรมย์นัก

ฝั่งตรงข้ามกับมังกรเหมันต์คือสองร่างที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน

ร่างบุรุษสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทและเส้นผมหยักศกเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มงดงาม โดยรวมแล้วเป็นบุรุษที่รูปงามอย่างมิอาจปฏิเสธได้

ในขณะเดียวกัน ร่างสตรีข้างกายสวมอาภรณ์สีชมพูหวานแนบเรือนร่างสมบูรณ์แบบ ใบหน้าเล็กเรียวงดงามและดวงตากลมโตเป็นประกายด้วยสายตายั่วยวน ร่างบางแผ่กลิ่นอายเย้ายวนชวนมองและทำให้ผู้พบเห็นตกหลุมรักได้ง่าย ๆ

“เป็นดังที่คิดไว้ไม่มีผิด มันคือจิ้งจอกเก้าหางนั่นเอง เพียงเสน่ห์ดึงดูดตามธรรมชาติของมันก็ถือเป็นอาวุธที่ร้ายแรงแล้ว”

ฉินอวี้โม่ถอนหายใจเบา ๆ ขณะมองไปที่จิ้งจอกเก้าหางและตัวนิ่มพันปีด้วยแววตาหวาดหวั่นเล็กน้อย

เสน่ห์ดึงดูดโดยกำเนิดของจิ้งจอกเก้าหางนั้นมากพอที่จะทำให้บุรุษทั่ว ๆ ไปตกหลุมรักมันได้ในชั่วพริบตา สำหรับบุรุษหนุ่มที่ไม่ชำนาญสงคราม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจิ้งจอกเก้าหาง พวกเขาเหล่านั้นก็อาจวอกแวกไม่น้อยทีเดียวและสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ไปมาก

แม้ร่างมนุษย์ของตัวนิ่มพันปีจะดูหล่อเหลาและสดใส แต่มันก็แผ่กลิ่นกายความลึกลับยากเกินหยั่งถึงซึ่งยากที่จะรับมือเช่นกัน

“แม่เจ้า อสูรพสุธาเซียนขั้นสูงสุดสามตัวปรากฏขึ้นมาพร้อมหน้า จะไม่ให้โอกาสพวกเราได้มีชีวิตเลยรึ ?!”

เมื่อเห็นอสูรพสุธาเซียนขั้นสูงสุดสามตัวปรากฏกายพร้อมกัน ใครคนหนึ่งก็ผุดเหงื่อเย็นทั่วหน้าผากทันที อสูรมายาทั้งสามตัวทรงพลังอย่างยิ่ง หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ พวกเขาเหล่านี้ไม่มีทางสู้ได้เลย วันนี้พวกเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ อย่างนั้นหรือ ?

ทว่าเมื่อกวาดสายตามองดูคนอื่น ๆ เขาก็พบว่าคนจากนิกายหงส์มังกร อารามโชติช่วง วิหารทมิฬ ผู้นำดินแดนเหนือและนครล่าฝันไม่ได้มีความหวาดหวั่นใด ๆ แสดงออกมาแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็แสดงสีหน้าตึงเครียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เวลานี้มีคนมารวมตัวกันที่นี่เป็นจำนวนมาก แม้ว่าอสูรมายาทั้งสามจะทรงพลังอย่างแท้จริง แต่จอมยุทธ์มากมายเหล่านี้ก็มิใช่กลุ่มคนที่จะรับมือได้ง่ายเลย

ทว่าอสูรมายาทั้งสามก็เมินเฉยต่อมนุษย์รอบตัวขณะยืนประจันหน้ากัน

“เจ้ามังกรเหมันต์ เจ้าบุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของเราและยังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในเทือกเขากายสิทธิ์จนอสูรมายามากมายไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นเดิม เจ้าคิดว่าเราจะปล่อยให้เจ้าสร้างปัญหาต่อไปงั้นรึ ?!”

เป็นเพราะ ‘โอกาส’ ใต้สระกายสิทธิ์ ตัวนิ่มพันปีจึงไม่สุภาพเหมือนก่อนหน้านี้ การกระทำของมังกรเหมันต์ตรงหน้าทำให้มันโกรธเคืองอย่างที่สุด

ก่อนหน้านี้มันถือเป็นราชาของเทือกเขากายสิทธิ์ แม้ว่าทั้งเทือกเขาจะมีอสูรมายามากมาย สถานการณ์ทั้งหมดก็มั่นคงและราบรื่นดี ทว่าบัดนี้ทั้งเทือกเขาได้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้นมาเพราะมังกรเหมันต์เพียงตัวเดียว อีกทั้งก็ยังได้ขับไล่อสูรมายาทั้งหมดออกไปส่งผลให้ตัวนิ่มพันปีไม่พอใจอย่างที่สุด หากมิใช่เพราะมังกรเหมันต์ตัวนี้ลึกลับและซ่อนตัวเป็นอย่างดี ตัวนิ่มพันปีก็คงหาทางโจมตีมันไปนานแล้ว

“ใช่แล้ว พี่ตัวนิ่ม ท่านต้องสั่งสอนเจ้ามังกรน้ำแข็งนี่ให้รู้สำนึก ก่อนหน้านี้มันบุกไปที่คฤหาสน์ของข้าและท้าทายข้า ท้ายที่สุดแม้ข้าจะขับไล่มันออกไปได้ มันก็สร้างความเสียหายต่อคฤหาสน์ของข้าไว้มาก ข้าไม่สบอารมณ์กับมันเลยจริง ๆ”

จิ้งจอกเก้าหางขยิบตาให้กับตัวนิ่มพันปีและกล่าวด้วยน้ำเสียงวาจาโปรยเสน่ห์

“นายหญิง ตัวนิ่มและจิ้งจอกเก้าหางเป็นคู่รักกัน ก่อนหน้านี้พวกมันก็ฝึกวิชาด้วยวิธีซวงซิวมาเสมอ นั่นคือสาเหตุที่ความแข็งแกร่งของพวกมันทั้งคู่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว”

* ซวงซิว (双修) การฝึกวิชาคู่โดยการมีอะไรกัน

เสียงของหมาป่าขนทองดังขึ้นในโสตประสาทของฉินอวี้โม่เพื่ออธิบายอย่างคร่าว ๆ

สำหรับอสูรมายา หากพบกับอสูรที่มีคุณสมบัติธาตุเดียวกันและมีความคิดที่เหมือน ๆ กัน พวกมันสามารถเลือกฝึกยุทธ์ด้วยวิธีการซวงซิวได้ ซึ่งความเร็วในการฝึกฝนด้วยวิธีนี้จะเร็วกว่าการฝึกวิชาเพียงลำพังถึงหลายเท่าตัว

เพียงแต่อสูรมายาที่มีธาตุคุณสมบัติและมีความคิดที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นพบได้ยากอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม จิ้งจอกเก้าหางและตัวนิ่มพันปีตรงหน้าในเวลานี้ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติธาตุเดียวกันเท่านั้นทว่าพวกมันยังเติมเต็มกันและกันอย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนั้น การฝึกวิชาของพวกมันจึงรวดเร็วอย่างยิ่งจนอสูรมายามากมายในเทือกเขากายสิทธิ์ต่างก็พากันริษยา

ฉินอวี้โม่ไม่เคยได้ยินการฝึกด้วยวิธีการซวงซิวของอสูรมายามาก่อน และเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางจึงสงสัยใคร่รู้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ความสงสัยก็เป็นเพียงแค่ความสงสัย นางจะยังไม่สืบถามอะไรออกไปในตอนนี้

“ไม่ต้องห่วง รอดูเถอะว่าข้าจะจัดการกับเจ้ามังกรเหมันต์ตัวนี้ยังไง ริอาจรังแกน้องจิ้งจอกเก้าหางของข้าและทำลายคฤหาสน์ของเรา มันไม่รอดแน่ !”

ตัวนิ่มพันปีกล่าวขณะจ้องตรงไปที่มังกรเหมันต์ด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารแรงกล้า

เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เว้นแต่ว่าเป็นเสือตัวผู้และเสือตัวเมียเท่านั้น เดิมทีมันและจิ้งจอกเก้าหางใช้ชีวิตอยู่ในเทือกเขากายสิทธิ์อย่างสงบสุขมาตลอดทว่าตอนนี้จู่ ๆ มังกรเหมันต์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาและสร้างความวุ่นวายไปทั่วจนเทือกเขาแห่งนี้ไม่สงบสุขอีกต่อไป ไม่ว่าอย่างไรตัวนิ่มก็จะไม่ปล่อยให้มังกรเหมันต์เสนอหน้าอยู่ที่นี่ได้อีกอย่างแน่นอน

“เหอะ เจ้าเพียงลำพังรึ ? เกรงว่าเจ้าคงมิใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”

ทว่ามังกรเหมันต์เพียงยิ้มเยือกเย็นราวกับไม่เห็นตัวนิ่มอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ทว่าแท้จริงแล้วหัวใจของมันก็แอบหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย

ตัวนิ่มพันปีมีพลังการทะลุทะลวงที่แกร่งกล้าและมีความเร็วเป็นเลิศ ในขณะเดียวกันจิ้งจอกเก้าหางก็ทรงพลังเท่าเทียมกัน หากทั้งสองร่วมมือกัน มังกรเหมันต์จะไม่ใช่คู่มือของพวกมันอย่างแน่นอน

“เหอะ ไม่ว่าจะสู้ได้รึไม่ เมื่อได้ลองก็จะรู้เอง !”

ตัวนิ่มแค่นเสียงเย็นชาและตะโกนเสียงแข็งออกไป

“ช้าก่อน !”

จู่ ๆ มังกรเหมันต์ก็กล่าวปรามขึ้นมาและทำให้อีกฝ่ายชะงักการเคลื่อนไหวทันที

“อะไรกัน เจ้ากลัวงั้นรึ ?! หากเจ้ากลัวก็รีบไสหัวออกไปซะ เทือกเขากายสิทธิ์แห่งนี้ไม่ต้อนรับเจ้า !”

ตัวนิ่มกล่าววาจาด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขามส่งผลให้ผู้ฟังอย่างมังกรเหมันต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“ใช่แล้ว พวกเราไม่ต้อนรับเจ้าในเทือกเขากายสิทธิ์แห่งนี้ เจ้ามาทางไหนก็เชิญกลับไปทางนั้นเถอะ”

จิ้งจอกเก้าหางกล่าวเสริม ทว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ทั้งสามยังคงไม่สนใจสายตามนุษย์มากมายโดยรอบเลยสักนิด

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าตัวนิ่ม เจ้าจิ้งจอกเก้าหางเอ๋ย อย่างมากพลังของพวกเจ้าก็อยู่ในระดับเดียวกับข้าเท่านั้น ข้าเป็นถึงมังกรผู้สูงศักดิ์… ข้าจะกลัวพวกเจ้าได้อย่างไรกัน ? เพียงแต่พวกเจ้าควรมองดูรอบตัวเสียก่อน ที่นี่มีมนุษย์ต่ำต้อยน่ารังเกียจอยู่มากมาย หากเราทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ผู้ที่ได้รับประโยชน์ที่สุดจะไม่ใช่มนุษย์เหล่านี้รึ ? ตอนนี้ผนึกก็ใกล้ที่จะคลายตัวเต็มที ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าก็คงไม่อยากให้มนุษย์พวกนี้ได้ครอบครองสิ่งที่อยู่ในสระกายสิทธิ์ใช่รึไม่ ?”

มังกรเหมันต์ยิ้มบาง ๆ ทว่ายกเรื่องฝูงชนรอบตัวขึ้นมาเบี่ยงเบนความสนใจ มันมิได้เกรงกลัวอสูรทั้งสองที่อยู่ตรงหน้า ทว่านี่เป็นสิ่งที่มันเตรียมการมานานแล้วและวันนี้มันจะต้องได้สิ่งที่อยู่ใต้สระกายสิทธิ์มาครองให้ได้

หากมันสู้กับตัวนิ่มพันปีและจิ้งจอกเก้าหาง ผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็จะต้องเป็นมนุษย์เหล่านี้อย่างแน่นอน มังกรน้ำแข็งผู้ชั่วร้ายเชื่อว่าทั้งตัวนิ่มและจิ้งจอกเก้าหางคงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น

เป็นจริงดังที่คิดไว้ เมื่อได้ยินวาจาของมังกรเหมันต์ อสูรมายาทั้งสองก็กวาดสายตามองมนุษย์โดยรอบและขมวดคิ้วมุ่นทันที

“ตัวนิ่มพันปี จิ้งจอกเก้าหาง ครานี้พวกเราเพียงต้องการใช้สระกายสิทธิ์เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของเราและไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ข้างใต้นั่น เพราะเหตุนั้น พวกเรามิใช่ศัตรูของเจ้าทั้งสองหรอก ศัตรูที่แท้จริงของพวกเจ้าคือมังกรเหมันต์นั่นต่างหาก”

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางลังเลของอสูรมายาคู่รัก ฉินอวี้โม่ก็กล่าวขึ้นเบา ๆ

นางทราบดีว่าตัวนิ่มพันปีและจิ้งจอกเก้าหางคิดอย่างไร รวมถึงความคิดของมังกรเหมันต์ด้วยเช่นกัน ตราบใดที่แสดงจุดยืนที่เหมาะสมต่อพวกมัน นางเชื่อว่าตัวนิ่มพันปีและจิ้งจอกเก้าหางก็คงจะไม่สร้างปัญหาความยุ่งยากให้กับพวกนาง

เมื่อตัวนิ่มพันปีและจิ้งจอกเก้าหางได้ยินวาจาของฉินอวี้โม่ พวกมันก็ชำเลืองมองนางและดูเหมือนจะคล้อยตามอย่างเห็นได้ชัด

ถึงอย่างไรแล้วพลังของฉินอวี้โม่ก็อยู่เพียงขอบเขตเซียนขั้นเก้าและมีโอกาสเป็นไปได้มากว่านางมาที่นี่ก็เพื่อที่จะบรรลุขอบเขตพสุธาเซียนจากการช่วยเหลือของสระกายสิทธิ์

“เจ้าตัวนิ่มพันปี เจ้าจิ้งจอกเก้าหาง พวกมนุษย์เจ้าเล่ห์จอมแผนการเป็นที่สุด หากพวกเจ้าหลงเชื่อวาจาของพวกเขาละก็… พวกเจ้าจะเผชิญกับเคราะห์ร้ายเป็นแน่ พวกเจ้าน่าจะรู้ดีว่าของที่อยู่ใต้สระมีความสำคัญเพียงใด พวกเจ้าควรที่จะคิดไตร่ตรองให้ดี !”

เมื่อเห็นว่าอสูรทั้งสองเริ่มคล้อยตามวาจาของฉินอวี้โม่ มังกรเหมันต์ก็อดกล่าวออกไปไม่ได้

“ข้าว่าเราควรร่วมมือกันขับไล่พวกมนุษย์ออกไปจะดีกว่า จากนั้นเราก็มาสู้กันเพื่อแย่งชิงสิ่งที่อยู่ใต้สระกายสิทธิ์กันในภายหลัง พวกเจ้าจะว่าอย่างไร ?”

เมื่อกล่าวข้อเสนอของตนออกไป มังกรเหมันต์ก็นิ่งเงียบเพื่อรอคำตอบจากตัวนิ่มพันปีและจิ้งจอกเก้าหาง

.

.