บทที่ 484 ปล่อยผู้หญิงของผม

The king of War

ไม่ใช่แค่พนักงานภายในเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาภายในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ยังมีคนจำนวนมากมาทำงานที่นี่ด้วย ขอแค่ลงทะเบียนก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ

แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนี้กลับขวางทางหยางเฉินและหม่าชาว เห็นได้ชัดว่ามีเจตนา

แม้ว่าหยางเฉินไม่ต้องการสร้างปัญหาอีก แต่ในเวลานี้ก็ยากที่จะยับยั้งความโกรธของตนเองได้

เยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่มารดาสร้างมากับมือ ได้ก้าวมาอยู่ในจุดที่พนักงานระดับล่างสุดอย่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเย่อหยิ่งจองหองได้ถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

“ออกไป!”

หม่าชาวก้าวไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน ตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับผลักมือไปข้างหน้า

“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!”

ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองจะทันได้ตอบโต้ ก็รู้สึกว่าหน้าอกถูกมือใหญ่ทาบไว้ จากนั้นพลังอันแข็งแกร่งก็ปะทุขึ้นที่หน้าอก พวกเขาไม่มีกำลังต่อต้านแม้แต่น้อย ถอยกลับทันที

กว่าพวกเขาจะรู้สึกตัว หยางเฉินและหม่าชาวก็ได้เข้าไปในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเบื้องหลังให้พวกเขาดูต่างหน้า

นัยน์ตาของทั้งสองหดตัวลงอย่างฉับพลัน เมื่อสบสายตากันก็มองเห็นความตื่นตระหนกของอีกฝ่าย

พวกเขาได้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปผ่านการคัดเลือกจากตัวเลือกนับหมื่นนับพัน

พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นบอดี้การ์ดที่มีศักยภาพแข็งแกร่ง ในเวลานี้หม่าชาวเพียงแค่ใช้มือผลัก พวกเขาก็ถูกผลักออกไปหลายก้าวแล้ว

“ผมมีความรู้สึกว่า เมื่อครู่เขายังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด”

ผ่านไปสักพัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหนึ่งในนั้นก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเมื่อครู่พวกเราลงมือ เกรงว่าจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว ชายหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งมาก!”

ถึงแม้ว่าก่อนที่ประธานซ่งจะออกไปได้ใช้สายตาบอกพวกเขาเป็นนัยว่า อย่าปล่อยให้หยางเฉินและหม่าชาวเข้ามา

แต่พวกเขาเป็นเพียงพนักงานระดับล่างสุดเท่านั้น ไม่ได้โง่พอที่จะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อสอพลอเจ้านาย ดังนั้นจึงไม่ได้ไล่ตามไป ทำได้เพียงมองดูหยางเฉินและหม่าชาวหายวับไปจากสายตาของพวกเขาเฉยๆ

“พี่เฉิน ถ้าไม่ได้อยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ผมคงอัดพวกเขาจนเละเป็นขี้แน่”

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หม่าชาวเดินก็ตามหลังหยางเฉิน พูดด้วยสีหน้าคับข้องใจ

หยางเฉินอารมณ์ไม่ดีนัก เพียงแค่พูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวจะมีช่วงเวลาให้คุณแสดงฝีมือแน่”

ถ้าก่อเรื่องใหญ่หน้าทางเข้าบริษัทและมีคนนอกเห็นมากมาย มันจะกลายเป็นเรื่องตลกของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

แต่ภายในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก

วันนี้เยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้จัดมหกรรมรับสมัครงานจริงๆ

ในเวลานี้ มีผู้สมัครเข้าแถวยาวทั้งสองฝั่งของห้องโถงชั้นหนึ่ง

ยังไม่ถึงเวลาเข้าทำงาน ดังนั้นการรับสมัครจึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น

“พี่หยาง!”

ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงอันน่าประหลาดใจดังขึ้น

หยางเฉินหันกลับไป เห็นเพียงเงาร่างที่คุ้นเคยวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“เฟยเฟย คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

หยางเฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับหานเฟยเฟยในสถานที่แห่งนี้

“ฉันมาเข้าร่วมมหกรรมรับสมัครงานค่ะ”

สีหน้าของหานเฟยเฟยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอดีใจมากที่ได้พบหยางเฉินที่นี่

สำหรับหยางเฉินแล้ว หานเฟยเฟยเป็นเหมือนน้องสาว เขาชอบนิสัยใจคอของผู้หญิงคนนี้มาก

เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า ลูกสาวอันเป็นที่รักของตระกูลหานซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในมณฑลเจียงผิงจะมาสมัครงานที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป

“ถ้าผมจำไม่ผิด คุณน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสามของมหาวิทยาลัยเยี่ยนตูใช่ไหม?”

หยางเฉินถามด้วยความสงสัย

ในอดีตที่เจียงโจว เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหานเซี่ยวเทียน มักจะคุยเรื่องธุรกิจด้วยกันเสมอ ทุกครั้งที่รับประทานอาหารเย็น หานเซี่ยวเทียนจะพาหลานสาวคนโปรดของเขาไปด้วย ดังนั้นหยางเฉินจึงรู้เรื่องราวของหานเฟยเฟยดี

หานเฟยเฟยกลอกตาใส่หยางเฉิน แล้วพูดด้วยความไม่พอใจ “พี่หยาง เดือนกันยายนปีนี้ฉันขึ้นปีสี่แล้วค่ะ”

หานเฟยเฟยสวมชุดสมัครงานมาตรฐาน ดูมีเสน่ห์มากทีเดียว

“เฟยเฟย ท่านนี้คือใครคะ?”

ในเวลานี้ ชายหนุ่มในชุดสูทแบบเดียวกันก็เดินเข้ามา ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เวลามองไปที่หยางเฉิน ยังแฝงความยั่วยวนเอาไว้

หานเฟยเฟยขมวดคิ้ว จ้องไปที่ชายหนุ่มพลางพูดว่า “ซ่งเหล่ย คุณอย่าคอยตามฉันเหมือนพวกไม่เอาไหนได้ไหม? เขาเป็นใคร เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”

หานเฟยเฟยพูดพลางดึงแขนของหยางเฉินอย่างตั้งใจ มองซ่งเหล่ยด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าเขาเป็นใครใช่ไหม?”

เมื่อเห็นภาพนี้ สายตาของซ่งเหล่ยก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องหยางเฉินอย่างเกรี้ยวกราด พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “หนุ่มน้อย ปล่อยผู้หญิงของผม!”

หยางเฉินขมวดคิ้ว วันนี้ไปล่วงเกินเทพไท้ส่วยมาหรือเปล่า?

ทำไมถึงเจอแต่คนงี่เง่าทุกที่?

“ซ่งเหล่ย หุบปากเหม็นๆ ของคุณซะ! ฉันกลายเป็นผู้หญิงของคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หานเฟยเฟยรู้สึกหงุดหงิดทันที ดุด่าเขาอย่างไร้ความปรานี

ผู้มาสมัครงานที่อยู่รอบๆ ต่างมองมา

ความโกรธบนใบหน้าของซ่งเหล่ยทวีความรุนแรงขึ้น เขาจับจ้องที่หยางเฉินแล้วพูดว่า “หนุ่มน้อย คุณก็มาสมัครงานที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วยใช่หรือเปล่า?”

“จะบอกคุณตามตรงนะ ลุงของผมเป็นรองประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เขารับผิดชอบงานในส่วนทรัพยากรมนุษย์”

“ถ้าตอนนี้คุณตัดความสัมพันธ์กับเฟยเฟยและคุกเข่าคำนับขอความเมตตา บางทีผมอาจจะให้โอกาสคุณเข้ามาเป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป”

“มิฉะนั้น คุณก็ไสหัวออกไปตอนนี้ได้เลย ถ้าไม่อย่างนั้น ผมแค่โทรสายเดียว ก็สามารถบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปขับไล่คุณออกไปได้ทันที”

สีหน้าของซ่งเหล่ยเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งทะนงตน

สีหน้าของหานเฟยเฟยเปลี่ยนไปอย่างมากทันที เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ซ่งเหล่ย ฉันบอกคุณแล้วไงว่าอย่ายุ่ง ไม่งั้นฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณ!”

“เฟยเฟย คุณก็รู้ว่าผมสามารถทำทุกอย่างเพื่อคุณได้”

“ผมบอกคุณแล้ว ขอเพียงคุณตอบตกลงเป็นแฟนกับผม ผมจะให้คุณเป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้โดยไม่จำเป็นต้องมาสมัครงานเลย”

“คุณดึงดันจะมาเข้าแถวที่นี่ให้ยุ่งยาก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมจะมาเป็นเพื่อนคุณสมัครงานทำไม?”

ซ่งเหล่ยมองหานเฟยเฟย น้ำเสียงเต็มไปด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของ

หานเฟยเฟยตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอรู้ว่าหยางเฉินเก่งมาก แต่ก็เฉพาะสถานที่อย่างมณฑลเจียงผิงเท่านั้น

แต่ที่นี่คือเมืองเยี่ยนตู เป็นเมืองศูนย์กลางอำนาจและอิทธิพล และเยี่ยนเฉินกรุ๊ปก็ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลอวี๋เหวิน

ถ้าทำให้หยางเฉินเดือดร้อนไปด้วยเพราะล่วงเกินตระกูลอวี๋เหวินเพื่อตนเอง มันต้องไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดอย่างแน่นอน

“พี่หยาง คุณไปทำงานต่อเถอะ อย่าไปสนใจไอ้สารเลวไร้ยางอายคนนี้เลย!”

หานเฟยเฟยปล่อยแขนหยางเฉินแล้วพูดว่า “พี่หยาง คุณไปทำงานก่อน คืนนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณเอง”

หยางเฉินพยักหน้า “ตกลง งั้นเจอกันคืนนี้!”

พูดจบ หยางเฉินก็กำลังจะเดินออกไป

แต่เขาเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกซ่งเหล่ยขวางไว้

“หนุ่มน้อย คุณทำหูทวนลมกับคำพูดของผมเหรอไง?”

“หานเฟยเฟยเป็นผู้หญิงของผม คุณยังกล้ามาชวนเธอไปกินข้าว คุณรีบร้อนรนหาที่ตายนักเหรอไง?

ซ่งเหล่ยคว้าคอเสื้อหยางเฉิน แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราด

“ซ่งเหล่ย! คุณทำอะไรน่ะ?”

หานเฟยเฟยตะคอกใส่ซ่งเหล่ยด้วยความโกรธทันที

หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น มองดูชายหนุ่มหยิ่งผยองอย่างไร้ขอบเขตที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ พลันยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มของเขาดูค่อนข้างมืดมน “คุณบอกว่าลุงของคุณเป็นรองประธานเยี่ยนเฉินกรุ๊ปงั้นเหรอ? งั้นคุณช่วยบอกชื่อเขาหน่อยได้ไหม?”