ตอนที่ 2599 ขั้นสี่ที่แท้จริง

โคล่าและคนอื่นๆเริ่มเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อปีศาจหมาป่าจำนวนมากเริ่มพุ่งมาทางพวกเขา โดยมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่พุ่งเข้ามานั้นเป็นลอร์ดบอสขั้นสูง แต่อย่างไรก็ตามด้วยเลเวลที่สูงมากของมัน ทำให้ค่าสถานะของมันสามารถเทียบได้กับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ เลเวลหนึ่งร้อยสิบห้าได้เลย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับลอร์ดบอสผู้ยิ่งใหญ่ในเลเวลเดียวกันมากกว่าหนึ่งพันตัวพร้อมกัน และมอนสเตอร์ทุกตัวนี้ล้วนมีมาตราฐานการต่อสู้อยู่ที่ชั้นสามของหอคอยทดสอบ

ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวจำนวนหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขาเช่นกัน และที่น่าประหลาดใจเลยคือมอนสเตอร์ทั้งหมดนี้นั้นเคลื่อนไหวราวกับคลื่นสึนามิที่จะสามารถกวาดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางได้

เมื่อปีศาจหมาป่าเหล่านี้เริ่มเข้ามาใกล้ สมาชิกของสภาสิบแปดปีกก็เริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ในขณะที่ฝูงมอนสเตอร์เริ่มแยกออกเป็นสองกลุ่มและล้อมกรอบทั้งทีมของสภาสิบแปดปีกเอาไว้

ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการล้อมกรอบปีศาจหมาป่าก็ได้เปิดเส้นทางให้แกรนลอร์ดที่เป็นพรรคพวกของพวกมันเข้ามาด้านหน้า

“นี่มอนสเตอร์พวกนี้ฉลาดแค่ไหนกัน ?!” ดวงตาของโคล่าแทบจะถลนออกจากเบ้า เมื่อเขาได้เห็นฉากนี้

ปีศาจหมาป่าเหล่านี้เคลื่อนไหวเหมือนกับกองทัพที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีมากกว่าฝูงมอนสเตอร์ และมันก็ดูเหมือนว่ากองทัพนี้จะได้รับการฝึกฝนมาเพื่อกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้เล่น

ก่อนที่โคล่าและคนอื่นๆจะตอบสนองได้ทัน ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาแล้ว และมันก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับปีศาจหมาป่าน้ำแข็งอีกนับร้อยที่ทำหน้าที่เป็นโล่กำบังให้มัน

โคล่านั้นตอบสนองทันทีด้วยการพุ่งไปข้างหน้า และใช้ Justice Roar ใส่ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัว

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่แสงที่มองไม่เห็ปรากฎขึ้น และโคล่ากำลังเตรียมจะโจมตีนั้น ดวงตาของแกรนลอร์ดตัวนี้ก็ฉายแววขี้เล่นออกมา ซึ่งนี่มันทำให้การ์เดี้ยนไนท์สับสนมากๆ

จากนั้นปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสองตัวก็ปรากฎขึ้นจากด้านหลังของแกรนลอร์ด พร้อมกับกระแทกหัวของมันเข้าใส่โคล่า

Peng!

ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสองตัวนั้นใช้หัวโจมตีเข้าที่บริเวณเกราะของโคล่าทันที และมันก็บังคับให้โคล่าต้องถอยกลับไปหลายก้าว ซึ่งก่อนที่โคล่าจะทันได้ตั้งตัวได้ กรงเล็บของปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวก็กำลังพุ่งตรงมายังเขาอย่างรวดเร็วแล้ว

“อย่าคิดว่าจะฆ่าฉันง่ายขนาดนั้นนะเว้ย !!!” โคล่าคำราม พลางตอบโต้ด้วยการยกโล่ขึ้นป้องกันการโจมตีอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามในทันทีที่เขายกโล่ขึ้น เขาก็ต้องตกตะลึง

คราวนี้ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งอีกสามตัวปรากฎตัวขึ้นที่ด้านข้างของแกรนลอร์ด …..

การซุ่มโจมตีจากสองด้าน !!!

แม้ว่าความจริงแล้วพวกสิ่งมีชีวิตปีศาจไม่ควรจะมีสติปัญญามากนัก แต่ปีศาจหมาป่าเหล่านี้กับรู้วิธีการทำงานร่วมกันเพ่อเปิดการโจมตีที่ซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้นการประสานงานทั้งหมดของพวกมันก็ยังสมบูรณ์แบบ พวกมันใช้กลยุทธ์นี้ด้วยจังหวะและเวลาที่ไร้ที่ติ และแม้แต่ผู้เล่นบางคนก็ยังไม่สามารถจะทำได้ขนาดนี้เลย ซึ่งมันราวกับว่าปีศาจหมาป่าพวกนี้ได้ฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อจัดการกับเขาโดยเฉพาะ

ระหว่งที่โคล่ากำลังคิดว่าเขาคงตายแน่นอนแล้วครั้งนี้ กำแพงน้ำแข็งก็ปรากฎขึ้นรอบตัวเขา

ตู้ม !!

กำแพงนั่นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เมื่อปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัว และปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามตัวเข้าปะทะกับมัน แต่มันก็ยังคงมั่นคง
ซึ่งฉากนี้นั้นทำให้อควาโรสและคนอื่นๆตกตะลึงอย่างมาก และพวกเขาก็รีบมองไปยังผู้ที่สร้างกำแพงน้ำแข็งทันที

มันไม่มีใครสามารถจะตอบสนองต่อการโจมตีของปีศาจหมาป่าเหล่านี้ได้ทันเวลาเพื่อช่วยโคล่า แต่ตอนนี้มันกับมีกำแพงน้ำแข็งปรากฎขึ้นรอบๆแท๊งเกอร์ ก่อนที่การโจมตีของมอนสเตอร์ทั้งสี่จะโดนเข้ากับเขาเต็มๆ และกำแพงน้ำแข็งนี้ก็เป็นเพียงเวทย์ขั้นสองเท่านั้น แต่มันกับสามารถหยุดยั้งการโจมตีของปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวที่เป็นแกรนลอร์ดได้ นี่มันไม่น่าเชื่อเลย !!!

ทั้งทีมจับจ้องไปยังแวร์ซาย ชายชราด้านหลังของซือเฟิงทันที

อย่างไรก็ตามพวกเขาประหลาดใจที่มันไม่มีวงเวทย์รอบ NPC เลย แถม NPC ก็ไม่ได้ถือคทาอยู่ด้วย แต่เขากับสามารถสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาได้

เมื่อผู้เล่นทำการร่ายเวทย์ พวกเขาก็จำเป็นจะต้องสร้างวงเวทย์ที่จำเป็นก่อน และแม้แต่วงเวทย์การเคลื่อนย้ายทันทีก็ยังต้องใช้เวลาในการสร้างและร่าย และแม้ว่าวงเวทย์ง่ายๆบางอย่างจะปรากขึ้นทันที แต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลาในการจะประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันให้เสร็จอยู่ดี

อย่างไรก็ตามแวร์ซายกับร่ายเวทย์กำแพงน้ำแข็งขั้นสองขึ้นมาได้โดยไม่มีวงเวทย์ และมันก็ราวกับว่าเวทย์มนต์นั้นเกิดมาจากรูปร่างความคิดของเขา ยิ่งไปกว่านั้นกำแพงน้ำแข็งของเขายังทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์

ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวนั้นจ้องมองไปที่แวร์ซายด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่หัวทั้งสามของแกรนลอร์ดจะเริ่มอ้าปากออก และทันใดนั้นวงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสองวงก็เริ่มก่อตัวขึ้นใต้เท้าของมอนสเตอร์

หลังจากนั้นชั่วครู่ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวก็พ่นพายุที่น่ากลัวคล้ายกับพายุเฮอริเคนที่พร้อมจะกลืนกินทุกคนในพื้นที่ออกมา ซึ่งมันไม่มีใครเลยที่มีเวลาจะหลบการโจมตี

ในการตอบสนองแวร์ซายยกมือข้างที่ว่างและเรียกกำแพงหินออกมา แยกการโจมตีของปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวออกไป

ซึ่งการโจมตีนี้แม้จะสั่นสะเทือนกำแพงหินอย่างรุนแรง แต่มันก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับกำแพงหินได้เลยก่อนที่มันจะหมดพลังและหายไปเอง

นี่ทำให้โคล่าและคนอื่นๆนั้นพูดไม่ออกเลยทีเดียว ….

การโจมตีเมื่อครู่นั้นเป็นคำสาปขั้นสามอย่างไม่ต้องสงสัย รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวเป็นแกรนลอร์ด เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบสี่แล้ว การโจมตีนี้มันจะเทียบได้กับการโจมตีแบบเต็มรูปแบบจากมอนสเตอร์ระดับเทพนิยาย เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเลย แต่แวร์ซายกับป้องกันมันได้อย่างง่ายดาย

ในขณะเดียวกัน NPC ขั้นสี่ ก็ได้เรียกหนามหินออกมาใต้เท้าของปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวอีกสองตัวที่กำลังเตรียมซุ่มโจมตีจากระยะไกล และนี่มันก็ได้ทำลายสมาธิของแกรนลอร์ดตตัวอื่นๆไปทันที

นี่ NPC ขั้นสี่แข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยงั้นหรอ ? อควาโรสรู้สึกงุนงงอย่างถึงที่สุด ขณะที่เธอเฝ้าดูฉากตรงหน้า

เธอนั้นคิดว่าซือเฟิงประเมินค่าแวร์ซาย ซึ่งเป็นเพียงองครักษ์ส่วนตัวระดับลึกลับขั้นเงิน เลเวลหนึ่งร้อยสิบสองสูงเกินไป เขาอาจจะเป็น NPC ขั้นสี่ แต่การต่อสู้กับกองทัพปีศาจหมาป่าแบบนี้ก็น่าจะยังทำให้เขามีปัญหาอยู่บ้าง

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เห็นการแสดงของแวร์ซาย เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมซือเฟิงถึงประเมิน NPC ขั้นสี่ผู้นี้ไว้สูงมาก

แวร์ซายนั้นได้ร่ายเวทย์ไปสามครั้ง และสามารถขัดขวางการโจมตีของแกรนลอร์ดทั้งสามตัวได้ทันที กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเขาสามารถจะร่ายเวทย์ได้สามสกิลพร้อมกัน ยิ่งไปกว่านั้นสกิลเวทย์ทั้งสามของเขายังทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่ามันจะอยู่ในขั้นที่ต่ำมาก แวร์ซายนั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับ NPC ขั้นสี่ที่เธอเคยพบมาก่อน

“ทุกคนระวังตัวให้มากขึ้น !!! แม้ว่าเราจะมีการป้องกันจากแวร์ซาย แต่ก็อย่าลืมว่าปีศาจหมาป่าพวกนี้นั้นมีความพิเศษมากๆ !!! พวกมันไม่เพียงแต่จะฉลาด และเจ้าเล่ห์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่พวกมันยังรู้วิธีการใช้ประโยชน์จากโอกาสทุกประเภทด้วย จำไว้ให้ระวังตัวเองไว้ตลอดเวลา …” ซือเฟิงเตือนพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อเขาเห็นเพื่อนร่วมทีมของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
NPC ใดๆที่สามารถจะเข้าถึงขั้นสี่ได้นั้นจัดเป็นมังกรในหมู่มนุษย์ และบุคคลเหล่านี้จะสามารถปกป้องเมืองทั่วไปทั้งเมืองได้โดยปราศจากความช่วยเหลือ ดังนั้นพวกเขาจะอ่อนแอได้ยังไง ?

ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ในขั้นสี่ยังแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับมอนสเตอร์ในขั้นเดียวกัน

มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคและการควบคุมมานาเพื่อทำเควสเลื่อนขั้น ขั้นสี่ให้สำเร็จ แต่มอนสเตอร์นั้นจะสามารถไปถึงขั้นนี้ได้ตราบใดที่สายเลือดของพวกมันทรงพลังมากเพียงพอ ดังนั้นแม้ว่า NPC มนุษย์ขั้นสี่จะมีเลเวลต่ำกว่ามอนสเตอร์ขั้นสี่เล็กน้อย แต่พวกเขาก็จะสามารถใช้เทคนิคที่เหนือกว่าเพื่อเติมเต็มช่องว่างได้ นอกจากนี้ศักยภาพในการเติบโตขององครักษ์ระดับลึกลับขั้นเงินที่เป็น NPC ขั้นสี่นั้นก็ไม่ได้จัดว่าแย่หรือขาดเลย

คำเตือนของซือเฟิงนั้นทำให้ทุกคนหายตากอาการตกตะลึงทันที และจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็เริ่มลุกโชนขึ้นในดวงตาของพวกเขา

แม้ว่าปีศาจหมาป่าทั้งหมดตรงหน้าของพวกเขาจะมีความพิเศษ และอันตรายมากๆ ดังที่เห็นได้จากาการที่พวกโจมตีโคล่า แต่นี่มันก็จัดว่าเป็นสนามฝึกซ้อมที่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงที่หาได้ยากมากในหมู่ผู้เชี่ยวชาญแบบพวกเขา

หลังจากนั้นสมาชิกในทีมทั้งสิบเอ็ดคนก็เริ่มพุ่งเข้าโจมตีปีศาจหมาป่าน้ำแข็งที่พวกเขาเล็งเป้าไว้ โดยคอยระวังปีศาจหมาป่าน้ำแข็งรอบๆด้วยเช่นกัน

สำหรับซือเฟิง เขาเองก็เลือกจะพุ่งเข้าใส่ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัว สองตัวที่อยู่ในระยะไกลทันที โดยเขาพยายามจะผสมผสานเทคนิคการต่อสู้เข้าไปในทุกการเคลื่อนไหวของเขา

ตอนนี้เขาต้องอาศัยโอกาสนี้ฝึกให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุด แล้วเขาก็จะกลับไปท้าทายอัศวินในเสื้อคลุมสีดำที่บันไดขั้นเก้าสิบของชั้นสอง เพื่อที่จะทำให้ตัวเองมุ่งหน้าไปยังชั้นสามให้ได้ !!!

ขณะเดียวกันในระหว่างที่ซือเฟิงต่อสู้กับปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวสองตัวนั้น มันก็มีพวกปีศาจหมาป่าน้ำแข็งนับร้อยคอยดักโจมตีเขาอยู่เรื่อยๆเช่นกัน และหากจะเปิดใช้งานสกิลป้องกันมันก็คงไม่ทัน ซึ่งมันก็ทำให้ซือเฟิงนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาเทคนิคการต่อสู้เป็นหลักเพื่อป้องกันตัวเอง
เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป ซือเฟิงก็เริ่มคุ้นเคยกับการผสมผสานเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเข้าไปในทุกการเคลื่อนไหวมากขึ้น

โดยหลังจากนั้นไม่นานซือเฟิงซือเฟิงก็เริ่มคุ้นเคยกับการผสมผสานแบบนี้มากขึ้น และเขาก็เริ่มต่อสู้กับพวกปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัว กับปีศาจหมาป่าน้ำแข็งนับร้อยได้ง่ายขึ้นมาก ซึ่งจริงๆแล้วก็ต้องพูดว่าเขาเริ่มได้เปรียบแล้วด้วยซ้ำ

ขณะเดียวกันอควาโรสและคนอื่นๆก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน แรกเริ่มนั้นพวกเขาจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือจากแวร์ซายบ้างในการต่อสู้ แต่ตอนนี้นั้น เมื่อพวกเขาปรับตัวได้และการเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งหมดเริ่มคล้ายกับเทคนิคการต่อสู้ พวกเขาก็เริ่มจะสามารถสู้ด้วยตัวเองได้แล้ว

ซึ่งทั้งทีมก็ยังคงฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาห้าวันติดต่อกัน และในช่วงเวลานั้นพวกเขาก็เดินทางไปมาระหว่างบริเวณถ้ำปีศาจหมาป่ากับหอคอยพิเศษ ซึ่งไม่เพียงแต่สมาชิกในทีมทั้งหมดจะมาถึงขอบเขตที่แท้จริงขั้นสูงกันหมด แต่ไวโอเล็ทคลาวด์ อควาโรส และไฟเออร์แดนซ์ ยังได้สร้างเทคนิคการต่อสู้ระดับทองแดงของตัวเองขึ้นมาได้แล้ว

แถมทุกคนต่างก็เก็บเลเวลได้อย่างรวดเร็วมากๆ

แม้ว่าปีศาจหมาป่าในบริเวณถ้ำปีศาจหมาป่าจะไม่ได้ดรอปไอเทมใดๆ แต่พวกมันก็ให้ EXP จำนวนมาก นอกจากนี้ซือเฟิงยังได้ส่งองครักษ์ส่วนตัวบางส่วนไปเพื่อเคลียร์ถ้ำปีศาจหมาป่าด้วยในระหว่างที่ทุกคนฝึกฝน เป็นผลให้สมาชิกในทีมทั้งหมดมีเลเวลเพิ่มขึ้นสองเลเวลในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ขณะที่ตัวซือเฟิงนั้นเขาโดนคำสาปของเทพปีศาจทำให้เลเวลลดไปหนึ่งเลเวล ดังนั้นเขาจึงมีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเพียงเลเวลเดียว เขาจึงมีเลเวลอยู่ที่หนึ่งร้อยสิบแปดเท่านั้น

แน่นอนเลยว่าพลังการต่อสู้ของฉันเพิ่มขึ้นมากหลังจากผสานรวมเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเข้าไปในทุกการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งโดยรวมแล้วพลังทั้งการรุกและรับของฉันดีขึ้นมากจริงๆ ถ้าฉันสามารถทำแบบเดียวกันกับเทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงได้ ฉันน่าจะสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้สบายๆเลย ซือเฟิงคิดในขณะที่เขาต่อสู้ปีศาจหมาป่าน้ำแข็งสามหัวหลายตัวพร้อมกัน

หลังจากผ่านไปห้าวันของการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดเขาก็สามารถผสานเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานเข้ากับทุกการเคลื่อนไหวของเขาได้ และตอนนี้มันก็ทำให้เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถผ่านบันไดขั้นที่เก้าสิบของชั้นสองของหอคอยพิเศษได้แน่นอน

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับความคิดในการที่จะใช้เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงผสมผสานเข้ากับทุกการเคลื่อนไหวนั้น มันยังคงไกลเกินตัวสำหรับซือเฟิง เพราะท้ายที่สุดการใช้เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงมันจำเป็นต้องใช้ค่าสตามิน่าและค่าความแข็งแกร่งทางจิตใจสูงกว่าเทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐานมาก ….

“หัวหน้ากิล มันเกือบจะถึงเวลาแล้ว ถ้าเราไม่รีบไปยังทวีปด้านตะวันตกตอนนี้ วอร์นเดอร์จะไปไม่ทันเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างตระกูล” อควาโรสกล่าวเตือน เมื่อเธอเห็นว่าซือเฟิงยังคงหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้

“อย่างนั้นหรอ ?” ตอนนี้ซือเฟิงรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไป “เอาล่ะงั้นเตรียมตัวกลับ และเดินทางไปยังทวีปด้านตะวันตกกัน !!!”