ตอนที่ 566

The Novel’s Extra

บทที่ 566 เส้นทางใหม่ (7)

 

ผมเอื้อมมือออกไปหาบอส มือหยาบๆของผมแตะแก้มเธอและผมก็รู้สึกถึงความนุ่มนวลของผิวเธอความขมขื่นปรากฏขึ้นภายในตัวผม ตอนนี้ ผมเคยชินกับโลกใบนี้มากกว่าที่ผมจินตนาการเอาไว้มาก

 

เมื่อนั้นความอยากภายในตัวผมก็หายไปแทนที่ด้วยความไม่พอใจ

 

แต่คราวนี้บอสย้าย มือเย็นๆและอบอุ่นของเธอจับมือของผมไว้และทำให้มันหายสั่น พวกเรามองหน้ากันพร้อมจับมือของกันและกันผมและเธอไม่ได้พูดอะไรสักคำทำให้บรรยากาศรอบตัวแปลกๆ

 

ผมเข้าหาเธออย่างช้าๆใกล้พอที่จะสัมผัสเธอได้เต็มๆ

 

หัวใจของผมเต้นแรง ผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นแต่ไม่ใช่ของผมเธอเองก็รู้สึกประหม่าเหมือนผมงั้นเหรอ? ผมรู้สึกอายแต่ก็มีความสุขในเวลาเดียวกัน

 

ขณะที่ลมหายใจของพวกเราผสมกันและริมฝีปากของพวกเราเองก็กำลังจะสัมผัส…

 

“อะแฮ่ม.”

 

เสียงไอดังขึ้นโดยเจตนา อารมณ์โรแมนติกหายไปและพวกเราก็ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

 

อึก ผมกลืนน้ำลายอย่างหนักและจ้องไปตรงมุมเต็นท์ ฮาริน สละพื้นที่ ให้คน 2 คนอย่างคุ้มค่า เมื่อเธอรู้ว่าบอสและผมสนิทกันแค่ไหน

 

“… .”

 

ผมยิ้มด้วยความขมขื่น บอสยังคงนิ่งเฉย แต่เธอจ้องมองที่ ฮาริน อย่างดุร้าย

 

“เหนื่อยแล้วสิ~”

 

ผมบ่นเสียงดังและพูดโกหกๆออกไปผมเหยียดแขนออกและจ้องมองไปที่เพดานของเต็นท์ หัวใจของผมยังคงเต้นแรงและรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของผม ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จริงแต่ผมอารมณ์ดีมากผมตัดสินใจที่จะหลับในขณะที่มีความสุข ฉากจบอยู่อีกไม่ไกลผมอยากที่จะสนุกกับทุกช่วงเวลาที่ทำได้

 

ผมหลับตาลง

 

“… ?”

 

แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกดแขนของผมเอาไว้ผมลืมตาอย่างอยากรู้อยากเห็นและเห็นหัวของบอสทับแขนของผม เธอใช้แขนของผมเป็นหมอน ผมไม่สามารถบอกได้ว่าเธอนอนหลับจริงๆหรือแค่แกล้งหลับ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็มองไปที่เพดานพร้อมกับรอยยิ้ม

มันค่อนข้างอึดอัด แต่ผมก็ไม่รังเกียจ หัวของบอสนั้นเล็กมากจนแทบจะไร้น้ำหนักเลย

 

*************************************************************************

 

ปีนเขาผ่านจุดสูงสุดที่สองของเขา ‘ลอตโต้’ พวกเรามาถึงจุดที่สาม 

‘คิราต้า’ สภาพแวดล้อมของ คิราต้า นั้นเป็นของป่า ภัยคุกคามทุกประเภทตั้งแต่มอนสเตอร์เช่นยุงยักษ์ งูดิน ลิงสีแดงเข้มและจระเข้จนไปถึงบ่อทรายดูดและพืชกินเนื้อแสนมหัศจรรย์ที่เต็มภูเขา

 

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของบอสและพลังสายตาของผมภูเขาที่ชั่วร้ายก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ผมพบว่าบอสไม่ได้สูญเสียความแข็งแกร่งของเธอไปมากนักเพราะฉากหลังของเธอถูกกำหนดให้เป็น

นักฆ่า

 

“คาราต้า ยากกว่าภูเขาก่อนหน้า มันแย่กว่าที่ฉันจินตนาการไว้มาก” ฮาริน พึมพำ

 

ขณะนี้พวกเราอยู่ที่จุดกึ่งกลางของภูเขา พวกเราใช้เวลา 5 วันในการเข้าถึงจุด 3,500 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับ โปลรีอุน และ ลอตโต้ ทำให้พวกเราปีนขึ้นไปเพียง 2-4 วันตามลำดับ

 

“การหาที่พักเพื่อพักค้างคืนเป็นเรื่องน่ารำคาญที่นี่”

 

คิราต้า ไม่มีถ้ำและจำนวนมอนสเตอร์ที่นี่ทำให้การนอนบนพื้นนั้นเป็นไปไม่ได้ พวกเราต้องนอนบนท้องฟ้าหรือไม่นอนเลย

 

เมื่อค่าสถานะของผมฟื้นคืนจากในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาผมสามารถสร้างกระท่อมได้แม้จะหลับตา ด้วยไม้มากมายรอบตัวผม ผมสร้างบ้านต้นไม้ได้อย่างง่ายๆด้วยพลังเวทมนต์ของรอยสักเล็กน้อย

 

“ผมเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว แต่…งานฝีมือของนายช่างเหนือมนุษยจริงๆ…”

 

ฮาริน พึมพำเมื่อเธอมองไปรอบๆเพิงที่ผมสร้างขึ้นมา ผมหัวเราะเบาๆเพราะอันนี้เป็นผลงานที่ดีที่สุดของผมในตอนนี้แล้วละ

 

“ฉันเป็นลูกหลานของคนแคระน่ะ”

 

“คนแคระ”

 

“ใช่ ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ”

 

“… .”

 

ฮารินกระพริบตาอย่างงุนงง ฉันไม่แน่ใจว่าเธอไม่เชื่อหรือพยายามคิดตามสิ่งที่เธอได้ยิน แต่ดูเหมือนว่าเธอเองก็เคยได้ยินเรื่องคนแคระมาเช่นกัน

 

เฟี้ยววววววววว

 

ในขณะนั้นบอสมาถึงพร้อมลมแรงๆ เธอรับผิดชอบการจัดหาอาหารและเธอมาถึงพร้อมเนื้อนกและผลเบอร์รี่ในมือของเธอ

 

“พวกนี้กินได้หรือเปล่า”

 

“อ๋อ ได้สิ.”

 

จากการสังเกตและการอ่านเนื้อนกเป็นอาหารอันโอชะที่ชื่อว่า[ลิคอร์] และผลเบอร์รี่นั้นมีชื่อว่า [ผลไม้เมืองร้อนแสนอร่อย] ผมปรุงรสเนื้อนกและตั้งแคมป์ไฟ เมื่อไฟเกิดขึ้นผมก็เสียบเนื้อนกแล้ววางมันลงบนกองไฟ อาหารเสร็จในพริบตา ผมแบ่งให้ทั้ง 2 คน

 

พวกเราทานอาหารเสร็จในเวลาเพียง 15 นาที

 

“มันเริ่มมืดแล้ว”

 

ความมืดเริ่มมาแม้จะพึ่ง 5 โมงในตอนบ่าย แต่พวกเราก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด

 

“ขอบคุณสำหรับอาหาร. ตอนนี้พวกเราควรพักบ้างไหม?”

 

ฮาริน ยืนพิงกำแพงไม้ขณะที่เธอลูบท้องของเธอ

 

“แน่นอน.”

 

ผมกระจายผ้าปูที่นอนที่ผมทำด้วยใบไม้อ่อนๆที่ผมพบในป่า ฮาริน นอนลงไปในทันทีและบอสก็พูดกับผม บอสหันมาหาผมและจ้องที่ผมอย่างแน่วแน่ดูเหมือนว่าเธอจะขอใช้แขนของผมเป็นหมอนอีกครั้ง

 

“…พวกเธอ.”

 

แต่ทันใดนั้นฮารินก็อ้าปาก บอสและผมสะดุ้งอย่างไม่รู้ตัว

 

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

 

“พวกเธอบอกว่าพวกเธอเชื่อว่ามารมีอยู่ใช่ไหม”

 

ฮารินพูดอย่างจริงจังดังนั้นผมจึงเครียดหู ผมบอกได้ทันทีว่านี่เป็นข้อมูลชิ้นสำคัญ

 

“ใช่.”

 

“ถ้าอย่างนั้น นายจำเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้วได้ไหม”

 

“… เหตุการณ์?”

 

“กลุ่มขุนนางลอเรนถูกทำลายเนื่องจากการขายชาติ นายรู้ไหมว่าจริงๆแล้วเจ้าชายเป็นร่างอวตารของมาร”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้ แต่ผมก็พยักหน้า

 

“ใช่ ฉันเองได้ยิน.”

 

“…มันยากที่จะไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้เลย”

 

ฮารินหยุดพูดและถอนหายใจอย่างหนัก

 

“…มันไม่ใช่เรื่องโกหก” เธอพูดจริงจังกว่าเดิม “คริสเบลล์ เจ้าชายของ

อรันเฮลล์ เป็นร่างอวตารของมาร บาอัล ในร่างกายของเขา”

 

“… .”

 

ผมฟัง ฮาริน อย่างเงียบๆและไตร่ตรองถึงสิ่งที่เธอพูด จากนั้นบางสิ่งที่เธอพูดก็ทำให้ผมสนใจ คริสเบลล์ เจ้าชายของ อรันเฮลล์ ร่างอวตารของ บาอัล คริสเบลล์ และ บาอัล คริส… ‘เบลล์’ …..!!!

 

“… !”

 

ผมหันไปหาบอสด้วยสายตาที่เบิกกว้าง บอสดูเหมือนจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างเช่นกันเพราะเธอเองก็มีสีหน้าตกใจ

**********************************2**************************************