ตอนที่ 964 - แผ่นหินสะพรึง

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  จินมู่กับรองเจ้าดินแดนเสี่ยวตั้งใจมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นและใจหายพร้อมกันจินมู่หน้าถอดสี ร่างปลอมของเขาฟื้นตัวได้อย่างง่ายดายราวกับเป็นอมตะ แต่มันก็มีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่ นั่นก็คือการใช้เพลิงกับมัน!
  เพลิงระเบิดเมื่อครู่ทำลายร่างกายและโลหิตไปด้วยร่างปลอมที่แข็งแกร่งที่สุดถูกทำลายในไม่กี่วินาที จินมู่แววตาเย็นชาและมองตรงไปยังที่ห่างไกล เขาเห็นสองคนฝ่าเมฆเข้ามาพร้อมกับอาวุธหน้าตาประหลาดในมือ อาวุธนี้กำลังจะปล่อยเพลิงอันน่ากลัวออกมาอีก!
  “กล้าดียังไงที่กลับมา!”
  จินมู่มองอาวุธนั้นด้วยความหวาดกลัว
  “หน้าไม้สวรรค์สร้างอาวุธเจ้าช่างน่าประทับใจนัก!”
  อาวุธในมือกงซุนหวูซื่อนั้นมีชื่อว่าหน้าไม้สวรรค์สร้าง
  “ฮื่มกล้าดียังไงมาทำร้ายคู่หมั้นของพี่หยูเซี่ยน! ข้าจะเผาเจ้าทั้งเป็น”
  กงซุนหวูซื่อเหนี่ยวไกหลายครั้ง
  จินมู่หน้าดำมืด
  “ทุกคนถอย!”
  เหล่าร่างปลอมที่ได้รับคำสั่งถอยกลับแต่ก่อนจะได้ถอยหลบ ดวงตาของปิงหวูชิงก็เปล่งแสงอันเยือกเย็น
  “เพลงกระบี่หิมะขาว!”
  ร่างปลอมทั้งหมดได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งที่มิอาจขยับเขยื้อนกระบวนท่านี้ไม่ได้กำจัดพวกมัน แต่มันจะทำให้พวกมันถูกทำลายได้!
  ตู้ม!
  เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวหลายครั้งมหาเพลิงอันรุนแรงเผาไม้ร่างปลอมทั้งหมดในคราเดียว พวกเขามองเห็นร่างปลอมที่ดิ้นรนในกองเพลิงแต่พวกมันหนีออกมาไม่ได้ พวกมันถูกเผาและหลอมละลายกลายเป็นความว่างเปล่า สุดท้ายก็เหลือแค่กองของเหลวและโลหิตสิบหยด
  “เย้!พวกมันตายแล้ว!”
  กงซุนหวูซื่อหัวเราะคิกคัก
  รองเจ้าดินแดนเสี่ยวชักสีหน้าความสะพรึงกลัวเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาจะรับมือกับปิงหวูชิงได้อย่างไรหากไร้ซึ่งร่างปลอม?
  แล้วตอนนี้เขายังต้องเผชิญหน้ากับหน้าไม้สวรรค์สร้างอีก!
  จินมู่ใบหน้ามืดหม่นแววตามีเพียงจิตสังหาร คำพูดที่เปล่งออกมาทั้งเย็นชาและแหบพร่า
  “เจ้าทำลายร่างปลอมที่ข้าพยายามสะสมมานาน!พวกเจ้าคิดจะชดใช้ข้ายังไง?”
  “ถ้าเจ้าตายพวกข้าก็ไม่ต้องชดใช้ไม่ใช่หรือ?”
  ปิงหวูชิงถามกระบี่แล่นไปมาที่ด้านหลัง กระบี่เล่มแรกพุ่งออกไปกลายเป็นหิมะเต็มฟ้าปกคลุมจินมู่ ร่างของจินมู่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว แต่ปิงหวูชิงยังไม่สบายใจ นางจ้องมองรูปปั้นน้ำแข็งนั้น
  “วิชากระจอก!”
  จินมู่ยังคงพูดไดแม้จะเป็นรูปปั้นน้ำแข็งน้ำแข็งกระจายออกจากร่างเมื่อเขาสะบัดตัว เผยให้เห็นร่างไร้รอยขีดข่วน
  “ระวัง!มันมีบางอย่างแปลก ๆ! กระบี่สวรรค์อหังการ!”
  ปิงหวูชิงตะโกนกระบี่ที่สองพุ่งอย่างรวดเร็วไปทางจินมู่
  จินมู่ไม่คิดหลบเขาหลับตาช้า ๆ เมื่อลืมตาอีกครั้งก็พบบรรยากาศแห่งการฆ่าฟันรอยกาย สีหน้าท่าทางของเขาเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ มันดูลึกล้ำ หนักแน่น และดุร้ายน่าขนลุกยิ่งกว่า
  “เจ้าพวกแมลงต่ำต้อยพวกเจ้าทำให้ข้าต้องใช้ร่างต้นลงมือ!”
  ดวงตาของจินมู่ส่องแสงสีครามสายลมอันน่าสะพรึงปะทุออกมาจากภายใน
  ซือหยูใจเต้นแรงเขามองเข้าไปด้วยเนตรวิญญาณ
  “ระวัง!กลไลในร่างมันทำงานแล้ว!”
  ซือหยูไม่ได้พบสิ่งนี้ในการมองครั้งที่แล้วตอนนี้เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างในพื้นที่เล็ก ๆ ของร่างจินมู่ พื้นที่นี้ถูกปิดบังอยู่เสมอจนเนตรวิญญาณมองไม่เห็น เขาเพิ่งจะมองเห็นเมื่อมันทำงาน
  แผ่นหินก่อตัวขึ้นมาช้าๆ มีแก้วสองชิ้นฝังอยู่ที่กลางแผ่นหิน ซือหยูตกตะลึงเมื่อเห็นแก้ว
  “แก้วพลังระดับสูง!”
  แก้วทั้งสองดวงคือแก้วระดับสูงที่หายากมากแม้แต่ตำหนักโลหิตยังมีในครอบครองแค่สามดวง
  แก้วดวงหนึ่งสีสันหม่นไปพลังบริสุทธิ์มากกว่าครึ่งถูกใช้ไปแล้ว ส่วนแก้วอีกดวงยังสดใสเพราะไม่เคยใช้มาก่อน ตอนนี้แก้วดวงแรกกำลังถูกดูดพลังในระดับที่รวดเร็วขึ้น มันถูกแผ่นหินดูดพลังบริสุทธิ์เข้าไป พลังของจินมู่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  เป็นเวลาเดียวกับที่กระบวนท่าของปิงหวูชิงซัดมาถึง
  แกร๊ง!
  เมื่อกระบี่ที่เฉือนได้แม้กระทั่งผิวของจ้าวเทวะระดับเก้าได้ปะทะกับผิวของจินมู่กระบี่นั้นราวกับได้ซัดใส่อสูรเนรมิตร ไม่เพียงแต่มันจะฟันไม่เข้า แต่มันยังถูกสะท้อนกลับมาด้านหลังอีกครั้ง มันกลับมาหาปิงหวูชิง
  “ร่างมันแข็งขึ้น!ไม่สิ ร่างกายมันแข็งแกร่งขึ้น มันไม่ต่างจากจ้าวเทวะขั้นสูงสุด”
  สัญชาตญาณบอกนางว่าร่างของศัตรูแข็งแกร่งขึ้นมาก
  กงซุนหวูซื่อถอนหายใจแรง
  “ข้าจัดการเอง!”
  นางยกหน้าไม้สวรรค์สร้างขึ้นมายิงในพริบตาเดียว แสงสีทองพุ่งเข้าใส่จินมู่ราวกับลำแสงและระเบิดเสียงดังลั่น เพลิงร้อนระอุแผ่กระจาย แม้แต่มิติยังสั่นสะเทือน ถึงอย่างนั้น ร่างในกองเพลิงก็นิ่งไม่ไหวติงและไม่เป็นอันตราย
  “ฮ่าๆๆๆกายาวิญญาณโบราณสองคนกับหน้าไม้สวรรค์สร้าง”
  เสียงของจินมู่ราวกับอสูรในเพลิงมันชั่วร้ายมาก
  “วันนี้พวกเจ้าทุกคนอย่าคิดว่าจะหนีไปได้!”
  ฟึ่บ!
  เงาร่างในกองเพลิงหายไป
  ปิงหวูชิงตะโกน
  “ไม่นะพวกเจ้า ระวัง!”
  พอนางพูดจบเงาทมิฬได้ก่อตัวที่ด้านหลังนางอย่างกับผี กว่าปิงหวูชิงจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว หมัดดำสนิทกำลังซัดใส่ด้านหลังศีรษะของนางด้วยพลังอันน่ากลัว พลังนี้มากพอที่จะระเบิดหัวของปิงหวูชิงให้เป็นเสี่ยง ๆ
  กระบี่ทั้งสองที่ด้านหลังปิงหวูชิงสั่นสะเทือนไม่หยุดพวกมันออกจากฝักในตอนที่หมัดซัดเข้ามาเพื่อป้องกันกะโหลก
  แกร๊ง!
  กระบี่ทั้งสองกระเด็นกลับพลังจำนวนมากของหมัดยังคงอยู่ ปิงหวูชิงโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อเบี่ยงจุดตาย หมัดจึงได้ซัดใส่แผ่นหลังของนางแทน
  อ๊าาาา! ไอลีนโนเวล
  ปิงหวูชิงบาดเจ็บสาหัสจากหมัดนั้นในปากเต็มไปด้วยโลหิต นางกลิ้งไปข้างหน้าหลายตลบ
  ซือหยูหน้าแข็งกร้าว
  “หวูซื่อเจ้ารออยู่นี่!”
  เขาพุ่งไปรับร่างที่บาดเจ็บรุนแรงของปิงหวูชิงและรับร่างนางไม่ให้กระแทกกับพื้น
  “ทิ้งข้าซะรีบหนีไปกับหวูซื่อแล้วกลับไปหากำลังเสริมจากสำนัก…”
  ปิงหวูชิงพยายามดิ้นให้หลุดจากแขนซือหยู
  ซือหยูไม่ตอบเขาจ้องมองจินมู่อยู่ตลอดเวลา เขากำลังอัดพลังชีวิตให้ปิงหวูชิงด้วยมือหนึ่งข้างเพื่อช่วยนางฟื้นฟูตัว เขาพูด
  “เจ้าบาดเจ็บที่เหลือให้ข้าจัดการเอง เจ้าไปอยู่กับหวูซื่อซะ”
  เขาพยุงนางขึ้นและผลักนางไปด้านหลังเบาๆ เขาจ้องจินมู่ไม่ว่างตา
  จินมู่หยุดและแสยะยิ้ม
  “แม้แต่วีรบุรุษก็มีจุดอ่อนในเสน่ห์หญิงงามเจ้าควรจะหนีไป แต่กลับมาตายซะได้ ไอ้โง่เอ้ย!”
  ซือหยูสุขุมเยือกเย็น
  “ถ้าข้าเป็นเจ้าข้าคงจะคิดอีกอย่าง ข้าคงจะคิดว่าข้าจะหนีรอดจากที่นี่ได้หรือไม่!”
  “ฮ่าๆๆๆช่างพูดได้ไม่อายฟ้าดิน! ถ้าหากม่อเทียนฉวนไม่มาเอง ข้าจะเอาแก่นโลหิตของเจ้าไป!”
  จินมู่พูด
  ฟึ่บ!
  ความเร็วของจินมู่เหนือกว่าจ้าวเทวะเข้าไปแล้วมันเทียบได้กับการก้าวพริบตาของอสูรเนรมิตร
  ซือหยูมองจินมู่ด้วยตาเปล่าไม่ได้จินมู่ก้าวพริบตามาที่ด้านหลังซือหยูและซัดไปที่กะโหลกแบบเดียวกับปิงหวูชิง มันคือท่าถึงตายที่ตาเปล่ามองไม่ทัน แต่เนตรวิญญาณของซือหยูนั้นตอบสนองได้ดี มันรู้ว่าจินมู่จะก้าวพริบตาเข้ามา ร่างของซือหยูเกิดคลื่นห้าชีพจรในทันที ไม้หกทิศปรากฏที่ด้านหลังกะโหลก มันสามารถป้องกันได้ทันเวลา
  ปั้ง!
  ไม้หกทิศกระเด็นออกไปเกิดรอยแตกที่มันด้วย ซือหยูเจ็บใจมาก มันคือสมบัติที่เขาได้มาจากกระโจมเทพสวรรค์ น่าเสียดายที่มันถูกทำลายไปแบบนี้
  หมัดของจินมู่ดุดันรุนแรงเมื่อปะทะกับคลื่นห้าชีพจร มันได้เจอกับพลังกีดขวางหนาแน่น แต่คลื่นห้าชีพจรป้องกันพลังของจ้าวเทวะระดับหกได้เท่านั้น หมัดของจินมู่นี้เกินขอบเขตจ้าวเทวะไปแล้ว คลื่นห้าชีพจรจึงแตกสลายไป ซือหยูกำลังจะตาย เขาสิ้นหวังและต้านทานไม่อยู่อีกแล้ว
  กงซุนหวูซื่อกับปิงหวูชิงตัวแข็งทื่อพวกนางจู่โจมใส่จินมู่พร้อมกัน แต่จินมู่ก็ไม่เหลือบมองพวกนางแม้สักครั้ง เขากลับยิ้มเย็นชาและเล็งกะโหลกซือหยู
  ในตอนนั้นเองกาลเวลาได้ตอบสนองต่อซือหยู แสงสีม่วงพุ่งออกจากตาซ้ายเมื่อเขาตะโกนร้อง
  “เร่งเวลา!”
  เวลารอบกายซือหยูเร็วขึ้นหลายเท่าหมัดของจินมู่ที่รวดเร็วปานสายฟ้าช้าดั่งหอยทากในสายตาเขา เขาคิดว่าปิงหวูชิงกับกงซุนหวูซื่อที่อยู่ไกลจะไม่รู้เรื่องพลังเวลา เพราะพลังนี้จะอยู่ได้แค่สามลมหายใจ ด้วยระยะเวลาอันสั้น เขามีโอกาสเดียวเท่านั้นในการสังหารจินมู่
  เขามองแผ่นหินในร่างจินมู่เขาขยับนิ้วไปมา เส้นไหมสยายในอากาศเฉือนท้องจินมู่เข้าไปในร่าง ถ้าหากเขาไม่ทำลายแผ่นหิน จินมู่ก็อาจจะไม่ตาย จินมู่น่าจะเหมือนกับร่างปลอมที่เกือบเป็นอมตะ
  เส้นไหมทะลวงเข้าร่างจินมู่ในทันทีพวกมันกำลังจะผ่าแผ่นหินเป็นสองส่วน แต่แผ่นหินนั้นสัมผัสได้ แก้วระดับสูงพุ่งออกจากแผ่นหินเข้าเผชิญหน้ากับเส้นไหมแทน
  เพล้ง!
  เสียงแสบแก้วหูของแก้วระดับสูงที่แตกดังขึ้นแต่แก้วระดับสูงนี้แข็งมาก มันต้องใช้เวลานานกว่าจะถูกตัดขาดได้ แผ่นหินได้มุ่งหน้าไปยังความว่างเปล่าและกำลังจะหนีไป
  “ฮื่ม!”
  ซือหยูถอนหายใจแรงเส้นไหมพุ่งเข้าใส่แผ่นหินทันที โลหิตพุ่งออกมาจากแผ่นหินนั้นราวกับว่ามันมีชีวิต เมื่อเห็นว่ามันถูกทำลายได้ แผ่นหินได้สั่นอย่างรุนแรง พลังโลหิตปะทุออกมา พลังนี้เหนือกว่าอสูรเนรมิตร มันเป็นพลังของเซียนเข้าไปแล้ว เส้นไหมสยายออก
  พลังเซียนพุ่งออกจากร่างจินมู่มาพร้อมกับเส้นไหมและพุ่งตรงใส่ซือหยูเมฆาครึ้มม้วนในสวรรค์ ทั้งโลกสั่นสะเทือนเมื่อพบกับพลังนี้ แม้แต่ตำหนักในที่อยู่ห่างออกไปก็สัมผัสพลังอันน่ากลัวนี้ได้
  ซือหยูเป็นเพียงแมงเม่าหากจะเทียบกับแรงกดดันมหาศาลเท่าภูเขานี้ความรู้สึกว่าไม่มีที่หลบภัยและกำลังจะตายทำให้เขาใจเต้นแรง กล้ามเนื้อกระตุกไปมา ซือหยูกัดลิ้นพยายามจะรักษาความเยือกเย็นเอาไว้