DND.
“หยุดเวลา!”
ซือหยูไม่มีทางเลือกนอกจากเปิดเผยพลังพิเศษของเขามากกว่าเดิมมังกรม่วงบินออกจากตาซ้ายเข้าปกคลุมพื้นที่ข้างหน้าสู่สภาวะหยุดเวลา พลังวิญญาณของโลกและปุยเมฆเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่งราวกับว่าถูกเคลื่อนย้ายไปในมิติเวลาอื่น
จินมู่หยุดนิ่งเช่นกันเขาค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น แต่ท่ามกลางเวลาที่หยุดนิ่ง มีพลังหนึ่งที่ไม่ได้รับผล พลังของเซียนนั้นเพียงแค่ช้าลงเล็กน้อย มันไม่ได้ติดอยู่ในการหยุดเวลา
สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในตอนที่ร่างเงาของราชาเขตกลางปรากฏตัวในครั้งแรกความเข้าใจในสัจธรรมแห่งเวลาของซือหยูยังไม่มากพอ เขาจึงทำอะไรกับพลังเซียนไม่ได้ แต่โชคดีที่พลังเซียนครั้งนี้อ่อนแอมาก เมื่อลดความเร็วลง ซือหยูจึงมีเวลาหลบได้ทัน
ปีกเพลิงโบกสะบัดเขาเรียกลูกแก้วห้าลูกออกมาขว้างขึ้นฟ้า พวกมันรายล้อมจินมู่เอาไว้
ฟ้าว!
พลังเซียนแล่นผ่านซือหยูไปพักศอกมันพุ่งตรงไปยังท้องฟ้า ไม่ว่าพลังเซียนจะผ่านไปทางใด ฟ้าดินจะถูกระเบิดจนแตกดับ รอยแยกมิติทอดยาวไปถึงท้องนภาที่มีดวงดารารายล้อม พลังทะลวงดวงตะวันจันทราและจักรวาล มันทะลุน่านฟ้าทวีปจิวโจวสั่นคลอนทั้งโ,ก
ตำหนักโลหิตจมลงสู่ความวุ่นวายศิษย์นอกศิษย์ในต่างหยุดนิ่งด้วยความตกใจ
ส่วนซือหยูแม้พลังนี้จะห่างจากเขาพันศอก เขารู้สึกราวกับว่าเรือรบได้แล่นผ่านเฉียดไหล่ไป พลังนี้ผลักซือหยูไปไกลกว่าพันลี้ ทั้งร่างเจ็บปวดอย่างรุนแรง ในลำคอเต็มไปด้วยความหอมหวานของกลิ่นเลือด เสื้อผ้าฉีกขาด หัวใจเต้นแรงเมื่อสัมผัสพลังทำลายล้างที่ยังหลงเหลืออยู่ได้!
เขาจ้องมองจินมู่และคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดแผ่นหินนั่นมันอะไรกัน ทำไมมันถึงมีพลังเซียนอยู่ด้วย? ซือหยูจะต้องไม่ปล่อยให้แผ่นหินได้แสดงพลังสูงสุดออกมา มิเช่นนั้น ถ้าหากมันใช้พลังเซียนอีก จะไม่มีใครป้องกันมันได้แล้ว
“ค่ายกลคลื่นดาวตก!”
ซือหยูตะโกนและบินไปทางจินมู่ตอนนี้เวลายังคงหยุดนิ่งอยู่ ลูกแก้วทั้งห้าหมุนวนอย่างรวดเร็วโดยมีจินมู่อยู่ตรงกลาง ความเร็วของลูกแก้วนั้นมากจนเกิดพายุในอากาศ มันดูดกลืนสิ่งรอบข้างเข้าไป
จินมู่ที่อยู่ท่ามกลางพายุเพิ่งจะหลุดพ้นจากการหยุดเวลาในใจนั้นตกตะลึง
“นั่นมันพลังวิเศษอะไร?”
เขาไม่รู้เลยว่าซือหยูเพิ่งจะใช้อะไรมาร่างกายของเขาเคลื่อนไหวไม่ได้ราวกับมีพลังสูงสุดกดเอาไว้ เหลือเพียงแค่จิตใจที่ยังคิดอ่านได้ จินมู่คิดว่าตัวเองมีความรู้เรื่องกายาวิญญาณมามากแล้ว เขาเข้าใจพลังวิเศษหลายชนิดอย่างถ่องแท้ แต่เขาก็มิอาจบ่งบอกพลังวิเศษที่ซือหยูเพิ่งจะใช้ออกมาได้ ไอลีนโนเวล
ซือหยูไม่ตอบเขาหลับตาช้า ๆ และเริ่มขยับมือใช้ค่ายกลคลื่นดาวตก
“หึจงลิ้มรสสิ่งที่เจ้าให้ข้ามาซะ!”
จินมู่ถูกแรงกดดันมหาศาลโอบล้อมไว้ถึงร่างกายจะขยับได้แล้ว มันก็ยากที่เขาจะใช้แรงขยับภายใต้แรงกดดันนี้
“ฮื่ม!พลังค่ายกลคลื่นดาวตกขึ้นอยู่กับลูกแก้วในค่ายกล ถ้าเจ้าไม่มีสมบัติกึ่งภูติ มันก็ทำอะไรข้าไม่ได้!”
จินมู่แสยะยิ้มเขาฝืนก้าวมาข้างหน้าและจ้องซือหยูไม่วางตา เขาเหมือนกับสัตว์ร้ายในกรงที่กำลังจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ จิตสังหารในดวงตาสดใสบริสุทธิ์
“เจ้าแน่ใจเรอะ?”
ซือหยูกดฝ่ามือลูกแก้วทั้งห้าบีบตัวแคบขึ้น มันลดขนาดพื้นที่าจากพันศอกไปเหลือแค่สามสิกศอก พลังในการดูดกลืนเพิ่มขึ้นหลายเท่า ทั้งร่างของจินมู่ถูกแรงกดดันกดเอาไว้จนขยับไม่ได้อีกครั้ง แค่จะพูดก็เป็นเรื่องยากในเวลบานี้
“ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะไปได้สักกี่น้ำและ..แล้ว..เจ้า..จะทำ…อะไร…ข้าได้…”
ปั้ง!
ลูกแก้วทั้งห้าหมุนวงแคบลงลูกแรกซัดร่างจินมู่ แต่มันก็เหมือนกับไข่ไก่ที่ปะทะกับก้อนหิน มันกลายเป็นฝุ่นผง ไม่นานลูกแก้วที่สองก็ปะทะไปด้วย มันแตกสลายเช่นกัน เช่นเดียวกับลูกที่สามและสี่ สมบัติกึ่งภูติเหล่านี้แทบจะทำอะไรไม่ได้เมื่อเจอกับร่างกายแข็งแกร่งของจินมู่
และสุดท้ายเหลือมุกอยู่หนึ่งเม็ดเท่านั้น มันไม่มีคลื่นอากาศกดดันในตัวเอง ดังนั้นมันจึงขวางจินมู่ไม่ได้ จินมู่ที่กลับมาเคลื่อนไหวได้แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอะไรเจ้าดีล่ะ?”
ปั้ง!
ตอนนั้นเองมุกเม็ดสุดท้ายซัดใส่ จินมู่พยายามหลบแต่แรงกดดันยังคงอยู่ เขาจึงหลบได้ไม่พ้นเสียทีเดียว จินมู่ยกมือซัดฝ่ามือไปโดยไม่มอง แต่เมื่อฝ่ามือได้สัมผัสกับมุก จินมู่ตัวแข็งทื่อ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดไป พลังมหาศาลที่สามารถขยับเทือกเขาและพลิกมหาสมุทรได้ทะลวงแขนของเขา แขนทั้งข้างแตกสลาย โลหิตพวยพุ่งออกมาเป็นน้ำหลาก ใบหน้าสะพรึงกลัวขึ้นมา
จินมู่หันไปมองและพบว่ามุกเม็ดนี้แตกต่างจากลูกแก้วสี่ลูกก่อนหน้าและตัวเขาไม่สามารถบอกระดับของมันได้มันซัดร่างงเขาด้วยพลังอันไร้เทียมทาน
ปั้ง!
เสียงโลหิตรินพร้อมกับเสียงกระดูกแตกลั่นดังทั่วร่างจินมู่
ร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นจนเหนือกว่าจา้วเทวะนั้นกลายเป็นแค่เศษกระดาษเพราะมุกเม็ดนี้ร่างกายเขาแตกไปทั้งตัว
ไม่นานร่างกายของเขาก็ถูกอัดจนแบนราบ
ตู้ม!
เสียงระเบิดดังลั่นจินมู่ถูกอัดลงกับพื้น พลังมหาศาลของมุกบาดาลจมลงกับพื้นจนพื้นในระยะพันลี้สั่นสะเทือน ต้นไม้ใหญ่ยักษ์และก้อนหินลอยขึ้นฟ้า ภาพอันตระการตาทำให้ปิงหวูชิงกับกงซุนหวูซื่อที่มองดูอยู่ด้านข้างอ้าปากค้าง
ปิงหวูชิงมองมุกบาดาลและคิดถึงมันมุกเม็ดนี้ มันช่างคุ้นเคยราวกับว่าเคยเห็นหรือเคยได้ยินมาก่อน!
“อ๊ะ!พี่หวูชิง ระวัง มีคนกำลังลอบโจมตี!”
จู่ๆ ปิงวหวูชิงก็ได้ยินเสียงร้องของกงซุนหวูซื่อ แต่ก่อนที่นางจะได้ขยับตัว นางก็ถูกซัดที่หลังกะโหลก มุมมองตรงหน้ามืดมิดในทันที นางล้มลงไปกองกับพื้นเพราะบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ข้างกายนางไม่มีใครอื่นนอกจากกงซุนหวูซื่อ
“หึหึขอโทษด้วยพี่หวูชิง แต่ข้าให้พี่รู้ความลับของพี่ซือหยูไม่ได้หรอก…”
กงซุนหวูซื่อพูดด้วยรอยยิ้มและพยุงปิงหวูชิงขึ้นมา
เมื่อฝุ่นควันสลายหายไปหลุมขนาดมหึมาเกิดขึ้นบนพื้น หลุมนี้กวางหลายลี้ ด้านในหลุมเต็มไปด้วยลาวาร้อน ในความร้อนมีร่างไม้ที่แตกสลายมิอาจขยับ เขาคือจินมู่ที่ครึ่งร่างถูกมุกบาดาลบดขยี้ อีกครึ่งร่างเปิดเผย รอยแตกเกิดขึ้นนทั้งตัว
“ไอ้หนูนั่น…นั่นมันสมบัติของจักรพรรดิภูติผี มุกบาดาล…ทำไม…ทำไมมันถึงมาอยู่ในมือเจ้า…”
จินมู่อ้าปากพูดด้วยความเจ็บปวดไม่ใช่แค่ร่างกายที่ถูกกดทับ แต่แผ่นหินในร่างก็ถูกกดทับเช่นกัน มันแบนราบและทำงานไม่ได้
ซือหยูยืนอยู่เหนือมุกบาดาลเขาตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อว่ามีผู้ที่รู้จักมุกบาดาลอยู่ด้วย