บทที่ 2252+2253

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2252 ของขวัญที่ส่งมอบไปแล้วยังคิดจะเก็บคืนอีกหรือ?

ห้องนี้ที่พวกเขาอยู่คือห้องรับรองบนชั้นสองของร้านอาหาร เงียบสงบงดงาม เป็นทำเลที่ทำให้คนร่มรื่นใจยิ่ง

เดิมทีร้านอาหารนี้มีลูกค้าเต็มแล้ว แต่หลังจากพวกเขามาถึง จู่ๆ ลูกค้าสองสามคนที่จองห้องรับรองนี้เอาไว้ก็มีธุระด่วนต้องจากไป พวกกู้ซีจิ่วทั้งสองจึงได้มาอย่างง่ายดาย

จู่ๆ ด้านล่างก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย กู้ซีจิ่วกำลังเบื่อหน่ายอยู่พอดี จึงเดินไปดูที่หน้าต่าง หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมา!

เดิมทีด้านล่างเป็นงานเลี้ยงฉลองครบขวบของคุณชายน้อยตระกูลขุนนางคนหนึ่ง ตระกูลนี้คงอยากจะแสดงบารมี จึงจัดเลี้ยงวันเกิดในร้านอาหารที่หรูหราที่สุดในเมืองนี้ เหมาชั้นหนึ่งทั้งชั้น

ยามนี้ด้านล่างอยู่ในช่วงมอบของขวัญ แขกเหรื่อมากมาย พากันเข้ามามอบของขวัญให้หนูน้อย

เด็กน้อยคนนั้นถูกมารดาของเขาอุ้มไว้ มีตาโตสองชั้น เกิดมาน่ารักน่าเอ็นดู เมื่อถูกคนหยอกก็หัวเราะร่า ทำให้คนชมชอบยิ่งนัก

กู้ซีจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะมองเด็กน้อยคนนั้นสองสามครา

ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นเพราะอะไร เธอรู้สึกอยู่ตลอดว่าฉากนี้ค่อนข้างคุ้นตา…

“ข้าก็จะมอบของขวัญให้บุตรชายท่านชิ้นหนึ่ง”

มีน้ำเสียงอ่อนหวานของสตรีแว่วออกมาจากห้องรับรองส่วนตัวห้องหนึ่งบนชั้นสอง เมื่อเสียงแว่วขึ้น สายตาของทุกคนพลันพร่าเลือน สตรีชุดขาวนางหนึ่งร่อนลงมา

สตรีนางนี้เกศาขาวอาภรณ์ขาว เรือนผมยาวแทบจะกรอมข้อเท้า ใช้ที่เสียบผลหยกนิลเพียงด้ามเดียวเกล้าเอาไว้หลวมๆ รูปแบบของอาภรณ์ขาวดูไม่ซับซ้อน แต่เข้ากับเรือนร่างยิ่ง ปักลวดลายเมฆาเคลื่อนคล้อยเอาไว้ ขยับไหวเบาๆ ตามการเยื้องย่างของนาง

นางสวมหน้ากากทรงผีเสื้อไว้บนดวงหน้า เผยให้เห็นเพียงนัยน์ตาดำขลับดั่งหยกนิลและริมฝีปากที่ค่อนข้างซีดจาง

ในร้านอาหารมีแขกเหรื่ออยู่มากมาย แขกที่เป็นสตรีก็มีอยู่ไม่น้อย แต่กลับไม่มีผู้ใดเลยที่มีสง่าราศีเยี่ยงนาง!

กายหยกกระดูกน้ำแข็ง ผุดผ่องไร้กลิ่นเหงื่อ

นางยืนสง่าอยู่ตรงนั้น อาภรณ์ขาวพิสุทธ์พลิ้วไหว ขับให้ร่างของนางเสมือนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก

ถึงแม้จะสวมหน้ากากไว้ ทำให้คนมองไม่เห็นว่าหน้าตาของนางเป็นอย่างไร แต่ราศีอันสูงส่งเลิศล้ำเช่นนี้เพียงพอจะทำให้คนใจสั่นได้แล้ว!

สายตาของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนร่อนลงบนร่างนาง แววตาเต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้

แม้แต่ผู้เป็นเจ้าบ้านก็สนใจใคร่รู้เช่นกัน คล้ายว่าจะไม่รู้จักกับนาง บิดาของเด็กน้อยก้าวเข้ามา

“แม่นาง ท่านคือ?”

สตรีนางนั้นยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง พลันตวัดข้อมือ กลางฝ่ามือมีกุญแจหยกอายุยืน[1]ที่น่ารักกระจุ่มกระจิ๋มดอกหนึ่งอยู่ เนื้อหยกอ่อนละมุน มีประกายแสงวาววาม ยื่นให้พลางเอ่ยว่า

“ข้าถูกชะตากับบุตรชายท่านตั้งแต่แรกพบ จึงขอมอบของขวัญเล็กน้อยนี้เพื่อร่วมอวยพร”

น้ำเสียงของสตรีนางนี้เจือความแหบพร่านิดๆ ทว่าไม่ระคายหูเลย สุ้มเสียงก็อ่อนโยน ทำให้คนไม่รู้สึกต่อต้าน

เจ้าบ้านชายผู้นั้นมองดูมืองามขาวผ่องที่ปานจะคั้นน้ำออกมาได้ของนาง ใจสั่นแวบหนึ่ง เอ่ยขอบคุณ

“ขอบคุณแม่นางยิ่งนัก”

ยื่นมือไปหยิบกุญแจหยกดอกนั้นจากฝ่ามือของสตรีนางนั้น และไม่ทราบว่าบังเอิญหรือเจตนา นิ้วมือเขาไล้ผ่านฝ่ามือสตรีนางนั้นเล็กน้อย

ฝ่ามือของสตรีนางนั้นพลันแข็งทื่อไป ทว่ามิได้ชักกลับ เพียงแต่ดวงตาฉายแววลุ่มลึกแวบหนึ่ง

ชายคนนั้นถือกุญแจอายุยืนดอกนั้นไป พลางมอบให้ภรรยาที่อยู่ด้านหลัง

ขณะที่ภรรยาของเขากำลังจะเอาไปเก็บ สตรีนางนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า

“ฮูหยินนำกุญแจกดอกนี้มาสวมให้คุณชายน้อยเถิด ดูว่าเหมาะสมหรือไม่ กุญแจดอกนี้มีไว้สำหรับผู้ที่ชะตาต้องกัน หากว่าไม่เหมาะสม ก็คงต้องขอกุญแจดอกนี้คืน”

ของขวัญที่ส่งมอบไปแล้วยังคิดจะเก็บคืนอีกหรือ?

เหล่าแขกเหรื่อมองหน้ากันเหลอหลา กู้ซีจิ่วที่มองดูอยู่ชั้นบน ก็รู้สึกคล้ายถูกสิ่งใดกระแทกลงบนหัวใจอย่างจัง!

เหตุการณ์เช่นนี้สถานการณ์เช่นนี้ช่างคุ้นตาอย่างยิ่ง!

ราวกับเคยประสบพบพานเมื่อนานมาแล้ว…

เธอยืนอยู่ตรงนั้น สติพลันเลื่อนลอย เบื้องหน้าคล้ายปรากฏฉากหนึ่งขึ้นมา

เป็นงานเลี้ยงวันเกิดเช่นกัน คนชุดดำผู้หนึ่งร่อนลงมาจากฟ้า ยื่นกล่องใบหนึ่งให้เด็กน้อยที่อายุราวห้าขวบคนหนึ่ง

“ถ้าสิ่งนี้มีวาสนากับเจ้า ก็จะมอบให้เป็นของขวัญวันเกิด…”

————————————————————————————-

บทที่ 2253 ปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม!

“ข้าไม่อยากได้ของขวัญจากเจ้า!”

เด็กน้อยคนนั้นงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ ดวงหน้าน้อยๆเปี่ยมด้วยความผยอง

“ของขวัญชิ้นนี้ก็มอบให้เพียงผู้ที่มีวาสนาเท่านั้น ในเมื่อเจ้าไม่เอาเช่นนั้นก็แล้วไปเถิด”

“เดี๋ยวก่อน ในเมื่อเจ้ามอบให้แล้ว คุณชายอย่างข้าดูสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร”

“ถ้าเจ้าเปิดกล่องได้ ของขวัญข้างในถึงจะเป็นของเจ้า ถ้าเจ้าเปิดไม่ได้ก็แล้วไปเถอะ”

….

“ซีจิ่ว เป็นอะไร?”

อวิ๋นเยียนหลีก้าวเข้ามา

กู้ซีจิ่วถูกเขาขัดจังหวะ ฉากที่แวบขึ้นเบื้องหน้าอย่างน่าประหลาดจึงเลือนหายไป แต่เธอกลับมองเห็นเด็กน้อยในฉากนั้นคนแจ่มแจ้งชัดเจน และมองเห็นของขวัญที่อยู่ในกล่องด้วย เป็นกำไลมังกรแก้ว! กำไลมังกรแก้วบนข้อมือตี้ฝูอี!

หัวใจเธอเต้นรัวอยู่พักหนึ่ง ลอบคาดเดา ฉากนี้น่าจะเป็นความทรงจำในอดีตของตนกระมัง?!

คนชุดดำที่มอบของขวัญให้ผู้นั้นคงเป็นตน เด็กน้อยคนนั้นก็คือตี้ฝูอีในวัยเยาว์…

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะทราบเรื่องที่ตนมอบของขวัญวันเกิดให้ตี้ฝูอีจากปากอวิ๋นเยียนหลีแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงความเข้าใจในเชิงนามธรรม มิใช่ปรากฏภาพเหตุการณ์เสมือนจริงขึ้นเช่นในยามนี้…

ตี้ฝูอีดูน่ารักเหลือเกิน…

เธอยกมือนวดหว่างคิ้ว ทราบชัดเจนว่าตอนตนอยู่ที่ดินแดนเบื้องบน ไม่มีทางหลงรักเด็กน้อยคนหนึ่งเด็ดขาด เธอไม่ได้เลวทรามขนาดนั้นนะ!

ตอนนั้นเธอแค่ชมชอบเขากระมัง?

เคยเห็นเขาในช่วงวัยที่น่ารักน่าเอ็นดูที่สุด แล้วจะเกิดความรักเชิงชู้สาวอย่างจริงจังเช่นนั้นกับเขาได้อย่างไร?

ต่อให้ภายหลังจะได้เห็นเขาในวัยผู้ใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรในใจก็มีภาพจำในอดีตอยู่ก่อนแล้ว ต่อให้ในใจเธอไม่มีหวงถูอยู่ ก็ก้าวข้ามอุปสรรคในใจตนไปไม่ได้อยู่ดี

โคแก่กินหญ้าอ่อนอาจเหมาะเป็นบทละคร แต่หากว่าหญ้าอ่อนนี้อ่อนเยาว์จนเกินไป โคแก่เล็มแล้วคงรู้สึกผิดบาปยิ่งนัก!

ส่วนที่แดนอสุรานี้ ตอนเธอรู้จักเขา เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แถมยังมีฝีมือปานนั้น ซ้ำยังเป็นคู่หมั้นของเธออีก ในใจเธอจึงไม่ได้มองเขาเป็นเด็กเลย ย่อมตกหลุมรักอย่างง่ายดายยิ่ง ถึงขั้นที่เป็นฝ่ายรุกประเคนตัวให้ก่อนราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไป…

เรื่องนี้อันที่จริงแล้ว…

เป็นการปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม!

ไม่ทราบเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น กู้ซีจิ่วในปัจจุบันนี้ถึงแม้จะได้เห็นตี้ฝูอีในวัยเยาว์แล้ว แต่ในจิตใต้สำนึกได้มองเขาเป็นผู้ใหญ่ไปแล้ว ถึงอย่างไรเธอก็พัวพันเคล้าคลอกันปานเถาวัลย์พันกิ่งอยู่สามวัน ซ้ำยังเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แล้ว…

ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ดูเหมือนเธอจะหลงรักเขาเข้าจริงๆ แล้ว…

แต่ว่า แล้วจะทำอย่างไรกับหวงถูของเธอล่ะ?

เขายังรอให้เธอคืนชีพให้เขาอยู่นะ แต่เธอกลับไปรักคนอื่นแล้ว…

หนึ่งปีมานี้เธอละอายใจในตัวเอง เสียใจในตัวเอง ปล่อยปละละเลยตัวเอง

ตอนนั้นเธอได้ทราบความจริงอย่างกะทันหันจึงพาลโกรธเช่นนั้น แม้ว่าจะโกรธเคืองเขา ทว่าความจริงก็โกรธเคืองตัวเองด้วยกระมัง? โกรธที่ตัวเองผันใจเป็นอื่น…

เธอไม่ยอมให้อภัยเขา ความจริงก็คือไม่ยอมอภัยให้ตัวเองด้วย…

อารมณ์เช่นนั้นย้อนแย้งเกินไป ปานลูกบอลไหมพรมที่เกี่ยวอุ้งเท้าแมวน้อย ทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก

ในเมื่อคิดไม่ออก เธอจึงไม่คิดเสียเลย!

เงาร่างของตี้ฝูอีคล้ายจะแวบขึ้นมาเบื้องหน้า หัวใจเธอหดรัดปานจะขนดเป็นเกลียวแวบหนึ่ง

ตอนนี้การตามหาคนสำคัญกว่า เขาอยู่หรือตายก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเลย!

เขา…ไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะ?

“ซีจิ่ว”

อวิ๋นเยียนหลีไม่ยอมถูกนางเมินใส่อีก จึงเรียกนางอีกครั้ง

“เจ้าเป็นอะไรไป?”

ในที่สุดสติกู้ซีจิ่วก็กลับคืนมา เธอเบี่ยงประเด็นไปเสีย

“ไม่เป็นไร สตรีที่อยู่ด้านล่างงามยิ่งนัก”

อวิ๋นเยียนหลีจึงเหลือบมองด้านล่างแวบหนึ่ง ม่านตาพลันหดตัวเล็กน้อย! เขาก็รู้สึกเช่นกันว่าสตรีผู้นี้ค่อนข้างคุ้นตาอยู่รางๆ คล้ายคนรู้จักคนหนึ่งของเขาอยู่บ้าง แต่คนรู้จักผู้นั้นสิ้นชีพไปนานแล้ว จะมาปรากฏตัวที่นี่อีกได้อย่างไร?

เขามองอย่างละเอียดอีกครั้ง ลอบส่ายหน้า นี่ไม่ใช่นาง

————————————————————————-

[1] กุญแจอายุยืน เป็นเครื่องรางมงคลที่ชาวจีนนิยมมอบให้เด็กเล็กสวมใส่ติดกาย รูปทรงคล้ายแม่กุญแจในสมัยโบราณ สื่อความหมายว่าเป็นการล็อคชะตาเด็กไว้ ให้แข็งแรงอายุมั่นยืนยาว แคล้วคลาดปลอดภัย วัสดุไม่ใช่หยกเสมอไป บ้างก็เป็นไม้มงคล งาช้าง เงิน สัมฤทธิ์ หรือวัสดุอย่างอื่น