เหตุผลที่วิญญาณมนุษย์มากันเป็นจำนวนมากก็เพราะว่าอูจิ่วสัญญาไว้ว่า วิญญาณมนุษย์ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการก่อสร้างหอคอยโยวหลิงจะได้สิทธิในการเข้าฝึกในหอคอยก่อนหลังจากที่การสร้างหอคอยโยวหลิงเสร็จสมบูรณ์
เนื่องจากแรงดึงดูดใจของหอคอยโยวหลิงทำให้วิญญาณมนุษย์จำนวนมากรีบมาสมัคร จำนวนคนนั้นมากมายมหาศาลจนแทบล้นถนนทุกสายที่นำไปสู่หอคอยโยวหลิง
เมื่อพวกจวินอู๋เสียมาถึงด้านนอกหอคอยโยวหลิง พวกเขาไม่ได้รีบไปลงทะเบียนทันที หรงรั่วแอบปล่อยผีเสื้อนรกออกไปค้นหาที่อยู่ของน่าหลานเยว่ ก่อนที่น่าหลานเยว่จะจากไป เขาได้บอกจวินอู๋เสียว่าเขาจะวางเก้าอี้ไม้สามตัวไว้นอกบ้านที่เขาซ่อนตัวอยู่ และหนึ่งในนั้นจะมีแค่สามขา
ไม่นานผีเสื้อนรกก็หาที่นั่นเจอแล้วส่งข้อมูลให้กับหรงรั่ว หลังจากหรงรั่วรู้ทิศทางแล้ว นางก็พาพวกจวินอู๋เสียไปที่นั่นทันที..novel-lucky
มันเป็นกระท่อมเล็กๆที่ไม่เด่นมาก มีลูกไฟวิญญาณสีส้มถูกจุดไว้บนหลังคา
หรงรั่วเดินไปที่หน้าประตูและเคาะเป็นจังหวะซึ่งเป็นรหัสลับที่พวกเขาเคยตกลงเอาไว้กับน่าหลานเยว่
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ประตูก็ค่อยๆแง้มออก หัวขนาดใหญ่ที่มีขนปุกปุยมองลอดช่องว่างเล็กๆออกมาและเห็นพวกจวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงเปิดประตูออกกว้าง ด้านหลังประตูคือเสือชีตาห์ที่กำลังดูแลรักษาบาดแผลของตัวเองอยู่ หลังจากที่ใช้อุ้งเท้าดึงประตูเปิดออกแล้ว มันก็ถอยกลับไปสองสามก้าว
พวกจวินอู๋เสียรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าบ้านในโลกวิญญาณจะดูเล็กเพียงใดจากภายนอก แต่เมื่อเดินเข้ามาข้างในจะมีพื้นที่กว้างขวางอย่างที่คนทั่วไปไม่สามารถจินตนาการได้
ในบ้าน น่าหลานเยว่นั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ เขากำลังพลิกดูหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ จงจงนั่งบนพรมที่อยู่ด้านข้าง ไม่รู้ว่ามันไปเจอลูกบอลที่ทำจากอ้อยจากที่ไหน มันกำลังใช้อุ้งเท้าหนาหนักของมันเล่นกับลูกบอล วิญญาณสัตว์อสูรอีกสามตัวนอกจากเสือชีตาห์กำลังนอนพักอยู่เงียบๆ
เมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามา น่าหลานเยว่ก็เงยหน้าขึ้นทันที สายตาของเขากวาดผ่านหรงรั่วและคนอื่นๆที่คุ้นเคย แล้วในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ร่างของจวินอู๋เสีย
ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจ เขาจำไม่ได้ว่าเคยเจอหญิงสาวคนนี้มาก่อน
“ข้าเอง” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย น่าหลานเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที เขารู้ดีว่าไม่ควรถามจวินอู๋เสียว่านางเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนได้อย่างไร จึงเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า “มานั่งก่อนเร็ว ตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?”
ตั้งแต่วันที่น่าหลานเยว่พาจงจงหนี พวกเขาได้พบกระท่อมเล็กๆแห่งนี้และซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เพื่อไม่ให้เจียงอวิ๋นหลงหาพวกเขาเจอ เขาจึงไม่ได้ก้าวออกจากประตูเลยสักครั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
อย่าว่าแต่น่าหลานเยว่เลย กระทั่งพวกเสือชีตาห์ก็ไม่กล้าออกไปข้างนอกเช่นกัน เนื่องจากเจียงอวิ๋นหลงเคยเห็นหน้าพวกเขาแล้ว
“สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่อูจิ่วกับเจียงอวิ๋นหลงทำเกินไปแล้วจริงๆ พอหาท่านไม่เจอ พวกเขาก็พยายามจับเสี่ยวเสียไปสอบสวน เพราะอย่างนั้นเสี่ยวเสียจึงต้องปลอมตัวอย่างไม่มีทางเลือก เจ้าสองคนนั่นมันน่ารังเกียจชะมัด” เฉียวฉู่ระบายความเกลียดออกมาทันทีแบบไม่มียั้ง
เมื่อได้ยินว่าเจียงอวิ๋นหลงต้องการจับจวินอู๋เสีย ดวงตาของน่าหลานเยว่ก็ฉายแววประหลาดใจ เขามองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ สายตาของเขาดูเหมือนกำลังกล่าวขอโทษ
“ข้าขอโทษ ข้าทำให้เจ้าติดร่างแหไปด้วย”
“ครือออ……” จงจงที่กำลังจดจ่ออยู่กับของเล่นดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เฉียวฉู่กับน่าหลานเยว่พูด มันเขยิบบั้นท้ายกลมๆอันใหญ่โตมาอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย แล้วยกอุ้งเท้าที่มีขนปุกปุยขึ้นวางที่น่องของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียลูบหัวใหญ่โตที่มีขนยาวของจงจง แล้วพูดด้วยเสียงสงบนิ่งว่า “ไม่มีอะไรต้องขอโทษหรอก ต่อให้ไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าก็ต้องปะทะกับพวกเขาไม่ช้าก็เร็ว”