ตอนที่ 571 ได้ผล

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 571

ได้ผล

“เอาเลยเจ้าค่ะท่านป้า”พอได้หลินเฟยเข้ามาช่วยฝึก เหล่าสาวๆก็พากันส่งเสียงให้กำลังใจกันยกใหญ่ ไม่ทราบทำไมบรรยากาศถึงได้ครึกครื้นกว่าเดิมก็ไม่ทราบ

“…….”ส่วนทางด้านหลินเฟยนั้นตัวมันก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเสียเฉยๆ สาวงามกว่านายหญิงลู่ตัวมันก็เจอมาแล้วมากมาย อย่าว่าแต่น้องสาวมัน มารดามันหรือแม้แต่ท่านยายของมันยังงามกว่านายหญิงลู่ตั้งไม่รู้กี่เท่าเลย ตัวมันไม่น่าจะหวั่นไหวกับคนอย่างนางไม่ใช่หรืออย่างไร

“ที่รัก…ท่าน..กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”นายหญิงลู่พยายามพูดตามที่พวกสาวๆสอน แต่ใบหน้าของนางแข็งกระด้าง แต่ที่แข็งกว่านั้นคือเสียงของนางที่เหมือนกำลังอ่านตามตัวอักษรไม่มีผิด

“ฮะๆๆๆ….”หลินเฟยที่กำลังตื่นเต้นเจอน้ำเสียงแข็งทื่อเช่นนั้นเข้าไปกลับหลุดหัวเราะออกมาเสียอย่างนั้นทำเอานายหญิงลู่ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่เพราะความอับอาย

“นี่เจ้าจะหัวเราะไปถึงไหน ไม่ช่วยก็ออกไปเลย”นายหญิงลู่ต่อว่าพลางตีไหล่หลินเฟยเบาๆ ทำเอาหลินเฟยต้องพยายามกลั้นขำเอาไว้

“ก็ท่านเล่นแข็งทื่อเป็นท่อนไม้เลยนี่นา แบบนั้นมีหวังได้ผลตรงกันข้ามแน่ๆ”หลินเฟยหยุดหัวเราะได้เสียทีแต่มุมปากก็ยังยิ้มไม่เลิก ทำเอามันโดนนายหญิงลู่ค้อนใส่ทันที

“เรามาพยายามกันใหม่เถอะเจ้าค่ะท่านป้า”หญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางสอนการเอาอกเอาใจสามีต่ออย่างจริงจังจนกระทั่งเวลาผ่านไปจนเข้าช่วงเย็นนายหญิงลู่ก็ยังทำไม่ได้เสียที

“คุณชาย พวกเรากลับก่อนนะเจ้าคะ”พอเย็นมากแล้วพวกสาวๆก็ต้องรีบกลับบ้านเพราะที่บ้านของพวกนางยังมีครอบครัวคอยเป็นห่วงอยู่ หากกลับดึกเกินไปจะน่าสงสัยได้เพราะหน้าฉากพวกนางยังเป็นสาวงามผู้เรียบร้อยอยู่ยังไงล่ะ

“เฮ้อ ข้านี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ”นายหญิงลู่ถอนหายใจออกมาหลังจากพวกสาวๆกลับไปแล้ว พวกนางทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเหลือนางขนาดนั้นนางกลับยังทำไม่ได้ช่างน่าเศร้าจริงๆ

“ก่อนกลับเรามาลองซ้อมกันอีกทีดีไหม”หลินเฟยถามพลางเดินกลับเข้ามาในตัวอาคารที่เหลือเพียงมันและนายหญิงลู่เท่านั้น

“ซ้อมกี่รอบมันก็เหมือนเดิมนั่นล่ะ เจ้าไม่เห็นหรืออย่างไรว่าข้าแสดงได้แย่แค่ไหน”นายหญิงลู่ตอบด้วยท่าทีเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด บอกตามตรงว่านางจนปัญญาแล้ว

“ตอนนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ ท่านอาจจะแสดงได้ดีกว่าเดิมก็ได้นะ”หลินเฟยตอบพลางเดินเข้ามาหานายหญิงลู่ด้วยท่าทีเคยชินแล้วเพราะก่อนหน้านี้มันโดนจับเป็นหุ่นซ้อมมาทั้งวันเลย

“ก็ได้”นายหญิงลู่ตอบพลางเดินเข้ามาหาหลินเฟยเช่นกัน ก็จริงของหลินเฟยบางทีนางอาจจะเขินพวกหลานๆก็ได้เลยแสดงออกมาได้แข็งกระด้างเช่นนั้น

“งั้น เอาบทไหนดีล่ะ”หลินเฟยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น พวกสาวๆสอนหลายบทมากทั้งเวลาต้อนรับสามีกลับบ้าน ตอนอยู่ด้วยกันหรือแม้แต่ตอนขอร้องให้ร่วมเตียง เล่นเอานายหญิงลู่เขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

“เจ้าชอบบทไหนล่ะ”นายหญิงลู่ถามพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนหน้านี้เพราะโดนสาวๆบังคับนางก็เลยอยู่ใกล้กับหลินเฟยได้ไม่ยาก แต่พออยู่ด้วยกันสองต่อสองแล้วนางก็พึ่งนึกได้ว่านางกำลังจับมือถือแขนกับชายอื่นอยู่ แบบนี้มันจะดีจริงๆงั้นหรือ

“งั้น เอาเป็นตอนสามีท่านทำงานก็แล้วกัน”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ ตัวหลินเฟยเองพอได้อยู่ใกล้ชิดนายหญิงลู่เช่นนี้ก็หัวใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุ แถมเพราะต้องแสดงบทสามีให้นางพวกมันก็เลยต้องอยู่ใกล้กันอย่างเลี่ยงไม่ได้เสียด้วย

“ก็ได้….”นายหญิงลู่ตอบพลางจ้องมองดวงตาของหลินเฟยนิ่ง นางต้องพยายามคิดว่าหลินเฟยคือคนรักของนางจะได้กล้าพูดประโยคเหล่านั้นออกมาได้โดยไม่เขินอาย ไม่อย่างนั้นเสียงนางก็จะแข็งทื่อเช่นเดิมแน่ๆ

“ที่รัก..ท่านเหนื่อยหรือเปล่าเจ้าคะ”นายหญิงลู่พูดพลางเดินเข้าไปจับไหล่ของหลินเฟยเบาๆ แต่น้ำเสียงของนายหญิงลู่ไม่ได้ดีขึ้นเลย ทำเอาหลินเฟยแทบจะหลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ จะว่าโชคดีจริงๆที่นายหญิงลู่แสดงได้ห่วยแตกมากก็ได้หลินเฟยเลยยังคุมสติตัวเองอยู่ทั้งๆที่อีกฝ่ายกำลังจับเนื้อต้องตัวตนเองอยู่แบบนี้ หากนางแสดงได้ดีเยี่ยมมีหวังหลินเฟยได้เผลอทำอะไรลงไปแน่ๆ

“นี่เจ้าจะหัวเราะอีกแล้วสินะ”นายหญิงลู่ถามดักคอหลินเฟยทันที ทำเอาหลินเฟยเผลอหลุดยิ้มออกไปก่อนจะถอยออกมาห่างๆนางแล้วหัวเราะในลำคอออกมาอย่างสุดกลั้น

“ข้าพึ่งรู้นี่ล่ะว่าบางคนก็แสดงละครไม่ได้จริงๆ”หลินเฟยหัวเราะพลางนั่งลงที่เก้าอี้พลางหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่ม หากเป็นนายหญิงลู่แบบเมื่อคืนนั้นละก็การอ้อนคงไม่น่ามีปัญหาอะไรแท้ๆ ยามนางเมากับไม่เมานั้นช่างต่างกันเหลือเกิน

“………”อยู่ๆหลินเฟยก็เหมือนจะคิดอะไรออก จะว่าไปคืนนั้นตอนนี้นางเมาก็ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย นางถึงกับเล่าเรื่องต่างๆให้คนแปลกหน้าฟังได้อย่างกับสนิทสนมกันมานาน แถมท่าทางตอนเล่าของนางก็ดูอ่อนหวานและน่าสงสารอีกด้วย บางที….

“นายหญิงลู่ ท่านลองดื่มนี่หน่อยสิขอรับ”หลินเฟยว่าพลางนำสุราออกมาจากมิติของตนเอง

“นี่เจ้า…คิดจะมอมเหล้าข้าหรือยังไง”นายหญิงลู่ถามพลางจ้องมองขวดสุราที่หลินเฟยเอาออกมา

“เปล่าขอรับ…..ไม่สิ…ก็มอมเหล้านั่นล่ะ แต่เพื่อให้ท่านปล่อยตัวตามสบายเท่านั้นเอง”หลินเฟยตอบพลางรินสุราลงในจอกช้าๆ

“ให้ข้าปล่อยตัวงั้นหรือ”นายหญิงลู่ขมวดคิ้วพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีสงสัย นี่มันจะทำอะไรกันแน่

“ก็คืนนั้นท่านดูเป็นธรรมชาติมากเลยนี่ขอรับ ข้าเลยคิดว่าบางทีหากได้ฤทธิ์สุราช่วยสักหน่อยท่านอาจจะพูดได้ดีกว่านี้”หลินเฟยตอบพลางยื่นจอกสุราให้นาง ตอนนี้มันเพียงกำลังหาทางออกให้นายหญิงลู่เท่านั้นไม่ได้คิดเรื่องอย่างมอมสุราให้นางเมาเลยแม้แต่น้อย

“ก็ได้ ข้าจะลองดู”นายหญิงลู่ตอบพลางจ้องมองหลินเฟยด้วยท่าทีจับผิด แต่หลินเฟยก็เคยอยู่กับนางตอนเมามาแล้ว มันก็ไม่ได้ทำอะไรนางเสียด้วย แถมมันยังเป็นเพื่อน?กับหลานๆของนางอีกต่างหาก บางทีหลินเฟยอาจจะไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนางจริงๆก็ได้

“แคกๆ”แต่ทันทีที่จิบสุราเข้าไปแค่อึกเดียว นายหญิงลู่ก็ถึงกับสำลักออกมาทันที

“นี่เจ้าเอาอะไรให้ข้าดื่มกัน”นายหญิงลู่ถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีตกใจ แค่ดื่มผ่านลำคอก็ทำเอารู้สึกเหมือนคอแทบจะไหม้ นี่มันไม่ใช่สุราธรรมดาไม่ใช่หรืออย่างไร

“เอ่อ…”หลินเฟยสะดุ้งโหยงพลางมองขวดสุราในมือตนเอง นี่มันเหล้ากลั่นของไชน์นี่นา เห็นคนที่นั่นบอกเป็นเหล้าที่แรงมาก แต่เพราะตระกูลไป๋ดื่มสุราอะไรก็ไม่เมาอยู่แล้วหลินเฟยเลยแค่รับมาเก็บไว้เป็นของฝากจากคนในอาณาจักรไชน์เท่านั้น ไม่คิดว่าจะแรงถึงขนาดทำนายหญิงลู่สำลักเลย

“นายหญิงลู่ ท่านเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองนายหญิงลู่ด้วยท่าทีเป็นห่วง

หมับ….

นายหญิงลู่จับแขนของหลินเฟยเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาหลินเฟยอย่างรวดเร็วจนเปลี่ยนเป็นประชิดตัวในพริบตา ร่างของนางแนบชิดตัวหลินเฟยจนส่วนบนของนางกดลงมาบนร่างของหลินเฟยจนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอ่อนนุ่มอย่างชัดเจน ยามนี้เสียงลมหายใจของนายหญิงลู่ก็ชัดเจนราวกับกำลังหายใจรดใบหูของหลินเฟยไม่มีผิด

“ที่รัก…”น้ำเสียงของนายหญิงลู่อ่อนลงมากทำเอาหลินเฟยสะท้านวาบ นี่มันไม่เหมือนทั้งวันที่ผ่านมาเลยนี่นา

“ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”นายหญิงลู่ถามด้วยท่าทีอ่อนหวานเหมือนตอนที่หลินเฟยเคยเห็นบนเรือไม่มีผิด ท่าทีตอนเมาของนางนั้นช่างมีเสน่ห์จริงๆ

“ท่านกลับมาเหนื่อยๆเช่นนี้ ให้ข้าช่วยทำให้ท่านผ่อนคลายดีหรือไม่เจ้าคะ”นายหญิงลู่ถามพลางจ้องมองดวงตาของหลินเฟยตรงไม่หลบสายตาแม้แต่น้อย นางช้อนสายตามองหลินเฟยด้วยท่าทีอ้อยอิ่งแถมปากยังเผยอน้อยๆราวกับกำลังขอร้องให้ตนก้มลงจูบอีกต่างหาก แต่ท่าทีของนางนั้นไม่ทราบทำไมถึงต่างจากตอนพวกสาวๆทำนัก แถมยังทำเอาหลินเฟยใจเต้นระรัวอีกต่างหาก

ยิ่งหลินเฟยมองไปที่ริมฝีปากของนางหลินเฟยก็ยิ่งอยากก้มลงจูบนางดูสักครั้ง แม้หญิงสาวคนอื่นๆจะเรียกนางว่าป้า แต่นางก็ยังสาวและสวยแถมเทียบอายุกันจริงๆนางอายุไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของท่านแม่เสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นหลินเฟยยังเรียกนางว่าพี่สาวได้อยู่

แต่นางมีสามีแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร ทำไมหลินเฟยยังคิดจะล่วงเกินนางอีก หากมันทำแบบนั้นก็เหมือนลบหลู่เกียรติของนางด้วยนะ

“เป็นไง ข้าแสดงได้ดีหรือเปล่า”ขณะหลินเฟยกำลังโน้มหน้าเข้าไปใกล้นายหญิงลู่ อยู่ๆนายหญิงลู่ก็ถามออกมาด้วยท่าทีสงสัย นี่นางไม่ได้เมาอย่างนั้นหรือ ไม่สินางเมาแล้วแน่ๆถึงได้แสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นนั้น แต่นางยังควบคุมสติได้และแสดงออกมาตามบทเท่านั้นสินะ นี่หลินเฟยเกือบจะทำอะไรลงไปกัน แย่จริงๆ หากเผลอทำแบบนั้นลงไปมีหวังมองหน้านายหญิงลู่ไม่ติดแน่ๆ

“ยอดเลย ท่านทำได้ดีกว่าก่อนหน้านี้มากเลย แบบนี้สามีท่านต้องชอบแน่ๆ”หลินเฟยผละตัวออกมาจากนายหญิงลู่ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“จริงงั้นหรือ ช่างน่ายินดีจริงๆ”นายหญิงลู่ตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ ยามนี้แม้แต่ใบหน้าดีใจของนางก็ยังทำให้หลินเฟยใจเต้นระรัวเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“จริงสิขอรับ หากสามีท่านกลับมาท่านลองใช้วิธีนี้ดู สามีท่านต้องชอบแน่ๆ”หลินเฟยตอบพลางหลบสายตาไปทางอื่น

“จริงสิ สามีข้าจะกลับมาพรุ่งนี้พอดี ข้าจะลองใช้วิธีที่พวกเจ้าช่วยกันสอนดูนะ”นายหญิงลู่ตอบพลางยิ้มหวานออกมา….

“ขอรับ ขอให้ท่านโชคดี”หลินเฟยตอบพลางยิ้มบางๆออกมา ทำไมมันต้องรู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่พูดถึงสามีของนางกัน… มันก็แค่สงสารนางและอยากช่วยเหลือชีวิตคู่ของนางเท่านั้นไม่ใช่หรือ การที่นางได้กลับไปคืนดีกับสามีย่อมเป็นสิ่งที่มันหวังเอาไว้ไม่ใช่หรืออย่างไร