ตอนที่ 572 ตามดู

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 572

ตามดู

“นายหญิงลู่ ช่วงนี้ดูท่านยิ้มแย้มแจ่มใสดีนี่นา ไม่ทราบมีเรื่องอะไรดีๆงั้นหรือ”หลายวันต่อมาหลินเฟยบังเอิญได้พบนายหญิงลู่ที่วัดศาลเจ้าเข้าพอดี เพียงแต่วันนี้นายหญิงลู่ไม่ได้ทำหน้าเศร้าๆแบบคราวก่อนอีกแล้วแถมยังยิ้มแย้มและดูอ่อนหวานมากกว่าเดิมเสียอีก

“ไม่ต้องมาทำเป็นแกล้งถามเลยเจ้าคนกะล่อน”นายหญิงลู่อมยิ้มพลางหัวเราะออกมากับท่าทีเหมือนคนไม่ได้เจอกันนานของหลินเฟย ทั้งๆที่หลายวันที่ผ่านมานี้หลินเฟยและพวกสาวๆช่วยสอนหลายๆอย่างให้นางตั้งมากมาย

“แล้ว….มีเรื่องอะไรดีๆหรือเปล่าละขอรับ”หลินเฟยถามพลางเลิกคิ้วสงสัย เพราะคุณชายลู่ไม่ค่อยได้กลับบ้านหลินเฟยก็เลยไม่รู้ว่าแผนการของพวกมันได้ผลหรือไม่

“ก็…น่าจะได้ผลนะ”นายหญิงลู่ยิ้มหวานด้วยท่าทีพึงพอใจ พลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีมีความสุข ตอนนางอ้อนสามีทำเอาสามีตกใจอย่างเห็นได้ชัดเลย คิดแล้วก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ทุกที

“งั้นหรือ แบบนี้ข้าก็โล่งใจ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มรับด้วยท่าทีโล่งอก แต่ภายในใจนั้นกลับรู้สึกขัดแย้งบางอย่างราวกับไม่อยากยอมรับว่านางกับสามีกลับมาดีกันแล้ว

“ทุกอย่างต้องขอบคุณเจ้ากับสาวๆนะ เอาไว้ข้าจะปิดเรื่องของเจ้ากับพวกนางไม่ให้แม่ๆของพวกนางรู้ก็แล้วกัน”นายหญิงลู่หัวเราะออกมาด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติ เวลาหลายวันที่ผ่านมานั้นทำให้นางไม่ได้มองหลินเฟยเป็นคนอื่นคนไกลไปเสียแล้ว

“เรื่องนั้นต้องขอบคุณแทนพวกนางด้วย แต่…ท่านยังสามารถมาหาข้าได้เสมอนะ หากท่านมีเรื่องกังวลอะไรละก็”หลินเฟยพูดพลางมองนายหญิงลู่ด้วยท่าทีกังวล พอนางคืนดีกับสามีแล้ว หลินเฟยก็ไม่มีข้ออ้างอะไรจะลากนางออกมาจากบ้านตระกูลลู่แล้ว และถ้าหากสามีนางกลับมาอยู่ที่บ้านหลักจริงๆนางก็ยิ่งออกมาไม่ได้เข้าไปใหญ่

“งั้นถ้าข้าไม่มีเรื่องกังวลใจก็ไปเยี่ยมเยือนเจ้าไม่ได้งั้นหรือ”นายหญิงลู่ถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีเหมือนจะเย้าแหย่มัน

“ไม่ใช่ขอรับ หากท่านจะมาก็มาได้เสมอ”หลินเฟยตอบพลางหลบสายตานางไปทางอื่น

“แน่นอน อย่างไรเจ้าก็นับเป็นเพื่อนบ้านเราแล้วไปแวะหาเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่นะ”นายหญิงลู่ยิ้มหวานด้วยท่าทีมีความสุข ก็บ้านที่หลินเฟยสร้างมันอยู่ห่างจากบ้านนางไม่มากนี่นา เช่นนั้นก็ไม่ต้องมีเรื่องช่วยเหลือชีวิตคู่ของนาง และทำความรู้จักไปมาหาสู่กันเช่นเพื่อนบ้านปกติก็ได้ไม่ใช่หรืออย่างไร

.

.

“หลินเฟย เจ้าทำตัวแปลกๆนะช่วงนี้”หลานฮวาที่อยู่กับหลินเฟยในเขตอสูรผาไร้ก้นถามไปทางหลินเฟยด้วยท่าทีสงสัย ช่วงนี้หลินเฟยไม่ยอมให้หลานฮวาตามไปด้วยไม่ทราบเพราะอะไร แต่หลานฮวาก็พอเดาออกนั่นล่ะว่าเป็นเรื่องผู้หญิง แต่ที่แย่กว่านั้นคือพักนี้หลินเฟยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม้จะกลับมาที่เขตอสูรผาไร้ก้นก็ยังใจลอยจนคนในครอบครัวผิดสังเกต

“เปล่านี่ขอรับ ข้าไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”หลินเฟยตอบพลางนั่งเหม่อมองนอกหน้าต่างอยู่เช่นเคย ในใจมันกำลังคิดเรื่องนายหญิงลู่ว่ามันสมควรทำเช่นไรดี สมควรเป็นเพื่อนบ้านอย่างที่นางว่าหรือไม่ หรือจะตีตัวออกห่างมาดีเพื่อไม่ให้ตนเองต้องมาคิดมากแบบนี้อีก

“นี่นะหรือไม่เป็นอะไร”หลานฮวาถอนหายใจพลางมองท่าทีของหลินเฟยด้วยความรู้สึกสงสัย บางทีนางน่าจะต้องแอบตามหลินเฟยไปดูเสียแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น

.

.

ในเช้าวันถัดมาหลินเฟยก็ออกไปเมืองของนายหญิงลู่อีกเช่นเดิม เพียงแต่คราวนี้หลานฮวาแอบลอบติดตามไปด้วยโดยขอความช่วยเหลือจากอสูรตนหนึ่งในเขตอสูรให้คอยบินตามหลินเฟยไปห่างๆ

“อะไรกัน ถึงขั้นสร้างบ้านเอาไว้เลยงั้นหรือ”หลานฮวาขมวดคิ้วพลางมองหลินเฟยที่กำลังขับรถเข้าไปจอดในตัวบ้านที่หลินเฟยสร้างเอาไว้ไม่ห่างจากบ้านตระกูลลู่นัก แต่เมื่อหลานฮวาเฝ้าจับตามองหลินเฟยได้พักใหญ่ หลานฮวาก็พบว่าหลินเฟยไม่ได้ทำอะไรเลย มันเพียงนั่งรออยู่ในบ้านเท่านั้นไม่ได้ออกไปไหน กินเวลาร่วมวันเต็มๆเลยทีเดียว

“หลินเฟย เจ้าทำอะไรของเจ้า”หลานฮวาขมวดคิ้วเฝ้ามองจากระยะไกล แต่จนเวลาผ่านเลยไปจนถึงช่วงเย็นหลินเฟยก็ไม่ได้ออกไปไหนแล้วก็ไม่มีใครเข้ามาในบ้านอีกด้วย ทำเอาหลานฮวาเริ่มสับสนแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“……..”แต่พอฟ้าเริ่มมืด อยู่ๆที่หน้าบ้านของหลินเฟยก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา ทำเอาหลานฮวาต้องรีบซ่อนตัวในทันทีเพราะหลินเฟยเองก็รีบออกมารับที่หน้าประตูเช่นกัน

“ไรกันสุดท้ายก็เรื่องผู้หญิงงั้นหรือ”หลานฮวาขมวดคิ้วพลางมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ดูเหมือนหญิงสาวคนนั้นกำลังร้องไห้ และหลินเฟยก็กำลังเข้าไปปลอบใจ ภาพเช่นนี้ไม่ได้หาดูได้ยากเย็นอะไรเสียด้วยสำหรับหลานฮวาเพราะนางไม่ทราบว่าหญิงสาวที่หลินเฟยกำลังปลอบอยู่นั้นเป็นหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว

“….นายหญิงลู่ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือขอรับ”ทางด้านหลินเฟยนั้นก็ตกใจมากเช่นกันเพราะหลายวันก่อนมันยังคุยกับนางหญิงลู่ดีๆอยู่ๆเลย ทำไมวันนี้นางถึงได้ร้องไห้มาหามันเสียแล้วเล่า

“หลินเฟย ข้า….”นายหญิงลู่พูดพลางเดินเข้าไปในบ้านกับหลินเฟย

“ข้าพยายามขนาดนี้แล้ว ทำไมข้ายังสู้ภรรยาน้อยไม่ได้อีก”นายหญิงลู่ถามพลางมองหลินเฟยด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย คราวนี้นางไม่ได้เมาเหมือนคราวก่อนแต่นางก็ยินดีจะปรับทุกข์กับหลินเฟยเพราะความสนิทสนมที่มากขึ้นแล้วต่างหาก

“มีอะไรงั้นหรือขอรับ”หลินเฟยถามพลางพานายหญิงลู่เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ภายในตัวบ้าน

“สามีของข้า…ออกไปหาภรรยาน้อยอีกแล้ว”นายหญิงลู่ตอบพลางเช็ดน้ำตาช้าๆ

“อีกแล้ว…”หลินเฟยเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทีประหลาดใจ ไม่ใช่ว่านายหญิงลู่ดึงสามีนางกลับมาได้แล้วงั้นหรือ

“ข้าขอโทษที่โกหกเจ้า แต่ถึงข้าจะอ้อนสามีข้ามากแค่ไหน สุดท้ายสามีข้าก็กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นทุกที”นายหญิงลู่พูดออกมาด้วยใบหน้าเศร้าหมอง แม้จะใช้วิชาที่ได้จากพวกสาวๆเข้าไปอ้อนสามีจนมันพึงพอใจ แต่ดูความเจ้าชู้ของสามีนางจะไม่ลดน้อยลงไปเลย แม้จะกลับมาหานางมากขึ้นแต่ก็ไม่เคยลืมที่จะกลับไปหาเมียน้อยเลย

“สามีท่านช่างไม่ได้ความจริงๆ”หลินเฟยต่อว่าสามีของนายหญิงลู่พลางคิดในใจว่าสามีของนายหญิงลู่ช่างเป็นผู้ชายที่เลวจริงๆ นายหญิงลู่ทำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นความดีของนางแถมยังไปหาเมียน้อยได้หน้าตาเฉย.. แต่พอด่าไปได้ครึ่งหนึ่งหลินเฟยก็ด่าต่อไม่ได้ เพราะตัวหลินเฟยเองก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน สาวๆที่สอนนายหญิงลู่แต่ละคนก็ทำแบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรือ พยายามหาวิธีให้หลินเฟยพอใจกันสุดความสามารถแต่สุดท้ายหลินเฟยก็มองพวกนางได้แค่ดอกไม้ริมทางอยู่ดี

“ข้านี่มันแย่จริงๆ แถมยังมาทำให้เจ้าเดือดร้อนอีกต่างหาก”นายหญิงลู่พูดออกมาช้าๆหลังจากร้องไห้จนพอใจแล้ว หลินเฟยช่วยนางขนาดนี้แล้ว หลายวันที่ผ่านมานายหญิงลู่พยายามปกปิดเรื่องสามีของนางกับหลินเฟยมาตลอดเพราะเกรงใจที่หลินเฟยเข้ามาช่วยเหลือนางมากมายเช่นนี้ แต่สุดท้ายนางก็ทนไม่ไหวกลับมาให้หลินเฟยช่วยอีกครั้ง นางช่างเป็นผู้หญิงที่แย่จริงๆ

“ไม่หรอกขอรับ ข้ายินดีที่จะช่วยท่านอยู่แล้ว”หลินเฟยตอบพลางกุมมือของนายหญิงลู่เอาไวด้วยท่าทีเป็นห่วง แม้แต่หลินเฟยเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองถึงอยากช่วยเหลือนางขนาดนี้ ทั้งๆที่ตนเองแทบไม่ได้อะไรตอบแทนเลย

“ขอบใจเจ้ามาก”นายหญิงลู่ว่าพลางโน้มตัวลงไปซบที่ไหล่ของหลินเฟยเบาๆ แน่นอนว่าหลินเฟยเองก็ไม่มีท่าทีจะผลักนางออกแต่อย่างไร พอนางเข้ามาพิงเช่นนี้หลินเฟยก็ปล่อยให้นางพิงโดยไม่พูดอะไรสักคำ บางทีนางก็แค่อยากได้ที่พักผ่อนเท่านั้น

ช่วงเวลาที่นายหญิงลู่เอนตัวพิงกายอยู่บนร่างของหลินเฟยนั้น ในใจของหลินเฟยกลับเริ่มตีกันวุ่นวายตรงกันข้ามกับนายหญิงลู่ที่มีท่าทีสงบขึ้น ยิ่งนางใกล้ชิดขนาดนี้หลินเฟยก็ยิ่งอยากจะดึงตัวนางมากอดและทำให้นางเป็นของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ยังรั้งหลินเฟยเอาไว้อยู่

ยามนี้หลินเฟยเริ่มเข้าใจแล้วว่ามันรู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวที่นอนพิงกายอยู่บนร่างของมัน แต่มันก็ไม่อาจคิดเกินเลยกับนางได้ ในใจของหลินเฟยยามนี้คิดแม้กระทั่งจะทำให้นางตั้งท้องจะได้อย่ากับสามีของนาง หรือแม้แต่ใช้อำนาจของตระกูลไป๋เพื่อแยกตัวนางมา แต่คิดก็อยู่ส่วนคิดหากทำเช่นนั้นนางจะยินดีงั้นหรือ นางไม่ได้รักหลินเฟยเสียด้วยซ้ำ ทำแบบนั้นลงไปก็มีแต่จะทำให้นางเจ็บปวดเสียมากกว่า หลินเฟยเลยได้แต่ข่มใจเก็บกลั้นความรู้สึกตนเองเอาไว้ไม่ยอมแสดงออกมาจนกระทั่งนายหญิงลู่พักจนพอใจแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยตนเอง

“นายหญิงลู่ ข้าพอจะมีทางช่วยท่านแล้ว”หลินเฟยพูดพลางมองนายหญิงลู่นิ่ง ท่าทีของหลินเฟยยามนี้ดูจริงจังมากทีเดียว

“ไม่ต้องหรอก ข้าจะลองพยายามอีกครั้ง เจ้าไม่ต้องลำบากเพราะข้าไปมากกว่านี้หรอก”นายหญิงลู่ตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ ขืนให้หลินเฟยทำอะไรไปมากกว่านี้นางต้องชดใช้ไม่หมดแน่ๆ

“งั้นก็ได้ขอรับ ข้าจะไม่ยุ่งก็ได้”หลินเฟยตอบพลางหลับตาลงช้าๆ แผนการนี้ของหลินเฟยไม่จำเป็นต้องให้นายหญิงลู่ลงมือทำอะไรทั้งเลย ทำให้หลินเฟยยอมรับปากออกไปแบบนั้นเพราะอยากให้นายหญิงลู่ยังอ้อนสามีของนางทุกครั้งที่มันกลับมาอยู่

“ขอบใจเจ้ามากนะที่อยู่เป็นเพื่อนข้า”นายหญิงลู่ว่าพลางลุกขึ้นยืนเหมือนจะเตรียมตัวกลับไปยังบ้านของตนแล้ว ทำให้หลินเฟยลุกไปส่งด้วยท่าทียิ้มแย้ม

ปึง!.. ประตูบ้านของหลินเฟยปิดลงทันทีที่นายหญิงลู่เดินออกไป แต่เพียงพริบตาเดียวร่างของหลินเฟยก็ทะยานขึ้นไปบนหลังคาก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านรองของตระกูลลู่ทันที

“……….”ในตอนที่หลินเฟยมาถึงนั้น ดูเหมือนคุณชายลู่จะมาถึงก่อนแล้ว แถมมันยังนั่งหยอกล้อกับภรรยาน้อยของตนเองอย่างมีความสุขเสียด้วย ยามนี้มันเริ่มเข้าใจคำที่หลานฮวาบอกเสียแล้ว ว่ายามที่มีความรักมนุษย์ก็ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ได้เหมือนกัน