“ตี้อู่เฉิน ไอ้คนทรยศ!”
หลังจากเอาผ้าที่อุดปากออกแล้ว ตี้อู่เฮ่ออีก็เริ่มเปิดปากด่าทอเขาทันที
“กฎของชนเผ่าคือห้ามใช้เลือดมนุษย์ แต่เจ้ากลับกระทำเรื่องที่ต่ำช้าเช่นนี้ เจ้าจะต้องถูกเทพโอสถลงทัณฑ์!”
“ฮ่าๆ!”
ได้ยินคำว่า ‘กฎของชนเผ่า’ คำนี้ ตี้อู่เฉินก็หัวเราะออกมายกใหญ่
“กฎของตันซ้าย จำกัดอะไรพวกเราตันขวาไม่ได้หรอก!”
“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอมที่จะบอกที่พำนักของชาวตันซ้ายให้ข้าได้รู้ ทั้งยังมิยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ของเจ้ากับอวี้หลัวซ่า เช่นนั้นข้าก็จะใช้เลือดของเจ้าเป็นยาบำรุงชั้นดีของข้า ดื่มกินมันทุกวัน!”
กล่าวจบ ตี้อู่เฉินก็ใช้ผ้าอุดปากเขาเอาไว้ ดึงแขนของตี้อู่เฮ่ออีขึ้นมาใกล้แล้วอ้าปากดูดกินเลือดของเขาทันที
ส่วนตี้อู่เฮ่ออีนั้นก็ถูกควบคุมเอาไว้จนขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้
เวลาผ่านไปเพียงแค่สองสามวัน ตี้อู่เฮ่ออีก็ผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ใบหน้าของเขาซีดขาวราวไข่ต้ม
“ตี้อู่เฉิน เจ้าต้องไม่ตายดี!”
“กรรมจะต้องตามสนองเจ้า!”
ในขณะที่ตี้อู่เฮ่ออีแทบจะหมดสติไปนั่นเอง ในที่สุดตี้อู่เฉินก็ปล่อยแขนของเขา ที่ริมฝีปากและฟันของเขาอาบไว้ด้วยเลือดสดๆ
เขาเลียคราบเลือดนั้นจนหมด แล้วจึงทำแผลให้กับตี้อู่เฮ่ออี
“เกรงว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าในตอนนี้ข้าได้ปล่อยหนูที่มีพิษกาฬโรคไว้ในเมืองนี้แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นาน สหายคนดีของเจ้าคง
จะต้องปวดเศียรเวียนเกล้า ตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน ฮ่าๆ!”
บ้า! เขามันบ้าไปแล้ว!
ชาวตันขวาล้วนเป็นบ้าไปกันหมดแล้ว!
ได้ยินว่า หนูที่มีพิษกาฬโรค ตี้อู่เฮ่ออีก็ทั้งตกใจระคนโกรธเคือง
ตี้อู่เฉินเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!
ชาวเผ่าตันมีหน้าที่ช่วยชีวิตคน เหตุใดถึงได้มีคนทรยศเช่นนี้ขึ้นมาได้!
“ประมุขน้อย ท่านไม่ต้องจ้องมองข้าเช่นนี้หรอก!”
“ท่านไม่ยอมบอกความลับของอวี้หลัวซ่าให้ข้าได้รู้ ข้าจึงต้องไปตามหาเอาเอง อวี้หลัวซ่าคือจักรพรรดิโอสถ เลือดของนางจะต้องไม่ด้อยไปกว่าเลือดของท่านเป็นแน่ ข้าจะต้องสำเร็จเป็นปรมาจารย์โอสถได้อย่างแน่นอน!”
กล่าวจบ ตี้อู่เฉินก็แสยะยิ้ม ‘หึๆ’ ออกมา
“ถึงตอนนั้นข้าจะส่งพวกท่านไปลงนรกเอง ท่านไปลงนรกจะได้มีเพื่อน!”
ตี้อู่เฉินชำระล้างร่างกายสักครู่แล้วให้เฉินฉู่เฝ้าตี้อู่เฮ่ออีเอาไว้ ส่วนตัวเขาเองแอบไปที่หอคืนชีพโดยลำพัง เขาอยากจะดูซิว่า อวี้เฟยเยียนจะรับมือกับกาฬโรคนี้อย่างไร
เมื่อตี้อู่เฉินออกไป เฉินฉู่ก็เดินไปที่ข้างเตียง จับตามองตี้อู่เฮ่ออีอย่างใกล้ชิด
เมื่อครู่เขาได้ลิ้มลองความมหัศจรรย์ของเลือดมนุษย์ที่ใช้รักษาคนมาแล้ว เขาจึงคาดหวังว่าตนเองจะฟื้นฟูร่างกายได้โดยเร็ว
ตอนนี้ในสายตาของเฉินฉู่ เลือดของประมุขน้อยแห่งชาวเผ่าตันซ้ายคือยาชั้นดีที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วย
เฉินฉู่ใช้มีดกรีดข้อมือของตี้อู่เฮ่ออีแล้วหยิบมันขึ้นมาดื่มกิน
อึกๆ!
เฉินฉู่รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองกำลังดื่มกินอยู่ไม่เลือดมนุษย์ แต่เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นเลิศต่างหาก เพราะมันจะทำให้พลังของเขาฟื้นคืนกลับมาภายในเวลาอันรวดเร็ว
“ปล่อยข้านะ!”
ตี้อู่เฮ่ออีจวนเจียนจะหมดสติ ร่างกายของเขากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตที่เหลือเพียงครึ่งชีวิต
เฉินฉู่ไหนเลยจะสนใจว่าตี้อู่เฮ่ออีจะเป็นหรือตาย เขาได้เอาความหวังอันแรงกล้าที่ตนเองจะกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งฝากไว้ที่เลือดของตี้อู่เฮ่ออี
เขาจะต้องกลับมาแข็งแกร่ง เขาต้องแก้แค้น ฆ่าซย่าโหวฉิงเทียนด้วยมือของเขาเอง!
ปัง
ในตอนนั้นเองที่ประตูถูกถีบออก แสงอาทิตย์ส่องสว่างมาจากด้านนอก ตี้อู่เฮ่ออีที่จวนเจียนจะหมดสติถูกเสียงอันดังนั้นปลุกให้ตื่น เขาลืมตาตื่นขึ้น
ที่หน้าประตู ร่างสูงโปร่งปรากฏตัวท่ามกลางแสงที่สาดส่องเข้ามาที่เบื้องหลัง
แสงสีทองสาดส่องมาราวกับเกราะทองคำก็ไม่ปานรวมกับเรือนร่างที่งดงามของนาง
“เทพสวรรค์หรือ”
ขณะที่กำลังจะหมดสติ ในหัวของตี้อู่เฮ่ออีก็ผุดคำว่า ‘เทพสวรรค์’ ขึ้นมา
“เจ้าทึ่ม!”
เชียนเยี่ยเสวี่ยมองไปก็เห็นภาพทุกอย่างที่อยู่บนเตียง
“เจ้ามันชั่วช้าสารเลว!”
เฉินฉู่เพียงแค่หันหน้ากลับมา ก็ถูกหมัดของเชียนเยี่ยเสวี่ยเสยเข้าที่ใบหน้าจนลอยละลิ่วกระเด็นออกไปไกล
‘เจ้าทึ่ม ไม่เป็นไรใช่ไหม!”
เห็นตี้อู่เฮ่ออีผ่ายผอมจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ที่ข้อมือของเขามีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา ฉับพลันเชียนเยี่ยเสวี่ยรู้สึกราวกับใจจวนเจียนจะขาด
“เจ้าทึ่ม!”
“เสวี่ย…”
เขาพยายามลืมตาเพื่อมองบุคคลตรงหน้าให้ชัดเจน ริมฝีปากที่แห้งผากของตี้อู่เฮ่ออีหยักยิ้มบางๆ
“ดีจังเลย เจ้านั่นเอง…”
ได้ยินดังนั้น เชียนเยี่ยเสวี่ยก็รู้สึกร้อนผ่าวที่จมูก ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลหยด ‘แหมะ’ ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มันหยดลงบนในหน้าของตี้อู่เฮ่ออี
“อย่าร้องไห้ ข้าไม่เป็นไร…”
เชียนเยี่ยเสวี่ยร่ำไห้ น้ำตาของนางทำให้หัวใจของตี้อู่เฮ่ออีบีบรัดแน่น ตลอดเวลาที่ผ่านมา เชียนเยี่ยเสวี่ยเข้มแข็งมาโดยตลอด
แม้กระทั่งฉู่ฮองเฮาจากโลกนี้ไป นางก็เพียงแค่แอบร้องไห้หรือว่าในบางครั้งก็ร่ำไห้ด้วยความเสียใจในความฝันเท่านั้น ทว่ากลับไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าผู้ใดเลยสักครั้ง
ตอนนี้ นางถึงกลับร้องไห้ออกมา…
แต่ไม่มีเวลาให้มาคิดใคร่ครวญความหมายของหยาดน้ำตานั้น ตี้อู่เฮ่ออีก็ปิดเปลือกตาลง
“เจ้าทึ่ม เจ้าทึ่ม เจ้าฟื้นสิ!”
“แม่นางเสวี่ย เขาเพียงแต่หมดสติไปเท่านั้น เจ้าไปจัดการคนๆนั้นเถิด ข้าจะดูแลเขาให้เอง!”
คนที่ติดตามมากับเชียนเยี่ยเสวี่ยคือเหลียนจิ่นและมั่วซาง
เชียนเยี่ยเสวี่ยตามหาตี้อู่เฮ่ออีไม่เจอ จึงทำตามคำแนะนำของหมอเทวดาฮั่ว ไปขอร้องเหลียนจิ่น เชียนเยี่ยเสวี่ยตามหาที่นี่จนเจอจากการพยากรณ์ของเหลียนจิ่น ใครจะคาดคิดว่าเมื่อมาถึงจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
“ขอบคุณ!”
ได้ยินเหลียนจิ่นกล่าวเช่นนี้ เชียนเยี่ยเสวี่ยก็วางใจ
เมื่อนึกถึงว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีเป็นเช่นนี้อยู่ด้านนอกนั่น เชียนเยี่ยเสวี่ยก็ปาดน้ำตา พับแขนเสื้อขึ้นแล้วก้าวฉับๆตามออกไปด้านนอกด้วยสายตาน่ากลัว
นางจะไปฆ่ามัน!
ทันที!
เดี๋ยวนี้!
ที่กลางลาน เฉินฉู่ล้มลงที่พื้น ใบหน้าด้านขวาของเขาบวมเป่ง บนพื้นคือฟันของเขาที่กระเด็นออกมา ดวงตาด้านซ้ายปิดสนิทจนแทบลืมไม่ขึ้น
เมื่อเห็นเชียนเยี่ยเสวี่ยพุ่งตัวเข้ามา เฉินฉู่ก็ลุกยืนขึ้น
จอมราชา
สำเร็จเพียงขั้นจอมราชาเล็กๆก็อวดดีถึงเพียงนี้เชียว
ต้องอดกลั้นไฟแค้นเอาไว้เมื่อครั้งที่อยู่ต่อหน้าซย่าโหวฉิงเทียน เฉินฉู่จึงเตรียมที่จะสั่งสอนเชียนเยี่ยเสวี่ยให้หนัก เพื่อระบายความแค้นความไม่พอใจคนชั้นต่ำพวกนั้นเสียหน่อย
ใครจะคาดคิดว่า เขายังมิทันลงมือ ก็ถูกเชียนเยี่ยเสวี่ยซัดจนล้ม
นางเดินข้ามร่างของเฉินฉู่ เงื้อหมัดขึ้นแล้วรัวเข้าใส่ใบหน้าและตามตัวเฉินฉู่ไม่นับ
ต่อให้เฉินฉู่มีวิชาที่แก่กล้ามากมายเพียงใด ทว่าอยู่ต่อหน้าเชียนเยี่ยเสวี่ยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังแล้ว วิชาเหล่านั้นกลับใช้ประโยชน์ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
สภาพน่าอเนจอนาถของตี้อู่เฮ่ออี กระตุ้นพละกำลังของเชียนเยี่ยเสวี่ยให้สำแดงออกมา
สองหมัดของนางราวกับค้อนเหล็กก็ไม่ปาน ระดมอัดเข้าใส่ทั้งใบหน้า ลำตัวของเฉินฉู่ ระบายความเป็นห่วง ความตื่นตระหนก ความโกรธแค้น เสียงกรีดร้องที่อยู่ในใจออกมา
นางจะสับคนที่ทำร้ายตี้อู่เฮ่ออีให้เป็นชิ้นๆ!
“ไปตายเสียเถอะ!”
เฉินฉู่ไม่เพียงแต่ไม่มีโอกาสที่จะได้โต้ตอบ เพียงแค่โอกาสที่จะได้เอ่ยปากยังไม่มีเลย
กระดูกบริเวณใบหน้าถูกทุบจนแหลก กระดูกที่หน้าอกก็ถูกทุบจนแตก ซึ่งเขาก็รู้สึกอย่างชัดเจนตั้งแต่ความรู้สึกที่กระดูกหักกระทั่งอวัยวะภายในแหลกเหลว
“ช่วย…”
เฉินฉู่ที่น่าสงสาร เอ่ยมาได้เพียงคำเดียว ก็ตายภายใต้คมหมัดของเชียนเยี่ยเสวี่ยนั่นเอง
ทว่า ไฟแค้นในใจของเชียนเยี่ยเสวี่ยมิได้สงบลงแต่อย่างใด
นางราวกับคนเสียสติก็ไม่ปานยังคงระดมต่อยตีเฉินฉู่ต่อไป สุดท้ายก็ใช้เพียงสองมือซ้อมเสียจนเฉินฉู่น่วมไปทั้งร่าง ร่างของเขาบี้แบนราวกับแผ่นขนมปังแผ่นอย่างไรอย่างนั้น
บึ้ม
เสียงบางอย่างดังขึ้น
ตามมาด้วยแสงหนึ่งปรากฏขึ้น มันครอบร่างเชียนเยี่ยเสวี่ยเอาไว้แล้วหายวับไปในอากาศ
“หา ฆ่าคนก็สามารถสำเร็จขั้นได้ ไม่เสียแรงที่เป็นผู้ที่อวี้เฟยเยียนยอมรับ”
หลังจากที่ทำแผลให้กับตี้อู่เฮ่ออีเรียบร้อยแล้ว เหลียนจิ่นก็เดินมาที่ประตู
ก็พบเชียนเยี่ยเสวี่ยนั่งหอบอยู่ที่พื้น เหลียนจิ่นยิ้มออกมาใบหน้าหล่อเหลา
“มีผู้พิทักษ์เพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว!”
ระหว่างที่ถูกกระตุ้นด้วยความโกรธแค้น ก็สามารถก้าวข้ามขั้นจนสำเร็จถึงปรมาจารย์ได้ มีพลังยอดเยี่ยมไม่น้อย!
เหลียนจิ่นเหลือบมองตี้อู่เฮ่ออีที่อยู่ภายในห้อง เขาหลุบสายตาลงปกปิดความสั่นไหวในดวงตาของเขา