เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 805
ลู่ฝานไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เพราะผลแบบนี้ คือสิ่งที่เขาต้องการ เขายื่นมือไปหาสุ่ยเชียนโหรวแล้วพูดว่า “คุณหนูสุ่ยเชียนโหรว เอาวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้นมาได้หรือยัง”

สีหน้าสุ่ยเชียนโหรวเปลี่ยนไป เดิมทีเธอไม่คิดจะให้ลู่ฝาน รอปลดผนึกได้ เธอก็จะหนีทันที

ส่วนเรื่องสัญญาเหรอ หึหึ หงส์จะสนใจคำสัญญาของไก่ป่าเหรอ

แต่ตอนนี้ เรื่องราวกลับตาลปัตร

หงส์อย่างเธอบินไม่ได้แล้ว อีกทั้งขนยังร่วงจนหมด ไม่มีอะไรเลย ใครก็สามารถมาเหยียบได้

อะไรที่เรียกว่าหงส์ที่ขนร่วง ยังสู้ไก่ไม่ได้ เธอคิดจะเบี้ยว แต่อีกฝ่ายจะให้เธอเบี้ยวไหม เธอหนีได้ไหม

สุ่ยเชียนโหรวจนปัญญาจริงๆ เธอกัดฟันเอาวิชาหนึ่งเดียวแดนไกลโพ้นออกมาจากป้ายหยก

ลู่ฝานรับมานิ่งๆ

นี่เป็นหนังสือเก่าโบราณ กลิ่นความเก่าลอยออกมาจากหนังสือ

เมื่อเปิดหน้าแรก สิ่งที่ปรากฏในสายตา คืออักษรขนาดใหญ่คำว่าแดนไกลโพ้น

หลังจากนั้น เงาและแสงกระบี่เป็นแถบ พุ่งเข้ามาในหัวลู่ฝาน ราวกับในหัวของเขากลายเป็นสถานที่ต่อสู้ในที่รกร้างว่างเปล่า คนมากมายไล่ฆ่าฟันกันอยู่ในนั้น

“ผู้ที่อยู่แดนไกลโพ้น จิตใจอยู่ใต้หล้า เท้าเหยียบแม่น้ำ ใช้ใจสัมผัสสรรพสิ่ง ใช้สรรพสิ่งดับจิตใจ ร่างกายคงอยู่ มีความคิด แม้หมื่นคนประจันหน้า แต่ใจอยู่ที่รกร้างว่างเปล่า เพื่อแดนไกลโพ้น……”

ในหัวของลู่ฝานมีคำพูดออกมา คำพูดแต่ละคำเหมือนวิชากระแทกบนตัวเขา

ทันใดนั้น ลู่ฝานเก็บม้วนหนังสือ ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสดีที่เขาจะฝึกฝน

ลู่ฝานสูดหายใจลึก ลู่ฝานมั่นใจได้ว่านี่คือของจริง

ตั้งแต่ไม่มีวิชา แค่เขามองแวบเดียว ก็สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งเล็กน้อยของตัวเอง

วิชาระดับฟ้า นี่คือวิชาระดับฟ้าในตำนาน

วิชาที่คนตั้งเท่าไรใฝ่ฝันหา ตอนนี้อยู่ในเข็มขัดของเขา ความรู้สึกนี้มันดีจริงๆ!

ลู่ฝานยิ้มแล้วมองสุ่ยเชียนโหรว “คุณหนูสุ่ย ผมขอตัวกลับก่อน คืนนี้คุยกับเธอมีความสุขมาก!”

สุ่ยเชียนโหรวกัดฟัน พูดอะไรไม่ออก ตอนนี้เธอกลัวว่าถ้าตอนนี้พูดอะไรออกมา ลู่ฝานจะเอาของที่เหลือบนตัวเธอไป

หานเฟิงมองภาพนี้อย่างตกตะลึง หลังจากนั้นหัวเราะออกมา

อาจเป็นเพราะเสียงหัวเราะของเขาดังเกินไป ลู่ฝานกับสุ่ยเชียนโหรวพากันหันมามองทางเขา

หานเฟิงรีบเอามือปิดปาก แล้วหายไปจากตรงนั้นทันที

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วพูดเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่หานเฟิง!”

เมื่อพูดจบ ลู่ฝานเดินฮัมเพลงออกไป

สีค่ำคืนนี้ช่างงดงามเป็นพิเศษ ดวงจันทร์วันนี้ช่างกลมเป็นพิเศษ!

วันต่อมา ลู่ฝานพาหลิงเหยาไปบอกลาคุณย่า พวกเขาจะออกจากเมืองหยุนไห่ กลับสถาบันแล้ว

อยู่เมืองหยุนไห่ต่อ ก็ไม่มีอะไรทำ สิ่งสำคัญคือศิษย์พี่หานเฟิงเอาแต่บ่นว่าให้รีบกลับ ราวกับว่ามารพวกนั้นจะกลับมาฆ่าอย่างไรอย่างนั้น

“คุณย่า นี่คือเงินให้คุณย่า
หลิงเหยาพูดไม่หยุด เหมือนลูกสะใภ้ต้องออกจากบ้านไปไกล
ลู่ฝานยืนมองอยู่ข้างๆ ศิษย์พี่หานเฟิงพาเจ้าดำมารอหน้าประตูนานแล้ว หันหน้ามามองเป็นระยะ
เหมือนหลิงเหยานึกอะไรได้ ลุกขึ้นพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันจำได้แล้ว ในบ้านฉันยังมีเหรียญทองเก็บไว้ เดี๋ยวฉันไปเอามันออกมา”
หลิงเหยาวิ่งไปข้างนอกด้วยความดีใจ ลู่ฝานขี้เกียจรั้งเธอ สำหรับเด็กผู้หญิงที่กลัวความจนตั้งแต่เด็กแบบเธอ ไม่มีทางลืมเหรียญทองไม่กี่เหรียญแน่นอน
คุณย่ายิ้มจนตาหยี เมื่อหลิงเหยาออกไป คุณย่าพูดกับลู่ฝานว่า “อย่าลืมสิ่งที่ฉันพูดกับนายครั้งก่อน”
ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ ความจำของเขาไม่เลว ไม่มีทางลืมเรื่องแบบนี้หรอก
จู่ๆ จิตใจวูบไหว ลู่ฝานมองคุณย่าแล้วถามว่า “คุณย่ารู้เรื่องที่มารโดนฟันด้วยกระบี่เดียว เมื่อวันนั้นหรือเปล่า”