หานเฟิงเตรียมโผล่หน้าออกไป แต่ขณะนั้นเขาเห็นศิษย์น้องลู่ฝานหัวเราะขึ้นมา

ยกยิ้มมุมปากซ้าย หรี่ตาลงเล็กน้อย ดีดนิ้วมือสองสามทีอย่างไม่รู้ตัว

หานเฟิงเคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของศิษย์น้องลู่ฝาน ทุกครั้งที่ศิษย์น้องลู่ฝานคิดร้าย หรือมองออกว่าคนอื่นคิดร้าย มักจะยิ้มแบบนี้

อย่าบอกนะว่าศิษย์น้องลู่ฝานมองออกแล้ว

ลู่ฝานมองออกอยู่แล้ว แม้ตอนสุ่ยเชียนโหรวพูดจะตั้งใจทำแววตาล่องลอย ไม่สามารถสบตาได้ แต่ลู่ฝานฟังความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของอีกฝ่ายออก

ลู่ฝานยกมือให้สุ่ยเชียนโหรวแล้วพูดว่า “แบบนี้ยิ่งดี งั้นผมช่วยเธอปลดผนึก”

มุมปากสุ่ยเชียนโหรวมีรอยยิ้มทันที ลู่ฝานเห็นอย่างชัดเจน

ทันใดนั้น เงาของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรปรากฏบนฝ่ามือลู่ฝาน ปราณชี่ในตัวโดนเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดูดไปครึ่งหนึ่ง กลายเป็นเข็มเล่มบาง พุ่งออกไปจากฝ่ามือเขา

ชิ้ง!

เสียงดังชัดเจน เหมือนเข็มที่ก่อตัวจากปราณชี่เล่มนั้น แทงถูกของแข็งบางอย่าง หลังจากนั้นที่ว่างด้านหน้าสุ่ยเชียนโหรวเริ่มแกว่งไปมา

แสงค่ายกลเลือนรางลึกลับปรากฏขึ้น จากนั้นทลายลงอย่างรวดเร็ว ลู่ฝานมองค่ายกลที่พังลงก็แอบตกใจ นี่เป็นค่ายกลของยอดฝีมือระดับอริยปราชญ์งั้นเหรอ

ถ้าให้เขาเป็นคนวาด เดือนนึงก็คงไม่เสร็จ!

ตอนค่ายกลพังจนถึงส่วนสุดท้าย พลังมหาศาลระเบิดออกมา

ลู่ฝานรู้สึกถึงแรงดัน ผลักเขาออกไปไกล ส่วนสุ่ยเชียนโหรวร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แล้วทรุดลงกับพื้น

เสียงแตกดังขึ้น พื้นเป็นรอยร้าว ทรายละเอียดไหลลงมาจากตัวสุ่ยเชียนโหรว พลังรุนแรง ทำให้หินบนพื้นกลายเป็นผุยผง

มีอักษรยันต์สว่างขึ้นบนตัวสุ่ยเชียนโหรว หลังจากนั้นพลังบริสุทธิ์ออกมาจากท้องของเธอ

ดูเหมือนเธอไม่ได้โกหก เรื่องที่มีอักษรยันต์อยู่บนตัวเธอ

ลู่ฝานแอบตกใจ การสัมผัสถึงพลังแบบกะทันหัน เกือบทำให้ปราณชี่ของเขาพังทลาย

พลังฟ้าดิน เป็นพลังฟ้าดินของอริยปราชญ์

อย่าบอกนะว่าแดนอริยปราชญ์ก็เรียกว่าแดนฟ้าดิน มือเดียวเปลี่ยนฟ้าดินจริงๆ

ลู่ฝานสูดหายใจลึก จัดการสภาวะของตัวเอง เดินมาข้างสุ่ยเชียนโหรวแล้วพูดว่า “ยินดีด้วย ตอนนี้เธอขยับได้แล้ว”

สุ่ยเชียนโหรวดูเหมือนไม่เต็มใจนอนอยู่ตรงหน้าลู่ฝานแบบนี้ เธอพยายามสุดแรง ค่อยๆ ยืนขึ้นมา เหงื่อไหลออกมาบนหน้าเหมือนน้ำตก

“นายทำอะไรใส่ฉัน”

สุ่ยเชียนโหรวสั่นไปทั้งตัวแล้วพูดออกมา

ลู่ฝานพูดว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเธอเลย แค่วิธีที่ผมฝืนทำลายผนึก กระตุ้นการแว้งกัดของพลังฟ้าดินข้างใน เรื่องแบบนี้ ลูกหลานตระกูลสุ่ย ความรู้กว้างขวางแบบเธอ น่าจะรู้ดีกว่าผมถึงจะถูก”

ลู่ฝานใช้แค่คำพูดธรรมดาๆ ปิดกั้นความสงสัยทั้งหมดของสุ่ยเชียนโหรว

แน่นอนว่าคนเย่อหยิ่งอย่างสุ่ยเชียนโหรว ไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองรู้น้อยกว่าลู่ฝาน

ในสายตาเธอ ลู่ฝานเป็นเพียงนักบู๊สวะที่มาจากเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกลผู้คน จะรู้มากกว่าคุณหนูใหญ่อย่างเธอได้ยังไง

สุ่ยเชียนโหรวสัมผัสถึงตันเถียนที่โดนก่อกวนจนวุ่นวายไปหมด รวมไปถึงเส้นลมปราณที่เสียหายด้วย

ความบาดเจ็บจากพลังฟ้าดิน สาหัสกว่าอาการบาดเจ็บทั่วไปเยอะมาก สิ่งสำคัญคือ ต้องหายอดฝีมือแดนฟ้าดิน มาดูดพลังฟ้าดินด้านในออกมา ไม่งั้นถึงกินยาเม็ด ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมยาก

ตอนนี้สุ่ยเชียนโหรวกลายเป็นคนพิการไร้เรี่ยวแรงอย่างแท้จริง พละกำลังหายไป ร่างกายเธอยังสู้นักบู๊แดนปราณในไม่ได้เลย