ราชันเร้นลับ 626 : การตัดสินใจของอมิรุส

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ 626 : การตัดสินใจของอมิรุส โดย Ink Stone_Fantasy

ขณะตามองเข้าไปในคฤหาสน์ที่กำลังสว่างไสวยามค่ำคืน ไคลน์เหม่อลอยหลายวินาที

ชายหนุ่มลงจากรถม้า เดินสามก้าวผ่านประตูหน้าคฤหาสน์ รอบตัวรายล้อมด้วยบอดี้การ์ด ด้านหน้ามีคนรับใช้ออกมาตั้งแถวต้อนรับสองฝั่ง

เนื่องจากมีคนอื่นอยู่ด้วย ซินเธียจึงสวมชุดอยู่บ้านที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไคลน์เห็นเช่นนั้นจึงถอนหายใจโล่งอก สวมสีหน้าขึงขังพลางเดินเข้าไปด้วยมาดสง่างาม

รอยยิ้มของซินเธียเริ่มผลิบาน เธอเลื่อนมือสางผมทัดใบหู เผยให้เห็นลำคอสีขาวเย้ายวนอันปราศจากร่องรอยการสวมสร้อย

เมื่อเห็นว่าลัวอานและเหล่าบอดี้การ์ดแยกย้ายกลับไปห้องส่วนตัว รวมถึงบางคนที่กระจายตัวไปลาดตระเวนในสวน ไคลน์สวมกอดซินเธียด้วยท่าทางอ่อนโยน กล่าวเสียงขรึม

“คืนนี้ไม่ต้องเตรียมน้ำอุ่นให้ฉัน ต้องการแค่ห้องที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ฉันอยากอยู่ตามลำพัง”

“…” ซินเธียเผยแววตาสับสน

ไคลน์กวาดตามองรอบตัว หันกลับมากระซิบ

“เกิดอุบัติเหตุขึ้นเล็กน้อย ฉันต้องการความสงบเพื่อฟื้นฟูร่างกาย”

กล่าวจบ ชายหนุ่มยกมือขวา ปลดกระดุมข้อมือสีทองออก เผยให้เห็นตุ่มเนื้อน่าหวาดเสียวเป็นบริเวณกว้าง

เดิมที อมิรุสเตรียมข้ออ้าง ‘เกิดความผิดปรกติกับร่างกาย’ ให้คนเร่ร่อนตัวปลอมนำมาใช้หลบหน้าซินเธีย แต่ไคลน์ทำเหนือกว่านั้นอีกขั้น เป็นการแสดง ‘หลักฐาน’ ด้วยพลังพิเศษของผู้ไร้หน้า

ซินเธียเปิดปากกว้าง เกือบจะส่งเสียงกรีดร้อง แต่สุดท้ายก็ระงับตัวเองไว้ได้ทัน และรีบปิดปากสนิทภายในไม่กี่วินาที

“เป็นอะไรมากไหมคะ ไม่ต้องไปหาหมอหรือ”

หญิงสาวคลายความสับสนลง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเป็นกังวลแทน

“ไม่จำเป็น มันคือราคาที่ฉันต้องจ่ายเพื่อแลกกับความแข็งแกร่ง อีกสองสามวันก็กลับเป็นปรกติแล้ว” ไคลน์ถือโอกาสหาข้ออ้างหลบหน้าเธอในอีกสามวันถัดไป

“เข้าใจแล้วค่ะ” ซินเธียเดินนำทางไคลน์ขึ้นไปยังชั้นสอง พาเข้าไปในห้องที่เงียบที่สุด

เป็นห้องนอนใหญ่ไม่ได้ เพราะเธอสั่งให้คนรับใช้จุดเทียนหอมและโปรยน้ำค้างบริสุทธิ์เตรียมไว้ล่วงหน้า ไม่เหมาะแก่การพักผ่อนสักเท่าไร

เมื่อเห็นประตูปิดสนิท ไคลน์ถอนหายใจยาว ถอดเครื่องแบบนายพลกองทัพเรือออก เปลี่ยนเป็นชุดทำงานที่สบายตัว

ณ ห้องนอนใหญ่ไม่ห่างออกไป ซินเธีย สตรีผู้มีสีหน้าเหม่อลอยเจือความกังวล เร่งอาบน้ำให้เสร็จและกลับมานอนบนเตียง

หญิงสาวแหงนมองเพดานห้อง ดวงตาไม่เพ่งจ้องจดจ่อ ภายในใจหวนนึกถึงคำพูดของพ่อแม่เมื่อหลายวันก่อน

พวกเขารบเร้าให้เธอรีบมีลูกกับนายพลอมิรุสโดยเร็ว ครอบครัวจะได้มีบทบาทสำคัญบนเกาะโอลาวีมากกว่านี้ รวมไปถึงอิทธิพลที่ครอบคลุมน่านน้ำกึ่งกลางของทะเลโซเนียทั้งหมด

ท่านนายพลมีความลับมากมาย หนึ่งในนั้นได้ทำให้ร่างกายของท่านเกิดความผิดปรกติ…

ซินเธียปล่อยความคิดล่องลอย

จากนั้น เธอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ท่ามกลางดินแดนความฝันอันพร่ามัว หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าท้องน้อยกำลังร้อนผ่าว อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ท้องฟ้าในความฝันกำลังเป็นสีดำเข้ม แต่งแต้มด้วยจุดแสงของมวลหมู่ดารา

คล้ายกับหนึ่งในนั้นตระหนักได้ว่าถูกซินเธียจ้องมอง จึงรีบแผ่ความสว่างออกมามากกว่าเดิม

เช้าวันถัดมา ไคลน์ ผู้กำลังสดชื่นสุดขีดเนื่องจากได้นอนเต็มอิ่ม รีบจัดการกับอาหารเช้ามื้อหรูหราที่มิอาจบอกได้ว่าจานใดอร่อยเป็นพิเศษ หลังจากนั้น ชายหนุ่มถูกบอดี้การ์ดรายล้อมอีกครั้ง เดินทางไปยังฐานทัพเรือประจำเกาะโอลาวี ตรงเข้าไปในห้องทำงานหรูหราและโอ่โถงของผู้บัญชาการสูงสุด

จากข้อมูลที่บิลต์เตรียมให้ อมิรุสมักหาโอกาสปลีกตัวสองสามวันเพื่อฝึกฝนพลังพิเศษของตนให้เกิดความชำนาญ รวมถึงการคิดค้นเทคนิคพลิกแพลงแบบใหม่ตลอดเวลา ไคลน์จึงฉวยโอกาสทำให้ตัวเองไม่ถูกรบกวนตลอดทั้งวัน คอยจัดการเฉพาะเอกสารไม่สำคัญ

ภายในห้องทำงานกว้างขวางและบรรยากาศเงียบสงัด ไคลน์เดินวนเวียน บ้างหยิบหนังสือออกจากชั้น สลับมาล้วงกระเป๋าเพื่อสัมผัสยันต์กฎหมายที่เก้า แผ่อำนาจบารมีอันเข้มข้นของนักสานกฎหมายให้ท่วมท้น ทำไปเพื่อให้เลขานุการผมทอง ลัวอาน ไม่พบความผิดปรกติเกี่ยวกับนายพลอมิรุส

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ ไคลน์เริ่มง่วงนอน จึงตัดสินใจงีบพักผ่อนเอาแรง

ทันใดนั้น มันได้ยินเสียงเคาะประตู

ต้องเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหนกัน…

ไคลน์ขมวดคิ้ว

คงไม่ใช่เรื่องปรกติแน่ ถ้าเลขาลัวอานกล้ารบกวนเวลาฝึกพลังส่วนตัวของอมิรุส!

“เข้ามา” ไคลน์สงบจิตใจ ตอบกลับเสียงต่ำ

ลัวอาน เลขานุการผมทองใบหน้าหล่อเหลา เปิดประตูและเดินเข้ามา ในมือถือใบโทรเลข

มันกล่าวเสียงขึงขัง

“ท่านนายพลครับ โทรเลขจากเบ็คลันด์ มิสเตอร์ออสเท่นถูกปลดออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีโอลาวี ประธานสภาเมืองจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนชั่วคราว ต้นทางยังกล่าวด้วยว่า นายกเทศมนตรีคนใหม่จะมาถึงภายในเย็นวันนี้”

ออสเท่น·รีเวลต์ถูกปลดออกจากตำแหน่ง? แผนการของสองพี่น้องรีเวลต์ถูกเปิดโปงแล้ว? หมายความว่า การที่สภานักสิทธิ์สนธยาส่งคนมาตักเตือนเรา—ไม่สิ ตักเตือนอมิรุส เป็นเพราะพวกมันทราบสิ่งที่อมิรุสกับน้องชายทำมาสักพักใหญ่ จึงอาศัยเส้นสายของพวกพ้องบางคนเพื่อโยกย้ายตำแหน่ง ขจัดภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น…

คำเตือนถูกส่งมาเมื่อวาน แต่วันนี้นายกเทศมนตรีคนใหม่เดินทางมาถึง ทำงานกันรวดเร็วมาก…

ไคลน์แปลกใจในตอนต้น จากนั้นก็เริ่มพบสาเหตุเบื้องหลัง

แน่นอน มันทราบดีว่าต้องทำตัวอย่างไรเมื่ออมิรุสเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ ไคลน์เดินครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะกล่าวเสียงขรึม

“เข้าใจแล้ว”

มันไม่พูดมากกว่านั้น และมิได้ออกคำสั่งใด เพียงสวมสีหน้าเคร่งเครียดภายใต้บรรยากาศอึมครึม

แต่ในความเป็นจริง ที่มันไม่ออกคำสั่งใด เป็นเพราะยังไม่ทราบว่าตนควรตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์ปัจจุบัน

จักรวรรดิแห่งอาหารเคยมีคำพังเพยว่า ‘นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว’ ไม่แน่ใจว่าโรซายล์ได้แปลงเป็นภาษาของโลกใบนี้หรือยัง…

ไคลน์รำพัน

ลัวอานยืนจ้องอมิรุสเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่กล่าวคำใด

ฟู่ว…

ชายหนุ่มเดินไปเดินมาอีกครั้ง เร่งคิดหาคำตอบว่า นายพลอมิรุสตัวจริงจะตัดสินใจอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้

เหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย จึงไม่มีการมอบคำแนะนำล่วงหน้าไว้ให้ ไคลน์ต้องแก้ปัญหาตามอุปนิสัยและกระบวนการความคิดของอมิรุสที่ตนทราบ

เขาเป็นพวกหัวเก่า สุขุมเยือกเย็น…

มีนิสัยเช่นนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่ยังเป็นผู้วิเศษลำดับกลางและต่ำ โดยไม่ว่าจะถูกโยกย้ายไปประจำการบนเรือรบลำใด ก็ไม่แทบเคยตัดสินใจอย่างบุ่มบ่าม…

กระบวนการความคิดเป็นไปตามแบบฉบับขุนนางใหญ่ของโลเอ็น เห็นความสำคัญของตระกูลมาก่อนเสมอ รองมาเป็นครอบครัว…

อมิรุสคือสุภาพบุรุษมาดสง่างาม ผู้มีเสน่ห์ดึงดูดเหล่าสตรีรอบตัว… ไม่สิ สิ่งที่ถึงดูดพวกเธอคงมิใช่ความสง่างามหรือบุคลิก แต่เป็นตำแหน่งและชาติกำเนิด หากให้ลิงบาบูนขนหยิกมีอำนาจบารมีในระดับเดียวกัน หญิงงามมากมายก็คงหลงเสน่ห์ไม่ต่าง—ไม่สิ ลิงบาบูนขนหยิกอาจได้รับความนิยมมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่เล่นมุกตลกล้าสมัย…

ไคลน์เค้นสมองอย่างหนัก พยายามคิดหาทางออกจากปัจจัยทุกแง่มุมรอบตัวนายพลอมิรุส

ผ่านไปพักใหญ่ มันได้ยินเสียงเคาะประตู

“เข้ามา” ชายหนุ่มทวีความตึงเครียด

เลขานุการผมทอง ลัวอาน เปิดประตูพร้อมกับชี้นิ้วไปด้านนอก

“ท่านนายพล มิสเตอร์ออสเท่นขอเข้าพบ”

ออสเท่นมาที่นี่ทำไม…?

เรียกร้องให้อมิรุสช่วยปกป้องตน?

คิดจะดิ้นรนจนตัวตาย?

ไคลน์หรี่ตา พบว่าคราวนี้มันถูกบังคับให้ต้องตัดสินใจในนามอมิรุส

ถ้าเป็นเขาจะทำยังไง… หลังได้รับคำเตือนจากสภานักสิทธิ์สนธยา อมิรุสคงทราบแล้วว่าแผนการของตนและน้องชายถูกเปิดโปง โดยอีกฝ่ายเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี… ด้วยนิสัยค่อนข้างหัวโบราณ เขาจะตัดสินใจแบบไหน…

แต่อมิรุสเห็นความสำคัญของตระกูลมาเป็นอันดับแรกเสมอ ในเอกสารที่บิลต์เตรียมไว้ให้เรา มีการเล่าถึงรายละเอียดของออสเท่นพอสมควร ส่วนมากเป็นความรักระหว่างพี่ชายกับน้องชายคนเล็ก… นายพลอมิรุสไม่สูบบุหรี่ ซิการ์ และจะดื่มเหล้าเฉพาะในงานเข้าสังคม หากไม่นับเรื่องที่มีภรรยารองมากมาย ชายคนนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ…

ให้ความสำคัญกับคนในตระกูลก่อนเสมอ…

ตระกูล…

ไคลน์เค้นสมองคิด ปล่อยจิตตัวเองให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายอมิรุสโดยสมบูรณ์ กลั่นกรองอารมณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายให้ตรงตามสภาพแวดล้อม

ตระกูล…

ในวินาทีนี้ ไคลน์กลายเป็นอมิรุสโดยสมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมิอาจหาข้อสรุปที่แน่ชัดให้กับสถานการณ์ปัจจุบัน

ผ่านไปสิบวินาทีแห่งความกดดัน ไคลน์เริ่มได้ยินเสียงอันเย็นชาดังจากก้นบึ้งหัวใจ

“แจ้งเขาว่าผมงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาให้เข้าพบ แล้วก็ รบกวนซื้อตั๋วเรือเดินสมุทรกลับเบ็คลันด์ให้เขาด้วย”

คล้ายกับลัวอานคาดเดาไว้แล้ว เพียงยืนมองโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“ครับ ท่านนายพล”

เมื่อเห็นลัวอานเดินออกจากห้องทำงานและตรงไปหาออสเท่น·รีเวลต์ ไคลน์ถอนหายใจยาวด้วยสีหน้าประหนึ่งมันคือนายพลอมิรุสตัวจริง

ชายหนุ่มเชื่อว่า ถึงจะให้อมิรุสกลับมาตัดสินใจแทน อีกฝ่ายก็คงทำแบบเดียวกัน

เพราะ ‘ตระกูล’ ต้องมาก่อนสิ่งใดทั้งหมด!

เมื่อแผนการถูกเปิดโปง คนอย่างอมิรุสไม่มีทางเดิมพันทุกสิ่งไปกับการต่อต้านศัตรูที่เตรียมตัวมาอย่างดี ทางเลือกดังกล่าวมีแต่จะนำพาตระกูลไปยังจุดจบ ขอเพียงรักษาตัวเองให้อยู่ในวงนอกไว้ได้ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ขอเพียงตัวมันยังเป็นครึ่งเทพ ยังเป็นนักสานกฎหมาย ถึงจะถูกปลดจากยศพลเรือเอกและตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือโซเนีย ตระกูลรีเวลต์ก็ยังเดินไปข้างหน้าได้

และการกำชับให้เลขาซื้อตั๋วเดินทางกลับกรุงเบ็คลันด์ คือเครื่องยืนยันว่าอมิรุสยังเป็นห่วงน้องชายคนเล็ก ออสเท่น·รีเวลต์ นัยว่ากำลังเตือนทุกคนทางอ้อม ห้ามใครฉวยโอกาสกับเขาคนนี้โดยเด็ดขาด

ผ่านไปหนึ่งนาที ลัวอานเดินกลับมารายงาน

“ท่านนายพล มิสเตอร์ออสเท่นกลับไปแล้ว”

อมิรุสให้ความสำคัญกับตระกูลก่อนเสมอ…

ไคลน์เงียบงันสักพัก หันไปทางลัวอานพร้อมกับถามเสียงแผ่ว

“เขาพูดอะไรไหม”

ลัวอานตอบตามจริง

“เขากล่าวว่า ท่านยังเย็นชาเหมือนเดิม”

ไคลน์ ผู้กำลังยืนฟัง ยกมุมปากเล็กน้อยจนยากจะสังเกตเห็น

อาจเป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณ แต่ในเมื่อไคลน์กำลังหลอมรวมเข้ากับตัวตนอมิรุส มันเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงเผยสีหน้าแบบเดียวกัน

และด้วยอารมณ์เดียวกัน

ตลอดทั้งวันที่เหลือ ไคลน์นั่งอยู่ในห้องทำงานโดยไม่มีใครเข้ามารบกวน ไม่ต้องจัดการกับกองเอกสาร มีเพียงการเข้ามารายงานสถานการณ์รอบเกาะโอลาวีจากลัวอานเป็นระยะ

จนกระทั่งนายกเทศมนตรีคนใหม่มาถึง ทางฝั่งไคลน์ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้น

ตกเย็น ชายหนุ่มยกเลิกคิวรับประทานอาหารที่เคยนัด ตรงกลับคฤหาสน์ทันที

เมื่อเห็นซินเธียออกมาต้อนรับ ไคลน์เดินเข้าไปสวมกอดแนบแน่น

มันเปล่งเสียงแผ่ว

“ออสเท่นถูกปลดจากตำแหน่ง”

ชายหนุ่มยังคงถอนหายใจด้วยสีหน้าเคร่งขรึมตามปรกติ เพราะความเจ็บปวดได้ถูกถ่ายทอดไปพร้อมกับน้ำเสียงเมื่อครู่จนหมดแล้ว

“ดิฉันพอจะทราบมาบ้างแล้วค่ะ ท่านนายพลไม่เป็นอะไรใช่ไหม…” ซินเธียถามเสียงสั่น

ไคลน์หลับตาลง พ่น ‘อืม’ ออกมาหนึ่งคำ

สำหรับนายพลหัวโบราณ สุขุมเย็นชา และเป็นห่วงน้องชาย นี่คือการแสดงออกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว

……………………