ตอนที่ 893

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ในขณะที่หม่าชิงเดินผ่าน ทุกคนต่างเปิดทางให้เขา และมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทนแรงกดดันของเขาได้

แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสของสำนักยังแอบพยักหน้าอยู่ในใจ ชายหนุ่มผู้นี้เป็นเหมือนราชาท่ามกลางเหล่าอัจฉริยะ!

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คำที่เรียกว่าราชาจะใช้กับอัจฉริยะที่โดดเด่นเท่านั้น มิฉะนั้นถ้าใช้บ่อยเกินไปจะทำให้คำว่าราชาดูไม่มีความหมาย

อย่างไรก็ตาม หม่าชิงควรค่าแก่การถูกยกย่องว่าราชา

“ข้าไม่คิดเลยว่าสำนักของเราจะได้รับศิษย์อย่างเขา!”

“ใช่แล้ว ตั้งแต่ที่สำนักนภาสีชาดฝ่ายเหนือของพวกเราไม่มีศิษย์ที่คู่ควรแก่คำว่าราชาถือกำเนิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในขณะช่วงเวลาไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมาสำนักนภาสีชาดฝ่ายใต้ ฝ่ายตะวันออกและฝ่ายตะวันตกต่างได้รับศิษย์ที่คู่ควรแก่คำว่าราชา และทิ้งพวกเราไว้เบื้องหลัง”

“ถึงแม้เขาจะไม่สามารถผ่านการทดสอบของหอคอยดาราขาวได้ ข้าก็จะรับเขาเป็นศิษย์ของข้าเอง!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาจะไม่สามารถขึ้นไปชั้นที่สามได้อย่างไร? เฒ่าจู เจ้าช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนักที่คิดจะเก็บเขาเป็นศิษย์ส่วนตัว!”

“เจ้าเห็นข้าเป็นคนแบบนั้นรึ?”

“แน่นอน!”

เมื่อได้ยินบทสนทนาของเหล่าผู้อาวุโส ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างพากันตื่นเต้น

ศิษย์ระดับราชา!

นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก แม้แต่ในอาณาเขตของจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ อัจฉริยะดังกล่าวหาตัวจับได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเทียบได้กับอัจฉริยะระดับสามดาว

หม่าชิงก้าวเข้าสู่หอคอยดาราขาวเก้าชั้น ในไม่ช้า หอคอยชั้นที่สามก็ส่องแสงสว่างไสวออกมาให้เห็น แต่หลังจากนั้นอีกไม่นานหอคอยชั้นที่สี่ก็ส่องแสงสว่างเช่นกัน

“เขาจะไปถึงหอคอยชั้นที่ห้าได้หรือไม่?”

ถ้าหม่าชิงพึ่งพาความสามารถของตัวเองเพื่อผ่านชั้นห้า มันจะเท่ากับว่าเขาเป็นอัจฉริยะระดับสองดาว และในอนาคตเขาอาจกลายเป็นอัจฉริยะระดับสามและสี่ดาวก็เป็นไปได้

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและขวา เจ็ดแม่ทัพ และเก้าผู้อาวุโส พวกเขาเป็นอัจฉริยะระดับสี่ดาว?”

“เจ้าพูดว่าไงนะ!”

ทุกคนรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องดังกล่าว และตะโกนเสียงดัง

“เรื่องจริงอย่างนั้นรึ?”

“เรื่องจริงแน่นอน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาฝึกฝนบ่มเพาะพลังมากี่ปีแล้ว?ตั้งแต่บรรพบุรุษของพวกเจ้ายังไม่เกิด พวกเขาก็เริ่มฝึกฝนบ่มเพาะพลังแล้ว ว่ากันว่าผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายมีอายุน้อยที่สุด ซึ่งปีนี้เขามีอายุมากกว่าแปดล้านปีแล้ว”

“แปด…มากกว่าแปดล้านปี? เจ้าแน่ใจหรือว่าข้อมูลของเจ้าไม่ได้ผิดพลาด อายุของเขาไม่ใช่แปดหมื่นปีหรือแปดแสนปีหรอกรึ?”

“เหลวไหล ในอดีตผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและขวาหรือเจ็ดแม่ทัพไม่เคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนกระทั่งจักรพรรดินีถือกำเนิดและทำให้พวกเขารวมเป็นหนึ่งได้สำเร็จ!”

“ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูด แล้วจักรพรรดินีจะเป็นอัจฉริยะกี่ดาวกัน?”

“ข้าไม่รู้และไม่มีใครเคยเห็นจักรพรรดินีมาก่อน!”่

“จะว่าไปข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดินีเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในโลก มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”่

“ชู่ว เจ้าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ มิฉะนั้นหัวของเจ้าอาจหลุดออกจากบ่าได้ทุกเมื่อ!”

“ข้าไม่ได้พูดอะไรไร้สาระ ข้าแค่ชื่นชมความงดงามของจักรพรรดินีเท่านั้น!”

หลังจากนั้นไม่นาน หอคอยดาราขาวชั้นห้าก็เริ่มส่องแสงสว่าง

ทันใดนั้นเอง สายตาของฝูงชนก็หันไปจ้องมองในทิศทางเดียวกัน

การที่ทำให้หอคอยชั้นที่ห้าส่องแสงได้นั่นหมายความว่าเขามีศักยภาพของอัจฉริยะระดับหนึ่งดาว และบวกกับความแข็งแกร่งของหม่าชิงแล้ว ในอนาคตเขาจะต้องกลายเป็นอัจฉริยะระดับสองดาวอย่างแน่นอน

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เหล่าผู้อาวุโสในตำหนักต่างหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุข ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบต้นกล้าที่แข็งแกร่ง ถ้าพวกเขาปลูกฝังให้ดีอาจเป็นไปได้ว่าหม่าชิงจะกลายเป็นอัจฉริยะระดับสามดาวหรือสี่ดาวในอนาคต

สีหน้าของหลัวป้าเริ่มมืดมนอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เขาเป็นดาวเด่น แต่ตอนนี้ทุกคนกลับให้ความสนใจหม่าชิงแทนเขา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกตบหน้า

“ฮ่าวเฟย เจ้าได้พบคู่แข่งของเจ้าแล้ว!” ชายชราคนหนึ่งกล่าวขึ้น

เฉิงฮ่าวเฟยจ้องมองไปที่ศาลาดาราขาวเก้าชั้นและพูดว่า “ท่านปู่ ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถขึ้นไปชั้นที่หกได้!”

“ถ้าเจ้าขึ้นไปได้ก็จะถือว่าเป็นอัจฉริยะระดับสองดาว และไม่ได้ด้อยไปกว่าหม่าชิง!” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้ามั่นใจหรือไม่?”

“ข้ามั่นใจ!” เฉิงฮ่าวเฟยกำหมัดแน่น เขาฝึกฝนหนักมานานกว่าสิบปีไปเพื่อะไร? ไม่ใช่ว่าเพื่อทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงหรอกหรือ?

ในอีกด้านหนึ่ง หลี่เหว่ยเหว่ยเองก็รู้สึกตกตะลึงและหันไปพูดกับหลิงฮันว่า “เจ้าโง่หลิง ตอนนี้เจ้ายังมีความมั่นใจอีกหรือไม่?”

“ทำไมจะไม่มี?” หลิงฮันยิ้ม

“หม่าชิงเป็นอัจฉริยะระดับหนึ่งดาว และด้วยความสามารถของเขาแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะระดับสองดาว” หลี่เหว่ยเหว่ยกล่าว

หลิงฮันพูดว่า “ข้ายังพูดยืนกรานคำเดิมว่าข้ามั่นใจ”

“หึ่ม ชายคนนี้ช่างเป็นคนที่พูดจาอวดดียิ่งนักทั้งที่มาจากโลกใบเล็ก เขาไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนกัน?” หลี่เหว่ยเหว่ยแทบจะบ้าเมื่อเห็นความมั่นใจแบบผิดๆของหลิงฮัน

“เจ้าโง่หลิง ข้าไม่สนใจเจ้าแล้ว!” หลี่เหว่ยเหว่ยด่าหลิงฮันและเลิกสนใจเขา

ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ส่งเสียงฮือฮาออกมา

“หอคอยชั้นที่หก…กำลังส่องแสง!”

“พระเจ้า!”

“เขาคืออัจฉริยะระดับสอง และถ้าบวกกับความสามารถของเขาแล้ว หม่าชิงจะถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะระดับสามดาว!”

“เขาเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดในรอบร้อยปีไม่ผิดแน่!”

“ไม่ใช่สิ แม้ว่าอัจฉริยะระดับสองดาวจะมีน้อย แต่เมื่อรวมกับความสามารถของเขาแล้ว ในสำนักนภาสีชาดฝ่ายเหนือ…ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในรอบพันปี!”

ทุกคนรู้สึกตกตะลึง และได้เป็นพยานการถือกำเนิดขึ้นของราชา

หลัวป้ากำหมัดแน่นกว่าเก่า ความแข็งแกร่งและความสามารถของอีกฝ่ายบดบังเขามิด ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากถึงขั้นปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ถ้าเขาสามารถฆ่าหม่าชิงได้ เขาก็จะกลายเป็นอันดับหนึ่ง

เฉิงฮ่าวเฟยเองก็กำหมัดแน่น แม้เขาจะมีความมั่นใจว่าจะผ่านหอคอยชั้นที่หกได้ แต่ก็ด้อยกว่าหม่าชิงอยู่ดี

โชคดีที่หม่าชิงไม่สามารถฝ่าขึ้นไปชั้นต่อไปได้อีกต่อไป และในไม่ช้าเขาก็เดินออกมาจากหอคอย

เขาล้มเหลวที่จะผ่านขึ้นไปชั้นที่เจ็ด

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าผู้อาวุโสรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่หม่าชิงไม่อาจผ่านเข้าสู่ชั้นต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามแค่นี้มันก็น่าพึงพอใจมากแล้ว

“เอาล่ะ คงถึงเวลาที่ข้าควรเข้าไปทดสอบบ้างแล้ว” หลิงฮันกล่าว