ตอนที่ 470 นี่เป็นการขู่ผม
เฉวียนหมิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ สองมือประสานกันวางบนหัวเข่า เอนพิงไปข้างหลัง มองดูฟางจื่อชิวตรงหน้าอย่างสงบนิ่ง “นี่คือจุดมุ่งหมายที่คุณมาพบผมวันนี้ใช่ไหม?”
ฟางจื่อชิวประสานสายตากับเฉวียนหมิง แล้วรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างประหลาด แต่ก็ยังผงกหัว เม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม “ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เราะฉันรู้ว่าคุณย่อมไม่ยอมแต่งงานในทันที แต่เราหมั้นกันก่อนได้”
จะอย่างไรเฉวียนหมิงกับอีลั่วเสวี่ยก็แต่งงานกันเงียบๆ ที่จริงมีคนรู้เรื่องเธอน้อยมาก ถ้าพวกเขาหย่ากันเงียบๆ ทุกคนก็จะคิดว่าเรื่องนั้นเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
“หมั้น?” สีหน้าเฉวียนหมิงเรียบเฉย น้ำเสียงไม่รุนแรง ฟังไม่ออกว่าดีใจหรือโมโห ใบหน้าเขาไร้ความรู้สึก ไม่มีใครรู้ว่าขณะนี้ในใจเขาคิดอะไรอยู่
“ใช่ ประกาศการหมั้น” ที่บอกว่าประกาศการหมั้นนั้นความจริงก็ไม่ต่างกับการแต่งงานนัก ด้วยอิทธิพลของสองตระกูลนี้ คงต้องเรียกประชุมนักข่าว ต่อให้ดำเนินไปอย่างเงียบที่สุดก็ยังต้องประกาศเรื่องนี้ออกไป
ไม่เช่นนั้นทุกคนจะไม่รู้ว่าสองตระกูลเป็นทองแผ่นเดีวกัน ที่เธอต้องการคือประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่าเฉวียนหมิงเป็นผู้ชายของเธอฟางจื่อชิว!
เฉวียนหมิงเห็นท่าทางฟางจื่อชิวเชื่อมั่นขนาดนี้ ก็ค่อยๆ ยืดตัวตรงขึ้น ยื่นมือออกไปยกถ้วยชาขึ้นมาจิบคำหนึ่ง แล้วจึงพูดช้าๆ “ผมไม่มีวันตกลงตามข้อเสนอของคุณ เชิญกลับไปได้” เฉวียนหมิงรักษามารยาท ไม่แสดงความเป็นปฏิปักษ์กับฟางจื่อชิว ยิ่งไม่ทำลายภาพพจน์ตนเองด้วยการพูดด่าทอเธอ
คำตอบนี้อยู่ในการคาดเดาของฟางจื่อชิว แม้เธอจะรู้สึกไม่พอใจบ้าง แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มจางๆ ในเมื่อเธอมาที่นี่ ย่อมคาดเดาถึงเรื่องนี้ได้
“อย่างรีบร้อนปฏิเสธ ยกเว้นคุณอยากเห็นเฉวียนกรุ๊ปล่มสลายเพราความดึงดันของคุณ สาเหตุเพราะผู้หญิงคนเดียว ทำอย่างนี้แล้วคุณไม่ผิดต่อปู่คุณหรือ?”
เฉวียนกรุ๊ปนั้นนายท่านผู้เฒ่าเป็นผู้สร้างขึ้นก่อน พ่อของเฉวียนหมิงรับช่วงระยะหนึ่ง ต่อมาเกิดเหตุร้ายกับพ่อเขา นายท่านผู้เฒ่าต้องบริหารต่อ จนภายหลังเฉวียนหมิงค่อยๆ สืบทอดต่อ
พอเฉวียนหมิงได้ยินเช่นนั้นดวงตาฉายแววโกรธเกรี้ยวออกมา “จะผิดหรือไม่ไม่ใช่ขึ้นกับการตัดสินของคุณ” คิดจะใช่ปู่มากดดันเขา ไม่มีทางเป็นไปได้ ทั้งเฉวียนกรุ๊ปก็จะไม่ล้มด้วย
เขาเฉวียนหมิงยังไม่อ่อนแอถึงขั้นที่ต้องอาศัยผู้หญิงคนหนึ่งมาบงการเฉวียนกรุ๊ป ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ด้วยนิสัยของปู่ จะยิ่งไม่ทำให้หลานตัวเองลำบากใจ ฟางจื่อชิวดีดลูกคิดพลาดแล้ว
ฟางจื่อชิวไม่พอใจที่เห็นเฉวียนหมิงยืนกรานไม่ตกลง “เฉวียนหมิง คุณไม่ยอมพิจารณาข้อเสนอของฉันจริงๆ หรือ จะยอมเสี่ยงงั้นหรือ?” ขณะนี้คนมากมายกำลังหมายตาเฉวียนกรุ๊ป ทันทีที่เริ่มเล่นงานเฉวียนกรุ๊ป จะมีคนมากมายแห่เข้ามาร่วมด้วย
“ไม่พิจารณา เชิญกลับไปได้” เฉวียนหมิงยื่นมือข้างหนึ่งออกไป ยังผายมือออกอย่างมีมารยาท ชี้นิ้วไปทางประตู
ใบหน้าฟางจื่อชิวไร้รอยยิ้มอย่างสิ้นเชิงแล้ว เธอจ้องเฉวียนหมิงไม่วางตา “ปฏิเสธฉัน จะทำให้ฉันโกรธมาก คุณย่อมรู้ถึงผลที่จะตามมา ธุรกิจสกุลฟางจะไม่ยกเลิกการตัดสินใจครั้งนี้”
“ตามสบาย” เมื่อต้องผิดใจกันก็จำเป็น จะได้ไม่ต้องคอยยิ้มให้เธอเมื่อเจอหน้ากัน
ฟางจื่อชิวหายใจเข้าลึกๆ ยกมือที่วางบนเข่าขึ้น “เฉวียนหมิง คุณจะยอมทำลายตัวเองเพื่อผู้หญิงคนนั้นจริงๆ หรือ? แต่งงานกับฉันมีอะไรไม่ดี จะช่วยเพิ่มอิทธิพลให้กับเฉวียนกรุ๊ป แต่ถ้าตรงกันข้าม เฉวียนกรุ๊ปจะถูกรุมกินโต๊ะ”
เฉวียนหมิงหรี่ตาลง สีหน้ากร้าว “พูดแบบนี้ เป็นการขู่ผมหรือ?”
“ไม่ใช่ขู่ เป็นการหารือ เฉวียนกรุ๊ปหรือผู้หญิงคนนั้น พูดตรงๆ ก็คือเลือกฉันหรือเลือกเธอ” ฟางจื่อชิวพูดอย่างมั่นใจ
ตอนที่ 471 เธอคู่ควรตรงไหน
เมื่อมีการสนับสนุนของฝานเจียวเจียว รวมทั้งอีกหลายกลุ่มธุรกิจในเมืองเอฟที่หมายตาเฉวียนกรุ๊ปลงมือเล่นงานพร้อมกัน ครั้งนี้เธอมั่นใจมากว่าจะต้องชนะ แต่ถ้าเฉวียนหมิงยอมตกลง ก็จะยุติเรื่องนี้ลง
สำหรับคนเหล่านั้นเธอคิดไว้แล้วว่าจะให้ผลประโยชน์อะไรพวกเขา ถึงตอนนั้นเมื่อเฉวียนกรุ๊ปและธุรกิจสกุลฟางร่วมมือกัน จะกลายเป็นกลุ่มทุนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเอฟ
ถึงตอนนั้นเธอในฐานะคุณนายท่านประธานของเฉวียนกรุ๊ป จะเป็นเหมือนราชินี ยังได้ครอบครองคนรูปหล่ออย่างเฉวียนหมิงด้วย
“เลือกคุณ…เป็นไปไม่ได้หรอก” เฉวียนหมิงเอ่ยขึ้น แววตาดูแคลน คำพูดเขาทำให้รอยยิ้มที่เพิ่งผุดขึ้นบนใบหน้าฟางจื่อชิวแข็งทื่อทันที พอฟังจบเธอโมโหจนควันแทบออกมาจากหู
“เฉวียนหมิง! ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี เธอก็แค่ลูกเลี้ยงของบริษัทเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย เธอไม่สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้ ถ้าพูดแบบไม่เกรงใจ เธอคู่ควรกับคุณตรงไหน?”
เธอไม่เข้าใจหรอก เฉวียนหมิงมีสายตาอย่างไร เดิมคิดว่าเขาจะมีสายตาสูงมาก ใครจะคาดคิดว่าพอเลือกเข้าจริงๆ กลับเลือกผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเทียบกับเธอได้ เธอไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!
เฉวียนหมิงฟังฟางจื่อชิวพูดจบ สีหน้าหมองคล้ำลงทันที แต่พอเขาคิดถึงอีลั่วเสวี่ย ก็รู้สึกอ่อนโยนลง “เธอไม่ใช่จุดบอด เธอคือประภาคารสำหรับผม ที่บอกว่าเป็นประภาคารก็คือความเชื่อมั่น เป็นเทพีแห่งแสงส่วางที่คอยชี้ทิศทาง”
ฟางจื่อชิวฟังแล้วยิ่งโมโห “เฉวียนหมิง ฉันให้เวลาคุณไตร่ตรองหนึ่งวัน หย่ากับเธอซะ ฉันจะรอข่าวจากคุณ”
เธอทนไม่ไหวแล้ว คว้ากระเป๋าถือแล้วเดินออกไป น่าโมโหจริงๆ ถึงกับพูดอย่างไม่ปิดบังว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นประภาคาร น่าหัวเราะ พอถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่ประภาคารเลย แม้แต่แสงสว่างสายหนึ่งก็ไม่มี!
ถ้าเฉวียนหมิงยังคงยืนกรานต่อไป งั้นก็อย่าโทษเธอที่ต้องแสดงอำนาจให้เขาเห็นบ้าง ผู้ชายหรือ ต้องให้เขาหัวชนฝาบ้าง จึงจะรู้ว่าที่เธอเสนอนั้นดีแค่ไหน
“คุณฟางเดินทางปลอดภัยครับ” เหล่าเกายืนอยู่ข้างประตู พอเห็นเธอเดินออกมา ก็รีบเปิดประตูให้ ท่าทางนอบน้อมมาก ที่จริงหลังจากที่เธอเข้ามาในบ้านแล้ว แม้แต่น้ำเย็นเธอก็ยังไม่ได้ดื่ม แต่ต้องกลับไปพร้อมกับเพลิงโทสะเต็มอก
“หึ!” ฟางจื่อชิวสวมรองเท้าส้นสูง แล้วผละออกไปด้วยความโมโห
เหล่าเกาเดินมาตรงหน้าเฉวียนหมิง “นายน้อยครับ เมื่อกี้ได้ข่าวจากทางสายการบินว่านายน้อยหญิงจองตั๋วเครื่องบินกลับมาแล้ว ต้องปิดบังเรื่องนี้กับเธอไหมครับ?”
เฉวียนหมิงยิ้มพลางสั่นหัว “ไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เป็นไปเอง ปิดไม่อยู่หรอก” คุณย่อมรู้ดีว่าอีลั่วเสวี่ยมีความสามารถระดับไหน มีบางเรื่องที่เขาไม่รู้ แต่อีลั่วเสวี่ยกลับมีความสามารถที่จะรู้ได้เอง
ด้วยศักยภาพของเธอ มีเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้บ้าง
“ครับ นายน้อย” เหล่าเกาพูดจบก็ผละออกไป ไปจัดการงานในหน้าที่
หลังจากเหล่าเกาไปแล้ว เฉวียนหมิงนั่งเอนไปข้างหลัง หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า เขาถอนหายใจหนักๆ แม้จะไม่ถึงกับจะทำให้เฉวียนกรุ๊ปล้มลงได้ แต่การรบกวนของอีกฝ่ายทำให้เขาลำบากเป็นพิเศษ
จะอย่างไรอีกฝ่ายมีทั้งธุรกิจสกุลฟางและซีเหมินหลงเซี่ยวแห่งไหลย่ากรุ๊ป รวมทั้งมั่วเฉินเซวียนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง คนกลุ่มนี้ไม่เพียงมีเจตนาร้าย ยังใช้วิธีการที่นอกเหนือจากการแข่งขันกันทางธุรกิจอย่างปกติ ทำให้มีความยากเพิ่มขึ้น
แต่เขาไม่ได้นึกกลัว คนเราเมื่อเดินอยู่ริมแม่น้ำ รองเท้าจะไม่เปียกเลยหรือ ต่อให้วันนี้ไม่มีธุรกิจสกุลฟางก็อาจมีกลุ่มธุรกิจอื่น เพียงคนกลุ่มนี้มีข้อตกลงกัน ลงมือเล่นงานบริษัทเขาพร้อมกัน
อีกด้านหนึ่งอีลั่วเสวี่ยออกจากสำนักแพทย์โบราณแล้ว เรียกรถแท็กซี่ไปสนามบิน เตรียมขึ้นเครื่องบินกลับเมืองเอฟ เธอจองตั๋วล่วงหน้าแล้ว
“ไปสนามบิน” เธอเรียกรถได้แล้ว นั่งลงที่เบาะหลัง เพิ่งนั่งลงไปมือถือก็ดังขึ้น