EG บทที่ 769 ถูเฮ้า (ผู้ร่ำรวย)
“คุณลูกค้าครับ..มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ?”
พนักงานประจำร้านขายสัตว์เลี้ยงเอ่ยทักเฝิงหยู่ด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ผมอยากได้ลูกสุนัขสักตัว..คุณช่วยพาผมไปดูหน่อยสิครับ”
“ได้เลยครับ!..ตามผมมาได้เลย..ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ากำลังมองหาสุนัขพันธ์ไหนหรือครับ? จะเป็นสายพันธ์ขนาดใหญ่ ขนาดกลางหรือว่าขนาดเล็ก..คุณชอบสุนัขขนสัตว์หรือว่าขนยาว..หรือว่าตอนนี้คุณลูกค้ามีสายพันธุ์ในใจอยู่แล้วครับ? อยากได้เป็นเพศผู้หรือเพศเมียหรือครับ?”
พนักงานเอ่ยถามเฝิงหยู่คร่าวๆในขณะที่พาเดินชมไปรอบๆร้าน
“โฮ่งโฮ่ง!!!”
“โฮ่งโฮ่ง!!! บรู้วววว!!!”
เฝิงหยู่มองไปรอบๆร้านและมองเห็นสุนัขพันธุ์คอเคเซียนเชพเพิร์ดขนสีขาวอยู่ในกรง ไม่ไกลกันนักมีสุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูลอยู่ในกรงอีกตัวหนึ่ง
ให้ตายเถอะ! สุนัขพวกนี้เป็นสายพันธุ์นักสู้ ใครจะเอาไปเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อแก้เหงากันล่ะ?
“คุณลูกค้าครับ..คุณชอบสุนัขพันธุ์ใหญ่ใช่มั้ยครับ? คุณมีเด็กที่บ้านหรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้นผมไม่ขอแนะนำให้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้นะครับ..และทางเราเองก็ยังไม่มีลูกสุนัขของสายพันธุ์นี้เช่นกัน..สุนัขพันธุ์นี้ค่อนข้างฝึกยากนะครับหากจะเอาไปเลี้ยงตอนที่พวกมันตัวโตขนาดนี้แล้ว”
พนักงานในร้านเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเฝิงหยู่มองไปที่สุนัขพันธุ์พิทบูล
“ไม่เป็นไรครับ..ผมก็ไม่อยากได้พันธุ์นี้เช่นกัน..คุณพอจะมีสุนัขพันธุ์ที่ดูฉลาดและเป็นมิตรหรือเปล่าครับ?”
“ถ้าคุณลูกค้าสนใจสุนัขที่ฉลาดๆล่ะก็? ผมขอแนะนำเป็นสก๊อต คอลลี่..พวกมันค่อนข้างฉลาดและก็มีขนยาวเหมาะที่จะเลี้ยงในอากาศหนาวครับ..หากคุณต้องการสุนัขพันธุ์ใหญ่กว่านั้นโกลเด้นริทรีฟเวอร์ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่ง..พวกมันค่อนข้างฝึกง่ายและก็สามารถเล่นกลง่ายๆได้ดีเลยล่ะครับ..ทางร้านเรามีลุกสุนัขทั้งสองสายพันธุ์..อีกอย่างผมยังพอที่จะแนะนำครูฝึกสุนัขเพื่อช่วยฝึกสุนัขของคุณลูกค้าได้อีกด้วยนะครับ”
ลูกสุนัขกำลังกลิ้งไปมาอยู่ในกรงขนาดใหญ่ บางตัวก็พยายามที่จะปีนขึ้นมาด้านบนของกรง อย่างไรก็ตามลูกสุนัขพวกนี้กล้ามเนื้อไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้นเมื่อปีนขึ้นมาได้ไม่เท่าไหร่ก็ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า หนึ่งในลูกสุนัขที่พยายามปีนกรงอย่างกระตือรือร้นดึงความสนใจจากเฝิงหยู่ได้เป็นอย่างดี
“ลูกสุนัขตัวนั้นราคาเท่าไหร่ครับ?”
“80 ดอลลาร์ครับ..ลูกสุนัขพวกนี้ถูกฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว..หากคุณสนใจเราสามารถเตรียมเอกสารให้คุณลูกค้าได้ทันที”
ลูกสุนัขตัวนี้มีราคาถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐเลยเหรอ? ค่าครองชีพในสหรัฐอเมริกาถือว่าสูงมากโดยค่าครองชีพขั้นต่ำก็ไม่ได้มีราคาที่ถูกเลยสักนิด แน่นอนว่าร้านขายสัตว์เลี้ยงพวกนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนจนอยู่แล้ว นั่นคือสาเหตุที่ลูกสุนัขพวกนี้มีราคาที่แพงกว่าในประเทศจีน
“ผมขออาหารเม็ด ชามข้าว คอกสุนัข ของเล่นเพิ่มด้วยแล้วกันนะครับ..จำนวนเงินเท่านี้พอหรือเปล่า?”
เฝิงหยู่หยิบธนบัตรรวมๆแล้วจำนวน 100 ดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าเงินจากนั้นก็ยื่นมันให้กับพนักงานขายทันที
“พอครับๆ! สุนัขตัวนี้เหมาะกับคุณมากๆเลยล่ะครับ..คุณสามารถเอามันไปเลี้ยงไว้ที่สนามหลังบ้านก็ได้..เดี๋ยวผมจะไปเตรียมพวกอาหารเม็ดและอุปกรณ์ต่างๆให้นะครับ..ผมรับประกันว่าสุนัขของคุณจะต้องชอบของที่ผมเตรียมให้อย่างแน่นอน..อ้อ!? คุณตั้งชื่อมันไว้หรือยังครับ? เราต้องใช้ชื่อของมันเพื่อจัดเตรียมเอกสารครับ”
เฝิงหยู่ตอบกลับทันที
“ถูเฮ้า[*]..ชื่อของมันคือถูเฮ้าครับ!” [*ภาษาอังกฤษแปลมาว่า Rich Man*]
ถูเฮ้าร่ำรวยดุจทองคำ! ช่างเป็นชื่อที่เป็นมงคลยิ่งนัก!
“ทู..ฮาว..เอ่อ..คุณแน่ใจนะครับ?”
พนักงานขายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ใครจะไปตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของตนว่าทูฮาว (Too How)กันล่ะ?
“แน่ใจสิครับ..มันเป็นชื่อภาษาจีนน่ะ..ภาษาจีนค่อนข้างซับซ้อนและความหมายก็ดีมากๆ..ไม่แปลกหรอกครับถ้าคุณจะไม่เข้าใจ”
เฝิงหยู่ตอบพร้อมกับเอามือไขว้หลัง
“อ่า..อย่างนี้นี่เอง..ถ้าเช่นนั้นนั้นคุณลูกค้าช่วยแจ้งที่อยู่และรายละเอียดการติดต่อกลับให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ..เอกสารทั้งหมดจะถูกส่งไปยังที่อยู่ที่คุณให้ไว้ภายใน 3 วัน..ส่วนนี้คือใบอนุญาตแบบชั่วคราวคุณสามารถเก็บมันไว้ได้เลยนะครับ”
เฝิงหยู่เข้าไปในรถพร้อมกับอุ้มถูเฮ้าไว้ในอ้อมแขน
“เจ้าหมาน้อยถูเฮ้า..โตขึ้นไปแกต้องเป็นเด็กดีและคอยอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้ฉันนะ”
ลูกสุนัขตัวน้อยเห่ารับเบาๆก่อนจะเลียมือของเฝิงหยู่เล่นราวกับเข้าใจในสิ่งที่เฝิงหยู่พูด
.
.
“คุณเฝิง..นั่นลูกสุนัขของคุณหรือคะ?” เจ้าอี้หญิงเอ่ยถามเฝิงหยู่ทันทีที่เขากลับมาถึงบ้าน เธอรู้สึกตกหลุมรักลูกสุนัขตัวน้อยทันที
“ใช่ครับ..ผมรู้สึกว่าบ้านหลังนี้เหมือนขาดอะไรบางอย่างไปก็เลยตัดสินใจไปซื้อมันมา”
“แล้วมันชื่อว่าอะไรหรือค่ะ?”
“ถูเฮ้า”
“ถูเฮ้า?”
เจ้าอี้หญิงรู้สึกตกใจกับชื่อที่เฝิงหยู่ตั้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายหนุ่มของเธอถึงตั้งชื่อลูกสุนัขด้วยชื่อนี้
เฝิงหยู่ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆของเจ้าอี้หญิง แม้แต่คนจีนก็ไม่เข้าใจอารมณ์ขันของฉันด้วยเหรอ? เขารู้สึกว่าตัวเองได้ทำอะไรบางอย่างที่ตลกๆออกไปแต่กลับไม่มีใครขำกับมุขตลกของเขาเลยสักคน
“ใช่ครับ มันชื่อว่าถูเฮ้า..มันก็เป็นแค่ชื่อเท่านั้นอย่าไปคิดอะไรมากเลยครับเจ้เจ้า..เฮียเถียนครับมาช่วยผมเอาสุนัขตัวนี้เข้าบ้านหน่อย”
เฝิงหยู่ตะโกนเรียกเถียนต้าจุน
เมื่อปล่อยให้เถียนต้าจุนจัดการลูกสุนัขของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เฝิงหยู่ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากราล์ฟ เขาแจ้งว่าตัวเองไม่สามารถรับมือกับมันได้อีกแล้ว มีสายโทรศัพท์มากกว่า 30 สายติดต่อไปยังสำนักงานซึ่งปลายสายทั้งหมดล้วนเป็นคนของบริษัทผลิตเครื่องพีซีและพวกเขาต้องการพูดสายกับเฝิงหยู่โดยด่วน
หากเฝิงหยู่ยังทำเป็นไม่สนใจต่อกลุ่มคนเหล่านี้ มันจะถูกแจ้งไปยังบอร์ดบริหารและมันจะส่งผลประทบต่อตัวเฝิงหยู่เอง เฝิงหยู่จึงตอบกลับไปด้วยความเกียจคร้าน
“โอเคๆๆ..ผมเข้าใจแล้ว..เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้เอง.ว่าแต่?คุณได้ข้อมูลที่ผมขอไปหรือยัง?”
ในชีวิตก่อนของเฝิงหยู่ซีแอตเทิลเป็นที่ตั้งของบริษัทอินเตอร์เน็ตชั้นนำของโลก มีบริษัทใหญ่ๆมากมายที่จดทะเบียนขึ้นที่นี่และแน่นอนว่ามันต้องมีคนเก่งและมีฝีมือเป็นจำนวนมาก
เฝิงหยู่ต้องการจ้างคนที่มีความสามารถเหล่านี้หรือไม่ก็มองหาบริษัทที่มีศักยภาพมากพอที่จะลงทุนด้วย ถ้าเขาสามารถลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพพอๆกับอาลีบาบาหรือซอฟต์แบงค์ล่ะก็? ความรู้สึกของเขาคงไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
เฝิงหยู่ยังไม่มีแผนที่จะลงทุนทำธุรกิจแบบเต็มรูปแบบในขณะที่เขาพักอยู่ในอเมริกา เขาแค่จะลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเท่านั้น
วินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเฝิงหยู่โดยใช้เงินลงทุนทั้งหมดเพื่อซื้อหุ้นในธุรกิจภาคเทคโนโลยีของประเทศอเมริกา หุ้นเหล่านี้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นในทุกวัน ซึ่งถือเป็นข้อบ่งชี้ว่ามันคือจุดเริ่มต้นของการเติบโตในภาคธุรกิจนี้
ศักยภาพของของวินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งพิสูจน์ได้จากการที่พวกเขาสามารถสร้างรายได้ให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก คนเหล่านี้ต่างยินดีที่จะให้วินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งเป็นคนบริหารจัดการเงินให้กับพวกเขา วินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งสามารถดึงดูดลูกค้าด้วยการทุ่มเงินลงทุนให้สูงขึ้น พวกเขาแค่ต้องการให้ลูกค้าเห็นถึงศักยภาพของบริษัทและทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น
เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่าวินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งสามารถทำกำไรได้มากขึ้น พวกเขาก็จะสนใจที่จะมาเปิดบัญชีเพื่อทำการซื้อขายหุ้นกับพวกเขา ตอนนี้วินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำในการซื้อขายหุ้นในฮ่องกง บริษัทของพวกเขาแทบจะเทียบได้กับบริษัทของฟู่หรงฉีด้วยซ้ำ
หากวินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งใช้เงินลงทุนทำการซื้อขายหุ้นทั้งหมดแน่นอนว่าตลาดหุ้นจะได้รับผลกระทบและมันก็คือเป้าหมายที่เฝิงหยู่วางเอาไว้ เขาต้องการให้วินด์แอนด์เรนคอนซัลติ้งมีชื่อเสียงโด่งดังและทำให้คนจำนวนมากสนใจนำเงินของตนเองมาลงทุนซื้อหุ้นกับพวกเขา ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถรวบรวมเงินได้เป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 1997ที่จะมาถึง!
นี่คือแผนสำรองที่เฝิงหยู่วางเอาไว้
ทรัพย์สินของเฝิงหยู่ไม่ได้มีสภาพคล่องนัก แต่ถ้าเขาต้องการเงินสดเขาก็สามารถดึงออกมาจากบริษัทต่างๆของเขาหรือไม่ก็ใช้หุ้นที่มีในแต่ละบริษัทนำไปกู้เงินกับธนาคาร
[“ผมได้รายชื่อบริษัทที่จดทะเบียนมาแล้วครับ..ข้อมูลนี้ผมได้มาจากเพื่อนอีกที..ว่าแต่รายชื่อพวกนี้บอสจะเอาไปทำอะไรหรือครับ?”]
“คุณไม่ต้องไปสนใจเรื่องนี้หรอกครับ..เอาเอกสารวางไว้ที่โต๊ะของผมได้เลย..พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปดูอีกที”
หลังจากวางสายจากราล์ฟ เฝิงหยู่ก็ไปดูลูกสุนัขของตนเอง ตอนนี้บ้านหลังเล็กของมันได้ถูกสร้างขึ้นในสวนหลังบ้าน เฝิงหยู่หย่อนร่างของถูเฮ้าลงในบ้านของมันก่อนจะวางชามอาหารและชามน้ำไว้ข้างๆ
“โตไวๆนะเจ้าหนูถูเฮ้า..”