ตอนที่ 5 โดย ProjectZyphon
ตอนนั้นเอง
“คะ แคลนลอร์ดเมอร์เซนต์นารี่”
“…”
ผมคิดว่าหล่อนคงจะเงียบลงไปแล้วแต่หล่อนกลับพูดขึ้นอีกครั้ง
“คะ แคลนลอร์ดเมอร์เซนต์นารี่! มะ มีใครอยู่ข้างหลังก็ไม่รู้ค่ะ!”
“ครับ…?”
แต่สิ่งที่หล่อนพูดออกมานั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผมตกใจได้ ผมดึงพลังเวทของตนขึ้นมาก่อนจะหันกลับไปด้านหลัง ผมรับรู้ว่ามีใครบางคนกำลังยืนอยู่เงียบๆ ไม่ผิดแน่
ความจริงแล้วผมกำลังให้ความสนใจอยู่กับสิ่งอื่น จนทำให้ผมไม่สามารถใช้งานพลังเวทของผมได้ แต่ถึงแม้จะพูดแบบนั้น แต่การที่สัมผัสที่หกของผมไม่สามารถรับรู้การมาของเขาได้ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายจะต้องมีพลังสูงมากแน่ๆ
ผมหันกลับไปในทันที และตัวตนของผู้มีความสามารถคนนั้นก็ค่อยๆ เข้ามาสู่สายตาของผมทีละนิด
ผมยาวสลวย ใบหน้าเรียวรูปไข่ ริมฝีปากอวบอิ่ม เอวคอดสวย ขาเรียวยาวและผมยังรู้สึกได้อีกว่าดวงตานิ่งเฉยและเย็นชานั้นกำลังจับจ้องมาทางผมโดยตรงอีกด้วย
“แคลนลอร์ดเมอร์เซนต์นารี่”
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยินเสียงของหล่อน
แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรกลับไป ริมฝีปากของนักดาบสาวก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ
“มาคุยกันหน่อยสิคะ”
ถึงแม้น้ำเสียงของนัมดาอึนจะฟังดูเรียบเฉยและเย็นชาแต่ก็เป็นน้ำเสียงที่ไพเราะมากๆ เลยเช่นกัน
* * *
“ครั้งนี้ฉันไม่ค่อยเห็นด้วยกับญัตติครั้งนี้เท่าไหร่นะคะ”
ความเงียบปกคลุมไปทั้งห้องประชุมชั่วคราวหลังจากซอนยูล นักมายากลไพ่ทาโร่ต์พูดจบลง หล่อนมองไปรอบๆ ด้วยแววตาที่เป็นประกายลึกลับก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโอบอ้อมอารี
“เหล่าผู้ที่มีพลังวิเศษถูกพามารวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ หนึ่ง บางที่เพื่อเตรียมพร้อมตั้งรับตัวแปรที่เราเองก็ไม่อาจรู้ได้ นี่มันดูเหมือน…กลุ่มคนที่รอจังหวะภายในห้านาทีเลยไม่ใช่เหรอคะ”
กลุ่มที่รอจังหวะภายในห้านาที ไม่ว่าจะมองอย่างไรที่หล่อนพูดก็ไม่ได้ถือว่าผิด แต่ถ้าหากปัญหามันจะอยู่ที่น้ำเสียงที่หล่อนใช้นั้นฟังดูเหมือนแฝงการเย้ยหยันไว้อย่างน่าประหลาด มันก็คงจะเป็นปัญหานั่นแหละ
“หืม ผู้เล่นซอนยูล ผมคิดว่าคุณจะรู้เมื่อคุณไปถึง แต่กรณีนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประการด้วยกันครับ”
“มีกับไม่มี”
เมื่อซอนยูลพยักหน้าราวกับว่ารู้ทุกอย่างอยู่ก่อนแล้ว แคลนลอร์ดโครยอก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้จะสบายใจนัก
“ใช่ครับ ในกรณีหลังมันอาจจะไม่เป็นปัญหา แต่ในกรณีก่อนหน้านั้น ผมว่าเราควรเตรียมตัวให้พร้อมเข้าไว้นะครับ บาร์บาร่าเป็นสถานที่ที่ไม่ได้ต่างจากห้องรับแขกของทวีปทางเหนือเลย และพวกเรามีพลังทางวัตถุที่เหนือกว่ามาก แต่ถึงอย่างนั้นที่พวกนั้นยังไม่ออกไปก็มีความเป็นไปได้สูงที่พวกนั้นจะมีหนทางหรืออะไรบางอย่างอยู่ก็ได้นะครับ ดังนั้นการเตรียมพร้อมให้รอบคอบกับสถานการณ์ที่เราคาดการณ์ไม่ได้…”
“แคลนลอร์ดโครยอ? ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อนะคะ และฉันก็คิดว่าการเตรียมพร้อมเป็นสิ่งที่ดีแต่เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นที่ฉันต้องการจะพูดถึงหรอกค่ะ”
แม้ว่าแคลนลอร์ดโครยอจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ซอนยูลก็ไม่ยอมละทิ้งความตั้งใจเดิมของตนเอง ในระหว่างที่ผมกำลังตั้งใจฟังทั้งสองอยู่นั้น ผมก็เกิดสงสัยเรื่องข้อมูลผู้เล่นของหล่อนขึ้นมา
“มันก็ดีที่จะทำนะคะ แต่ทำไมจึงต้องเลือกกำลังคนที่ต่างก็มีหน้าที่จัดแถวกองทัพแต่ละทัพในตอนนี้ล่ะค่ะ เท่าที่ฉันพอจะรู้ จำได้ว่ามีการพูดถึงเรื่องการจัดทัพมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางกันมากมายเลย…ไม่ใช่อย่างนั้นหรือคะ”
“อืม…”
“นี่ก็หลายวันแล้วที่ออกจากเมืองมา และตอนนี้เราก็เกือบจะผ่านครึ่งทางกันแล้ว ฉันขอยกตัวเองเป็นตัวอย่างแล้วกัน ฉันกำลังจะคุ้นเคยกับการบัญชาของทัพที่ฉันสังกัดอยู่แล้วแต่จู่ๆ ก็มาบอกให้ฉันมารวมกับอีกกลุ่มเสียอย่างนั้น ถึงจะยอมให้ร้อยครั้ง แต่ฉันคิดว่าแม้จะเป็นครั้งที่สองก็ตามแต่ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นในหมู่ผู้เล่นบางคนที่ทำตามคำบัญชาการในตอนนี้อยู่ก็ได้นะคะ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการจะนำแนวทางนี้ไปบังคับใช้จริง ไม่ใช่ว่าคุณควรจะนำไปใช้เท่าที่มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทัพในตอนนี้หรอกหรือคะ”
ราวกับว่าได้พูดในสิ่งที่ต้องการไปทั้งหมดแล้ว ซอนยูลจึงหยุดพูดไปสักพักก่อนจะค่อยๆ ยกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวนอย่างที่สุด
“ถึงแม้มันจะมากเกินไปหน่อยที่ฉันพูดแบบนี้แต่…แค่ทุกท่านที่อยู่รอบๆ ตอนนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมาได้นะคะ โฮะๆ”
“น่ารังเกียจจริงๆ ยัยหมูตัวเมียอับโชค”
ในตอนนั้นเอง ผมก็ต้องหันไปมองทางด้านข้างที่ได้ยินเสียงที่ฟังดูอ่อนเยาว์พูดแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ
ตอนนี้น่าจะอายุสักสิบเจ็บสิบแปดได้ล่ะมั้ง และผมก็ได้เห็นแคลนลอร์ดรีเวิร์สนั่งกอดอกอยู่ข้างๆ ผมนี่เอง ดูจากที่หล่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แบบนี้แล้ว ผมคิดว่าหล่อนดูจะไม่ค่อยชอบใจนักมายากลไพ่ทาโร่ต์เท่าไหร่นักและนั่น การที่หล่อนนั่งสั่นขาถี่ๆ แบบนั้นช่างเป็นท่าทางที่ดูไม่มีมารยาทเอาเสียเลย
ผมมองไปที่ซอนยูลอีกครั้ง หล่อนคือผู้นำคนปัจจุบันของกองพันที่สาม, กองกำลังของคลาสนักเวท ซึ่งได้รับการประเมินให้เป็นกองกำลังที่สำคัญที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดของทั้งกองทัพในตอนนี้
คำพูดของซอนยูลนั้นมีความหมายว่า ‘อย่าเลือกคนที่ไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับงาน แต่ให้พุ่งเป้าไปเลือกคนที่เล่นอยู่โดยรอบเสียจะดีกว่า’
ดังนั้นผมจึงพอจะเข้าใจได้ว่าเหตุใดปฏิกิริยาของแคลนลอร์ดรีเวิร์สถึงได้ออกมารุนแรงขนาดนี้ แม้หล่อนจะเป็นลอร์ดของเผ่าที่มีขนาดใหญ่โต แต่หล่อนก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การบัญชาการของใคร เช่นเดียวกันกับผม
หรือเธอจะคิดว่าการได้นำทัพนั้นทำให้เธอมีอำนาจมหาศาลหรือเปล่านะ
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะสู้อย่างไรในสงครามต่างหากล่ะ ผมขำเบาๆ ในใจก่อนจะเปิดใช้งานดวงตาที่สาม
ข้อมูลผู้เล่น (Player Status)
1. ชื่อ (Name) : ซอนยูล (ปีที่ 6)
2. คลาส (Class) : นักมายากลไพ่ทาโร่ต์ (Secret, Tarot Card Magician, Master)
3. ถิ่นกำเนิด (Nation) : บาร์บาร่า
4. ชนเผ่า (Clan) : หอคอยแห่งเวทมนตร์ (Magic’s Tower, Clan Rank : A Plus)
5. นามแท้ · สัญชาติ : แม่มดเจ้าเสน่ห์ผู้เฉยชา · เกาหลีใต้
6. เพศ (Sex) : หญิง (28)
7. ส่วนสูง · น้ำหนัก : 170.8 ซม. · 54.6 กก.
8. อุปนิสัย : สุภาพสตรี · ลามก (Lady · Obscene)
[พละกำลัง 42] [ความทนทาน48] [ความคล่องแคล่ว 72(+2)] [ความแข็งแกร่ง 56] [พลังเวท 98(+4)] [โชค 86]
(คะแนนความสามารถคงเหลือ 0 พอยต์)
[เปรียบเทียบทักษะ]
1. คิมยูฮยอน : คะแนนรวมทั้งหมด 537 พอยต์
(คะแนนความสามารถคงเหลือ 0 พอยต์)
[พละกำลัง 70] [ความทนทาน 81] [ความคล่องแคล่ว 91(+3)] [ความแข็งแกร่ง 97] [พลังเวท 97(+2)] [โชค 95(+1)]
2. ซอนยูล : คะแนนรวมทั้งหมด 402 พอยต์
(คะแนนความสามารถคงเหลือ 0 พอยต์)
[พละกำลัง 42] [ความทนทาน48] [ความคล่องแคล่ว 72(+2)] [ความแข็งแกร่ง 56] [พลังเวท 98(+4)] [โชค 86]
…?
เมื่อผมได้เห็นข้อมูลผู้เล่นของซอนยูลผมก็เกิดสงสัยขึ้นมา แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นแบบนั้น แต่ชื่อจริงและแนวโน้มคือจุดที่เด่นที่สุดอย่างแท้จริง
มองจากภายนอกไม่รู้เลยนะนี่ เพราะแบบนี้ไงฉันถึงได้ชอบดวงตาที่สาม
และในตอนนั้นเอง ขณะที่ผมกำลังนึกชื่นชมประโยชน์ของดวงตาที่สามของตนเอง เสียงของแคลนลอร์ดโครยอก็ได้ปลุกผมออกจากภวังค์
“เฮ้อ คำพูดนั้น ความจริงก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่เหมือนกันนะครับ”
ถึงแม้น้ำเสียงที่แสดงออกอาจจะดูรุนแรงไปบ้าง แต่ก็อย่างที่แคลนลอร์ดโครยอพูด สิ่งที่ซอนยูลพูดออกมาก็ใช่ว่าจะผิดไปเสียทีเดียว พวกที่ดูจะฉลาดพูดในฐานะพยานหลักฐาน มาในเวลานี้กลับพากันปิดปากเงียบ
“ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องไตร่ตรองเกี่ยวกับส่วนนั้นกันอีกสักหน่อยนะครับ เราควรคิดให้ดีๆ ให้มันส่งผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้น่ะครับ ถ้าอย่างนั้นการประชุมวันนี้ก็เอาไว้เท่านี้แล้วกันนะครับ”
หลังประกาศปิดประชุมแล้ว บรรดาผู้เล่นก็ทยอยลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูพออกพอใจ แต่แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
“อ้า เดี๋ยวก่อนคุณราชินีแห่งดาบ ช่วยอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้หรือเปล่าครับ ผมมีบางเรื่องที่ต้องคุยกับคุณน่ะครับ”
เมื่อผมเห็นนัมดาอึนเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้เพราะถูกแคลนลอร์ดโครยอเรียกตัวไว้แล้ว ผมก็เดินออกจากที่ประชุมไป
* * *
ในตอนนั้นได้ยินว่าอะไรบ้างนะ
ผมคิดแบบนั้น เป็นความจริงที่ว่าระหว่างราชินีแห่งดาบกับผมไม่มีตรงไหนที่พอจะเป็นจุดเชื่อมกันได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม การที่คนที่ได้ชื่อว่าเกลียดผู้ชายอย่างหล่อนจะเรียกผมนั้น ก็เป็นไปได้ว่าหล่อนคงจะมีธุระจริงๆ
“เรากำลังจะไปไหนกันครับ”
ผมออกมาจากค่ายตามนัมดาอึนมาสักพักหนึ่งแล้ว จนตอนนี้มองไม่เห็นตัวค่ายแล้ว มีเพียงความเงียบที่แสนเปล่าเปลี่ยวในทุ่งหญ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดนี้เท่านั้นที่รายล้อมรอบตัวเราอยู่
ในตอนนั้นเอง นัมดาอึนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็กลับหยุดอย่างกะทันหัน หล่อนมองไปรอบๆ ก่อนจะหันกลับมามองผมช้าๆ
“แคลนลอร์ดเมอร์เซนต์นารี่ ฉันทราบว่าคุณเป็นสวอร์ด สเปเชียลลิส(Sword Specialist) คลาสลับสายดาบใช่ไหมคะ”
แม้จะเป็นคำถามที่ค่อนข้างกะทันหัน แต่ผมก็พยักหน้าตอบไปเพราะข้อมูลที่หล่อนพูดออกมาได้อย่างถูกต้อง
“หากคุณหมายถึงผู้ชำนาญดาบล่ะก็ นั่นถูกต้องแล้วครับ”
“คุณยังอยู่ปีที่ศูนย์อยู่สินะคะ”
“ครับ”
“ถ้าอย่างนั้น…คนที่จับมือสังหารผู้โหดเหี้ยม แพคซอยอนเป็นเชลยแบบตัวต่อตัวได้ในครั้งนี้ก็คือคุณใช่ไหมคะ”
ผมไม่ได้ตอบหล่อนไปในทันที ผมปิดปากเงียบสักพักหนึ่งและเอาแต่จ้องมองนัมดาอึนเงียบๆ เพราะรู้สึกได้ถึงสายตาแบบนั้นของผม หล่อนจึงพูดเสริมขึ้นอีกครั้ง
“ฉันเคยได้ยินเรื่องที่คุณเอาชีวิตรอดจากมิวล์มาได้ค่ะ ได้ยินเพราะพูดกันปากต่อปากน่ะค่ะ”