ตอนที่ 572

The Novel’s Extra

บทที่ 572 จุดคุ้มทุน (5)

พวกเราเทเลพอร์ตมาถึงที่’ไทนิส’เมืองท่าเล็กๆในสาธารณรัฐลีโอเรส ชิมูริน นำทางพวกเราไปสู่ห้องทดลองของเธอ

ห้องทดลองของ ชิมูริน ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งด้านนอกห้องทดลองดูเหมือนจะเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่เหมือนบ้านพักตากอากาศที่เป็นของเศรษฐี คฤหาสน์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลเสียงสายลมจากทะเลพัดผ่านหูของผม

“ทางนี้.”

ชิมูริน ปิดการใช้งานเวทมนต์รักษาความปลอดภัยง่ายๆและเปิดประตู พวกเราค่อยๆเข้าสู่การประชุมเชิงปฏิบัติการ ด้านในของเวิร์คช็อปนั้นดูแฟนซีไม่เหมือนภายนอก

“นี่คือที่ที่ๆคุณเคยอยู่หลายปีสินะ…ในใจกลางเมือง…?” ฮาริน พึมพำ

ชิมูริน ตอบด้วยเสียงหัวเราะ “เพียงเพราะฉันเป็นจอมเวทไม่ได้หมายความว่าผมต้องอยู่โดดเดี่ยว ผมไป มิริเน่ เมื่อผมต้องนั่งสมาธิหรือรวบรวมวัสดุเพื่อการวิจัยเท่านั้น”

ชิมูรินยกเลิกการเปลี่ยนแปลงของเธอ เพราะเธอไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเวลานานเธอสกปรกและคลุมด้วยดิน ใช้เวลาเพียง 3 วินาทีในการทำความสะอาดอีกครั้งอย่างไรก็ตามด้วยเวทมนตร์ ‘ทำความสะอาด’ ที่เรียบง่าย

“พวกคุณคงเหนื่อยจากการปีนเขากันมา เลือกห้องพักที่พวกคุณต้องการและไปพักผ่อนได้เลย อ้อ พวกคุณจะออกไปสำรวจเมืองได้ถ้าต้องการยกเว้นนาย”

ชิมูริน ชี้มาที่ผม

“ฮาจิน นายจะต้องตามฉันไปที่ชั้นใต้ดิน”

บอสขมวดคิ้วอยู่ข้างๆผม แต่ผมก็พยักหน้า

“ฮาจิน ฉันไม่รู้สึกถึงความเกลียดชังใดๆแต่ต้องระวังมันยากที่จะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่”

“ใช่ ผมสบายดี ไปพักผ่อนเถอะบอส”

“……………”

ผมปัดความกังวลของบอสพร้อมรอยยิ้มตาม ชิมูริน ลงไปที่ชั้นใต้ดิน

ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ดูเหมือนเวิร์กช็อปทั่วไป มีดวงเวทย์อยู่ทุกที่รวมถึงบนโต๊ะของเธอก็มีภูเขาม้วนกระดาษและต้นไม้แปลกๆกำลังเติบโตอยู่ตรงมุมห้อง

“นี่คือสิ่งที่เธอศึกษาเกี่ยวกับการเดินทางข้ามมิติงั้นเหรอ” ผมถามอย่างสบายๆ”

ชิมูรินหยุดอยู่ตรงกลางของห้องทดลองและหันไปรอบๆ เธอทำหน้านิ่วคิ้วขมวดสายตาของเธอแหลมคมชัดเหมือนใบมีด

“เฮ้ย.”

“…ครับ?”

เสียงของเธอดูหนักๆ ผมรู้สึกแปลกๆกับออร่าของเธอ

ชิมูรินพูดออกมา “ฉันไม่สนใจว่านายจะรู้สึกยังไงกับงานวิจัยของฉันแต่ว่าฉันต้องพยายามอย่างหนักเพื่อมัน”

ทันใดนั้นพลังเวทย์ก็ไหลออกจากร่าง ชิมูริน

“พลังเวทมนต์แปลกๆของนายนั้นไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่านายมาจากอีกมิติหนึ่ง ทุกคนสามารถสร้างภาพลวงตาด้วยพลังเวทมนต์ได้”

พลังเวทมนต์อันมหาศาลของเธอผลักผมไปอย่างแรง มันเป็นความกดดันที่ทำให้กระดูกแตกหัก ลมหายใจเริ่มหนักขึ้นและผมรู้สึกว่าอวัยวะของผมถูกบิดอยู่ภายในตัวผมเอง

“เหตุผลที่ฉันยังสนใจนายอยู่ก็คือสิ่งนี้”

แต่ในวินาทีต่อมาความกดดันก็หายไปและผมก็ล้มลงไปกองกับพื้น

“…เพราะพลังเวทมนต์ของนายอยู่ใกล้กับ ‘ความจริง’”

ผมเงยหน้าขึ้นมอง ชิมูริน ชิมูริน จ้องมองผม

“พลังเวทมนต์บริสุทธิ์ไหลผ่านรอยสักแปลกๆบนแขนของนาย…”

สายตาของเธอเดินทางไปที่แขนขวาของฉัน พลังเวทมนต์ของ ชิมูริน ทำให้เสื้อผ้าของผมขาดและรอยสักก็มองเห็นได้อย่างสมบูรณ์

ชิมูริน กล่าวต่อไปว่า “เป็นของจริงแหล่งกำเนิดพลัง…พลังเวทย์ของนายนั้นบรรจุในนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าพลังเวทมนต์ของนายอาจเป็นกุญแจสำคัญในเวทมนต์อันยิ่งใหญ่ของฉัน”

ขณะที่เธอพูดจบ ชิมูริน ก็เปิดไฟในห้องทดลอง ภายใต้แสงไฟสว่างจ้าผมเห็นบันไดทอดตัวลึกลงไปใต้ชั้นใต้ดิน ชิมูริน เริ่มเดินลงไปที่บันไดเหล่านั้น

ผมถามเธอ “…ฉันควรไปกับเธอไหม”

“ไม่”

ชิมูริน หยุดและมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

“นายอยู่ท่ามกลางเวทมนต์ของฉันแล้ว พักผ่อนและฉันจะเรียกนายเมื่อฉันพร้อม….”

หลังจากจบคำพูดที่น่าขนลุก ชิมูริน ยังคงก้าวต่อไป ตอนนั้นเองที่มีหน้าต่างระบบจำนวนมากปิดกั้นมุมมองของผม

[คุณได้ทำเควสต์ระดับสูงแล้ว]
[คุณได้ทำเควสต์ระดับสูงสุดแล้ว]

นอกเหนือจากข้อความแจ้งให้ผมทราบถึงความสำเร็จของเควสต์แล้วผมยังได้รับอุปกรณ์ทั้งหมดในครั้งเดียว [เอเธอร์], [Desert Eagle] แม้แต่ชุด [ชุดดอกบัวดำ] ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยกล่องกระสุนของผมรวมถึงกระสุนสังหารเทพเจ้า

“ฉันคิดถึงพวกแกมากเลยนะ….”

คำพูดแสดงความดีใจที่ผมรู้สึกออกมาในขณะนี้

‘ยินดีต้อนรับกลับบ้านเพื่อนรักของฉัน….’

ผมเคลือบอาวุธตัวเองด้วย เอเธอร์ ชุดแบล็กโลตัสและทุกอย่างจากนั้นผมก็ส่งข้อความหา แชนายอน

[บอก คิมซูโฮ ว่าเราไปถึงสาธารณรัฐแล้ว เราอยู่ใน ‘ไทนิส’]

*************************************************************************

[อรันเฮลล์ – ถิ่นที่อยู่ของเจ้าชาย]

ท้องฟ้ายามบ่ายแก่ๆสว่างไสวไปด้วยแสงสีแดงของพระอาทิตย์ตกดิน
ภายในห้องของเจ้าชายซึ่งกว้างขวางมากจนเกือบจะรู้สึกว่างเปล่า
จินซาฮยอค พึมพำด้วยความงุนงงว่า “…เขาไปแล้ว”

“ฮ่าๆ ใช่ เขาไปแล้ว” เบลล์ยักไหล่

เขากับจินซาฮยอค อยู่คนเดียวในห้องนี้ ชินจงฮักกระทืบเท้าออกจากห้องทันทีที่เบลล์พูดถึงชินมยองจุง

“ไม่เป็นไรเหรอที่จะปล่อยเขาไป?” จินซาฮยอค ถามอย่างเมินเฉย

สำหรับใครบางคนที่หยิ่งอย่างเขาหนีไปโดยไม่มีข้ออ้างใดๆ จินซาฮยอค ไม่คาดคิดเรื่องนี้

“ทุกอย่างปกติดี. ฉันคิดแล้วว่าเรื่องนี้อาจเกิดขึ้น” เบลล์ตอบ

ความเชื่อและค่านิยมของชินจงฮักนั้นมาจากชินมอยงจุง ชินจงฮักจะยังคงหลบเลี่ยงการสนทนาใดๆของชินมยองจุงเพราะเขากลัวที่จะสงสัยในความเชื่อของเขา

“…ฉันอยากรู้. นายบอกฉันไม่ได้เหรอ?” จินซาฮยอค พึมพำ

ชินมยองชุล เป็นตำนานที่ทุกคนรู้จัก ชื่อเสียงของเขากระตุ้นความสนใจของเธอ เบลล์ยิ้มเล็กน้อย

“ เกี่ยวกับชินมยองชุลเหรอ”

“…ใช่.”

ชินมยองชุล ประสบความสำเร็จอย่างมากในชีวิต เขายึดกรุงโซลกับ
แชจูชึล ขับไล่ ปีศาจ หลายคนออกจากคาบสมุทรเกาหลีก่อตั้ง
‘สมาคมฮีโร่’ กับเพื่อนร่วมงานของเขาก่อตั้งกลุ่ม ‘จินซุง’ และช่วยชีวิตคนนับล้านด้วยเงินของเขาเอง

ชื่ออีกหนึ่งชื่อสำหรับชินมยองชุล คือ ฮีโร่ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว
เขาเป็นศูนย์รวมแห่งคุณธรรมซึ่งหลายคนอ้างว่าเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติ

“เขากับฉันเหมือนกัน”

อย่างไรก็ตามเบลล์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชินมยองชุลรวมถึงชีวิตในอดีตของเขา

“…เหมือนกัน?”

จินซาฮยอค ไม่เข้าใจคำพูดของเบลล์ เบลล์จะรู้ได้ยังไงว่าชินมยองชุล
ผู้น่านับถือก็เป็นเหมือนเขา?

“ใช่.”

ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นเบลล์เล่าเรื่องชินมยองชุลฟัง เขาจำได้ตอนที่
พวกเขาพบกันครั้งแรก

นานมาแล้ว

เบลล์ได้เตือนชินมยองชุลเกี่ยวกับศิลาแห่งการหวนคืนว่าเป็นหินสาปที่ล่อลวงปีศาจว่า ‘บาอัล’ ซึ่งเป็นปีศาจแห่งการหวนคืน ‘บาอัล’
จะทำลายเขาและโลกของเขาอย่างแน่นอน

แต่อย่างที่ทุกคนรู้ว่าความรักสามารถทำให้คนตาบอดได้อย่างง่ายดาย

ชินมยองชุล พร้อมขายวิญญาณของเขาและโลกที่เขาต้องอยู่เป็นมารเพื่อโอกาสที่จะได้พบกับคนที่เขารักอีกครั้ง

“จริงเหรอ” จินซาฮยอค ตอบอย่างเมินเฉย

“เธอฟังแล้วไม่แปลกใจเหรอนั่นคือความจริงเกี่ยวกับฮีโร่ในตำนานที่ชื่อชินมยองชุล”

“ฉันสนใจบาอัลมากกว่า เขาเป็นยังไง?”

ด้วยเหตุนี้เบลล์ก็พูด “เขาเป็นแค่คนเลวที่ชอบสะสมโลกที่แตกต่างกัน”

“…อะไรนะ?”

“เธอรู้ไหมว่าบางคนชอบรวบรวมหนังสือ รูปแกะสลัก สิ่งของอะไรแบบนั้น บาอัลก็เช่นเดียวกัน เขาสะสมโลกเพื่อความสุขของตัวเอง”

จินซาฮยอค รู้สึกโกรธเดือดอยู่ข้างในเธอขณะที่เธอฟังเบลล์ เธอกัดฟัน

“แล้วมัน…….”

“สำหรับข้อมูลของเธอบาอัลไม่ได้ยุ่งกับโลกของเธอ อคทรีน่า เป็นความหายนะที่เกิดขึ้นเองอย่างแท้จริง”

เบลล์ตอบคำถามของจินซาฮยอค ก่อนที่เธอจะพูดออกมาดังๆเธออายเล็กน้อย จินซาฮยอค ปล่อยอาการไอแห้งๆและเปลี่ยนหัวเรื่อง

“ฉันจะไม่ถาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันเป็น….แล้วประตูอาณาจักรปีศาจคืออะไร?”

“ที่นี้? สถานที่นี้เป็นเพียง ‘เงื่อนไข’”

“เงื่อนไข?”

“ใช่มันเป็นเหมือนสัญญา เธอต้องรู้ว่าเพราะพลังอันยิ่งใหญ่นั้นต้องการความยับยั้งชั่งใจที่เท่าเทียมกัน เหมือนกับกฎข้อที่สามของนิวตัน”

การดำรงอยู่ของ บาอัล เหนือกว่าความเป็นจริง เพื่อให้บาอัลลงมาเขาต้องผ่านกระบวนการที่เหมาะสมก่อน

“ประตูแห่งดินแดนปีศาจไม่ใช่การทดสอบที่ บาอัล มอบให้กับผู้คน”

บาอัล แค่เลือก ‘ประตูแห่งดินแดนปีศาจ’ เป็นวิธีแก้ปัญหา

“มันเป็นความเจ็บปวดของบาอัลที่ต้องมอบลงบนตัวเขา”

เพื่อยืนยันโลกใบแรกที่เขาสืบเชื้อสายมาในรูปแบบของ
‘ประตูดินแดนปีศาจ’ และใช้สิ่งนั้นเป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนตัวเองไปสู่อีกมิติหนึ่งนี่เป็นวิธีที่ บาอัล เลือกที่จะลงมาสู่โลก

“ดังนั้นหากเธอสามารถหยุด บาอัล ในโลกนี้ได้ บาอัล จะไม่สามารถลงมายังโลกจริงๆได้”

“….”

จินซาฮยอค ไม่ได้พูดอะไรเลย เธอจ้องเบลล์อย่างเงียบ ๆ เบลล์ก็จ้องที่ จินซาฮยอค ด้วย การแข่งขันที่จ้องตาของพวกเขากินเวลานาน

************************************2************************************