บทที่ 883 เจ้าทอง

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 883 เจ้าทอง

   ดวงตาของทุกคนล้วนเบิกกว้าง รอคอยปาฏิหาริย์ที่จะเกิดขึ้น

   ฝ่ามือที่ดูธรรมดาของพี่เทียนจะสามารถสั่นต้นไม้เอาสาวน้อยและลิงตัวนั้นที่ซ่อนอยู่บนยอดไม้สูงลงมาได้จริงหรือ?

ขณะนี้ แม้แต่สาวน้อยบนยอดไม้ก็ยังเครียดขึ้นมา

  ฝ่ามือตบไปที่ต้นไม้ ใส่แรงไม่น้อย เพราะว่าลำต้นหนาเท่ากับถังน้ำสั่นอย่างเห็นได้ชัด

  แต่ว่า ก็เป็นเพียงการสั่น

  หลังจากนั้นก็ไม่มีผลอะไรอีก

  ทุกคนจ้องมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ พี่เทียนล้อเล่นเหรอ?

  ด้วยพลังนี้ ยังคิดที่จะจัดการสาวน้อยงั้นเหรอ?

  มีเสียงลมดังมาจากในยอดไม้ ในที่สุดสาวน้อยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เสียงดังราวกับระฆังเงิน

  “จินถัง คุณเห็นแล้วใช่ไหม?”

  “นี่คือราชาเทพผู้เก่งกาจที่พวกคุณเคารพและชื่นชม!”

  “ฉันบอกคุณแล้ว ฉันไม่เชื่อที่พวกคุณพูดมานานละ เมื่อกี้เห็นว่ายังเด็กก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็นคนขี้โกหก”

  “ด้วยความสามารถเล็กน้อยแค่นั้น ยังคิดจะที่สั่งพวกเราสำนักวานรก็ฝันไปเถอะ!”

  “จินถัง เขาเทียบพวกเราไม่……”

  ก่อนที่เธอจะพูดจบ ทันใดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมา

  ผู้คนที่อยู่ใต้ต้นไม้เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เหมือนกับว่าจู่ ๆ ก็มีลมพัดมา ยอดไม้ใหญ่เริ่มสั่นไหว

ในตอนแรกยังแค่เล็กน้อย ในวินาทีต่อมาราวกับพายุคลื่น ทั้งยอดไม้สั่นไหวอย่างรุนแรง

  “อ๊ะ ไม่นะ!”

  “จินถังช่วยฉันด้วย!”

  ในยอดไม้ใหญ่มีเสียงร้องของความช่วยเหลือดังออกมา

  ใบหน้าของจินถังซีดลงด้วยความกลัว เพราะเขาเห็นว่านอกจากต้นไม้ต้นนี้ที่สั่นไหวอย่างรุนแรง ต้นไม้รอบ ๆ ล้วนเงียบสงบอย่างผิดปกติ

  ไม่มีลมแม้แต่น้อย

  ใครสามารถจินตนาการได้ว่า ในป่าผืนหนึ่งที่ต้นไม้รอบ ๆ เงียบสงบ มีเพียงต้นไม้ต้นตรงกลางต้นเดียวที่สั่นอย่างบ้าคลั่งราวกับกินยาอี?

  อย่างกับเห็นผีจริง ๆ !

  เมื่อได้ยินเสียงร้อง จินถังก็ตื่นตกใจ เขาอยากรีบเข้าไปช่วย แต่สายไปแล้ว

  เสียงกรีดร้องดังขึ้น ก่อนจะมีเงาสีทองพุ่งออกมาเหมือนลูกศร

  จากนั้น

  “อ๊า!”

  ตามเสียงกรีดร้อง ร่างสีเขียวถูกโยนออกมาจากในยอดไม้เหมือนกับผลไม้ร่วงไปชนบนหัวฉินเทียน

ฉินเทียนมองเห็นสีหน้าซีดเซียวของหญิงสาว เขาหยิบมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

  เมื่อเอาแขนลงก็โอบกอดร่างหนึ่งไว้ในอ้อมแขน

  เขารู้สึกแปลกที่หน้าอกราวกับถูกสัมผัสด้วยอะไรบางอย่าง เขาตกใจเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธลับจึงรีบปล่อยมือ

  โอ๊ย!

  สาวน้อยชุดสีเขียวล้มลงพื้นอย่างแรง ไม่รู้ว่าเพราะล้มลง หรือหวาดกลัว เธอจ้องมองดวงตากลมโตคู่หนึ่งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

  ท่าทีของคนอื่น ๆ ก็ล้วนเปลี่ยนไปมาก!

  ใครจะคิดว่าฝ่ามือที่ฉินเทียนตบลงบนต้นไม้เมื่อกี้ ต้นไม้นั้นดูเหมือนแค่สั่นไหว แต่ไม่มีปฏิกิริยา ความจริงแล้ว มันส่งพลังผ่านลำต้นไปที่ยอดไม้

  ทำอย่างนี้ ดีกว่าการเขย่าลำต้นโดยตรง แม้ว่าจะสามารถประหยัดพลังงานได้ แต่ความละเอียดของมัน ไม่รู้ว่าต้องมากกว่านั้นกี่เท่า

  เมื่อนึกถึงภาพที่ทั้งยอดไม้สั่นอย่างบ้าคลั่งเมื่อกี้ ทุกคนก็ยังคงหวาดกลัว

  พวกเขารู้สึกสติราวกับนางไม้ตื่นขึ้นมา

  “เจี๊ยก!”

  ลิงสีทองตัวน้อยพุ่งเข้ามาร้องเรียกเสียงต่ำอยู่ข้างสาวน้อยชุดสีเขียวราวกับกังวลว่าเจ้าของได้รับบาดเจ็บหรือไม่

  “ศิษย์น้องหญิง เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลังจากมีปฏิกิริยาจินถังก็รีบเข้ามาหา

  ศิษย์น้องหญิง คือหลานสาวของไป๋หยวน ชื่อไป๋หลิง

  “อย่ามาจับฉัน!”

  เธอหน้าแดงทันทีและผลักจินถังออกไปด้วยความโกรธ

  ฉินเทียนยิ้มเยาะและพูด: “ตอนนี้ยอมรับรึยัง?”

  “ถ้าไม่ยอมรับ คุณก็เลือกวิธีการมาเลย ฉันจะทำตามนั้น”

  ไป๋หลิงกัดฟันกรอด ตอนถูกปล่อยลงพื้นต่อหน้าผู้คนมากมาย คือ ความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนตั้งแต่เด็กจนโต

   แต่เธอที่กล้าหาญโดยไม่กลัวความผิดพลาดมาตลอด เมื่อเห็นตาเทพของฉินเทียนที่แฝงด้วยความแข็งแกร่งจึงไม่กล้าต่อต้านอีก

  ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นลิงที่เผลอทำอะไรผิดไป

  แต่อย่างไรก็ตาม ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเธอของหลายปีที่ผ่านมาทำให้เธอไม่อยากยอมรับความผิดพลาด

  “ศิษย์น้องหญิง ราชาเทพทรงพลังมาก เป็นคนที่แม้แต่ราชาวานรก็ต้องยำเกรง”

  “คุณยั่วยุราชาเทพก็คือการที่ผู้ต้อยต่ำต่อสู้กับผู้สูงส่ง เธอยังเด็กยังโง่เขลา ต้องขอบคุณราชาเทพผู้ใจกว้างที่ไม่ลงมือรุนแรง”

  “คุณยังไม่รีบไปขอโทษราชาเทพอีก!”

  ขณะที่พูด เขาคุกเข่าลงกับพื้นและพูดอย่างตื่นตกใจ: “ราชาเทพโปรดให้ข้าได้ชดใช้!”

“เป็นเพราะฉันดูแลไม่ดี มีข้อผิดพลาดอะไร ฉันจะรับผิดชอบเอง”

  ถัดจากนั้น ฉวนซานที่ได้เห็นการโจมตีเมื่อกี้ของฉินเทียนกับตาก็รู้สึกหวาดกลัว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเมื่อก่อนที่ตนเองทำเป็นฉลาด ใช้ทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้นหยอกล้อนั่น ช่างโง่เขลามาก

  ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาใช้ไก่แกล้งเหลิ่งเฟิงและคนอื่น ๆ ในแง่หนึ่งเขารู้สึกสนุก นอกจากนี้ก็ยังต้องการโอ้อวด

  เห็นได้ชัด เขาก็ไม่ได้เห็นราชาเทพหนุ่มอยู่ในสายตาจริง ๆ

  ไม่อย่างนั้น จะกล้าเล่นกลอุบายเล็กน้อยพวกนี้ต่อหน้าราชาเทพได้อย่างไร

  ขอบคุณฉินเทียนที่ก่อนหน้านี้ไม่คิดเล็กคิดน้อย

  ในตอนนี้ เขาก็รีบเดินไปคุกเข่าลงข้าง ๆ จินถังและพูดด้วยความหวาดกลัว: “ก่อนหน้านี้ ฉันช่างโง่เขลา โปรดราชาเทพให้ฉันชดใช้เถอะ!”

  ฉินเทียนมองไปที่ไป๋หลิงอย่างเย็นชาและพูดยิ้มเยาะ: “ขอโทษอะไร ไม่สำคัญหรอก สาวน้อย ตอนนี้ฉันขอถามเธอสักประโยค เธอยินดีที่จะทำงานให้ฉันไหม?”

  ไป๋หลิงหน้าแดงและบ่นพึมพำว่า: “ใครเป็นสาวน้อยกัน…..”

  ไม่รู้ว่าเป็นการพิสูจน์อะไรหรือเปล่า แต่ก็ดันหน้าอกโดยไม่รู้ตัว

  เถียหนิงซวงอดไม่ได้ที่จะส่งเรียกหึอย่างเย็นชาและทำหน้าเหยียดหยาม ใหญ่นักเหรอไง?

  ยังไงก็ยังเป็น…..ยัยคนน่ารังเกียจ!

  ฉินเทียนทำหน้าแบบไม่อยากเชื่อ: “ตอบคำถามของฉัน!”

ไป๋หลิงตัวสั่นเล็กน้อยและรีบพูด: “ฉันรับปากแล้วก็คือใช่แล้วไง”

  “ท่านปู่บอกว่า เกี่ยวกับเห็ดหลินจือเลือดอายุ 100 ปี เขามีเบาะแสอยู่นิดหน่อย ไม่กี่ปีก่อน เมืองหนึ่งในตงไห่ขุดพบสุสานฮุนโหว”

  “ของส่วนหนึ่งมอบให้บ้านเมือง แต่ก็มีเพียงแค่ของที่นิยมกันอย่างพวกเหรียญทองแดง เหรียญทอง”

  “เขาได้ยินข่าวลือมาว่า สมบัติที่แท้จริงหลายชิ้นหายไปท่ามกลางคนเร่ร่อน”

  “เป็นไปได้ว่า เห็ดหลินจือเลือดเป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นพวกเราต้องไปตงไห่สักรอบเท่านั้นถึงจะรู้”

  “จริงเหรอ?” คิดไม่ถึง ฉินเทียนมีความสุขมากที่ได้เบาะเเสของเห็ดหลินจือเลือด

  หลังจากมีปฏิกิริยา เขารีบถามอีกครั้งว่า: “ปู่ของเธอไม่ได้บอกเธอว่าจะหาเห็นหลินจือเลือดได้ยังไงเหรอ?”

  “มีเบาะเเสที่ตรงไปตรงมามากกว่านี้ไหม?”

  ไป๋หลิงพูดอย่างตรงไปตรงมา: “มี 2 วิธี หนึ่ง คือ อาศัยเจ้าทองให้หาให้”

  “เจ้าทอง?” ฉินเทียนขมวดคิ้ว “เธอเรียกศิษย์พี่ของเธอว่า เจ้าทองเหรอ?”

  เขาคิดว่าเจ้าทองหมายถึงจินถัง

  จินถังหน้าแดงทันที

  ไป๋หลิงหัวเราะและรีบพูดด้วยท่าทีจริงจังอีกครั้ง: “เปล่า มันต่างหาก”

  ที่แท้ก็คือลิง!

  เมื่อเห็นสายตาเหยียดหยามของทุกคน ไป๋หลิงก็รีบพูด: “พวกคุณอย่าดูถูกมันนะ!”

  “ภายในระยะหนึ่งร้อยลี้ ตราบใดที่มีเป็นของวิเศษก็ไม่สามารถรอดพ้นจมูกของเจ้าทองไปได้”

“มันคือลิงทิพย์ที่เก่งที่สุดของสำนักวานร!”