บัญชามังกรเดือด บทที่ 882 สาวน้อย
เมื่อเห็นลิงสีทองตัวน้อยโอ้อวดกำลังอยู่บนยอดไม้ เถียหนิงซวงและคนอื่น ๆ ก็ทั้งโกรธทั้งรู้สึกตลกมาก
เจ้าลิงตัวนี้แม้ว่าจะทำเรื่องชั่วช้าจนไม่อาจยกโทษให้ได้ แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักก็ทำให้คนใจร้ายด้วยไม่ลง
นิสัยรักสนุกอย่างเด็กผู้หญิงของเถียหนิงซวงถูกกระตุ้นออกมา วันนี้ต้องจับเจ้าลิงตัวนี้ให้ได้
เธอกัดฟันแล้วกระโดดคว้ากิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัวเอาไว้ เธอใช้แรงตรงเอวคอดเพื่อทำให้ร่างเพรียวบางบินขึ้นและพุ่งตรงไปที่ยอดไม้
คล่องแคล่วว่องไวและดูดีเสียจริง
แต่ไม่ว่าเธอจะเร็วแค่ไหน เมื่อเปรียบเทียบกับลิงบนยอดไม้ก็ยังด้อยกว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อลิงตัวนี้คือลิงทิพย์ที่ได้รับการฝึกมาเฉพาะตั้งแต่เล็ก
เสียงร้องที่แปลกประหลาดดังขึ้น ลิงสีทองก็กระโดดขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะกระโดดขึ้นไปสูงสามถึงสี่เมตรและลงตรงบนต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ อย่างมั่นคง
เถียหนิงซวงทำหน้าตกตะลึง หากเป็นแบบนี้ ต่อให้เหนื่อยตายเธอก็ไล่ไม่ทันหรอก
ลิงสีทองเห็นเธอไม่ข้ามมาก็ยิ่งได้ใจ ทำท่าเกาหูเกาแก้ม ดีอกดีใจ ทำหน้าทำตากวนต่าง ๆ
“แม่จะเชือดให้!” เถียหนิงซวงด่าว่าและจะไล่ตามอีกครั้ง
ขณะนั้นก็มีเสียงฟิ้วดังขึ้น มีดบินเล่มหนึ่งพุ่งไปที่ลิงสีทอง แม้ว่าลิงสีทองจะรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติและรีบหลบ แต่มีดบินได้เฉียดก้นของมันและบาดผิวเล็กน้อย
“น้องหนิงซวง ให้ฉันจัดการเอง!”
ใต้ต้นไม้ ชุยหมิงหัวเราะและจะเริ่มโจมตีอีกครั้ง
“พี่ชุยหมิง อย่าทำร้ายมัน ต้องจับเป็น!”
เถียหนิงซวงรีบขัดขวางเขา
ในขณะนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงผิวปากดังขึ้นหลายครั้งที่นอกกำแพง เมื่อลิงสีทองได้ยินเสียงผิวปาก มันเองก็หวาดกลัวมีดบิน มันจึงส่งเสียงร้องและกระโดดขึ้นสูง
มันเดินบนชายคาและผนังได้ราวกับบิน มันขึ้นลงอยู่ไม่กี่ครั้งก็ออกจากบนกำแพงและวิ่งหนีออกไปด้านนอก
ชุยหมิงนิ่งไปครู่นึงแล้วพูดว่า: “ไม่ใช่!”
“ลิงตัวนี้มีเจ้าของ มีคนจงใจจะก่อความวุ่นวาย!”
“ตามไปเร็ว!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ร้ายกาจ พวกเขาเก็บความคิดเล่น ๆ ถืออาวุธในมือและไล่ตามไปด้วยจิตใจที่พร้อมสู้
เถียหนิงซวงต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอได้รับข้อความของฉินเทียน
หลังจากที่เธออ่านก็พูดเสียงดัง: “พี่ชุยหมิง เสี่ยวหลาง อะเปิน…..อย่าทำร้ายมัน!”
“พี่เทียนส่งข้อความมาว่าไม่ให้พวกเราทำร้ายลิงตัวนั้น!”
ขณะที่ตะโกน เธอก็ไล่ตามไปด้วย
คนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมรอบไล่ต้อนมันด้วยความเดือดดาล ท้ายที่สุดเจ้าลิงก็ผวาเมื่อพบว่าไม่มีทางหนี มันจึงกรีดร้องและหนีไปตามยอดไม้พุ่งไปทางเนินเขา
“เร็ว!”
“อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!”
ชุยหมิงและคนอื่น ๆ ไล่ตามไปล้อมต้นไม้ใหญ่
ทันทีที่เข้าไปใกล้ ท่ามกลางยอดไม้ที่เขียวชอุ่มมีหินกรวดก้อนเล็กร่วงลงมานับไม่ถ้วนราวกับเทพธิดาโปรยดอกไม้ลงมา
ทุกคนไม่ทันตั้งตัว ต่างถอยออกและอุทานด้วยความตกใจ
“มีคนอยู่ข้างบน!”
“คนร้ายอยู่ข้างบน!”
เมื่อพบว่าบนต้นไม้ไม่ได้มีแค่ลิงตัวเดียว ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง ดาบถูกชักออกมาทีละเล่ม
นี่เป็นครั้งที่มีคนมาก่อปัญหาถึงฐานที่มั่น ถ้าหากไม่ฆ่าเขาจะรักษาชื่อเสียงของคำสาปสวรรค์ได้อย่างไร
หม่าหงเทาพูดเสียงต่ำ: “คนข้างบนคือใคร? แสดงตัวออกมาทักทายกันดีกว่าน่า ไม่งั้นก็อย่าหาว่าพวกเราหยาบคาย!”
เพราะต้นไม้สูงเกินไปและยอดไม้หนาทึบเกินไป มองจากด้านล่างก็มองไม่เห็นว่าเป็นใคร
“พี่หม่า! ชุยหมิง!”
“พี่เทียนบอกว่าอย่าให้ลิงตัวนั้นบาดเจ็บ” เถียหนิงซวงตะโกนและไล่ตามไป
พี่หม่าและคนอื่น ๆ ต่างงงงวย ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากบนยอดไม้
“พี่เทียนคือฉินเทียนงั้นเหรอ?”
“บอกเขาว่าให้มาหาฉัน!”
แม้ว่าเสียงจะวางมาดราวกับคนมีอายุ แต่ก็ยากที่จะซ่อนเสียงที่ไพเราะได้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสาวน้อยคนนึง?
ทุกคนตกตะลึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะเรียกฉินเทียนด้วยชื่อของเขา? มีความสัมพันธ์อะไรกับพี่เทียน?
ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมาสักพักด้วยความไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงร้องดังมาจากที่ห่างไกล
“อย่าลงมือ!”
“พี่น้องคำสาปสวรรค์ ขออภัยจริง ๆ !”
“ศิษย์น้องหญิงของฉันติดเล่น ฉันขอโทษพวกคุณด้วยนะ!”
“พวกเดียวกันน่า!”
ทุกคนหันไปมองด้วยความตกใจ ก็เห็นชายรูปร่างแข็งแรง พุ่งเข้ามาอย่างกับลมที่รุนแรง ด้านหลังของเขา แม้ว่าทั้งสองคนจะดูเหมือนเดินเล่นในลานบ้านที่เงียบสงบ แต่ความเร็วของพวกเขาก็เร็วมาก
หนึ่งในนั้น คือฉินเทียน
“พี่เทียนมาแล้ว!”
ทุกคนถอนหายใจและเผยรอยยิ้มผ่อนคลาย ไม่ว่าเรื่องจะใหญ่โตอีกแค่ไหน ฉินเทียนมาแล้ว นั่นก็ล้วนไม่ใช่ปัญหาแล้ว
เพียงแต่ ชายรูปร่างแข็งแรงกับชายหนุ่มชุดผ้าป่านนี่ใคร?
ที่สำคัญ บนไหล่ของชายหนุ่มชุดผ้าป่านนั้นมีไก่ตัวใหญ่หมอบอยู่ ไม่ว่าร่างของชายหนุ่มสั่นอย่างไร ไก่ก็ยังมั่นคงเหมือนภูเขาไท่
“ศิษย์น้องหญิง เธออยู่บนนั้นเหรอ?”
“ยังไม่รีบลงมาขอโทษราชาเทพกับพี่น้องทุกท่านอีก!”
จินถังไม่สนใจมากนัก เขามาที่ใต้ต้นไม้ เงยหน้าและตะโกนขึ้นไปด้านบน
ในยอดไม้หนาทึบ เสียงเย่อหยิ่งนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง
“เขาเป็นราชาเทพแต่แล้วยังไง? ฉันไม่เคยเจอเขามาก่อน ก็ไม่รู้ว่าเขาเก่งจริงหรือไม่”
“ถ้าเกิดว่าไม่เก่งเท่าฉันล่ะ?”
“ฉันไม่ลงหรอก!”
“เว้นแต่ว่าเขาจะขึ้นมาสู้กับฉันด้วยตัวเอง ถ้าเขาบังคับให้ฉันลงจากต้นไม้ได้ ฉันก็จะยอมรับเขา”
“แล้วต่อไปก็จะเรียกเขาว่าราชาเทพ และก็จะช่วยเขาหาเห็ดหลินจือเลือดด้วย”
“ไม่อย่างนั้นก็อย่าแม้แต่จะคิด!”
ฉินเทียนทำหน้าอึดอัด นานมาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับการยั่วยุแบบนี้
และฟังจากเสียงก็ยังเป็นแค่สาวน้อยคนหนึ่ง
“พี่เทียน สาวน้อยคนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมรับพี่นะ” เถียหนิงซวงพูดหยอกล้อ ในดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกตลกขบขัน
นึกไม่ถึงว่าเสียงของ “สาวน้อย” ที่ไม่ยอมรับดังมาจากบนต้นไม้ทันที
“เธอบอกว่าใครเป็นสาวน้อย?”
“เธอเชื่อหรือไม่ว่าสาวน้อยคนนี้สู้ได้ดีกว่าเธอ!”
เถียหนิงซวงถึงกับรู้สึกหดหู่
คนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก็ล้วนแสดงออกถึงการไตร่ตรอง ความจริง คือ เรื่องระหว่าง“สาวน้อย” กับพี่เทียน พวกเขาก็ยากที่จะเข้าแทรกแซง
“โธ่ พี่เทียน พี่ตัดสินใจเองเลยว่าจะเอาไง”
ถงชวนกระแอมไอครั้งหนึ่งแล้วถอยหนึ่งก้าว
คนที่อื่นก็ถอยกลับไปทันที
สีหน้าของฉินเทียนซีดเซียว ช่วงเวลาไหนแล้วเนี่ย ยังต้องมาเล่นเกมน่าเบื่อแบบนี้ด้วย?
“ราชาเทพ ท่านอย่าโกรธไปเลย!”
“ศิษย์น้องหญิงของฉันนิสัยซุกซนตั้งแต่เด็ก ฉันจะขึ้นไปจับเธอลงมาขอโทษท่านเดี๋ยวนี้แหละ!”
จินถังทำหน้าตกตะลึงและขึ้นไปบนต้นไม้เอง
“เจ้าคนสกุลจิน ถ้านายกล้าจับฉัน กลับไปฉันจะขอให้ท่านปู่ย้ายนายไปจากฉันทันที!”
“มีหลายคนที่อยากทำงานกับฉัน เป็นนักดาบให้ฉัน”
จินถังหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที ด้วยความซื่อตรงและเงอะงะของเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรอยู่สักพักนึง
“ราชาเทพ ไม่อย่างนั้น ฉันจะโทรหาราชาวานร”
“ศิษย์น้องหญิงฟังแค่คำพูดของราชาวานรเท่านั้น” เขาพูดอย่างลำบากใจ
ฉินเทียนรู้ว่า ราชาวานรชื่อไป๋หยวน เลี้ยงลิงเผือกตัวใหญ่หนึ่งตัวเรียกว่าราชาหยวน
คิดไม่ถึงว่าคนที่เขาส่งมาช่วยเหลือตนในครั้งนี้จะเป็นหลานสาวของเขา
“ไม่ต้อง”
“ในเมื่อหลานสาวของราชาวารนไม่เชื่อใจ งั้นราชาเทพคนนี้จะจัดการเชิญเธอลงมาเอง”
ขณะที่พูด ทันใดนั้นเขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวก็มาถึงหน้าต้นไม้
“เจ้าคนสกุลฉิน นายอยากจะขึ้นมาจริง ๆ งั้นเหรอ?”
“ฉันบอกคุณเลย ผู้หญิงคนนี้หยาบคาย!” เมื่อเห็นฉินเทียนต้องการขึ้นมาบนต้นไม้จริง ๆ ไป๋หลิงก็รู้สึกร้อนตัวนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของราชาเทพยิ่งใหญ่มาก แม้แต่คุณปู่ของเธอก็ต้องยำเกรง
ใครจะไปรู้ว่าฉินเทียนไม่ได้ปีนขึ้นต้นไม้ แต่ดูเหมือนใช้ฝ่ามือคล่องแคล่วตบไปบนลำต้นของต้นไม้