ในเวลานั้นที่ห้องพักคนไข้ของถังเจิ้นหวา ถังหย่าและเซียวหงอี้กำลังดูข่าวพร้อมกับถังเจิ้นหวา ทุกคนเฝ้ามองถังซีในโทรทัศน์ด้วยความเป็นห่วง ในที่สุดสองสามีภรรยาก็รู้ว่าทำไมถังซีถึงพูดเช่นนั้นกับพวกเขาเมื่อคืนนี้ พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเหล่านี้จะพยายามฆ่าถังซีต่อหน้านักข่าวจำนวนมาก!
“คุณพ่อคะ ซีซีจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” ถังหย่าจ้องหน้าจอโทรทัศน์ด้วยความวิตกกังวล “ทำไมเธอถึงหุนหันพลันแล่นอย่างนั้น ตำรวจจะจัดการกับคนพวกนี้เอง เธอไปยั่วให้พวกเขาโมโหทำไม”
ถังเจิ้นหวาก็ดูวิตกกังวลเช่นกัน ท่านจับตามองถังซีในโทรทัศน์และกล่าวว่า “ทำแบบนี้ซีซีจะทำให้ตัวเองหมดโอกาสประนีประนอม และไม่เหลือโอกาสให้เราหรือพวกเขาเลย” เมื่อกล่าวจบท่านก็ถอนหายใจ “ต้องโทษพ่อ ถ้าพ่อไม่ปล่อยให้พวกเขาทำตามอำเภอใจ ซีซีก็คงไม่ต้องเผชิญกับปัญหามากมายในตอนนี้”
ถังหย่ามองหน้าถังเจิ้นหวาซึ่งจ้องมองจอโทรทัศน์ไม่ละสายตา เซียวหงอี้ก็มองหน้าจอโทรทัศน์และเม้มริมฝีปาก “ซีซีทำแบบนี้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาบิดเบือนความคิดเห็นของสาธารณชน จากนั้นเธอจะให้ตำรวจมาจับกุมพวกเขา ซีซีเปิดเผยหลักฐานการก่ออาชญากรรมของพวกเขาต่อหน้าสาธารณะในงานแถลงข่าว เพื่อสร้างความระคายเคืองให้พวกเขาเต็มที่ กระตุ้นให้พวกเขาเข้าทำร้ายเธอต่อหน้านักข่าวจำนวนมาก หรือจะพูดให้ถูกคือต่อหน้าคนทั้งประเทศก็ว่าได้ คราวนี้พวกเขาจะใช้สื่อเป็นเครื่องมือโจมตีเธอไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาถังหย่าก็พยักหน้า “จริงค่ะ คุณพูดถูก เป็นกลยุทธ์ง่ายๆ แต่ได้ผล”
ถังหย่ารู้สึกงุนงงสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมเธอถึงคิดไม่ออกในข้อเท็จจริงง่ายๆ เช่นนี้ เมื่อมีโหรวโหรวอยู่เคียงข้าง เธอก็แทบจะกลายเป็นเจ้าหญิงบอบบางผู้ไม่ต้องกังวลในเรื่องใดๆ ไปแล้ว
ถังเจิ้นหวามองหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสายตาว่างเปล่า หัวใจท่านปวดร้าว ซีซีของท่านเพิ่งถูกคนพวกนั้นฆ่าตาย…
ถ้าซีซีไม่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง บางทีท่าน…ชายชราผู้ไร้ประโยชน์คนนี้ ก็อาจจะถูกพวกเขาฆ่าทิ้งในไม่ช้า
ถังเจิ้นหวาหยิบรีโมตมาปิดโทรทัศน์ “พาพ่อไปที่บริษัท”
ถังหย่ามองท่านด้วยความตกใจ “คุณพ่อ!”
ถังเจิ้นหวามองหน้าถังหย่าและกล่าวว่า “ซีซีผ่านอะไรมามากเกินกว่าที่ควร ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ปล่อยให้หลานต้องทนกับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว หลานควรได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ช่วยพาพ่อไปที่บริษัทที”
เซียวหงอี้มองท่านด้วยความกังวล “แต่คุณพ่อยังไม่หายดีนะครับ…”
“พ่อสบายดีแล้ว!” ถังเจิ้นหวาหันไปมองถังจงและกล่าวว่า “พาฉันไปบริษัท”
“นายท่านครับ ท่านจะทำให้คุณหนูต้องห่วงหน้าพะวงหลังนะครับ ถ้าท่านไปที่บริษัทตอนนี้ ทำไมท่านไม่ไปหลังจากคุณหนูจัดการกับเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วล่ะครับ” ถังจงกล่าวขณะเปิดโทรทัศน์
ในโทรทัศน์ ถังเจี๋ยเหรินคลายมมือที่บีบคอถังซีออกแล้ว ถังซีซึ่งมีผู้ช่วยหวังเข้ามาพยุง กวาดตามองพี่น้องตระกูลถังที่รายล้อมไปด้วยนักข่าว และกล่าวว่า “ถังกรุปถูกพ่อแม่ของพวกคุณทำให้ตกอยู่ในภาวะยากลำบาก และเป็นหนี้สินหลายพันล้านหยวน คุณปู่ฉันช่วยชำระหนี้ที่ถังกรุปก่อไว้ และแบ่งหุ้นเอ็มไพร์กรุปให้พวกคุณ เพราะเห็นว่าพวกคุณเป็นญาติท่าน แล้วดูสิว่าพวกคุณตอบแทนบุญคุณท่านอย่างไร! ไปอยู่ในคุกเสียเถอะ ไปนั่งสำนึกอยู่ในนั้นตลอดชีวิต!”
ทันทีที่เธอกล่าวจบ ประตูห้องประชุมก็ถูกผลักเปิดออก เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเดินเข้ามา และคุมตัวพี่น้องตระกูลถังออกไป
กลังจากเฝ้ามองคนทั้งสามถูกพาตัวไปแล้ว ถังซีก็หันกลับมามองนักข่าวและกล่าวว่า “วันนี้ขอจบการแถลงข่าวเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณ!”
แต่นักข่าวไม่ยอมออกไป พวกเขารีบรุดเข้าไปหาถังซี และระดมยิงคำถามใส่เธอ
“คุณถังคะ คุณทราบว่าพี่น้องตระกูลถังมีเจตนาร้ายตั้งแต่แรกเลยหรือเปล่า”
“คุณถังครับ เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าที่คุณไม่ได้ขึ้นเครื่องบินลำนั้น หรือเป็นเพราะคุณรู้ว่าพวกเขาพยายามจะฆ่าคุณ”
“คุณถังครับ ในหลักฐาน แสดงให้เห็นว่าคุณฉินแห่งฉินกรุป ก็มีส่วนร่วมในอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งนั้นด้วย คุณช่วยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยได้ไหมครับ”
ถังซีมองหน้านักข่าวคนนั้น เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ จะไม่มีอะไรทำร้ายฉันได้อีกต่อไป หลังจากที่ฉันได้เผชิญกับสิ่งต่างๆ มามากมาย ฉันจะไม่กดดันพวกเขาหนักเกินไปถ้าพวกเขาหยุดทำร้ายตระกูลฉัน สำหรับฉินซินหยิ่ง ฉันไม่มีความคิดเห็นใดๆ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่สถานีตำรวจ ฉันคิดว่าฉินซินหยิ่งคงถูกตำรวจจับไปแล้ว”
ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นมองกล้องที่อยู่กลางห้อง แล้วยิ้มเยือกเย็น “คุณฉินเย่ว์ อย่างที่คุณได้เห็นแล้ว พวกเราเอ็มไพร์กรุปได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้”
จากนั้นเธอก็หยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก้าวเดินต่อไป “ตอนนี้คุณได้เรียนรู้บ้างแล้วหรือยัง” ถังซีเลิกคิ้ว จ้องมองไปที่กล้อง “ความชั่วร้ายไม่มีวันมีชัยชนะเหนือความดี ไม่ว่าคุณจะสร้างเรื่องสกปรกมากมายแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถเอาชนะเราได้ ความยุติธรรมอาจจะมาช้า แต่ก็มีอยู่จริง ฉินเย่ว์ น้องสาวของคุณฆ่าคุณย่าซูหวาของฉัน และลักพาตัวคุณป้าฉันไป ถึงเวลาที่พวกคุณทุกคนในตระกูลฉินจะได้รับสิ่งที่พวกคุณสมควรได้รับแล้ว”
ฉินเย่ว์ซึ่งดูโทรทัศน์อยู่ขว้างรีโมทลงกับพื้น “บัดซบ! แล้วเราจะได้เห็นกัน!”
ภรรยาเขามองหน้าเขาแล้วหัวเราะเบาๆ “กรรมตามสนอง นี่คือผลกรรมของคุณ สมน้ำหน้า”
ฉินเย่ว์จ้องหน้าคุณนายฉินอย่างเยือกเย็น นางหัวเราะร่วน ดูเหมือนจะไม่กลัวเกรงฉินเย่ว์เลย นางมองหน้าฉินเย่ว์แล้วส่ายศีรษะ “คุณพยายามอย่างหนักมาตลอดชีวิต เพียงเพื่อที่จะลงเอยด้วยการไม่ได้อะไรเลย! ถานซิงเหรอ เธอไม่เคยสนใจคุณเลย! ถังเจิ้นหวาเหรอ เขาไม่เคยเห็นคุณอยู่ในสายตา! มีแต่คุณนั่นแหละที่คิดถึงแต่เรื่องนี้ตลอดเวลา ไม่ยอมลืมพวกเขา เพราะคุณเป็นคนจิตใจคับแคบ!”
“หุบปาก!” ฉินเย่ว์ผุดลุกขึ้น จ้องหน้าคุณนายฉินอย่างชิงชัง ตะคอกว่า “แล้วเธอล่ะ! ลืมไปหรือเปล่าว่าเธอพยายามมากแค่ไหนเพื่อจะได้แต่งงานกับฉัน!”
คุณนายฉินหัวเราะเยาะ จ้องหน้าฉินเย่ว์อย่างเย็นชา “ดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วว่าทำไมฉันถึงแต่งงานกับคุณ ถ้าคุณไม่ได้บอกฉันว่าคุณจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ถังเจิ้นหวามี คุณคิดว่าฉันจะแต่งงานกับคุณเหรอ คุณมันโง่เง่าปัญญาอ่อน เวลาผ่านไปหลายสิบปีคุณก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย แล้วยัง… ทำลายลูกชายฉันอีกด้วย!”