ตอนที่ 531 ถึงเวลาที่เธอจะได้รับผลกรรมแล้ว

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ฉินเย่ว์ไม่คาดคิดว่าคุณนายฉินจะกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ ใบหน้าเขาถมึงทึง หันกลับมาจ้องคุณนายฉินและกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันทำลายเขาเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ตอนนี้เธอก็คงไม่มีอะไรเลย ฉินเปิ่นหยวนน่ะเหรอ เขาจะชื่ออะไรดีล่ะ อย่าคิดนะว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงไร้ค่าราคาถูกคนนั้นแล้ว หลังจากมาอยู่ในตระกูลฉินนานหลายปี!” 

 

 

สีหน้าคุณนายฉินซีดเผือดเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอจ้องมองฉินเย่ว์ด้วยท่าทางตกใจ ส่ายศีรษะอย่างไม่อยากเชื่อ “อ๋อ นี่ฉันยังคงเป็นผู้หญิงไร้ค่าราคาถูกในความคิดของคุณอยู่ใช่ไหม” 

 

 

“เธอคิดว่าจะมีเศรษฐีคนไหนเลือกเธอเหรอ นอกจากฉัน” ฉินเย่ว์มองหน้าคุณนายฉินอย่างเยือกเย็น กระแทกไม้เท้าลงบนพื้น และกล่าวอย่างเย็นชา “เธอก็รู้ดีกว่าใครๆ ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน!” 

 

 

“ฉินเย่ว์!” คุณนายฉินกรีดร้องด้วยความโกรธ มองหน้าเขาอย่างเจ็บปวด “ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ป่านนี้ตระกูลฉินคงหายไปจากโลกนี้แล้ว!” 

 

 

“เธอหมายถึงการที่เธอทรยศต่อตระกูลถานน่ะเหรอ” ฉินเย่ว์ตะคอก แล้วกล่าวอย่างเย็นชา “นั่นเป็นเรื่องของเธอ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ” 

 

 

มือคุณนายฉินเริ่มสั่น เธอมองหน้าฉินเย่ว์อย่างไม่อยากเชื่อ และส่ายศีรษะอย่างแรง “ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้! ฉันต้องตาบอดไปแล้วที่…” 

 

 

“พอแล้ว!” ฉินเย่ว์เหลือบมองคุณนายฉินอย่างเย็นชา “สายเกินไปแล้วที่เธอจะมาเสียใจตอนนี้ ถึงฉินเปิ่นหยวนจะโง่เง่า แต่มันก็เป็นลูกชายฉัน ฉันจะไม่นั่งดูมันย่อยยับไปต่อหน้าต่อตาหรอก และฉันจะไม่ปล่อยให้ฉินซินหยิ่งถูกตำรวจจับ โทรไปหาฉินซินหยิ่งเดี๋ยวนี้ บอกให้มันเตรียมตัวให้พร้อมเดินทางไปสหรัฐฯ” 

 

 

คุณนายฉินลุกขึ้น หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบน “นั่นมันเรื่องของคุณ อยากจัดการอะไรก็แล้วแต่คุณ ไม่ใช่เรื่องของฉัน” 

 

 

ฉินเย่ว์จ้องเขม็งตามหลังเธอ พร้อมกับตะคอกและนั่งลงบนโซฟา “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษฉันที่ไม่ให้โอกาสพวกมัน” 

 

 

ฉินซินหยิ่งกำลังรอคอยอย่างมีความสุขที่จะได้เห็นถังซีถูกขับออกจากเอ็มไพร์กรุป แต่แล้วสิ่งที่เธอเห็นคือตำรวจหลายนายบุกเข้ามาในบ้าน เธอเหลือบมองเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วปิดทีวี ขมวดคิ้วถามอย่างเย็นชา “พวกคุณมาทำอะไรที่นี่” 

 

 

“คุณฉินซินหยิ่ง ตอนนี้คุณถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม” ตำรวจหัวหน้าชุดที่นำมาแสดงหมายจับให้เธอดู และสั่งให้ตำรวจอีกคนใส่กุญแจมือเธอ ฉินซินหยิ่งถูกใส่กุญแจมือทันทีก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร 

 

 

ด้วยความตกใจอย่างมาก เธอร้องตะโกนออกมาเสียงดัง “นี่พวกคุณกำลังทำอะไร! ฆาตกรรมอะไร! บ้าหรือเปล่า! คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ ฉินเปิ่นหยวนก็รีบลงมาชั้นล่าง และเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปยืนขวางตำรวจ “คุณครับ พวกคุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า หยิ่งหยิ่งจะเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมได้ยังไง!” 

 

 

“มีผู้มาแจ้งความเรื่องนี้กับผม และมีหลักฐานมาแสดงให้เราดูด้วย ตอนนี้คุณฉินซินหยิ่งต้องไปที่สถานีตำรวจกับเราเพื่อรับการสอบสวนและให้การกับเราครับ” หัวหน้าชุดกล่าว แล้วพาฉินซินหยิ่งออกไป โดยไม่สนใจฉินเปิ่นหยวน 

 

 

ฉินซินหยิ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนก และดิ้นรนจากการจับกุมอย่างหนัก เมื่อเห็นฉินเปิ่นหยวนยืนนิ่งด้วยสายตาว่างเปล่า เธอก็ตะโกนออกมา “พ่อคะ เร็วสิ ไปหาคุณปู่! ท่านจะช่วยหนู! หนูผิดไปแล้ว!” 

 

 

ที่สถานีตำรวจ ถังซีรออยู่ที่นั่นแล้ว ฉินซินหยิ่งรู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นถังซี จากนั้นเมื่อเห็นพี่น้องตระกูลถังที่ถูกใส่กุญแจมือนั่งยองๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง เธอก็ใจหายวาบ เธอหันไปมองถังเจี๋ยเหริน จ้องหน้าเขาด้วยสายตามีคำถาม แต่ถังเจี๋ยเหรินแสร้งทำเป็นไม่เห็นเธอ หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง ไม่สนใจเธอ 

 

 

“ขอโทษที่รบกวนคุณนะครับ คุณถัง แต่คุณก็ทราบดีว่าเราต้องทำตามขั้นตอน ได้โปรดเข้าใจเราด้วยนะครับ” ตำรวจนายหนึ่งรินน้ำชาให้ถังซีและกล่าวกับเธออย่างสุภาพ 

 

 

ถังซียิ้ม “เจ้าหน้าที่จัง ขอบคุณมากค่ะ นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ หากคุณมีคำถามอะไรไม่ต้องลังเลนะคะ ถามมาได้เลย ฉันจะบอกคุณทุกอย่างที่ฉันรู้” 

 

 

เจ้าหน้าที่จังพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ ผมต้องการถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ฉินซินหยิ่งสมรู้ร่วมคิดกับอีกสามคน ในการวางแผนก่อเหตุเครื่องบินตก อันเป็นสาเหตุให้ลูกเรือทั้งหมดของเครื่องบินลำนั้นเสียชีวิต กรุณาเล่าให้ผมฟังว่าคุณรู้อะไรบ้าง” 

 

 

ถังซีพยักหน้า “ได้ค่ะ” 

 

 

เจ้าหน้าที่จังมองดูแฟ้มในมือ แล้วมองถังซี ถามว่า “ตามภาพในวิดีโอกล้องวงจรปิดของสนามบิน คุณขึ้นเครื่องบินไปแล้ว แต่ทำไมคุณถึงไม่ได้อยู่บนเครื่องบินตอนที่เครื่องบินตกล่ะครับ” 

 

 

ถังซีเลิกคิ้วมองหน้าเจ้าหน้าที่จัง และกล่าวอย่างสุภาพ “เพราะฉันได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าฉันลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่เกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง ฉันต้องกลับไปเอา ฉันจึงลงจากเครื่อง แต่ทีที่ฉันลงจากเครื่องบินเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศก็แจ้งว่าเครื่องบินต้องขึ้นบินในทันที ฉันจึงบอกให้พวกเขาขึ้นบินไปก่อน และกลับมารับฉันในวันรุ่งขึ้น…” 

 

 

ถังซีกล่าว ดวงตาเธอเปี่ยมไปด้วยร่องรอยความเศร้าเสียใจ เธอถอนหายใจ “ถ้าฉันรู้ว่าพวกเขาจะไม่มีวันได้กลับมา ฉันจะไม่อนุญาตให้พวกเขาขึ้นบิน ฉันจะยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ให้ขึ้นบิน ถึงแม้ว่าเที่ยวบินอื่นจะต้องล่าช้า ฉันก็จะไม่ยอมให้พวกเขานำเครื่องขึ้นบิน” 

 

 

เจ้าหน้าที่จังถอนหายใจ และปลอบโยนเธอ “คุณถังครับ ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ต้องเสียใจนะครับ” 

 

 

ถังซียิ้มให้เจ้าหน้าที่จังและพยักหน้า “เป็นเหตุการณ์เลวร้ายครั้งใหญ่สำหรับฉันค่ะ ฉันจึงเก็บตัวอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะสร้างข่าวลือว่าฉันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งนั้น แล้วพวกเขายังพยายามใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์เครื่องบินตก มาบิดเบือนความคิดเห็นของสาธารณชน เพื่อแย่งชิงเอ็มไพร์กรุป ฉันจึงต้องออกมาแสดงตัวอีกครั้ง แต่ฉันยังคงหาทางรวบรวมหลักฐานต่อไป” 

 

 

ถังซียิ้ม แต่ดวงตาปริ่มไปด้วยน้ำตา เจ้าหน้าที่จังมองหน้าเธอ และคิดว่าคงเป็นเรื่องยากลำบากมากสำหรับผู้หญิงคนนี้ ที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่น่ากลัวเช่นนั้น 

 

 

เขาจ้องมองฉินซินหยิ่งและถามอย่างเย็นชาว่า “คุณมีอะไรจะพูดไหม ตอนนี้หลักฐานมัดตัวคุณแน่นหนา แม้แต่บันทึกการใช้โทรศัพท์ของคุณ ก็พิสูจน์ได้ว่าคุณวางแผนก่อเหตุวินาศกรรมทางอากาศ คุณยังปฏิเสธไม่ยอมรับอีกไหม” 

 

 

“ฉันกำลังรอทนายความของฉัน” ฉินซินหยิ่งมองหน้าถังซีอย่างเย็นชา และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันจะไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวในเรื่องนี้ จนกว่าทนายความของฉันจะมา” 

 

 

ถังซียิ้มให้เธออย่างน่ากลัว และกล่าวอย่างเย็นชา “ไม่มีทนายความสำหรับเธอหรอก ไม่ว่าจะเป็นทนายความจากฉินกรุป หรือกลุ่มกิจการร่วมค้าฉิน พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องฟ้องร้องของทั้งสองบริษัท ไม่มีใครมีเวลาให้เธอหรอก” 

 

 

ฉินซินหยิ่งจ้องมองถังซีด้วยสีหน้าตกใจ ถามอย่างเคียดแค้น “เธอหมายความว่ายังไง” 

 

 

ถังซีขยับยิ้มมุมปาก “เธอคิดว่าฉันหมายความว่ายังไงล่ะ… 

 

 

…ถึงเวลาที่เธอจะได้รับผลกรรมของเธอแล้ว ฉินซินหยิ่ง”