“ตาต่อตา ชีวิตต่อชีวิต เธอคิดว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง แต่พระเจ้าเฝ้ามองทุกการเคลื่อนไหวของเธอ เธอต้องได้รับผลกรรมในที่สุด!” ถังซีมองฉินซินหยิ่งอย่างเย็นชา และกล่าวชัดๆ ทีละคำ “ฉันไม่อยากเสียเวลากับเธอ ตอนนี้ฉันแค่อยากให้เธอได้รับการลงโทษที่เธอสมควรได้รับ เธออย่ามาเสนอหน้าให้ฉันเห็นอีกเลยจะดีที่สุด”
จากนั้นเธอก็หันไปมองพี่น้องตระกูลถัง “สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือทำให้เอ็มไพร์กรุปเจริญรุ่งเรือง ให้พวกเราตระกูลถังร่วมมือร่วมใจกัน แต่เพราะพวกฉิน ทำให้ตระกูลถังแตกแยก ไม่ว่าคุณปู่ของฉันและฉันจะให้อะไรแก่พวกคุณมากแค่ไหน พวกคุณก็ไม่เคยสำนึก และคิดว่าที่เราต้องให้พวกคุณ เพราะเราเป็นหนี้พวกคุณ เราไม่ใช่คนตระกูลเดียวกับพวกคุณเหรอ พวกคุณลืมหน้าที่ที่มีต่อตระกูลนี้ไปแล้วหรือยังไง”
ถังซีลุกขึ้น กล่าวต่อไป “พวกคุณจะได้อะไรหรือหลังจากทำลายเรา คิดว่าพวกฉินจะให้ในสิ่งที่พวกเขาสัญญากับพวกคุณเหรอ พวกคุณนี่ช่างโง่เง่าเหลือเกิน”
พี่น้องตระกูลถังคอตกและยังคงนิ่งเงียบ ถังซีมองพวกเขา ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ตระกูลฉินตั้งตัวเป็นศัตรูของเรามาแต่ไหนแต่ไร แต่พวกคุณลืมเรื่องนี้ไปแล้ว”
ถังซีหันไปมองเจ้าหน้าที่จังแล้วยิ้ม “ขอโทษนะคะ เจ้าหน้าที่จัง ฉันบอกคุณไปหมดแล้วในสิ่งที่ฉันรู้ หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมอีก กรุณาติดต่อทนายความของฉันได้เลยค่ะ”
เจ้าหน้าที่จังพยักหน้า ลุกขึ้นออกไปส่งเธอ ทันใดนั้นฉินซินหยิ่งก็พรวดพราดลุกขึ้นและร้องเรียกถังซี ถังซีหยุดเดิน ฉินซินหยิ่งมองด้านหลังเธอและถามว่า “ในเมื่อเธอรู้ทุกอย่างตั้งแต่แรก แล้วทำไมเธอถึงยังทำเป็นดีต่อหน้าฉัน”
ถังซีหันกลับไปมองฉินซินหยิ่ง ยิ้มให้เธออย่างเย็นชา “นี่เธอคิดไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าฉันหรือเธอ ที่ทำเป็นดีต่อหน้าอีกคนหนึ่ง”
ถังซีถอนหายใจ “ถ้าเธอสารภาพกับฉันตั้งแต่แรก เธอก็คงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ ฉินซินหยิ่งอย่าเอาแต่โทษคนอื่นในทุกๆเรื่อง ทำไมเธอไม่ลองคิดทบทวนในสิ่งที่เธอทำลงไปดูบ้างล่ะ ที่เธอต้องมาอยู่ในที่ที่เธออยู่เดี๋ยวนี้ ทั้งหมดนี้ก็เพราะตัวเธอเอง!”
ฉินซินหยิ่งกำมือแน่น ถังซีถอนหายใจและหันหลังเดินออกไป
ทันทีที่ถังซีจากไปถังเย่าเหรินก็ลุกขึ้นจากพื้น มองหน้าฉินซินหยิ่ง แล้วหันไปมองเจ้าหน้าที่จัง “ผมขอสารภาพ ผมขอสารภาพทุกอย่าง พวกเราวางแผนให้เครื่องบินตกจริงๆ แต่ว่าฉินซินหยิ่งเป็นคนทำให้เราทำอย่างนั้น ผมไม่ได้ต้องการฆ่าถังซี แต่ฉินซินหยิ่งบอกว่าเราจะได้ครอบครองเอ็มไพร์กรุปถ้าถังซีเสียชีวิต แล้วเธอก็บอกว่าเป็นโอกาสทองที่จะกำจัดถังซี ตอนที่ถังซีเดินทางไปต่างประเทศ เธอโน้มน้าวพวกเรา”
“ไร้สาระ! ฉันพูดแบบนั้นกับพวกคุณตอนไหน!” ฉินซินหยิ่งหน้าบึ้ง จ้องมองถังเย่าเหรินเขม็ง และตะโกนว่า “ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น! ไม่เคย!”
“ผมบันทึกคำพูดของเธอไว้” ถังเจี๋ยเหรินก็ลุกขึ้นยืนด้วย และยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้าหน้าที่จัง “ผมเป็นคนติดต่อเธอ เพราะฉะนั้นผมจึงบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพูดกับผม เสียงที่บันทึกนี้สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้”
“แก!” ฉินซินหยิ่งพุ่งพรวดออกไปทันที จ้องมองถังเจี๋ยเหรินเขม็ง “แกบันทึกสิ่งที่ฉันพูดไว้ อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ เราต้องทำอย่างนั้น เอาไว้เผื่อกรณีผิดพลาด” ถังเจี๋ยเหรินยิ้มเยาะ มองหน้าฉินซินหยิ่ง “เธอคิดว่าจะโยนความผิดให้เราได้อย่างนั้นเหรอเมื่อทุกอย่างเปิดเผย เธอคิดว่าเราจะโง่ขนาดนั้นเหรอ”
ฉินซินหยิ่งนิ่งอึ้ง “…”
…
หลังจากออกจากสถานีตำรวจถังซีก็ตรงไปโรงพยาบาล ทันทีที่ถังเจิ้นหวาเห็นเธอ ท่านก็แตะที่คอเธอเบาๆ ถามด้วยความห่วงใย “เจ็บหรือเปล่า”
ถังซีแตะที่ลำคอตนเองและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ค่ะ ไม่เจ็บเลย ทุกอย่างคุ้มค่า ตราบเท่าที่คนพวกนั้นได้รับการลงโทษที่พวกเขาสมควรได้รับ”
“แต่หนูไม่ควรเอาชีวิตหนูไปเสี่ยง” ถังหย่าจับมือเธอ มองตาเธอ “ซีซี ป้ารู้ว่าหนูมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากเกินไป ถ้าต่อไปหนูรับไม่ไหว ก็หาผู้ช่วยมาช่วยสักคน…”
“ฮึ…” ถังซีขัดจังหวะถังหย่า แล้วยิ้ม “หนูคิดว่าคุณป้าจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของหนูเสียอีก”
ถังหย่ามองหน้าถังซีด้วยท่าทางประหลาดใจ “ตอนนี้คนชั่วก็ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว หนูยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกเหรอ”
ถังซียักไหล่ มองหน้าถังหย่าและเซียวหงอี้ แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “หนูไม่อยากบริหารบริษัทต่อไปแล้วค่ะ หนูคิดว่าน่าจะให้เซียวโหรวมาลองดู”
ถังซีกล่าว ยื่นเอกสารให้ถังหย่าพร้อมกับถอนหายใจ “ไม่ใช่ว่าหนูไม่อยากทำ แต่หนูไม่สามารถทำต่อไปได้ค่ะ”
เธอให้เฉียวเหลียงทำเอกสารนี้ขึ้น เพราะรู้ดีว่าถังซีจะต้องตาย แม้ว่าพี่น้องตระกูลถังจะถูกจับกุมไปแล้วก็ตาม และจะดีที่สุดถ้าเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ด้วยเอกสารนี้เธอเพียงแค่บอกคนอื่นๆ ว่าเธอต้องไปพักฟื้น และหลังจากเวลาผ่านไปสักหลายๆ เดือนก็สามารถประกาศ ‘การเสียชีวิต’ ของเธอได้
เมื่อเห็นคำว่า ‘มะเร็งกระเพาะอาหารส่วนปลาย’ ในเอกสาร ถังหย่าก็มองหน้าถังซีด้วยความตกใจ “…เป็นไปได้ยังไง!”
ถังเจิ้นหวามองหน้าถังหย่า “มีอะไรเหรอ”
ถังหย่ารีบซ่อนเอกสารนั้น และส่ายศีรษะให้ถังเจิ้นหวา “ไม่มีอะไรค่ะ”
ถังเจิ้นหวามองถังซีด้วยสายตามีคำถาม เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ หนูแค่อยากให้โหรวโหรวรับโอนหุ้นทั้งหมดของหนู คุณปู่คิดว่ายังไงคะ”
ถังจงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนี้ จริงๆ หรือที่คุณหนูจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีให้กับ…
ถังเจิ้นหวามองหน้าถังซี “หนูตัดสินใจดีแล้วเหรอ”
ถังซีพยักหน้า “ค่ะ หนูตัดสินใจแล้ว” เธอมองหน้าถังเจิ้นหวาและยิ้ม “คุณปู่ก็ทราบ หนูไม่สามารถปกป้องเอ็มไพร์กรุปได้อีกต่อไปแล้ว แต่เซียวโหรวทำได้”
ดวงตาถังเจิ้นหวาแดงเรื่อขึ้นมา เมื่อท่านได้ยินเช่นนี้ “หนูอยู่เคียงข้างปู่ต่อไปไม่ได้หรือ”
ซีซีกำลังจะหายไปจากโลกนี้จริงๆ หรือ จากนี้ไปเธอจะต้องอยู่ด้วยตัวตนของเซียวโหรวแล้วใช่ไหม
ถังซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ คุณปู่ ทุกอย่างใกล้เข้ามาแล้ว หนูจะไม่ต้องห่วงกังวลอะไรแล้ว คุณปู่จะมีเซียวโหรวอยู่ด้วยไงคะ คุณปู่คะ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าหนูจะไม่สามารถอยู่เคียงข้างคุณปู่ได้ คุณปู่ก็ต้องสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ตกลงไหมคะ”
ถังเจิ้นหวาแทบจะร้องไห้ออกมา “หนูแค่อยู่เคียงข้างปู่ต่อไปไม่ได้เหรอ”