ตอนที่ 642 กลับสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง (2)

อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!

ตอนที่ 642 กลับสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง (2) โดย Ink Stone_Romance

“หืม? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ไป รีบไปเช็คสายไฟเร็ว!”

ภายในงานตกสู่ความมืดไม่เห็นกระทั่งปลายนิ้ว ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นกะทันหัน

ไป๋ซู่เย่กับอวิ๋นช่วนเองก็หยุดเต้นรำ “ดูเหมือนจะไฟดับ”

“อืม หรือว่าเรากลับกันตอนนี้เลย? อาจจะใช้เวลาสักพักไฟถึงจะมา”

“ก็ดี”

“คุณจับมือผมไว้ เผื่อคลาดกัน” อวิ๋นช่วนเอ่ยเตือนเธอ

ขณะที่ไป๋ซู่เย่ยกมือจะกุมมือเขากลับถูกมือที่พุ่งมาจากไหนไม่รู้ว่าคว้าข้อมือไว้ ไม่รอให้เธอได้ทันตั้งตัวจากนั้นมีแรงมหาศาลกระชากตัวเธอออกมาจากกลุ่มคนที่อยู่ฟลอร์เต้นรำ

รอเธอได้สติเจ้าตัวก็ถูกร่างแกร่งที่ร้อนผ่าวของชายหนุ่มผลักติดเสาสไตล์โรมันอย่างแรง

กลิ่นอายอันคุ้นเคยของชายหนุ่มโอบล้อมเธอ

ไม่ต้องถาม เธอก็รู้ว่าคือใคร

“เย่เซียว ฉันควรกลับไปแล้ว” เธอดันไหล่เขาลองเชิงทีหมายจะขืนตัวหลุดจากเขา แต่นอกจากจะไม่สำเร็จกลับถูกมือใหญ่ของเขาโอบเอวคอดไว้ “ไม่ได้ทรมานคุณมาหนึ่งสัปดาห์ ดูเหมือนคุณจะสนุกมากนะ”

เขากดเสียงต่ำพูดชิดข้างหูเธอ

ในพื้นที่มืดสนิทเช่นนี้ เสียงทุ้มของชายหนุ่มให้ความรู้สึกเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก ไอร้อนปะทะหน้าเธอและเธอรู้สึกว่าใบหูเริ่มร้อนผ่าว

เพิ่งนึกถึงภาพเหล่านั้นก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบในใจ เธอเบี่ยงหน้าหลบอย่างดื้อรั้น หนีการรุกล้ำของเขา สองมือยันหน้าอกเขาไว้อย่างระแวง “ถึงจะไม่ได้ทรมานฉัน แต่มีน่าหลันอยู่กับคุณ คุณเองก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ?”

“ผมเคยเตือนคุณไว้ว่าถ้าปรากฏตัวต่อหน้าผมอีกทีก็รับผิดชอบผลของมันเอง คุณทำเป็นหูทวนลมเหรอ?” เย่เซียวเชยปลายคางเธอขึ้น “แล้วยังกล้าส่งสายตาพลอดรักกับผู้ชายอื่น ไป๋ซู่เย่ ผมอนุญาตหรือยัง?”

เธอกับอวิ๋นช่วนส่งสายตาพลอดรัก?

ถ้าหากพวกเขาถือว่าส่งสายตาพลอดรัก แล้วเขากับน่าหลันเรียกว่าอะไร? ตบะแตกต่อหน้าผู้คนหรือ?

ไป๋ซู่เย่รู้สึกอัดอั้นในใจ ความคุกรุ่นบางอย่างที่ตัวเองจัดการไม่ถูกเริ่มก่อตัว

กับการซักถามและกล่าวโทษอย่างไร้ที่มาที่ไปของเขา อารมณ์ของเธอแย่ลงในทันที

“เย่เซียว ตั้งแต่แรกจนจบ ฉันแค่เซ็นข้อตกลงกับคุณ ให้คุณเรียกเมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้น แต่ในสัญญาไม่ได้กำหนดว่าคุณจะก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของฉันได้” ไป๋ซู่เย่แกะมือที่บีบตัวเองจนเจ็บออก กลัวคนรอบข้างได้ยินจึงลดเสียงให้เบาลง แต่กลับโต้เถียงกับเขาด้วยเหตุผล “เขาเป็นเพื่อนฉัน และอาจจะเป็นแฟนในอนาคตของฉัน เราคบกันปกติ ส่งสายตาพลอดรักกันเมื่อไหร่? อีกอย่างต่อให้ส่งสายตาพลอดรักจริงๆ แล้วยังไง? ระหว่างเราพูดให้น่าฟังหน่อยก็คือความสัมพันธ์ที่ผูกพันกันตามสัญญา บอกให้น่าเกลียดหน่อยก็คือเราสองคนเป็นแค่คู่ขาบนเตียง ตอนคุณอยากมีอะไรกับฉัน ฉันไปหาคุณก็พอ คุณเคยเห็นคู่นอนที่ไหนก้าวก่ายเรื่องความรักของอีกฝ่ายบ้างล่ะ?”

เย่เซียวใช้สายตาเย็นชาคู่นั้นจ้องเธอคล้ายจะดึงเส้นเอ็นดึงกระดูกออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ดื่มเลือดเธอกัดกินเนื้อหนังของเธอ เขารู้ว่าเธอใจร้ายแต่ไม่คิดว่าเรื่องมาถึงจุดนี้แล้วเธอกลับใจเย็นกว่าเขา มีสติกว่าเขา! ทั้งๆ คนที่แค้นคือตัวเองแต่ต้องให้เธอมาย้ำเตือนว่าระหว่างพวกเขาเป็นเพียงความสัมพันธ์คู่นอนกันเท่านั้น!

ความรู้สึกตกเป็นรองปนความแค้นเคืองกำลังพุ่งทำลายสติของเขาไม่หยุด เขารู้สึกว่าเขาแพ้อีกแล้ว! มีเพียงคนที่ไร้ความรู้สึก ปล่อยวางทุกอย่างได้จริงๆ ถึงจะมีสติอย่างเธอได้! จดจำความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างมีสติอยู่เสมอ!

เขาหัวเราะ รอยยิ้มนั่นทำให้ไป๋ซู่เย่รู้สึกเสียวสันหลังวูบ

“ดูเหมือนว่าคุณจะเจียมตัวดี ในเมื่อคุณชัดเจนขนาดนี้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นของผม งั้นเรื่องระหว่างเราก็ง่ายขึ้นเยอะ” ทุกถ้อยคำเย่เซียวแทบจะพูดลอดไรฟันออกมา

ไม่มีใครจะกระตุ้นเขาให้กลายเป็นสภาพนี้ได้! นอกจากเธอ! นอกจากผู้หญิงน่าโมโหตรงหน้าคนนี้! อาศัยเยื่อใยที่ยังหลงเหลือของเขาแล้วก็เอามีดแทงเขาได้ง่ายๆ ไม่ใจอ่อนใดๆ ทั้งสิ้น!

เย่เซียวสายตาขุ่นมัวคล้ายปีศาจ คล้ายซาตาน อยู่ๆ มือใหญ่เลื่อนจับลำคอเธอแล้วเลื่อนลงคว้าคอเสื้อกระชากออกอย่างป่าเถื่อน ชุดราตรีสีม่วงบนตัวเธอจะต้านแรงทำลายล้างของเขาไหวได้อย่างไร? เปิดรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ฉับพลัน เธอรู้สึกเย็นวาบตรงหน้าอกและสีหน้าก็เปลี่ยนไป

“เย่เซียว คุณอย่าหื่นไม่เลือกที่ได้ไหม!” เธอกดเสียงอยากจะห้ามเขาอย่างร้อนใจ มือพยายามปิดหน้าอกบดบังภาพอนาจารที่อาจจะหลุดออกมาให้เห็น

ท่าทางไม่สนใจสิ่งรอบข้างของเขาไม่ได้แตกต่างจากสัตว์ที่เกิดอาการฮีทเลย ต้องรู้ว่าข้างๆ ยังมีคนอีกมากมายและต่างเป็นบุคคลมีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งในนี้ไม่ได้มีแค่อวิ๋นช่วนแต่ยังมีน่าหลัน เดี๋ยวไฟมาจะเสียหน้าขนาดไหนหากทุกคนเห็นพวกเขาตกอยู่ในสภาพนี้?

“กับของเล่นชิ้นเดียว ผมก็หื่นจริงๆ นั่นแหละ ผมอยากเอาคุณต่อหน้าว่าที่แฟนในอนาคตของคุณ เอาจนคุณร้องขอชีวิตอยู่ใต้ร่างผม”เขาออกแรงอีกนิดก็ทำให้ชุดราตรีของเธอกลายเป็นเสื้อผ้าขาดริ้ว แต่หากไม่ใช่เพราะอยู่ในความมืด ทุกคนคงเห็นเธอทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว

มือของเขาไล้วนไปทั่วตัวของเธอ ไม่ได้ลูบไล้เพราะความรักแต่เป็นการใช้กำลัง ไป๋ซู่เย่เอนหลังพิงเสาสไตล์โรมันเย็นเฉียบข้างหลัง รู้สึกแค่เจ็บที่ถูกเขาบีบคลึงไปทุกตารางนิ้ว แต่สิ่งที่เจ็บมากกว่าคือหัวใจ…

ศักดิ์ศรีของเธอถูกเขาโยนลงพื้นเหยียบย่ำไม่เหลือชิ้นดี แต่เธอรู้ว่าเธอสมควร…

ตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจเซ็นสัญญาฉบับนั้น ต่อหน้าเขาเธอยังเหลือศักดิ์ศรีอะไรอีก?

ของเล่น…

เป็นข้อสรุปที่เขามีให้เธอมาโดยตลอด…

ร่างกายถูกเขาจับพลิกหันหลัง ในขณะที่เธอทำใจพร้อมจะรับความเจ็บปวดที่ถูกแทรกตัวเข้ามาอย่างป่าเถื่อนเหมือนสองครั้งก่อน

“ทุกท่านครับทุกท่าน รบกวนอยู่ในความสงบ รออีกหนึ่งนาทีไฟก็จะมาแล้วครับ!”

Shit!

เย่เซียวอยากจะจัดการเธอต่อหน้าผู้ชายคนนั้นจริงๆ แต่เขายังไม่มีรสนิยมเล่นหนังสดต่อหน้าทุกคนจึงปล่อยเธอแล้วกระชากเธอเดินออกไป

“เย่เซียว ปล่อยฉันนะ!” เขาแรงเยอะมาก ข้อมือเธอราวกับจะถูกเขาบีบให้แหลกก็ไม่ปาน

ชั่วขณะที่เขากระชากประตูออกไฟก็มา ภายในงานสว่างพรึบ เธอถูกเขากระชากให้เดินออกไปแต่กำลังเจอปัญหาตรงหน้าเพราะมีผู้ชายในชุดเป็นระเบียบหลายคนเดินมา เธอปิดหน้าอกอย่างนึกโกรธ ตอนที่ไม่รู้ควรทำอย่างไรก็รู้สึกหนักที่ไหล่

เสื้อตัวนอกของเย่เซียวปิดหัวเธอไว้เพื่อช่วยปกปิดสภาพน่าลำบากใจของเธอ เธอชะงักไปชั่ววูบรีบเอาเสื้อเธอคลุมหลังไว้ หันกลับมามองเขาแต่เห็นได้แค่มุมข้าง ถึงอย่างนั้นยังพอจะเห็นใบหน้าเรียบตึงที่พร้อมจะระเบิดอารมณ์ได้ทุกเมื่ออย่างชัดเจน

เรียกให้คนหวั่นใจ

เธอรู้ว่าคืนนี้เธอหนีไม่พ้นแน่ แต่พอนึกถึงความรุนแรงป่าเถื่อนอย่างนั้นก็เผลอกอดตัวเองแน่นโดยไม่รู้ตัว

…………………………………