บทที่ 577 การประชุมสันติภาพข้ามชาติ (4)
หลังจากคิดอยูนาน แชนายอน ก็ระลึกถึงสิ่งที่เธอได้ยินจาก ยูยอนฮา ในอดีต ยูยอนฮา กล่าวว่า คิมฮาจิน เป็น ผู้หวนคืน แน่นอนเธอยังบอกว่ามันเป็นเพียงการคาดเดา…แต่แชนายอนเชื่อในเรื่องนั้นไปแล้ว
“อืม…ก็ดี”
คำตอบนั้นง่ายมาก
“ฉันละอิจฉาจริงนะ. ฉันอยากย้อนเวลากลับไป”
“…ไม่เลย ฮ่าๆ.”
ชินจงฮักหัวเราะและส่ายหัว ‘มันเป็นความผิดของฉันที่ถามแชนายอน’ เขาคิด
แชนายอน ขมวดคิ้ว “อะไรกัน? นายไม่อิจฉาเหรอ? ถ้ามี ผู้หวนคืน จริงๆฉันคิดว่ามันน่าอัศจรรย์ ลองคิดดูสิ ไม่ใช่ว่ามันอยู่ในนิยายเหรอและเงื่อนไขที่คนจะคิดแบบนั้นคือ นายจะโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อและทรงพลังพอถึงจะมีโอกาสย้อนเวลากลับไป”
“… .”
“อย่างน้อยฉันก็คิดอย่างนั้น และเรื่องนั้นใครจะสนใจว่าปู่ของนายเป็น ผู้หวนคืน? ผู้คนเกลียดเขาเพราะลือกันว่าเขาเป็น ผู้หวนคืน งั้นเหรอ? ไม่ทุกคนเคารพเขา ชื่อของเขาถูกจารึกในตำราประวัติศาสตร์ทุกเล่ม
ในโลกประวัติของเขาเป็นหนังสือขายดีและมีรูปปั้นของเขาอยู่ในทุกๆที่ ทำไมนายถึงต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นด้วย”
ชินจงฮักไม่ได้พูดอะไรเขาได้แต่จ้องมองที่ แชนายอน เพียงอย่างเดียว
รอยยิ้มของเขาไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้อีกแล้ว
“หึ…ฮ่าๆ”
ชินจงฮักพูดเบาๆและ ถอนหายใจ “นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรัก”
“เฮ้ย.”
แต่คำสารภาพของชินจงฮักนั้นสิ้นสุดลง มีคนปรากฏตัวนอกหน้าต่างห้องนอนของเขา
“ใครน่ะ!?”
แชนายอน รีบใช่พลังปราณอย่างรวดเร็วและ ชินจงฮัก รีบคว้าหอกจากมุมห้อง พวกเขาพยายามยืนยันว่าใครเป็นผู้บุกรุก
“ใครกันน่ะ”
เป็น จินซาฮยอค เธอกำลังนั่งอยู่บนขอบหน้าต่างจ้องมองที่ แชนายอน และ ชินจงฮัก
“เธอ…เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง…ยัยบ้า”
แชนายอน ด่าออกมาและสร้างดาบที่มีพลังเวทมนต์ออกมาแต่แล้ว
จินซาฮยอค ก็พูดอะไรบางอย่างที่ไม่คาดคิด
“มารวมพลังกันเถอะ”
“…อะไรนะ?”
ชินจงฮักและแชนายอนทั้งคู่ต่างก็จ้องมองที่จินซาฮยอค อย่างแข็งค้าง
ในขณะเดียวกันจินซาฮยอค ยังคงพูดอย่างเคร่งขรึม
“มีไอ้บ้าที่ชื่อ ยียอนจุน ที่พวกเราต้องหยุด….”
“หืมม ราวกับว่าพวกเราจะเชื่อเธอ!” แชนายอน ตะโกนออกมา
แต่เมื่อเธอกำลังจะปลดปล่อยพลังเวทมนต์ของเธอร่างอีกร่างก็กระโดดเข้ามาในห้องและหยุดเธอ แชนายอน จ้องที่ชายผู้ซึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเธอในทันใด ร่างยักษ์ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเหมือนเหล็กก็ปรากฏ
“อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เป็นเสียงที่ร่าเริงเป็นของ ชอคจุนกยอง อย่างไม่ต้องสงสัย
*************************************************************************
[สำนักงานกลุ่มพ่อค้าดอกบัว]
หลังจากเข้าร่วมกับ ยูยอนฮา เราเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการประชุมสันติภาพข้ามชาติที่จะเกิดขึ้น
“ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิมซูโฮกล่าว แต่เขามั่นใจว่าภัยพิบัติจะ
เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมสันติภาพข้ามชาติ แต่นั่นเป็นขอบเขตของความรู้เขา
ยีจินยูน ถามว่า “พวกเราจะหยุดการประชุมเองไม่ได้เหรอ?”
“ไม่มันสายเกินไปที่จะยกเลิก ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีเพื่อให้ทุกประเทศเห็นด้วยในการออกมาประชุม การประกาศว่าการประชุมถูกยกเลิกจะไม่แตกต่างจากการประกาศสงคราม”
ในฐานะผู้บัญชาการดาบคิมซูโฮเข้าใจความคิดการเมืองของโลกใบนี้
ในขณะที่ทุกคนมุ่งเน้นไปที่การประชุมผมมองไปที่เรเชลซึ่งนั่งถัดจากผม เธอเองก็จ้องมองมาที่ผมด้วยเช่นกัน พวกเรายิ้มทั้งคู่
“พวกเธอ 2 คนทำอะไรอยู่น่ะ”
แต่ยูยอนฮาจับพวกเราได้ เธอจ้องมาที่พวกเราพร้อมหรี่ตาแล้ว เพี๊ยะ! ทันใดนั้นเธอก็ปรบมือของเธอ
“เอาละค่อยทักทายกันทีหลัง สนใจการประชุมหน่อย คิมซูโฮ แล้ว
นายอน และ จงฮัก พร้อมหรือยัง?” ยูยอนฮา ถาม คิมซูโฮ
“ให้ฉันถาม. รอก่อนนะมันมีความล่าช้าเล็กน้อย” คิมซูโฮหลับตา หลังจากนั้นประมาณ 2 นาทีเขาพยักหน้า
“ใช่ พวกเขาบอกว่าพร้อมแล้ว หืม…?”
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับข้อความอีกเมื่อคิมซูโฮเอียงศีรษะแล้ว
จ้องมองไปในอากาศและในช่วงเวลาต่อไป …
“… .”
ใบหน้าของคิมซูโฮนั้นแข็งข้าง
“อะไร? เกิดอะไรขึ้น?”
ไอลีน กระตุ้นเขา คิมซูโฮกัดฟันและบ่นออก
“จินซาฮยอค และ ชอคจุนกยอง อยู่กับ แชนายอน”
*************************************************************************
[ฮาร์เบอร์ซิตี้, ไทนิส]
ในช่วงดึกของคืนพระจันทร์เต็มดวง ผมกลับไปที่ ไทนิส ที่ซึ่งบอสและ ชิมูริน พักอยู่ เนื่องจากบอสต้องรู้สึกเหงาผมมั่นใจว่าเธอจะมีความสุขที่ได้รู้ว่าพวกเราเจอ ชอคจุนกยอง แล้ว
แต่เมื่อผมมาถึงที่ห้องทดลองของ ชิมูริน ผมถูกจับต้องโดยสายตาที่น่าแปลกใจ
“ใช่แล้วนั่นคือวิธีที่เธอใช้พลังเวทมนต์ ความสามารถของเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่การเชื่อมต่อของเธอด้วยพลังเวทมนต์นั้นไม่ละเอียดพอ เป็นเพราะเธอใช้แต่พรสวรรค์และสัญชาตญาณมากกว่าพลังเวทมนต์”
บอสไม่ได้ดูโดดเดี่ยวเลย เธอดูไม่เบื่อหน่ายเลยแม้แต่น้อย
“ลองจินตนาการถึงการใส่พลังเวทย์ลงในเงาของเธอ จากนั้นมันก็กลายเป็นเวทมนตร์ เวทมนตร์ไม่ใช่อะไรพิเศษ เปลี่ยนพลังเวทมนต์ให้เป็นธาตุที่เธอต้องการนั่นคือความมหัศจรรย์”
เธอกำลังสอนโดยชิมูริน อาจเป็นเพราะคำสอนของจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่เงาของบอสก็ไม่ได้เป็นสีดำอีกต่อไป มันเป็นสีฟ้าเหมือนน้ำแข็ง
เธอฝังคุณสมบัติธาตุลงไปในเงาของเธอ
“บอส?”
ผมเรียกเธออย่างระมัดระวัง บอสผู้ซึ่งได้รับการฝึกฝนอย่างกระตือรือร้นหันหน้ามาหาผม
“โอ้ นายอยู่ที่นี่เองเหรอ ฮาจิน”
“ใช่ ผมกลับมาแล้ว”
ผมตอบด้วยความงุนงงและ ชิมูริน ก็มองมาที่ผมด้วย เธอกระพริบตา 2-3 ครั้งจากนั้นเธอถูนิ้วของเธอลงใต้จมูกของเธอ
“โอ้ นายกลับมาก่อนแล้ว เวทมนตร์มิติของฉันยังไม่พร้อมเลย”
“…อืมมีบางอย่างที่ฉันต้องคุยกับคุณ”
ผมเข้าหาพวกเธออย่างช้าๆและยืนถัดจากบอส
บอสจ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์เหมือนเดิมที่เธอมี
“บอส ผม”
“โอ้ ฮาจิน” บอสตัดบทผมทันทีจากนั้นเธอพูดพร้อมกับยิ้มเบาๆ
“ฉันเจอเจนแล้วนะ”
“เจน? เหรอดีเลย! ฉันพบ ชอคจุนกยอง แล้ว”
“นั่นเป็น เจอ”
“…หา?”
ผมเอียงศีรษะ ชอคจุนกยอง ที่ผมเจอคือเจน?
“เจนปลอมตัวเป็น ชอคจุนกยอง ในตอนนี้นายส่ง ชอคจุนกยอง ไปที่
ชั้น 9 ของ Tower of Wish จำไม่ได้เหรอ?”
“…อ้อ ใช่แล้ว.”
ในที่สุดผมก็รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร แน่นอนผมได้ส่ง ชอคจุนกยอง ไปที่ชั้น 9
“งั้นแบบนี้คุณก็จะไม่เหงาแล้วสิตอนที่เจนมา”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้บอสก็ขมวดคิ้วทันที
“อะไรนะ? ใครบอกว่าฉันเหงา?”
“หุหุ.”
“…อย่าหัวเราะ”
บอสจ้องมาที่ผมพร้อมหน้าบึ้ง แต่มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลย ผมยิ้มเหมือน เห็นเด็กๆและวางมือบนไหล่ของเธอ
“หืมมม พวกเธอ 2 คน….” แต่ในขณะนั้นชิมูรินมองย้อนกลับไปมา
ระหว่างผมกับบอสและถามว่า “พวกเธอมีความสัมพันธ์แบบไหนกัน?”
“…ฮะ?”
พวกเราทั้งคู่ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
“ความสัมพันธ์ของพวกเธอเป็นยังไง? ดูเหมือนว่าพวกเธอเป็นแค่เพื่อน โดยเฉพาะเธอ” ชิมูรินชี้ไปที่บอสและถามอีกครั้ง
บอสไม่ตอบและก็มองมาที่ผม เธออาจต้องการฟังคำตอบของผม
จ้องมองเธอและยิ้มเบาๆ ผมหันไปหาชิมูรินอีกครั้งและพูดในสิ่งที่ฉันอยากจะพูดออกมา “อย่างที่ฉันพูดเธอเป็นเจ้านายของฉัน….ฉันชอบเธอมากเลยละ”
ในเวลาเดียวกันผมก็ฝังพลังเวทมนต์ของรอยสักไว้ในดวงตาของผม สายตาของผมเบิกกว้างและผมสังเกตบอสจากด้านข้างแม้ว่าเธอจะไม่
รู้สึกตัวแต่เธอก็หน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด
“…อะแฮ่ม.”
เธอไอด้วยความลำบากใจ เธอน่ารักจนไร้เทียมทานจริงๆ
(พระเอกเป็นหมี!!)