ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
บทที่****195: กลืนมันลงไป
“แต่ข้าไม่รู้จักซ่งจงเลย ข้าคงไม่สามารถเดินแล้วไปเคาะประตูบ้านเขาได้ ถูกไหม?” ฮัวเฉียนหวู่กล่าวออกมา
“ท่านป้าไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนั้น หลังจากที่ข้าทำให้มันกลายเป็นทาสได้แล้ว ข้าจะมอบมันให้กับท่าน!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างเย็ดเย็น “ไม่ว่าอย่างไรข้าจะดูแลทุกอย่างเอง ท่านเพียงแค่รับมันไป!”
“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าบอกว่าไม่?” ฮัวเฉียนหวู่ถามกลับอย่างเย็นชา
“ท่านป้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!” มู่ซื่อหรงหัวเราะออกมาอย่างมีเล่ห์นัย “ถ้าหากท่านไม่รับข้อเสนอนี้ ข้าจะเผยแพร่เรื่องที่ท่านครอบครองเคล็ดวิชาระดับสูงของสำนักพันปีศาจ แม้ว่าสถานะของท่านจะแตกต่างจากข้า แต่มันคงจะเกิดเรื่องใหญ่แน่นอนถ้าหากท่านปู่รู้ว่าท่านสมรู้ร่วมคิดกับสำนักพันปีศาจ! ข้าพูดถูกไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮัวเฉียนหวู่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากสบถออกมา “เด็กสารเลว ข้าช่วยให้เจ้าพ้นจากความทุกข์ทรมาน แต่เจ้ากลับขู่เข็ญข้างั้นหรือ?”
“ฮ่าฮ่า ช่วยข้างั้นหรือ?” มู่ซื่อหรงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ช่วยข้าโดยการให้เคล็ดวิชาการฝึกฝนแบบคู่ที่ชั่วร้ายและทำให้ข้ากลายเป็นสตรีที่ต่ำตมงั้นหรือ? ข้าขอขอบคุณท่านจริง ๆ! ดังนั้นข้าขอตอบแทนการช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย! ถ้าหากข้าต้องตกนรก แน่นอนว่าท่านจะต้องไปกับข้าด้วย!”
“บ้า เจ้ามันบ้าจริง ๆ!” ฮัวเฉียนหวู่เหยียดมือออกมาพร้อมกล่าวว่า “ส่งวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหารคืนกลับมาให้ข้าและข้าจะคิดเสียว่าไม่เคยกล่าวสิ่งใดออกไปในวันนี้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีทาง! ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะฝึกฝนมัน!” มู่ซื่อหรงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “และท่านลงเรือลำเดียวกับข้าแล้ว! ยินดีต้อนรับสู่นรกท่านป้า! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หลังจากที่นางกล่าวเช่นนั้น นางเดินจากไปพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฮัวเฉียนหวู่โกรธจัดจนใบหน้ากลายเป็นเขียวคล้ำ นางลุกขึ้นและต้องการที่จะปิดปากมู่ซื่อหรง แต่นางพบว่ามีผู้ฝึกตนระดับจินตันสองถึงสามคนเดินอยู่ในบริเวณนี้ นางตระหนักได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นของนักบวชฮัวอวิ๋นซึ่งมีการเฝ้าระวังอย่างหนาแน่นโดยทั่วบริเวณ ดังนั้นการหัวเราะของมู่ซื่อหรงจึงสามารถดึงความสนใจจากบุคคลแถวนั้นได้อย่างดีเยี่ยม ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางจึงไม่สามารถที่จะปิดปากมู่ซื่อหรงได้ จึงทำได้เพียงยืนมองนางเดินลับหายไปอย่างหมดหนทาง
แม้ว่าเจ้าอ้วนจะไม่แยแสมู่ซื่อหรง แต่ภายในหัวใจของเขากลับมีผีเสื้อโบยบิน เนื่องจากมู่ซื่อหรงไม่ใช่ผู้ฝึกตนทั่วไป นางมีสถานะเป็นถึงหลานสาวของนักบวชฮัวอวิ๋น! เขาต้องใช้ความกล้าหาญมากเพียงใดในการข่มขืนนาง? ดังนั้นถ้าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป แน่นอนว่าเจ้าอ้วนจะไม่มีทางหลบหนีการลงโทษได้อย่างแน่นอน!
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่ถูกจ้าวสำนักสังหาร แต่แน่นอนว่าเขาจะต้องจ่ายบางอย่างสำหรับเรื่องนี้ อย่างน้อยเขาจะต้องถูกขังอยู่ในความมืดหลายปี แม้ว่าเขาจะสามารถฝึกฝนได้ในมิติลึกลับ แต่มันจะต้องยากลำบากถ้าหากต้องการพบเจอกับเหล่าสตรีของเขา หงหยิงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ฉุ่ยจิ้งก็อยู่ในที่ของนาง แต่ถ้าหากหานหลิงเฟิงไร้การคุ้มครอง ในอนาคตนางจะต้องจมอยู่ในความทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าอ้วนเริ่มรู้สึกเสียใจอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาไม่สามารถทำสิ่งใดได้เนื่องจากได้ทำสิ่งที่เลวร้ายลงไปแล้ว ดังนั้นเขาควรจะไปหาหานหลิงเฟิงเพื่อหารือกับนาง
จากนั้นเจ้าอ้วนรีบกลับไปที่บ้านและจัดอาหารเลี้ยง เขาจะพูดคุยกับนางหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ในบทสนทนามันเต็มไปด้วยการบอกลาและพยายามบอกนางว่าเขาเป็นห่วงนางมาก
หานหลิงเฟิงไม่ใช่คนโง่และรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางจึงถามเจ้าอ้วนว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะนั้นเจ้าอ้วนรู้ดีว่าเขาไม่สามารถปิดบังนางได้อีกต่อไป เนื่องจากข่าวนี้มันจะแพร่กระจายออกไปในอีกไม่ช้า เขาจึงอธิบายกับนางเรื่องที่ข่มขืนมู่ซื่อหรง
สำหรับหานหลิงเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้น นางแทบจะสิ้นสติไปตรงนั้นเมื่อรู้ว่าเจ้าอ้วนทำพลาดอย่างใหญ่หลวง นางรีบชวนให้เจ้าอ้วนหนีไปในคืนนี้
แต่เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างสงบ “ถ้าหากข้าหนี เท่ากับว่าเป็นอาชญากรรม ในเวลานั้นข้าจะกลายเป็นชื่อเสียต่อพวกเขา แน่นอนว่าจะต้องเกิดการพลิกแผ่นดินเพื่อค้นหาข้าอย่างแน่นอน ถ้าหากข้ายังอยู่ แย่ที่สุดก็คือขังข้าไว้ในความมืด และข้าจะไม่ถูกประหาร นอกจากนี้อดีตจ้าวสำนักหงยังขอให้นักบวชฮัวอวิ๋นดูแลข้า ถ้าหากนักบวชฮัวอวิ๋นสังหารข้า แน่นอนว่าเขาจะต้องพบเจอปัญหากับอดีตจ้าวสำนักหงอย่างแน่นอน นักบวชฮัวอวิ๋นไม่โง่ที่จะสร้างปัญหาให้กับตนเองอย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หานหลิงเฟิงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย แต่ดวงตาของนางยังเต็มไปด้วยความกังวลและเศร้าโศก เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าอ้วนรีบเข้าไปปลอบโยนนาง ทั้งสองกอดกันไว้แน่น จากนั้นไฟราคะก็ถาโถมพวกเขาทั้งสองอีกครั้งอย่างไม่อาจห้ามไว้ได้
หานหลิงเฟิงคิดว่าเจ้าอ้วนจะต้องถูกจับกุมและอีกนานกว่าจะได้พบกันอีกครั้ง ดังนั้นในคืนสุดท้ายนี้นางมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา ความพอใจของเจ้าอ้วนเรียกได้ว่าแทบจะอยู่บนสวรรค์ชั้นสูงสุด!
ทั้งคู่หยุดการสั่งลาในกลางดึกหลังจากที่หานหลิงเฟิงใช้พลังไปจนหมดแล้ว แต่เจ้าอ้วนยังคงไม่พอใจ เนื่องจากร่างกายของเขาถูกสร้างมาให้เหนือมนุษย์ทั่วไป เรียกได้ว่าอาจถึงขั้นอสูรกายก็ว่าได้! แม้ว่านางจะเป็นผู้ฝึกตน แต่นางก็ยังคงเป็นสตรีจึงไม่อาจตอบสนองความต้องการของเจ้าอ้วนไหว
ในตอนนี้ประตูห้องของเจ้าอ้วนถูกระเบิดออก เขากระโดดออกจากเตียงทันทีพร้อมกับเตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้ จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าบุคคลที่มาเยือนคือมู่ซื่อหรง
เมื่อเห็นนาง เจ้าอ้วนรู้สึกกระวนกระวายทันทีพร้อมกับรีบปกปิดน้องชายของตนเองไว้ เขารีบมองทันทีว่านักบวชฮัวอวิ๋นได้ตามนางมาด้วยหรือไม่
มู่ซื่อหรงฉลาดถึงเพียงไหนกัน? แน่นอนว่านางรู้ได้ทันทีว่าเจ้าอ้วนกำลังกังวลเรื่องอะไร ดังนั้นนางจึงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าไขมันบัดซบ ไม่ต้องกลัวสิ่งใด ท่านปู่ของข้าไม่ได้มาที่นี่!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางเดินเข้ามาพร้อมกับปิดประตูลง นางยิ้มให้กับเจ้าอ้วนและตกใจเมื่อเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของหานหลิงเฟิง
ขณะที่ได้ยินว่านักบวชฮัวอวิ๋นไม่ได้มาด้วย เจ้าอ้วนถอนหายใจออกด้วยความโล่งออก จากนั้นเขาจึงถามออกไป “ถ้าหากเขาไม่ได้มาที่นี่ แล้วเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”
“แล้วเจ้าคิดว่าเพราะอะไรล่ะ?” มู่ซื่อหรงยียวน
“แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าคิดอะไรอยู่?” เจ้าอ้วนโต้กลับ “หรือว่าเจ้าบ้าคลั่งขึ้นมาอยากจะให้ข้าดูแลเจ้าอีกครั้ง?”
“อา เจ้ากล่าวถูกแล้ว!” มู่ซื่อหรงกล่าวพร้อมยิ้มหวาน
คำตอบที่เจ้าอ้วนได้รับแน่นอนว่าเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ถ้าหากนางต้องการให้สังหารนางซะแน่นอนว่าเขาจะไม่แปลกใจเท่านี้ แต่ในตอนนี้นางต้องการให้เขาดูแลนางอีกครั้ง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขาคิดว่าตัวเองหูฟาดและถามกลับอีกครั้ง “เจ้ากล่าวอะไรกัน? หรือว่าข้าฟังผิดไป?”
“ข้ากล่าวว่า ข้ามาที่นี่เพื่อให้เจ้าดูแลข้า!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างชัดเจน
“ดูแลอะไร?” เจ้าอ้วนถามออกไปอย่างโง่งม “นี่เจ้าหมดหวังถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”
“ใช่ ข้ารู้สึกหมดอาลัยตายอยาก!” มู่ซื่อหรงกล่าวอย่างช้าๆและชัดเจน “ในตอนนี้ข้าเพียงต้องการให้เจ้าดูแลข้า! ย่ำยีข้าเสียสิ! สอดใส่ในตัวข้า!”
เจ้าอ้วนไร้ถ้อยคำจะกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เอ่อ เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ?”
“ข้าไม่ได้บ้า ข้าแค่โง่!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาพร้อมกับปลดเข็มขัดของตนเองออก ด้วยการออกแรงเพียงนิดเดียวทำให้เสื้อผ้าของนางหลุดออกทั้งหมด เผยให้เห็นผิวที่ขาวเนียนด้านใน รอยช้ำที่เจ้าอ้วนประทับไว้ยังชัดเจนอยู่บนร่างกายของนาง ยิ่งทำให้นางดูมีเสน่ห์มากขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าอ้วนสูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์
มู่ซื่อหรงเดินช้า ๆ เข้ามาหาเจ้าอ้วน จากนั้นนางคุกเข่าลงพร้อมกับทักทายน้องชายของเขา นางขยับตัวเข้าไปใกล้และเริ่มใช้ปากกับมัน จากนั้นนางพยายามที่จะกลืนกินมันเข้าไปจนเต็มลำคอของตัวเอง
“โอ้!” เจ้าอ้วนร้องออกมาอย่างผ่อนคลาย หานหลิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างรู้สึกตกใจและไม่เข้าใจเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้น
แต่ดูเหมือนว่ามู่ซื่อหรงจะไม่สนใจว่าเจ้าอ้วนเพิ่งเล่นสนุกกับหานหลิงเฟิงในก่อนหน้านี้ ในตอนนี้นางสนใจที่จะดูดน้องชายของเขาเท่านั้น ในระยะเวลาสั้น ๆ ตัณหาของเจ้าอ้วนถูกเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ เมื่อเห็นว่ามู่ซื่อหรงกระทำเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะสับสน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานได้ไหว เขาคว้ามู่ซื่อหรงโยนขึ้นเตียงจากนั้นเริ่มทะลุทะลวงเข้าไปในร่างกายของนาง
ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังจู่โจมมู่ซื่อหรง นางเริ่มครวญครางออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ความดุเดือดเช่นนี้ทำให้หานหลิงเฟิงมีความต้องการอีกครั้ง เจ้าอ้วนสังเกตเห็นใบหน้าหานหลิงเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงและรู้ว่านางกำลังทำตัวไม่ถูก ดังนั้นเขาจึงดึงนางมาอยู่ด้านล่าง เจ้าอ้วนสลับซ้ายขวาอย่างคล่องแคล่ว ทำให้หญิงสาวทั้งสองหายใจอย่างยากลำบาก
การต่อสู้ในครั้งนี้ยาวนานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะสิ้นสุดลง สตรีทั้งสองนางหมดแรงอย่างสมบูรณ์ แต่เจ้าอ้วนยังคงเต็มไปด้วยพลังงาน
เจ้าอ้วนนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างผ่อนคลายพร้อมกับกอดทั้งสองไว้ มือของเขาลูบไล้ร่างกายหญิงสาวพร้อมถามออกมาว่า “ศิษย์น้องมู่วันนี้เจ้าทำตัวแปลกประหลาดมาก อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้ร้องเรียนเรื่องของข้า? แล้วยังมานอนอยู่บนเตียงของข้าเสียอีก?”
“ข้าทำไปแล้ว! ข้าไปหาท่านปู่และบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เจ้าข่มขืนข้า!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าท่านปู่กล่าวอะไรออกมา?”
“เขากล่าวอะไร?” เจ้าอ้วนรีบถามอย่างร้อนใจ
“เขาบอกว่าข้าทำเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก!” มู่ซื่อหรงตะโกนออกมา
“อะไรนะ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาโง่งมทันทีพร้อมถามว่า “เขากล่าวเช่นนั้นจริงงั้นหรือ?”
“แน่นอน เจ้าคิดว่าข้าหูหนวกรึไง?” มู่ซื่อหรงโกรธจัด
“แต่ทำไมเขาจึงกล่าวเช่นนั้น?” เจ้าอ้วนถามกลับ
“ใช่ มันแปลกเกินไป!” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมา
“เพราะว่าเขาต้องการให้เจ้าเป็นสามีข้า มันเป็นเพราะเจ้ามีหงหยิงอยู่แล้วเขาจึงไม่ได้ทำการใด แต่ตอนนี้เจ้าได้ทำสิ่งนี้ลงไปแล้ว เขาต้องการที่จะให้ข้าแต่งงานกับเจ้า!” มู่ซื่อหรงตะโกนออกมา “ดังนั้นเขาจึงกล่าวออกมาอย่างมีความสุขเช่นนั้น!”
ในขณะนั้นแม้แต่ผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างมู่ซื่อหรงยังอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
เจ้าอ้วนทำได้เพียงอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะปลอบใจนางอย่างไร เขาทำให้เพียงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเท่านั้น แต่สถานที่ที่เขากอดรัดมากขึ้นนั้นคือหน้าอกของนาง ทำให้การปลอบใจนี้ช่างดูไม่ซื่อตรงนัก
มู่ซื่อหรงเริ่มคุ้นเคยกับร่างกายของเจ้าอ้วนและเริ่มกอดแขนของเขา นั่นทำให้เขารู้สึกดีอย่างมาก ในขณะนั้นนางกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “เนื่องจากเขาบอกว่าเจ้าทำเรื่องที่ดี ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจที่จะมาพบเจ้าและให้เจ้าทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ! ศิษย์น้องซ่งเจ้าสามารถย่ำยีข้าได้ตามใจปรารถนา! ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าจะรับคำขอของเจ้าเสมอ!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางก้มลงไปพร้อมกับเริ่มกลืนกินมังกรของเจ้าอ้วนอีกครั้ง!