“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบรับคำสั่งนี้ แล้วรีบออกไปทำตาม
มายมิ้นท์ดูเวลา ใกล้จะสี่โมงครึ่งแล้ว
ตอนที่เธอวางแขนลง เตรียมจะบอกลาเปปเปอร์ เปปเปอร์กลับพูดขึ้นมาก่อน: “ในเมื่อยังจะไปตรวจสอบโรงงาน ก็รีบไปเถอะ รีบๆตรวจให้เสร็จจะได้รีบกลับ ไม่งั้นถ้าฟ้ามืดแล้วคงไม่ปลอดภัยเท่าไหร่”
“อื้ม งั้นฉันไปก่อนนะ” มายมิ้นท์ลุกขึ้น
เปปเปอร์หยิบมือถือขึ้นมา “รอก่อน ผมจะให้คนไปส่งคุณกลับ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันขับรถมาเอง” มายมิ้นท์โบกมือปฏิเสธ
เปปเปอร์พูดขึ้นอย่างจริงจัง: “จำเป็นต้องไปส่ง คุณคนเดียวผมไม่สบายใจ มันยากที่จะมั่นใจได้ว่าส้มเปรี้ยวจะไม่โผล่ออกมากลางทางอย่างกะทันหันอีก”
ได้ยินคำพูดนี้ มายมิ้นท์จึงเงียบไป ในหัวปรากฏฉากหนึ่งขึ้นมาทันที ซึ่งก็คือตนเองกำลังขับรถอยู่บนถนน แล้วส้มเปรี้ยวก็ตามออกมาฆ่าอีกครั้ง ชนมาที่รถของเธอทันที ชนให้เธอตาย
คิดถึงตรงนี้ มายมิ้นท์จึงอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ไม่ปฏิเสธอีกแล้ว กลับโค้งคำนับเล็กน้อย “งั้นก็รบกวนคุณด้วยนะ”
เปปเปอร์เชิดๆคาง ส่งข้อความออกไป
“เอาล่ะ คุณลงไปที่อาคารด้านล่างเถอะ คนที่ผมเตรียมเอาไว้รอคุณอยู่ตรงนั้น พวกเขาจะคอยคุ้มกันไปส่งคุณ” เขาวางมือถือลงแล้วพูดขึ้น
มายมิ้นท์พยักหน้า “อื้ม งั้นฉันไปก่อนนะ”
“ไปเถอะ” เปปเปอร์โบกมือ
มายมิ้นท์มองเท้าของเขา หลังจากเตือนเขาอีกไม่กี่ประโยคให้เขาระวังอย่าโดนน้ำอะไรต่างๆนานาแล้ว ถึงได้สะพายกระเป๋าแล้วออกไปจากห้องทำงานของเขา
หลังออกมาจากลิฟต์ มายมิ้นท์ก็เห็นคนที่เปปเปอร์เตรียมให้ไปส่งเธออยู่ที่อาคารใหญ่ เป็นบอดี้การ์ดสองคนที่สวมเครื่องแบบบอดี้การ์ด รูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายกำยำ ดูแล้วรู้สึกปลอดภัยสุดๆ
แน่นอนว่า นี่ยังไม่ทำให้เธอแปลกใจเท่าไหร่ ที่ทำให้แปลกใจจริงๆก็คือ บอดี้การ์ดสองคนนี้ขับรถสองคันขนาบหน้าขนาบหลัง ให้รถของเธออยู่ตรงกลาง คุ้มกันไปส่งเธออย่างนี้
เธอเอาแต่คิดว่า เปปเปอร์จะให้บอดี้การ์ดสองคนนี้นั่งอยู่บนรถของเธอแล้วไปส่งเธอ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวิธีนี้
เพียงแต่วิธีนี้ ก็รับประกันความปลอดภัยได้มากที่สุด
ด้วยวิธีนี้ ต่อให้ส้มเปรี้ยวยังคิดจะชนเธออีกก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะด้านหน้าด้านหลังเธอมีรถคอยคุ้มกันอยู่
ถ้าส้มเปรี้ยวอยากจะชน ก็ชนรถด้านหน้าด้านหลังของเธอ ยังไงก็ชนไม่ถึงเธออยู่ดี
และสำหรับการวางแผนที่รอบคอบเช่นนี้ของเปปเปอร์ ริมฝีปากของมายมิ้นท์จึงยิ้มเล็กน้อย ความอบอุ่นไหลเวียนอยู่ในหัวใจ
จู่ๆเธอก็พบว่า เขาคนนี้ ช่างเข้าใจรายละเอียดในทุกๆด้านจริงๆ
“ที่รัก ในที่สุดเธอก็ถึงสักที” ลาเต้ยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงงานของมายมิ้นท์ เห็นรถสีแดงที่คุ้นตาของเธอ จึงรีบโยนบุหรี่ทิ้งแล้วเดินเข้ามาทันที
มายมิ้นท์เปิดประตูลงมาจากรถ ยิ้มให้เขา “โทษทีนะเต้ ทำให้นายรอนานเลย”
“ไม่หรอก ฉันก็เพิ่งมาถึงครึ่งชั่วโมงเอง” ลาเต้ยิ้มร่าเริงพูดขึ้น แล้วมองไปที่รถสองคันที่ขนาบหน้าหลังรถของเธอ ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ที่รัก นี่เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาเป็นใครเหรอ?”
มายมิ้นท์ก็ไม่ได้ปิดบังเขา ชี้ไปที่รถสองคันนั้นตอบกลับ: “พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดของเปปเปอร์น่ะ รถสองคันนั้นก็เป็นของเปปเปอร์”
“ทำไมบอดี้การ์ดของเปปเปอร์ถึงตามเธอมาด้วยล่ะ?” ลาเต้ขมวดคิ้วแน่น
“เรื่องมันยาว เอาเป็นว่าพวกเขาคือคนที่เปปเปอร์ส่งมาคุ้มกันฉัน อีกเดี๋ยวส่งฉันกลับไปคอนโดพราวฟ้าก็กลับกันแล้ว” มายมิ้นท์จัดทรงผมเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
ลาเต้กำลังจ้องไปที่รถสองคันนั้น ยังอยากจะพูดอะไรอีก
มายมิ้นท์ดูเวลาอีกครั้ง “เอาล่ะเต้ เวลาเหลือไม่มากแล้ว ไปกันเถอะ ไปดูโรงงานกันก่อน”
“อื้ม” ได้ยินเธอพูดถึงเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ลาเต้จึงทำได้แค่เก็บกดความสงสัยมากมายลงไป ตามเธอเข้าไปในประตูใหญ่ของโรงงาน
รอให้ตรวจสอบโรงงานเสร็จออกมา ก็หกโมงแล้ว ฟ้ามืดหมดแล้ว
หลังจากมายมิ้นท์รวบรวมจุดที่ต้องแก้ไขลงสมุด และมอบให้คนของทีมก่อสร้างแล้ว จึงเตรียมตัวกลับ
บนรถ ลาเต้มองรถที่ขับอยู่ด้านหน้า แล้วยื่นหัวออกไปจากหน้าต่าง มองรถที่ตามอยู่ข้างหลัง หน้าตาเคร่งขรึม “ที่รัก ตอนนี้เธอบอกฉันได้แล้วนะ ทำไมเปปเปอร์ต้องส่งบอดี้การ์ดสองคนมาคุ้มกันเธอด้วย?”
ก่อนหน้านี้ที่ไม่พูดเพราะยุ่งอยู่กับการตรวจสอบโรงงาน เขาเข้าใจได้
แต่ตอนนี้ เธอไม่มีเหตุผลที่จะไม่พูดแล้วสินะ?
มายมิ้นท์ได้ยินคำถามของเขา สีหน้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เธอรู้แต่แรกแล้ว ด้วยความขี้สงสัยของเขา ต้องถามให้รู้เรื่องแน่ๆ
มายมิ้นท์หมุนพวงมาลัยตอบกลับไปอย่างนิ่งเฉย: “คืออย่างนี้ ตอนบ่ายฉัน……”
เธอเล่าเรื่องที่ส้มเปรี้ยวต้องการจะชนเธอออกมา
ลาเต้ฟังจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที “เวรเอ้ย ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นได้!”
“ใช่น่ะสิ เปปเปอร์ถึงได้กังวลว่าส้มเปรี้ยวจะลอบทำร้ายฉันจากด้านหลังอีก จึงเตรียมบอดี้การ์ดสองคนนี้ไว้ให้” มายมิ้นท์ชำเลืองมองกระจกข้างซ้ายข้างขวา กำลังมองรถในกระจกแล้วพูดขึ้น
เรื่องนี้ลาเต้หมดหนทางที่จะไม่พอใจเปปเปอร์
ถึงยังไงที่เปปเปอร์ทำอย่างนี้ ก็เพราะหวังดีกับมายมิ้นท์
ถ้าเขายังไม่พอใจด้วยเหตุผลนี้อีก ก็ไม่ใช่คนแล้วจริงๆ
“ใช่สิที่รัก เมื่อกี้เธอบอกว่า เปปเปอร์ส่งคนตามส้มเปรี้ยวไปไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้เปปเปอร์ยังส่งบอดี้การ์ดมาคุ้มกันเธอด้วย คงไม่ใช่เพราะว่าส้มเปรี้ยวยังไม่โดนจับหรอกนะ?” ลาเต้ขมวดคิ้วแน่นพูดขึ้น
มายมิ้นท์อืมออกมา “เดิมทีจะจับได้อยู่แล้ว แต่ส้มเปรี้ยวมีคนคอยช่วยเหลืออยู่ลับหลัง จึงทำให้ส้มเปรี้ยวหนีรอดไปได้ ตอนนี้เปปเปอร์กำลังสืบดูว่าใครกันแน่ที่ช่วยเหลือส้มเปรี้ยว หลังจากสืบรู้แน่ชัดแล้ว ก็จะรีบบอกฉัน”
“เวรเอ้ย!” ลาเต้ตบต้นขาด้วยความโมโห “ฉันไม่เข้าใจเลย ส้มเปรี้ยวตกอับจนกลายเป็นสภาพนั้นแล้ว ทำไมถึงยังมีคนคอยช่วยเธออีก? ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเธอมันดีขนาดนั้นเลยเหรอ?”
มายมิ้นท์มองต่ำลง ท่าทางแน่วแน่ “ใครจะรู้ล่ะ เพียงแต่ไม่ว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวแบบไหน ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด!”
“ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว” ลาเต้พยักหน้า
มายมิ้นท์ไม่ได้พูดอะไรอีก เม้มปากราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
ลาเต้เห็นเธอเอาจริงเอาจังเช่นนี้ ก็ไม่ได้รบกวนเธอ ก้มหน้าดูมือถือแทน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มาถึงคอนโดพราวฟ้าแล้ว
หลังจากบอดี้การ์ดสองคนมาทักทายมายมิ้นท์แล้ว จึงขับรถกลับไป
ลาเต้มองรถที่อยู่ไกลๆ ลูบคางพูดขึ้น: “ที่รัก ในเมื่อตอนนี้ส้มเปรี้ยวยังซ่อนอยู่ในที่มืด อาจจะลงมือกับเธอเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันคิดว่าเธอควรจ้างบอดี้การ์ดสักสองคนนะ มาคุ้มกันเธอเหมือนอย่างนี้ไง”
สำหรับข้อเสนอนี้ของเขามายมิ้นท์ไม่ได้ปฏิเสธในทันที ยิ้มเล็กน้อย “ฉันจะคิดดู”
พูดจบ เธอเปิดประตูรถลงไปจากรถ
ลาเต้ก็ลงรถมาด้วย
มายมิ้นท์เดินผ่านหน้ารถมาทางที่นั่งข้างคนขับ “นายขับรถกลับไปเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมารับฉัน ถือโอกาสไปประชุมที่เทนเดอร์กรุ๊ปด้วยเลย”
“รับทราบ” ลาเต้ยิ้มตอบรับ แล้วเดินไปฝั่งคนขับ
มาถึงหน้าประตูฝั่งคนขับ เขาดึงประตูออก แล้วโบกมือให้มายมิ้นท์ “ที่รัก งั้นฉันไปก่อนนะ”
มายมิ้นท์อืมออกมา
ลาเต้กำลังก้มตัวเข้าไปนั่งในรถ
แต่จู่ๆ มายมิ้นท์ก็นึกถึงอะไรบางอย่าง รีบหมุนตัวเรียกเขาเอาไว้ “เดี๋ยวก่อนเต้!”
“มีอะไรเหรอ?” ลาเต้เข้าไปในรถครึ่งตัวแล้ว ได้ยินเธอเรียกเอาไว้ จึงออกมาอีกครั้ง
ในหัวของมายมิ้นท์มีคำพูดที่เปปเปอร์พูดในห้องทำงานลอยออกมา เธอเอ่ยปากขึ้น “เอ่อ……เต้ ต่อไปนายอย่าเรียกฉันว่าที่รักเลย”
ก็เหมือนกับที่เปปเปอร์บอกอย่างนั้น มันค่อนข้างสนิทสนมเกินไปจริงๆ ไม่ค่อยเหมาะสมกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเต้
ได้ยินคำพูดของมายมิ้นท์ รอยยิ้มบนใบหน้าของลาเต้ก็ชะงักงันทันที “เธอบอกว่า ต่อไปไม่ให้ฉันเรียกเธอว่าที่รักแล้วงั้นเหรอ?”
“อืม” มายมิ้นท์พยักหน้า
“เพราะอะไร?” ลาเต้ปิดประตูรถดังปึง แล้วก้าวเข้าไปใกล้ๆด้านหน้าเธอ ต้องการคำอธิบายจากเธอ
มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขา “เพราะมันไม่ค่อยเหมาะสม”
“ตรงไหนที่ไม่เหมาะสม?” ลาเต้ไม่สามารถเข้าใจได้