TQF:บทที่ 658 แผนการที่วางไว้ (3)
“จริงเหรอ” หยูเฮงน้อยคิดอยู่สักพักก็ถามขึ้นอีก “ท่านปู่ทวด แล้วปรมาจจารย์ตันซือที่เก่งที่สุดของพวกเขาคือระดับอะไรเหรอ”
ที่จริงเรื่องของสำนักตันซือและสำนักวั่นตันเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยก็เคยได้ยินมาบ้าง และก็รู้ว่าพวกเขาเป็นสำนักที่เก่งกาจ แต่พวกนางไม่ได้เก็บเรื่องของอีกฝ่ายมาคิดจริงๆ จึงไม่ได้ตั้งใจไปสืบเสาะเรื่องของพวกเขา
“ได้ยินมาว่าเป็นปรมาจารย์สวรรค์ตันซือ จริงๆแล้วปรมาจารย์สวรรค์ตันซือมีไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็นสำนักตันซือหรือสำนักวั่นตัน ก็ล้วนแต่มีปรมาจารย์สวรรค์ตันซือแค่คนเดียวเท่านั้น”
ฟางเต๋อหยวนเปิดหัวข้อสนทนาและตั้งใจอธิบายให้พวกนางฟังอย่างจริงจัง “ปรมาจารย์สวรรค์ตันซือสามารถยาเม็ดระดับพสุธาได้ อย่างที่พวกเจ้ารู้กันอยู่แล้วว่ายาเม็ดแบ่งเป็น 4 ระดับ หวง สวน พสุธา และสวรรค์ และแต่ละระดับก็แบ่งออกเป็น 10 ชั้น โดยทั่วไปแล้ว ยาเม็ดสีเหลืองใช้กับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่ระดับต่ำกว่าปรากฏราชันจักรพรรดิ ยาเม็ดระดับสวนใช้กับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่ระดับต่ำกว่าก้าวสู่เทพเทวา ส่วนยาเม็ดระดับพสุธาได้ข่าวว่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่ระดับต่ำกว่าระดับเทพเทวานั้นใช้ได้หมด”
“ข้าจำได้ว่ายังมีสุดยอดปรมาจารย์ตันซือและปรมาจารย์เทพตันซือ ตันซือเหล่านี้สามารถสกัดยาเม็ดระดับสวรรค์ใช่รึเปล่า”
หยูเฮงน้อยถามต่อ
“เจ้ารู้เรื่องการแบ่งระดับของตันซือดีนี่ แต่ระดับตันซือที่เจ้าพูดมามีแค่ในตำนานเท่านั้น ที่ผืนดินฉางไห่ไม่มีใครเป็นได้ถึงระดับปรมาจารย์ตันซือสวรรค์หรือระดับปรมาจารย์เทพตันซือ ส่วนพวกเขาสามารถสกัดยาเม็ดอะไรได้บ้างนั้นข้าก็ไม่แน่ใจว่ามียาเม็ดในระดับอื่นนอกเหนือจากยาเม็ดระดับสวรรค์”
ฟางเต๋อหยวนส่ายหัวทิ้งเอาตำนานอันห่างไกลเหล่านั้นออกจากหัวไป ก่อนจะมองคนตรงหน้าและเอ่ยต่อ “ที่จริงงานประลองปรมาจารย์ตันซือครั้งนี้ไม่ใช่การตัดสินใจชั่ววูบ มันเป็นกฎที่ถูกปฏิบัติกันมานานแล้ว ทุก 50 ปีจะต้องจัดงานประลองปรมาจารย์ตันซือขึ้น 1 ครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่สำนักตันซือและ สำนักวั่นตันเลือกลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่น ดังนั้นคนที่มีพรสวรรค์ในการเป็นตันซือจะต้องมาเข้าร่วมงานประลองที่ชิงยางแม้จะอยู่ห่างออกไปเป็นหมื่นลี้ ถือว่าเป็นงานประลองที่ผู้คนฮือฮากันที่สุดงานหนึ่ง”
“แน่นอนว่ารางวัลที่เจ้าพูดถึงก็มี มีทั้งยาวิเศษ ยาเซียน ยาเม็ดระดับพสุธา เรียกได้ว่ามีแต่ของที่ทำให้ผู้อื่นคลั่งได้ทั้งนั้น ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธบางคนไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมก็ยังจะมาที่นี่อยู่ดีด้วยความหวังว่าจะมีโอกาสซื้อยาเม็ดระดับพสุธาจากผู้โชคดี”
“น่าสนใจดีนี่ ยาวิเศษไม่มีอะไรหรอก ถ้ามียาเซียนเอามาดูสักหน่อยก็ดี ยาเม็ดระดับพสุธาก็ไม่เลว ทุ่มทุนดีแฮะ”
ตาของหยูเฮงน้อยเป็นประกาย เริ่มวางแผนหมายหัวคนอื่นอีกแล้ว นางชำเลืองมองคนข้างๆและถาม “คุณหนู เราไปสนุกกันหน่อยมั้ย”
“รีบเหรอ ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งปี ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้รับปากและก็ไม่ได้ปฏิเสธ ก็เหมือนที่นางพูดนั่นแหละ ในครึ่งปีนี้ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หยูเฮงน้อยคิดไปคิดมาก็เห็นด้วยเหมือนกัน ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งปี ตัดสินใจตอนนี้ยังเร็วเกินไป จึงตอบขึ้น “ได้ แล้วเราค่อยมาตัดสินใจกันอีกที”
ทั้ง 2 เลิกพูดเรื่องนี้ ฟางเต๋อหยวนขมวดคิ้วและเอ่ยต่อ “ตอนที่พวกเจ้าไม่อยู่ ท่านเจ้าบ้านสั่งมาว่าพรุ่งนี้เจ้าสำนักละภรรยาเจ้าสำนักจะมาที่บ้านตระกูลฟาง ทุกคนต้องออกไปต้อนรับพวกเขา”
“ต้อนรับ?”
หยูเฮงน้อยเบ้ปากและพูดด้วยความดูถูก “พวกเขามีคุณสมบัติพอเหรอ จะให้พวกเราไปต้อนรับพวกเขา ไม่กลัวอายุสั้นกันรึไง จริงๆเลย”
“หยูเฮงน้่อย!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตะโกนเบาๆ นางทำอะไรเจ้าตัวเล็กคนนี้ที่พูดอะไรไม่คิดไม่ได้เลยจริงๆ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยอ้างว่าต้องสกัดน้ำยาและมาที่ตึกเล็กของพวกนาง
ตึกเล็กๆที่ถูกจัดแจงไว้ให้โดยตระกูลฟางเป็นตึกนอนที่สวยงามที่สุดในสวนนี้อย่างแน่นอน การตกแต่งของแต่ละด้านก็เห็นได้ว่าทุ่มทุนจริงๆ พวกตาแก่ของตระกูลฟางให้ความสำคัญกับพวกนางมาก
เพียงแต่เล่ห์เหลี่ยมของพวกเขาก็เหมือนกับให้คนตาบอดดูนั่นแหละ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยไม่ได้สนใจความสะดวกสบายในชีวิตเลยแม้แต่น้อย ในมิติมีของทุกอย่างที่อยากได้ แล้วจะมาใส่ใจอะไรกับของที่คนตระกูลฟางให้มา
เมื่อกลับมาถึงตึกเล็กแล้ว 2 สาวก็ร่วมมือกันสร้างเขตแดนและเข้าไปในมิติด้วยกัน
“หยูเฮงน้อย เจ้าเลือกหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกมา 100 คนแล้วฝึกฝนพวกนาง จากนั้นก็ปล่อยพวกนางเข้าไปสืบข่าวในอิทธิพลต่างๆ”
หลังจากที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่ทำก็คือสั่งให้หยู่เฮงน้อยทำอะไรบางอย่าง
หยูเฮงน้อยประหลาดใจอย่างที่สุด ถามอย่างสงสัย “คุณหนู ท่านหมายความว่าเราจะส่งคนออกไปสืบข่าวเหรอ”
“ถูกต้อง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเจ้าจะต้องได้รับข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วน จะได้ใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี อีกอย่างอิทธิพลใหญ่ต่างๆกำลังหมายตาตึกจงหยวนในเครือกลุ่มทหารรับใชซื่อหุนของเรา ในเมื่อตอนนี้พวกเราต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน เราจะต้องรู้ทุกการกระทำของคนเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นโดนแทงข้างหลังเข้าให้เรายังไม่รู้เลย”
“นี่มันก็จริง โดยเฉพาะพวกพระโอรสพระธิดา แต่ละคนต้องการบางอย่างจากเราทั้งนั้น ไม่มองพวกเขาให้ออกได้ซะที่ไหนเล่า” หยูเฮงน้อยหรี่ตาและลูบคางอันงดงามของนาง
ตาที่หลุบต่ำลงเล็กน้อยของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวมีแววเย้ยหยัน เรียวปากได้รูปยกขึ้นเบาๆพลางหัวเราะเย็นๆ “พวกเราไม่ว่าอะไรหรอกนะที่จะให้พวกเขามาหลอกใช้ แต่พวกเขาก็ต้องแสดงความจริงใจออกมาด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเขาได้เจอดีแน่”
“ใช่ๆ”
หยูเฮงน้อยพยักหน้าไม่หยุด “คุณหนู แต่ว่าพระโอรสหนอนหนังสือแห่งตำหนักองค์ชาย 3 และพระโอรสร่างใหญ่แห่งตำหนักองค์ชาย 5 ก็ไม่เลวนี่ พวกเราจะช่วยพวกเขาดีมั้ย”
“ช่วยพวกเขา?” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขมวดคิ้วนิดหน่อยและมองนางด้วยรอยยิ้ม “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีเพียงบัลลังก์เดียวเท่านั้น แต่เจ้าจะสนับสนุนทั้ง 2 คน ให้พวกเขาครองบัลลังก์ด้วยกันเหรอ”
“แล้วจะให้ทำอย่างไรล่ะ ก็พวกเขาดีจริงๆนี่นา” หยูเฮงน้อยเริ่มสับสน
เห็นท่าทางหนักใจของนางเฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้แต่ส่ายหัว “เจ้านี่ชอบเป็นห่วงเรื่องของคนอื่นจริงๆเลย เรื่องของพวกเขาก็ให้พวกเขาไปจัดการกันเอง อีกอย่าง ที่พวกเรารู้จักกับพวกเขาก็แค่ผิวเผินเท่านั้น ลูกหลานของราชวงศ์น่ะแสดงละครเก่งกันทั้งนั้น ถึงเวลาเจ้าโดนจับไปขายแล้วยังต้องช่วยนับเงินให้คนอื่นอีก”
“ตลกน่า เป็นไปได้ซะที่ไหน”
นิสัยไม่ยอมแพ้ออกมาอีกแล้ว นางกล่าวด้วยความองอาจ “จะขายก็ต้องพวกเราขายคนอื่นสิ คนอื่นจะมีโอกาสขายพวกเราได้อย่างไรกัน รนหาที่ตายชัดๆ”
“เอาล่ะ เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว เจ้ารีบไปเลือกเด็กสาวที่เฉลียวฉลาดและมีเสน่ห์ยั่วยวนมา เวลาของพวกเราเร่งรีบ ต้องส่งพวกนางออกไปให้เร็วที่สุด”
“เรื่องหาคนน่ะง่ายนิดเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าก็ส่งพวกนางออกไปทำภารกิจได้เลย”
หยูเฮงน้อยโบกมือพลางรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ สำหรับนางแล้วก็เป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆนั่นแหละ เมื่อนึกไปถึงอีกเรื่องหนึ่งนางก็ถามขึ้น “คุณหนู ที่ฟางซูเสวี่ยจะมาตระกูลฟางพรุ่งนี้ก็เพราะพวกเราสินะ”
“ปล่อยนางไป จิตใจของผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป ปล่อยนางไว้ได้กลายเป็นหายนะแน่ หาโอกาสกำจัดนางซะ” มีความเยือกเย็นอยู่ในแววตาของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ท่านย่าของตัวเองอาจจะฆ่านางไม่ลง แต่ผู้หญิงแบบนี้ไว้ชีวิตไปก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้คนอื่น ดังนั้นอย่างไรซะก็ต้องฆ่านางเสีย
“จริงสิ ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้จะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับสำนักมารจริงๆ ตอนลงมืออย่าให้สำนักมารรู้ และต้องให้พวกเขารู้อย่างชัดแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเรา”
“ไม่มีปัญหา คุณหนู เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าไปทำ รับรองว่าไม่มีใครจับได้แน่ๆ”
หยูเฮงน้อยเข้าใจความหมายของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ผู้หญิงคนนั้นต้องถูกกำจัดและต้องทำให้รู้ว่าไม่เกี่ยวกับตระกูลฟาง เหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากมากแต่สำหรับหยูเฮงน้อยแล้วมันทั้งง่ายและน่าสนุกมาก
“คุณหนู พรุ่งนี้นางจะวางมาดภรรยาเจ้าสำนักมา ถึงเวลานั้นถ้าเราไม่ปรากฏตัวละก็ นางต้องหาเรื่องท่านปู่ทวดและพวกฮูหยินฟางแน่ ถึงตอนนั้นเราจะจัดการนางมั้ย”
“อย่าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าเชียวนะ เราจะไม่ลงมือที่บ้านตระกูลฟางเด็ดขาด ถ้านางเป็นอะไรไปในบ้านตระกูลฟางละก็ ทุกคนในตระกูลฟางก็ต้องเข้ามาเอี่ยวด้วย คนของสำนักมารก็จะมีข้ออ้างที่จะเปิดสศึก”
“อ้อ จะให้ดูนางเชิดหน้าชูตาในวันพรุ่งนี้ช้าไม่ชอบใจเลย” หยูเฮงน้อยรู้ว่านางไม่สามารถทนได้กับความความเย่อหยิ่งจองหองของผู้คนเหล่านั้นได้ ถ้าหากพรุ่งนี้นางต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้จริงๆละก็ นางต้องลงมืออัดคนแน่ๆ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองนางและเตือนเบา “เจ้าลืมเหรอว่าพรุ่งนี้ก็จะมีแขกมาที่บ้านตระกูลฟางเหมือนกันนี่”
——————————————