ไม่นะ…ซางจิ่วตี้เริ่มใจไม่ดีและไม่รู้ว่าจะจัดการสถานการณ์ตรงหน้ายังไงต่อ
เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีความกังวลใจอย่างมากกังวลหน้าตาเริ่มซีด ค่ายเขี้ยวหมาป่าตกอยู่ในความวุ่นวายแบบนี้ตั้งแต่มีการรับพวกผู้ลี้ภัยเข้ามา ก่อนหน้านี้มันค่อนข้างยากที่จัดการและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้จู่ๆชูฮันก็ไปกระตุ้นความโกรธของประชาชนขึ้นมา การกระทำแบบนี้มันก็เหมือนเป็นการลากค่ายเขี้ยวหมาป่าลงนรกไม่ใช่หรือไง?
มีเพียงแค่เกาช้าวฮุ่ยที่คิดรอบคอบกว่าใครจากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มร้ายๆออกมาและพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนหยุดทุกอย่างด้วยความตะลึง “ฉันเชื่อนาย แต่ว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? สงสัยจะต้องกำจัดทิ้งซะแล้ว!”
หยางเทียนหันหน้าไปทางเกาช้าวฮุ่ยทันทีเขาเริ่มให้ความสนใจกับคนมาใหม่ที่หัวหน้าชูฮันพามา ไอ้นี่มันประสาทรึไง?!
ในขณะที่ทุกคนต่างมีความคิดต่างกันออกมาและยังคงต่อว่าใส่ชูฮันกันไม่หยุดทันใดนั้นชูฮันก็เริ่มเดินวนเป็นจังหวะประหลาดๆอีกครั้ง แต่ละก้าวของชูฮันเดินช้าอย่างมาก หากทุกก้าวนั้นหนักแน่นและแข็งแกร่ง
”ตึก!”
”ตึก!”
ด้วยพลังมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ในฝีเท้าทำให้ทุกครั้งที่เขาเหยียบเท้าลงไปมันจะเกิดเป็นรอยเท้าขึ้นรูปชัดเจน
”ตึก!”
”ตึก!”
แต่ละก้าวนั้นถูกแช่ไว้พักใหญ่เสียงดังวุ่นวายของฝูงชนเริ่มเบาลงเรื่อยๆเมื่อผู้คนเริ่มเห็นพฤติกรรมและรอยเท้าที่แสดงที่พื้นชัดเจน
พลังงานอัดแน่นที่แผ่กระจายออกมาจากตัวชูฮันทำให้ลานกว้างจตุรัสกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้งภายในเวลาสั้นๆเหลือไว้เพียงเสียงฝีเท้าของชูฮันที่ดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณ สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องการเคลื่อนไหวของชูฮันไม่วางตา
ชูฮันเดินช้าหากหนักแน่นและเต็มพลังความเงียบลากเวลายาวนานท่ามกลางเสียงฝีเท้าที่ดังสะท้อน หัวใจของทุกคนเริ่มเต้นรัวเร็วขึ้นทุกขณะราวกับกำลังจะระเบิด
”ตึก!ตึก! ตึก!”
ในที่สุดหลังจากชูฮันเดินเป็นจังหวะท่ามกลางความเงียบอยู่ราวห้านาที เขาก็หยุดนิ่ง ยืนหลังตรงเผชิญหน้าไปทางฝูงชนนับหมื่น
”หรือฉันคิดผิด?กินข้าวของเรา ดื่มน้ำของเรา อาศัยกับเรา พวกแกมันก็แค่กลุ่มคนที่ดีแต่แบมือขออย่างเดียว แต่ไม่เคยทำอะไรสักอย่าง?” ชูฮันพูดต่ออีก ทว่าครั้งนี้เขาไม่ปล่อยให้พวกผู้ลี้ภัยได้มีโอกาสแย้ง “พวกแกก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองอันลู กองทัพเขี้ยวหมาป่ากำลังแย่และถูกกองทัพซอมบี้ล้อมเอาไว้อยู่ในหุบเขา พวกเราตกอยู่ในสงครามระหว่างเรากับลูกผสมและซอมบี้ที่ผนึกกำลังกัน ตอนนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าขาดแคลนทั้งทรัพยากรและเสบียงอาหารอย่างหนัก และที่เส้นทางถนนเพื่อมาสู่เมืองอันลู ก็ยังมีกลุ่มทหารของเรา 500 คนคอยประจำการเพื่อรับหน้ากับกองทัพซอมบี้ 300,000 ตัวที่กำลังจะบุกมาค่ายของเรา”
”พวกแกรู้บ้างมั้ยว่าทุกคนต้องเสียสละอะไรบ้าง?!”ชูฮันตะคอกถามพร้อมจิตสังหารรุนแรงที่ระเบิดออกมาด้วยความเดือดดาล “พวกแกมันไร้ค่ายิ่งกว่าขยะ! ไม่มีประโยชน์อะไรสักอย่าง ไร้ค่า!”
ครั้งนี้ไม่มีใครกล้าแย้งหรือเถียงเลยไม่มีใครมีความกล้า แต่แววตาของหลายคนยังคงไม่เข้าใจและต่อต้าน
ชูฮันอารมณ์ไม่ดีอย่างมากเขารู้สึกละอายแทนคนไร้สามัญสำนึกพวกนี้!
พวกมันคือสิ่งปฏิกูลของเสียที่ไม่มีความหมาย! ”หยางเทียน!”ครั้งนี้จู่ๆชูฮันก็เรียกชื่อหยางเทียนเสียงดังจนหยางเทียนสะดุ้งตกใจ
”ครับ!”หยางเทียนรีบตอบรับทันทีด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับยกมือวันทยาหัตถ์ตามระเบียบทหารเพื่อแสดงความเคารพต่อชูฮัน
”ฟรึบ!”
สายตาทั้งหลายมองมาที่หยางเทียนกันทันทีหลายคนในค่ายรู้จักเขาดีอยู่แล้ว เพราะถึงอย่างไรเขาก็เคยเป็นผู้นำของค่ายเขี้ยวหมาป่าในอดีต และหยางเทียนก็มักปรากฏตัวอยู่เสมอในหลายๆเหตุการณ์
และในตอนที่สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่หยางเทียนทุกคนมีสีหน้าประหลาดใจ หยางเทียนที่พวกเขามักเห็นจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยความโกรธและหัวรุนแรง เอาแต่สบถด่าตลอดเวลา แต่วันนี้คือครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นหยางเทียนทำท่าวันทยาหัตถ์ด้วยท่าเต็มระเบียบทหารเช่นนี้
หยางเทียนตรงหน้าชูฮันดูเหมือนอีกคนหนึ่งไปเลยเหมือนกับคนที่เกิดมาเป็นทหารจนเข้ากระดูกดำ
”บอกพวกเขาว่าทำไมนี้คือสงครามของค่ายเขี้ยวหมาป่าที่พวกเขาต้องต่อสู้ทำไมต้องวิ่งออกไปโง่ๆให้ตายเปล่า ในเมื่อเรารู้วิธีใช้ไข่ตีหินแข็งๆให้แตกได้?” เสียงที่เต็มไปด้วยความยั่วเย้าของชูฮันผสมความสบายๆ ราวกับว่าทุกอย่างในโลกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาหมดแล้ว
”ครับ!”หยางเทียนตอบรับเสียงดัง
จากนั้นในตอนที่ทุกคนทำท่าตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจหยางเทียนก็ตอบเสียงดังด้วยสีหน้านิ่งๆเย็นชา “เพราะเราต้องปกป้องค่ายเขี้ยวหมาป่า เราต้องปกป้องทุกพื้นที่ในเมืองอันลู ปกป้องผู้รอดชีวิตให้ได้แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของกองทัพเขี้ยวหมาป่า!”
!!!
เกิดเสียงอุทานตกใจและหัวใจที่ดังกระหึ่มจนแทบจะทะลุออกมาจากอกของทุกคนราวกับว่ามีพลุระเบิดอยู่ในใจของทุกคน ทุกคนมีสีหน้าแปลกๆ บ้างก็บิดเบี้ยวด้วยอาการตกใจกระทันหันอย่างทำตัวไม่ถูก
กองทัพเขี้ยวหมาป่าจะไม่รอด!
เสียงระเบิดดังกระหึ่มจากหัวใจนับหมื่นนับพันที่รีบเร่งเหมือนดอกไม้ไฟที่ลุกโพลงในหัวใจทุกคนตกใจจนแสดงสีหน้าออกมาไม่ถูก บ้างก็นิ่งค้าง บ้างก็หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความช็อคกับสิ่งที่ได้รับรู้
ทันทีที่หยางเทียนพูดจบทั้งบริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบงัน สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หยางเทียนและชูฮันที่ยืนอยู่ตรงกลาง รวมถึงซางจิ่วตี้และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ภาพฉากความโหดเหี้ยมรุนแรงของชูฮันก่อนหน้านี้ทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงกลัวว่าอาจจะอะไรเกิดขึ้นต่ออีก เพราะโดยปกติใครที่ทำให้ชูฮันโกรธ จุดจบคือความตายไม่ก็โดนซ้อมปางตาย…
ทว่าตอนนี้เหตุการณ์มันได้ขึ้นไปอีกระดับที่เหนือความคาดหมายของทุกคน ชูฮันจงใจทำให้ทุกคนเข้าใจไปว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าตายหมดแล้ว เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงสบตากันและกัน พยายามขบคิดถึงเจตนาที่แท้จริงของชูฮัน เพราะเห็นได้ชัดว่าชูฮันกำลังวางเหยื่อล่ออยู่ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของการกระทำนี้ยังเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อยู่
หรือว่าต้องการเปลี่ยนสถานะของค่ายให้กลับมาอยู่ในสถานะเงียบสงบเหมือนเดิมเพื่อจะได้กำจัดผู้ลี้ภัยที่ไร้ประโยชน์และเป็นภาระออกไป?
ซางจิ่วตี้คิดว่ามันน่าจะเป็นเช่นนั้นแต่ที่เธอตกใจก็เพราะไม่คิดว่าหยางเทียนจะร่วมด้วยกับชูฮัน
ในขณะที่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับกำลังเดาเจตนาของการกระทำชูฮันกันอยู่ทันใดนั้นชูฮันก็พูดขึ้นแทรกความตกใจและหดหู่ของผู้คนนับหมื่น
”หยางเทียนบอกพวกเขาอีกสิ ว่านายเป็นใคร ตำแหน่งและความรับผิดชอบของนาย และชีวิตที่ผ่านมา” เสียงของชูฮันยังคงแฝงไปด้วยอารมณ์รุนแรง แววตาคมกริบดุดันไม่คลาย เขากวาดสายตาไปทั่วฝูงชนนับหมื่นตรงหน้า
หยางเทียนที่มีใบหน้าสวยงามยิ่งกว่าผู้หญิงซึ่งยืนอยู่ข้างชูฮันก็พูดขึ้น”ชื่อหยางเทียน วิวัฒนาการระยะ 6 ตำแหน่งกัปตันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยค่ายเขี้ยวหมาป่า! ฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกันกับพลเอกชูฮัน ชีวิตในยุคก่อนโตเล่นมากับหัวหน้าชูฮัน และชีวิตในโลกาวินาศก็ไล่ฆ่าซอมบี้ ลูกผสม และพัฒนาค่ายเขี้ยวหมาป่าให้เจริญขึ้นไปกับหัวหน้า! จบการรายงานครับ!”