ตอนที่ 578 เหยื่ออารมณ์

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 578

เหยื่ออารมณ์

“คุณหนู……”เสียงของเหมาเหมาดังขึ้นจากบนตักของชิวซุยด้วยท่าทีเป็นห่วง พอรู้ว่าพี่ชายลืมวันเกิดตัวเองไม่โผล่หน้ามาเป็นอาทิตย์ทำเอาชิวซุยโกรธมากทีเดียว แต่ถึงจะโกรธอย่างไรชิวซุยก็ไม่ใช่คนแสดงออกถึงความโกรธได้ชัดเจนนัก ยางยังทำตัวปกติเหมือนเช่นเดิมกับครอบครัว เพียงแต่จะไม่พูดเรื่องพี่ชายออกมาเท่านั้น

“ยังไม่หายโกรธอีกหรือเจ้าคะคุณหนู”เหมาเหมาถามพลางมองชิวซุยจากด้านล่างด้วยท่าทีเป็นห่วง คราวนี้หลินเฟยก่อเรื่องไม่ใช่น้อย คราวก่อนก็หายตัวไประหว่างเที่ยวชมงานตามสัญญา คราวนั้นหลินเฟยสัญญานักหนาว่าจะไม่ทำอีกนางถึงยอมยกโทษให้ ที่ไหนได้ผ่านไปยังไม่ทันพ้นเดือนหลินเฟยก็ทำอีก แถมคราวนี้ยังเป็นวันเกิดของนางอีกต่างหาก จะให้ชิวซุยยกโทษให้ง่ายๆได้อย่างไร

“ข้าไม่ได้โกรธอะไรนี่นา”ชิวซุยตอบพลางใช้ตะเกียบคีบอาหารบนโต๊ะเข้าปาก ท่าทีของนางนั้นหากไม่ใช่คนที่สนิทกันคงมองไม่ออกเลยว่านางกำลังโกรธอยู่ แต่เหมาเหมาที่เป็นเหมือนอสูรประจำตัวของนางแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันนาน แต่เพราะความใกล้ชิดกันทำให้เหมาเหมารู้สึกได้ว่าชิวซุยนั้นมีบรรยากาศไม่เหมือนเดิมเลย

“จะ เจ้าค่ะ….”เหมาเหมายิ้มเจื่อนๆออกมาในร่างแมว แล้วทำไมคนไม่โกรธถึงได้ออกมาจากบ้านหลังจากที่รู้ว่าหลินเฟยจะกลับมาแล้วกันล่ะเจ้าคะ แถมยังมุ่งลงมาทางใต้แทนที่จะเป็นอาณาจักรอู๋หรือบินไปอาณาจักรไชน์ที่พี่ชายจะไปตามกลับง่ายๆเสียด้วย นี่มันจงใจหนีชัดๆเลยไม่ใช่หรือ

“เหมาเหมา ทำไมตอนนั้นถึงถูกจับมาล่ะ”ชิวซุยถามพลางก้มมองเหมาเหมาด้วยท่าทีสนใจ

“ระ เรื่องนั้น…”เหมาเหมานิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะนึกย้อนความหลังในอดีตของตนขึ้นมาช้าๆ ตอนนั้นนางโดนพี่ชายไล่ออกจากเขตอสูรแถมยังบาดเจ็บเจียนตายอีกต่างหาก เรื่องแบบนั้นสมควรเป็นแผลใจฝังลึกไปอีกนานแท้ๆ แต่เพราะได้เจอชิวซุยทำให้เหมาเหมาลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท

“งั้นหรือ โดนไล่ออกมาหลังจากเสียท่านพ่อไปสินะ”หลังจากชิวซุยได้ฟังเรื่องที่เหมาเหมาเล่าให้ฟังก็ตอบรับด้วยท่าทีนิ่งสงบอย่างมากจนน่าประหลาดใจ ปกติได้ฟังเรื่องแบบนี้ก็น่าจะมีอารมณ์ร่วมบ้างสิ

“แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่คิดจะกลับไปอีกแล้ว”เหมาเหมาว่าพลางก้มหน้าลงน้อยๆ ตอนนี้นางมีที่อยู่ใหม่แล้ว แถมครอบครัวของคุณหนูยังดีกับนางมากโดยเฉพาะท่านยายของคุณหนู นางมักจะเอ็นดูเหมาเหมาเสมอเพราะเหมือนกับอสูรที่เป็นเหมือนพี่สาวของนาง ทำให้เหมาเหมาโดนโอ๋พอสมควรเลย เรียกได้ว่าสบายกว่าสมัยอยู่เขตอสูรของท่านพ่อเสียอีก

“งั้น ไปกันเถอะ”ชิวซุยพูดพลางลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารพร้อมวางเงินค่าอาหารทิ้งเอาไว้ทันที

“เอ๊ะ ไปไหนหรือเจ้าคะ”เหมาเหมาถามด้วยท่าทีตกใจเพราะอยู่ดีๆชิวซุยก็อุ้มนางขึ้นแล้วพาเดินออกจากร้านไปเสียอย่างนั้น

“ไปเขตอสูรของเหมาเหมาไง”ชิวซุยตอบพลางเอารถออกมาจากมิติส่วนตัวแล้วขับออกไปบนถนนของอาณาจักรไป๋ทันที

เขตอสูรของเหมาเหมานั้นไม่ได้อยู่ในเขตของอาณาจักรไป๋ แต่ก็อยู่ไม่ห่างจากชายแดนของอาณาจักรไป๋นัก แต่ถึงระยะทางจะไม่ห่างแต่ชิวซุยก็ต้องข้ามหุบเขาชันไปก่อนถึงจะเข้าเมืองที่ตนเองไปซื่อเหมาเหมามาได้ แน่นอนว่าภายในหุบเขานั้นรถไม่สามารถเดินทางได้ ชิวซุยเลยต้องอาศัยร่างพยัคฆ์ของเหมาเหมาในการเดินทาง ทำให้เสียเวลาข้ามหุบเขามากกว่าขับรถมาทางใต้ของอาณาจักรไป๋เสียอีก

“………”ทันทีที่เข้ามาในเขตเมืองข้างเคียงเขตอสูรของบิดา เหมาเหมาก็มีท่าทีกังวลขึ้นมาทันที แม้จะได้ความรักความเมตตาจากครอบครัวตระกูลไป๋และอสูรในเขตอสูรผาไร้ก้น แต่นางก็ไม่อาจลืมวันที่พี่ชายแท้ๆโจมตีนางแล้วขับไล่นางออกมาจากเขตอสูรได้อยู่ดี

ตุบ….แทบจะทันทีที่เหมาเหมาเข้ามาใกล้เขตอสูร ไม่จำเป็นต้องรุกล้ำเข้าไปในเขตเสียด้วยซ้ำ ร่างของพยัคฆ์สีดำผู้เป็นพี่ชายของนางก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า พร้อมจ้องมองมาทางตัวนางด้วยท่าทีไม่พอใจทันที

“เจ้ากลับมาทำไม”พยัคฆ์ดำถามพลางปล่อยพลังอสูรออกมากดดันเหมาเหมา แต่แทนที่เหมาเหมาที่ได้รับบาดเจ็บจะรู้สึกกดดันนางกลับรู้สึกตรงกันข้ามเสียอย่างนั้น หลายวันที่ผ่านมานี้ทำให้เหมาเหมาได้เปิดหูเปิดตาอย่างมาก พลังอสูรของพี่ชายที่คิดว่าเยอะแล้วกลับรู้สึกกระจ้อยร่อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับในเขตอสูรผาไร้ก้น ระดับพลังขนาดนางและพี่ชายนั้นหากไปอยู่ที่เขตอสูรผาไร้ก้นโดยไม่มีคุณหนูคอยเอ็นนดูก็เป็นได้แค่สัตว์อสูรชนชั้นต่ำสุดของที่นั่นเท่านั้นเอง คงมีอสูรไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่พลังต่ำกว่าพวกตน

“ข้าไม่ได้อยากกลับมานักหรอก”เหมาเหมาตอบพลางมองไปทางชิวซุยที่นั่งอยู่บนหลังของตนเอง

“มนุษย์? เจ้าพามนุษย์มาทำไมกัน”เสียงอีกเสียงดังขึ้นมาจากรอบๆตัวเหมาเหมา ดูท่าพี่ชายของนางจะพาลูกน้องมาด้วยเพราะแต่เดิมพลังอสูรของเหมาเหมานั้นมากกว่าพี่ชายอยู่แล้ว หากวันนั้นพี่ชายไม่ลอบโจมตีการเอาชนะนางก็ถือเป็นเรื่องยากพอตัว

“เจ้าคือพี่ชายของเหมาเหมางั้นหรือ”ชิวซุยพูดพลางกระโดดลงจากตัวของเหมาเหมาทันที นางเดินเข้าไปหาพยัคฆ์ดำด้วยท่าทีเอาเรื่องเห็นแล้วดูน่าขำย่างประหลาดที่เด็กสาวตัวน้อยกำลังเดินเข้าหาเสือเหมือนจะไปหาเรื่องเสียอย่างนั้น

“เหมาเหมา ใครกัน”พยัคฆ์ดำถามพลางมองชิวซุยด้วยท่าทีงุนงง มนุษย์ผู้นี้เป็นใครทำไมถึงเดินดุ่มๆเข้ามาหาตนแบบนี้ นางไม่กลัวบ้างหรืออย่างไร

“เหมาเหมาคือข้าเอง”เหมาเหมาตอบเผื่อพี่ชายจะยังไม่รู้ว่าตนเองไปเป็นอสูรของชิวซุยแล้ว

“ฮ้าๆ นี่เจ้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์หรือ ช่างน่าอับอาย……”

ปับ!….

ยังไม่ทันได้พูดจนจบ มือทั้งสองข้างของชิวซุยก็ประกบเข้าที่หน้าของพยัคฆ์ดำทันที ทำเอาพยัคฆ์ดำสะดุ้งโหยงด้วยท่าทีตกใจ แม้ชิวซุยจะยังไม่ถึงระดับยอดฝีมือเสียด้วยซ้ำ แต่พลังของพยัคฆ์ดำก็ไม่ได้สูงมาก ประกอบกับชิวซุยมีเคล็ดวชาลมปราณมังกรและร่างที่สืบทอดมาจากสายเลือดแมงมุม ทำให้พยัคฆ์ดำไม่อาจสลัดมือของชิวซุยออกได้

“เจ้าเป็นพี่ชายต้องทำตัวดีๆกับน้องสาวเข้าใจหรือเปล่า”ชิวซุยว่าพลางใช้มือดึงแก้มของพยัคฆ์ดำจนยืดออกมาเล็กน้อย ก่อนจะขยับมือไปมาจนหน้าของพยัคฆ์ดำขยับไปมาดูน่าตลกจนเหมาเหมาต้องแอบขำออกมา

“เจ้ามนุษย์”พยัคฆ์ดำพยายามจะต่อต้าน แต่เพราะชิวซุยเข้ามาใกล้ตนเองแล้วทำให้กลิ่นอายของความสามารถดึงดูดสัตว์อสูรเข้าสู่โสตประสาทของมันไปเป็นที่เรียบร้อย พริบตาเดียวความรู้สึกต่อต้านก็หายไปทันทีเช่นเดียวกับอสูรรอบๆที่เริ่มสงบลงแล้ว

“เจ้ารู้หรือเปล่าว่าน้องสาวเจ้าเจ็บแค่ไหน”ชิวซุยว่าพลางเล่นกับหน้าของพยัคฆ์ดำราวกับกำลังต่อว่าลูกแมวที่ตนเองเลี้ยงเอาไว้ไม่มีผิด

“เจ้าเป็นพี่น้องกับนางแท้ๆ ทำไม่รู้จักดูแลนางดีๆ”ชิวซุยยิ่งบ่นก็ยิ่งพรั่งพรู ยิ่งพูดแก้มของนางก็ยิ้มป่องขึ้นเรื่อยๆอย่างกับไม่พอใจคนอื่นแล้วเอามาลงกับพยัคฆ์ดำไม่มีผิด

“เอ่อ….คุณหนู”เหมาเหมาที่เห็นพี่ชายโดนเล่นแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกสงสาร แถมท่าทางชิวซุยจะเริ่มเอาเรื่องของตนเองมาปนแล้วด้วย

“เจ้าเป็นพี่ชายที่แย่ที่สุดเลย ปล่อยให้น้องสาวรอได้อย่างไร”ชิวซุยบ่นด้วยท่าทีงอนตุ๊บป่อง ก่อนจะปล่อยมือออกจากแก้มของพยัคฆ์ดำแล้วเปลี่ยนเป็นตีเบาๆที่หัวของมันแทน

“แถมยังลืมวันเกิดน้องสาวอีก ไม่ได้เรื่องๆ”ชิวซุยตีไปบนใบหน้าของพยัคฆ์ดำเหมือนจะสั่งสอน แน่นอนว่าการตีเบาๆของนางนั้นไม่ได้ทำให้พยัคฆ์ดำเจ็บอะไรหรอก แต่มันกลับทำหน้างงเหมือนกำลังหาคำตอบอยู่ว่ามันไปทำเรื่องแบบนั้นกับเหมาเหมาตอนไหน

“………”ยิ่งโดนต่อว่าพยัคฆ์ดำก็ยิ่งสับสน มันจึงหันหน้าไปหาเหมาเหมาเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงแม้มันจะไม่เจ็บอะไรแต่ท่าทีของชิวซุยก็แปลกๆจนพยัคฆ์ดำยังเป็นห่วง

“คุณหนู พอแล้วเจ้าค่ะ”เหมาเหมาเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเข้ามาห้ามชิวซุยเอาไว้ ท่าทางนางจะโกรธหลินเฟยมากจริงๆ ปกติไม่เคยเห็นนางหลุดอารมณ์ออกมาแบบนี้มาก่อน

“ไม่เอา”ชิวซุยว่าพลางเดินเข้าไปยืนข้างๆพยัคฆ์ดำแทน

“เจ้านั่งลง”ชิวซุยสั่งด้วยท่าทีจริงจัง ได้ระบายไปบ้างแล้วก็พอทำให้นางเย็นขึ้นเหมือนกัน แต่เรื่องลงโทษพยัคฆ์ดำนั้นก็ยังต้องทำอยู่

“ขะ ขอรับ….”พยัคฆ์ดำทำหน้าเหลอหลาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งทันที

หมับ….

ชิวซุยเห็นเช่นนั้นก็ไม่รอข้าเดินเข้าไปลูบขนของพยัคฆ์ดำดูบ้าง จะเรียกว่าสมกับเป็นพี่น้องกันดีหรือไม่แต่ขนของพยัคฆ์ดำเองก็นุ่มเหมือนกับของเหมาเหมาไม่มีผิด ทำให้ชิวซุยทิ้งตัวลงบนร่างของมันเหมือนที่ทำกับเหมาเหมาเช่นกัน ก่อนจะสั่งให้พยัคฆ์ดำอยู่เฉยๆให้ตนเองได้เล่นขนของมันจนพอใจ

“……..นี่มัน เรื่องอะไรกัน”หลังจากชิวซุยเล่นจนพอใจแล้วนางก็ผล็อยหลับไปบนตัวของพยัคฆ์ดำเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าพยัคฆ์ดำและอสูรตนอื่นๆไม่มีใครทำอะไรนางอยู่แล้ว แถมยังปล่อยให้นางนอนหลับตามสบายอีกต่างหาก แต่กลายเป็นว่าบรรยากาศอึดอัดก่อนหน้านี้ของพยัคฆ์ดำกับเหมาเหมานั้นสลายหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ

“ไม่มีอะไรหรอก นางแค่กำลังโกรธพี่ชายของนางเท่านั้นเอง”เหมาเหมาตอบพลางมองพี่ชายของตนด้วยท่าทีเหนื่อยใจ เจ้าเองก็สมควรโดนต่อว่าเหมือนกันนั่นล่ะ

“งะ งั้นหรือ”พยัคฆ์ดำมองชิวซุยที่หลับอยู่บนตัวมันด้วยท่าทีประหลาดใจ นางทำตัวเหมือนเหมาเหมาตอนยังเด็กไม่มีผิดเลย ตอนนั้นนางก็งอแงแบบนี้เหมือนกัน แต่เพราะโตขึ้นแล้วมันก็ลืมความรู้สึกแบบนั้นไปจนหมด

“ข้า….ขอโทษด้วยเรื่องก่อนหน้านี้”พยัคฆ์ดำพอนึกถึงเรื่องสมัยก่อน ก็เริ่มรู้สึกว่าตนเองทำผิดกับเหมาเหมาลงไปจริงๆ แถมเรื่องที่มันทำยังเลวร้ายกว่าการลืมวันเกิดเป็นไหนๆ

“คุณหนูต่อว่าท่านให้แล้วนี่ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แถมข้ายังได้ที่อยู่ของข้าแล้วด้วย”เหมาเหมาตอบพลางถอนหายใจออกมา นางเปลี่ยนร่างตนเองเป็นร่างของแมวก่อนจะลงไปนอนบนตักของเหมาเหมาทันที