ตอนที่ 577 พยาน

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 577

พยาน

“คุณชาย ท่านเป็นอะไรไปงั้นหรือ”หลังจากไล่อี้หยินออกไปแล้ว หลินเฟยก็อยู่ต้อนรับพวกสาวๆที่มาตามคำเชิญของมันต่อ แม้มันจะเชิญพวกนางมาเพียงเพื่อตอกหน้าอี้หยินเท่านั้นแต่จะเรียกพวกนางมาแล้วบอกให้พวกนางกลับไปเลยก็คงไม่ได้ เพียงแต่ไม่ทราบเพราะอะไรหลินเฟยยามนี้ไม่อาจสนุกสนานกับการอยู่ร่วมกับสาวงามมากหน้าหลายตาได้อีกแล้ว

หญิงสาวที่รายล้อมหลินเฟยอยู่ยามนี้ไม่อาจตอบรับความต้องการของหลินเฟยได้เลย แม้พวกนางจะเอาอกเอาใจหลินเฟยอย่างไรหลินเฟยก็ไม่มีท่าทีจะพอใจเลยแม้แต่น้อย

“ขอโทษด้วย ข้าคงจะเหนื่อยไปหน่อย”หลินเฟยตอบพลางยิ้มให้สาวๆที่มาหาตนเอง สุดท้ายหลินเฟยก็ร่วมสนุกกับพวกนางได้ไม่นานก็ปล่อยพวกนางแยกย้ายกันกลับบ้านเสีย

.

.

“น้องหลินเฟย เจ้าดูท่าทางสบายดีนี่นา”ในเช้าวันต่อมาหลังจากหลินเฟยตัดสินใจนอนพักตามลำพัง อยู่ๆหญิงสาวนางหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องของหลินเฟยด้วยท่าทีคุ้นเคย แต่นางไม่ได้บุกรุกแต่อย่างไรเพราะประตูห้องของหลินเฟยโดนคุณชายลู่ทำลายไปแล้วนี่นะ

“ท่าน…”หลินเฟยลุกขึ้นมานั่งพลางมองนายหญิงลู่ที่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบด้วยท่าทีประหลาดใจ

“เจ้าถือหรือเปล่าที่ข้าแอบเข้ามาแบบนี้”นายหญิงลู่ถามพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แม้จะเข้าห้องได้โดยไม่มีประตูกั้น แต่นางก็เข้าบ้านของหลินเฟยมาโดยไม่ได้ขออยู่ดี

“ไม่หรอกขอรับ”หลินเฟยส่ายหน้าช้าๆพลางลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีงุนงง ทำไมนายหญิงลู่ถึงมาอยู่ที่นี่กัน

“วันนี้ข้าตั้งใจจะมาขอบคุณเจ้า”นายหญิงลู่พูดพลางยิ้มหวานด้วยท่าทีอ่อนโยน ใบหน้าของนางยามนี้ดูสดใสกว่าปกติราวกับเจอเรื่องดีๆมา

“ขอบคุณข้าเรื่องอะไรงั้นหรือ”หลินเฟยถามพลางกะพริบตาปริบๆ หากเป็นเรื่องให้สาวๆมาสอนมารยาหญิงให้นางก็ขอบคุณไปแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร ทำไมมาหามันตอนนี้แล้วยังขอบคุณอีก

“เรื่องที่เจ้าทำกับสามีข้า….”นายหญิงลู่ตอบช้าๆพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีรู้ทัน

“สามีของท่าน? ข้าทำอะไรสามีท่านกัน ท่านถึงต้องมาขอบคุณข้าแบบนี้”หลินเฟยถามพลางหลบสายตาไปทางอื่น ทำไมพอเห็นนางยิ้มแบบมีความสุขเช่นนี้ถึงได้ทำให้หัวใจมันหวั่นไหวขนาดนี้

“คิกๆ อยู่ๆสามีของข้าก็กลับมาที่บ้าน แล้วเข้ามากอดข้า มันบอกว่าเข้าใจความรักที่ข้ามีต่อมันแล้วและมันจะไม่มีภรรยาน้อยอีก”นายหญิงลู่ตอบพลางหัวเราะน้อยๆออกมา นึกถึงสภาพสามีของนางเมื่อคืนทำเอาอดขำไม่ได้ทุกที นางไม่ทราบหรอกว่าหลินเฟยทำอะไร แต่อยู่ๆสามีก็กลับมาหานางเหมือนคนพึ่งได้สติ ทำให้นางเริ่มมั่นใจขึ้นมาแล้วว่าหลังจากนี้นางจะคุมสามีคนนี้ได้ดีกว่าเดิม

“เรื่องนั้นข้าไม่เกี่ยวสักหน่อย บางทีภรรยาน้อยของสามีท่านอาจจะไปก่อเรื่องอะไรเองก็ได้”หลินเฟยตอบพลางหันหน้ามองไปทางอื่นเหมือนไม่ใส่ใจ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือที่นายหญิงลู่ได้กลับไปคืนดีกับสามีจริงๆเสียที เช่นนั้นนางก็มีความสุขแล้ว ดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าของนางหลินเฟยมั่นใจว่านางต้องรักสามีของนางมากแน่ๆ

“งั้น ข้าก็มาขอบคุณเรื่องอื่นก็ได้”นายหญิงลู่ว่าพลางหัวเราะออกมากับท่าทีไม่ยอมรับของหลินเฟย นางเป็นนายหญิงของตระกูลลู่เชียวนะ เรื่องที่สามีกำลังสืบอยู่ทำไมนางจะไม่รู้ แถมนางยังได้เห็นรูปที่สายสืบของสามีเอามาให้สามีดูแล้วด้วย ประกอบกับท่าทีของสามีหลังจากกลับมาจากบ้านของหลินเฟยทำให้นางเข้าใจทันทีว่าคนที่ช่วยเหลือนางคือหลินเฟยนั่นเอง

“ตามใจท่านก็แล้วกัน”หลินเฟยว่าพลางถอนหายใจออกมา มันไม่ได้หวังคำขอบคุณจากนางเสียหน่อย มันหวังแค่อยากให้นางมีความสุขเท่านั้น แม่ใบหน้ายามเศร้าของนางจะน่าหลงใหลดี แต่ใบหน้ายามยิ้มแย้มมีความสุขของนางก็ทำให้หลินเฟยมีความสุขมากกว่า นี่สินะสิ่งที่คนเราทำเมื่อรักใครสักคน

“น้องหลินเฟย….ข้าได้รับความช่วยเหลือจากเจ้ามากมาย หากมีอะไรตอบแทนเจ้าได้….”นายหญิงลู่ว่าพลางมองมาทางหลินเฟยด้วยท่าทีลำบากใจ ตระกูลลู่ไม่ใช่ตระกูลยิ่งใหญ่อะไรเมื่อเทียบกับตัวหลินเฟย แถมนางยังเป็นเพียงภรรยาแต่งเข้าบ้านสามีไม่ได้มีอำนาจอะไรเทียบเท่าคุณชายลู่เสียด้วยซ้ำ นางจะหาอะไรมาตอบแทนหลินเฟยได้กัน

“เรื่องนั้น ท่านไม่ต้องคิดมากหรอก ข้าแค่อยากทำอย่างที่ข้าอยากทำเท่านั้น”หลินเฟยตอบพลางถอนหายใจออกมา หากเป็นสาวน้อยคนอื่นหลินเฟยคงเอาเรื่องนี้มาขอสิ่งตอบแทนแล้ว แต่สำหรับนายหญิงลู่ท่านนี้หลินเฟยกลับพอใจที่จะเป็นฝ่ายให้มากกว่า

“ข้าขอบใจเจ้ามาก หากมีอะไรอยากให้ข้าช่วย เจ้าสามารถมาหาข้าได้เสมอ”นายหญิงลู่ว่าพลางจับไปที่บ่าของหลินเฟยเบาๆ ยามนี้นางเห็นหลินเฟยเป็นผู้มีพระคุณอย่างแท้จริง น่าเสียดายที่หลินเฟยอยากให้นางมองมันเป็นอย่างอื่นมากกว่า

“ท่านยังจำที่ข้าบอกได้หรือเปล่า”หลินเฟยถามพลางมองนายหญิงลู่ด้วยท่าทีเหมือนทำใจได้แล้ว

“เรื่องอะไรงั้นหรือ เจ้าบอกข้าตั้งหลายเรื่องข้าระบุออกมาไม่ได้หรอก”นายหญิงลู่ตอบพลางเอียงคอสงสัย หลินเฟยกับนายหญิงลู่อยู่ร่วมกันมาได้พักใหญ่แล้ว มีเรื่องที่หลินเฟยบอกนางเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง

“เรื่องที่ข้าบอกว่าข้าเป็นหมอดูไง”หลินเฟยยิ้มพลางเปลี่ยนดวงตาของตนเองเป็นสีเขียวและสีม่วง

“นั่นไม่ใช่ข้ออ้างของเจ้าหรือ เจ้าจะบอกว่าเจ้าสามารถทำนายอนาคตได้จริงๆหรือไง”นายหญิงลู่หัวเราะกับเรื่องที่หลินเฟยบอกออกมา ตอนนั้นหลินเฟยเข้ามาหานางแล้วแกล้งบอกว่าเป็นหมอดู แถมยังรู้ด้วยว่านางมีปัญหากับสามีทั้งๆที่นางพึ่งเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลินเฟยฟังไปเองแท้ๆ

“ใช่ ข้าพอจะทำนายอนาคตได้นิดหน่อย”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยน ดวงตาของหลินเฟยยามนี้มองทะลุเข้าไปในท้องของนายหญิงลู่ เพราะระหว่างที่คุยกับนางอยู่นั้นหลินเฟยสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เหมือนกับพลังชีวิตจางๆในร่างของนายหญิงลู่

“งั้นหรือ งั้นเจ้าลองบอกข้าสิว่าอนาคตของข้าเป็นอย่างไร”นายหญิงลู่เห็นท่าทีน่าสนุกก็เลยถามหลินเฟยต่อด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น มาดูสิว่าหมอเดาคนนี้จะเล่นอะไร

“ท่านกำลังจะได้รับข่าวดี เป็นข่าวดีมากทีเดียว”หลินเฟยตอบพลางเปลี่ยนดวงตาของตนเองกลับมาเป็นดวงตาปกติ เท่านี้มันก็มั่นใจได้แล้วว่านายหญิงลู่จะมีชีวิตครอบครัวที่ดีกว่าเดิม

“คิกๆ ขอให้จริงอย่างที่เจ้าพูดก็แล้วกัน”นายหญิงลู่หัวเราะอย่างมีความสุขอยู่ตรงหน้าหลินเฟย ก่อนจะเริ่มพูดคุยเรื่องต่างๆด้วยท่าทีคุ้นเคย

.

.

ตุบ….

หลังจากนายหญิงลู่จากไปแล้ว ร่างของหลานฮวาก็กระโดดลงมายืนอยู่ในสวนหน้าห้องของหลินเฟย พลางเดินเข้าไปหาหลินเฟยที่กำลังนั่งอยู่ในห้องคนเดียวทันที

“เจ้าทำดีแล้ว”หลานฮวาพูดพลางเดินเข้าไปนั่งข้างๆหลินเฟยด้วยท่าทีเอ็นดู เจ้าหนูที่เล่นสนุกกับผู้หญิงไปเรื่อยๆกลับหลงรักภรรยาคนอื่นเข้าให้ แต่แทนที่จะใช้อำนาจหรือพลังเหนือมนุษย์ของตนเองแย่งชิงผู้หญิงคนนั้นมา มันกลับเลือกที่จะทำให้นางมีความสุขแทน หลินเฟยเป็นคนฉลาด มันย่อมคิดได้อยู่แล้วว่าหากมันชิงตัวนายหญิงลู่มาจะเกิดอะไรขึ้น อย่างแรกคือนายหญิงลู่จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่ทิ้งคนรักของนาง แม้นางจะมีใจให้หลินเฟยนิดหน่อย แต่นางก็ยังรักมั่นกับสามีของนางจริงๆ และต่อให้นางยินดีไปกับหลินเฟยหลังจากหลินเฟยโปรยเสน่ห์อะไรแล้วก็ตาม ตระกูลไป๋จะได้รับชื่อเสียอย่างหนักหลังจากรู้ว่าตระกูลไป๋ใช้อำนาจชิงตัวภรรยาของขุนนางอาณาจักรอู๋มา เรื่องนี้คงไม่จบแค่เลิกแล้วต่อกันแน่ๆ หารที่หลินเฟยเลือกทำแบบนี้นับว่าฉลาด และถูกต้องแล้ว

ตุบ….

อยู่ๆหลินเฟยก็ทิ้งตัวลงนอนบนตักของหลานฮวาแถมยังไม่ได้พูดอะไรอีกต่างหาก รักแรกของหลินเฟยผู้นี้กลับโดนหักอกอย่างจัง แถมยังแพ้ตั้งแต่เริ่มอีกต่างหาก ตบท้ายด้วยคนที่มันหลงรักได้ตั้งท้องกับสามีของนางแล้ว เรียกได้ว่าเจ็บปวดมากกว่าการอกหักของคนอื่นๆเสียอีก

“นี่ ข้าไม่ใช่สาวๆของเจ้านะ”หลานฮวาว่าพลางหยิกแก้มหลินเฟยเบาๆ ถ้าจะอ้อนก็ไปอ้อนสาวๆของตนเองสิ ไม่ก็ไปอ้อนเอากับท่านแม่ท่านยายโน่น

“เป็นท่านดีแล้ว”หลินเฟยตอบพลางหลับตาลงช้าๆ อย่างน้อยหลานฮวาก็เป็นคนที่มันไว้ใจที่สุด และสบายใจได้เวลาอยู่ด้วยกัน เวลานี้ไม่มีใครปลอบใจหลินเฟยได้ดีเท่าหลานฮวาอีกแล้ว แถมหลินเฟยยังขอแค่ขอยืมตักของหลานฮวาแทนหมอนสักครู่นางคงไม่ใจร้ายกับหลินเฟยขนาดนั้นหรอกกระมัง

“เอาเถอะ ถือเป็นรางวัลของเจ้าก็แล้วกัน”หลานฮวาว่าพลางลูบเส้นผมของหลินเฟยเบาๆ สักพักหลานฮวาก็พบว่าที่ตักของนางมีความรู้สึกชื้นปรากฏขึ้น แต่เพราะหลินเฟยหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามกับนาง นางเลยเห็นไม่ชัดนัก แต่ไม่ต้องเห็นนางก็เข้าใจความรู้สึกของหลินเฟยดีแล้วนั่งให้มันนอนหนุนตักแบบนี้ต่อไปจนกว่ามันจะพอใจ

“…….เรากลับกันเถอะ”หลังจากปล่อยตัวเองจมอยู่กับความเศร้าจนพอแล้ว หลินเฟยก็ลุกขึ้นมาเก็บข้าวของเข้าแหวนมิติของตนเอง หากมันยังอยู่ที่นี่มันคงไม่อาจหลุดพ้นจากความเศร้าได้อีกแน่ๆ ท่าทางบ้านหลังนี้คงต้องปล่อยทิ้งเอาวแล้วให้มันเป็นบ้านตากอากาศอีกหลังเท่านั้น

“จะดีงั้นหรือ”หลานฮวาถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย

“ดีแล้ว นางไม่ต้องการความช่วยเหลือจากข้าอีกแล้ว”หลินเฟยตอบพลางเดินนำหลานฮวาออกมาจากบ้านของตนเอง

“ไม่ใช่ ที่ข้าถามว่าดีงั้นหรือคือเจ้าจะกลับไปที่เขตอสูรผาไร้ก้นตอนนี้จริงๆหรือ”หลานฮวาถามด้วยท่าทีสงสัย คนตระกูลไป๋ความจำเหนือมนุษย์จะตาย หลินเฟยไม่น่าจะลืมนี่นา

“ทำไมข้าจะกลับไม่ได้ล่ะ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีงุนงง ท่าทางมันจะลืมจริงๆ

“ก็…ระหว่างเจ้าพาอี้หยินเที่ยว…..เจ้าลืมไม่ได้ไปงานวันเกิดของชิวซุยนี่นา ป่านนี้ชิวซุยคงโกรธเจ้ามากแน่ๆ”เมื่อได้ยินหลานฮวาพูดเช่นนั้นหลินเฟยก็ชะงักเท้าไปทันที เพราะมันมัวแต่ยุ่งกับการมัดใจอี้หยินมันเลยลืมเรื่องวัดเกิดของน้องสาวไปเสียสนิท แล้วแบบนี้มันจะทำอย่างไรดี