ตอนที่ 576 จำไม่ได้

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 576

จำไม่ได้

“ท่านพี่ ใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ”อี้หยินเห็นคนของคุณชายลู่เข้ามาเตรียมจัดการพวกตนก็พลันใจหายวาบ นางไม่เคยเห็นหลินเฟยใช้พลังวิญญาณมาก่อนก็เลยไม่ทราบว่ามันเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณหรือไม่ แต่ถึงจะเป็นผู้ติดตามของคุณชายลู่ก็เป็นถึงยอดฝีมือกันทั้งนั้น หากคุณชายลู่วู่วามทำอะไรลงไปมีหวังหลินเฟยต้องแย่แน่ๆ

“เจ้ายังจะช่วยมันอีกงั้นหรือ”การปกป้องของอี้หยินกลับได้ผลตรงกันข้าม ทันทีที่เห็นนางเข้าไปปกป้องหลินเฟยคุณชายลู่ก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟรีบสั่งให้ลูกน้องบุกเข้าไปลากตัวหลินเฟยออกมาทันที

เปรี้ยง!!

เพราะเป็นแผนที่หลินเฟยวางเอาไว้แต่แรกแล้วหลินเฟยก็เลยไม่คิดจะทำร้ายคนเหล่านี้รุนแรงนัก หลินเฟยไม่ได้ใช้วิชากระบี่ของมารดาแต่เลือกใช้ฝ่ามือบังคับหกปักษาที่ฝึกมาจากชุดวิชาของท่านปู่แทน

“อัก”เพียงพริบตาเดียวเหล่าผู้ติดตามระดับยอดฝีมือของคุณชายลู่ก็โดนตีจนเสียกระบวนรีบถอยกลับออกไปแทบไม่ทัน

“นายท่าน ชายผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา”ผู้ติดตามของคุณชายลู่พูดออกมาด้วยท่าทีระแวง เพียงยืนเฉยๆก็สามารถรับมือชนชั้นยอดฝีมือได้เช่นนี้เกรงว่าชายตรงหน้าจะอยู่ระดับเจ้าสวรรค์เป็นอย่างต่ำเสียแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ เด็กคนนั้นมันเก่งกว่าพวกเจ้าได้อย่างไร”คุณชายลู่ถามด้วยท่าทีไม่เข้าใจ ในอาณาจักรอู๋ผู้ที่อยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขึ้นไปนั้นต่างมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดี หลินเฟยผู้นี้ไม่น่าจะอยู่ในตารางอันดับพวกนั้นเสียหน่อย

“เกรงว่ามันจะเป็นคนของอาณาจักรอื่นขอรับ”ผู้ติดตามอีกคนพูดพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีหวาดระแวง หากมันเลือกจะโจมตีเจ้านายของพวกตนมีหวังพวกตนคงไม่สามารถต้านเอาไว้ได้แน่ๆ

“เจ้าหนู เจ้ามาหาเรื่องข้าไม่ได้รู้เลยสินะว่าข้าเป็นใคร”คุณชายลู่ถามพลางเดินเข้าไปหาหลินเฟยด้วยตนเอง มันเป็นบุตรชายขุนนางตัวบิดาของมันนั้นมีเส้นสายในวังอยู่บ้าง หากโดนคนต่างถิ่นหาเรื่องถึงขนาดนี้ก็ยังสามารถขอแรงจากพวกระดับเจ้าสวรรค์ให้มาช่วยได้บ้าง

“เจ้าคือคุณชายลู่ผู้เสเพล ทำไมข้าจะไม่รู้จัก”หลินเฟยว่าพลางยิ้มบางๆออกมา ยามนี้แม้แต่อี้หยินยังตกใจจนพูดไม่ออก ไม่คิดเลยว่าหลินเฟยนอกจากจะรูปงามและร่ำรวยแล้วยังมีพลังฝีมือสูงส่งอีกต่างหาก แบบนี้มันชายในฝันของสาวๆเลยไม่ใช่หรืออย่างไร

“เจ้า….รู้เอาไว้ด้วยว่าบิดาข้ามีสัมพันธ์อันดีกับเจ้าสำนักเทพจุติ หากเจ้ายังไม่ยอมปล่อยผู้หญิงของข้ารับรองว่าท่านเจ้าสำนักต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่ๆ”คุณชายลู่ยิ้มออกมาด้วยท่าทีเหนือกว่า แม้จะไม่ถึงกับรู้จักเจ้าสำนักรุ่นก่อนอย่างต้าชิงและต้าเฉิน แต่บิดาของมันก็เคยช่วยงานของสำนักเทพจุติเลยได้พบต้าเซียนเจ้าสำนักคนปัจจุบันมาบ้าง ลำพังแค่ระดับของเจ้าสำนักคนปัจจุบันก็น่ากลัวมากแล้ว ไม่ต้องถึงมือท่านรุ่นก่อนก็ได้

“ผู้หญิงของเจ้า ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเช่นนั้นมาก่อน”หลินเฟยว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ระหว่างที่มันอยู่กับอี้หยินมันไม่เคยได้ยินอี้หยินบอกว่านางเป็นผู้หญิงของใครเลยแม้แต่ครั้งเดียวจริงๆ

“อี้หยิน เจ้าบอกมันไปสิว่าเจ้าเป็นของใคร”คุณชายลู่ว่าพลางจ้องมองมาทางอี้หยินด้วยท่าทีกดดัน

“ขะ ข้า…”หากเป็นเมื่อหลายวันก่อนนางคงบอกว่าตนเองเป็นผู้หญิงของคุณชายลู่ด้วยความยินดีไปแล้ว แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาหลินเฟยทำให้นางเห็นแล้วว่าหลินเฟยเหนือกว่าคุณชายลู่หลายเท่า แม้เรื่องที่ตระกูลลู่รู้จักกับเจ้าสำนักเทพจุติจะเป็นเรื่องน่ากังวลก็เถอะ แต่ครอบครัวของหลินเฟยเองก็คงไม่ธรรมดาถึงได้มีบ้านพักตากอากาศอยู่ทุกที่แถมยังมีบ่าวรับใช้คอยต้อนรับไม่ว่าจะไปไหนอีกต่างหาก

“ท่านพี่ ข้าขอโทษ แต่ตอนนี้ร่างกายและหัวใจของข้าได้ถูกคุณชายหลินเฟยครอบครองไปหมดแล้ว”อี้หยินตอบพลางทิ้งตัวลงบนอกของหลินเฟยโดยไม่สนใจอีกแล้วว่าคุณชายลู่จะมีท่าทีอย่างไร

“อี้หยิน เจ้าจะทำแบบนี้จริงๆงั้นหรือ แล้วเรื่องที่ผ่านมา…”คุณชายลู่ถามด้วยท่าทีอึ้งๆไม่นึกว่าเวลาไม่กี่วันนารีจะกลายเป็นอื่นเช่นนี้

“เรื่องอะไรงั้นหรือ ข้าจำไม่เห็นได้เลย”อี้หยินยิ้มเย็นก่อนจะมองไปทางคุณชายลู่ด้วยท่าทีเย็นชา ตอนนี้นางมีหลินเฟยแล้ว คุณชายลู่ก็เป็นได้แค่ทางผ่านเท่านั้น

“ก็อย่างที่นางบอก ข้ากำลังสนุกสนานกับผู้หญิงของข้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาบุกบ้านข้า”หลินเฟยถามพลางปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมา ด้วยพลังระดับเจ้าสวรรค์ทำให้เหล่าผู้คุ้มกันต่างนิ่งค้างไม่กล้าทำอะไรเลยแม้แต่คนเดียว

“ดี ดีมาก พวกเจ้าทำได้ดีมาก… เก่งให้ได้แบบนี้ตลอดเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปบอกเรื่องนี้กับท่านเจ้าสำนักเทพจุติ ท่านจะต้องมาจัดการพวกเจ้าด้วยตนเองแน่ๆ”คุณชายลู่ขู่พลางกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ นอกจากคนรักของมันจะทรยศแล้ว ตนยังทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้อีกด้วย ความเจ็บปวดแสนสาหัสเช่นนี้มันแทบไม่เคยเจอมาก่อน

“ทำไมต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากด้วย หากเจ้าอยากแจ้งเรื่องให้เจ้าสำนักเทพจุตินักข้าจะช่วยเจ้าเอง”หลินเฟยพูดจบก็เรียกเอาโทรศัพท์ออกมาถือพลางกดเบอร์โทรออกในทันที โทรศัพท์มือถือไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่อะไรแล้ว หลินเฟยเอาออกมาเช่นนี้คนรอบๆก็ทราบทันทีว่ามันกำลังจะติดต่อใครสักคนอยู่แน่ๆ

“หลินเฟย เจ้าโทรหาข้ามีอะไรงั้นเหรอ”เสียงของต้าเซียนน้องชายของพวกต้าเฉียนและต้าหวานดังออกมาจากปลายสายทันที ทำเอาเหล่าคนรอบๆต่างตกตะลึงกันถ้วนหน้า เจ้าสำนักเทพจุติเป็นใครกัน ท่านคือเจ้าสำนักที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรอู๋ ศิษย์ของสำนักต่างอยู่ในกรมต่างๆของอาณาจักรอู๋เรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดของอาณาจักรอู๋รองจากราชวงศ์เลยก็ว่าได้ หลินเฟยผู้นี้เป็นใครถึงได้มีเบอร์ส่วนตัวของต้าเซียนผู้นี้

“ท่านน้า ข้าถูกคนผู้หญิงหาเรื่องอยู่พอดี พวกมันบอกว่าเป็นคนของท่านจริงหรือไม่ขอรับ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีสบายๆ แต่คนอื่นกลับหน้าซีดแล้วซีดอีก มันเรียกท่านเจ้าสำนักว่าน้าอย่างนั้นหรือ

“ใครกันที่กล้าหาเรื่องเจ้า บอกชื่อตระกูลมา”เสียงของต้าเซียนแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทันที แต่ถึงตอนนี้คุณชายลู่กลับเริ่มคิดเข้าข้างตัวเองอยู่นิดหน่อยว่าหลินเฟยอาจจะแค่หลอกมันก็ได้ เพราะปลายสายอาจจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่เจ้าสำนักเทพจุติ แค่เสียงไม่อาจยืนยันได้หรอกว่าเป็นท่านจริง

“ตระกูลลู่ขอรับ”หลินเฟยตอบออกไปตามตรงเผื่อท่านน้าจะนึกออก

“อ๋อ ตระกูลลู่นี่เอง คราวก่อนมันมาช่วยข้าจัดงานฉลองให้ศิษย์คนหนึ่งที่ได้รับตำแหน่งในวังหลวง มันแค่รับหน้าที่ช่วยหาสุรามาให้ในงาน ทำไมถึงกลายเป็นคนของข้าได้กัน”ต้าเซียนถามด้วยท่าทีงุนงง แต่ทางด้านคุณชายลู่กลับพูดอะไรไม่ออก เรื่องที่ท่านพ่อของมันเพียงเป็นคนจัดหาสุรามาร่วมงานของท่านเจ้าสำนักเทพจุตินั้นมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบ เพราะบิดาของมันจงใจบอกว่ารับใช้เจ้าสำนักเทพจุติอยู่นั่นเอง

“งั้นหรือขอรับ งั้นข้าก็ไม่ต้องเกรงใจสินะขอรับ”หลินเฟยยิ้มพลางมองมาทางคุณชายลู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ใช่ ตระกูลลู่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสำนักเทพจุติแม้แต่น้อย หากพวกมันมีเรื่องกับเจ้าก็จัดการได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องข้า”พูดจบต้าเซียนก็วางสายไปท่ามกลางสายตาอึ้งๆของคนรอบๆ ไพ่ตายที่คุณชายลู่รวมถึงบิดาของมันชอบใช้เพื่อยกหางตนเองยามนี้กลับโดนหลินเฟยสอบถามโดยตรงจนความจริงแดงออกมาจนหมด แล้วกับคนที่สามารถโทรหาเจ้าสำนักเทพจุติได้ราวกับคนในครอบครัว คุณชายลู่ผู้นี้จะไปทำอะไรได้กัน

“คุณชาย ท่านยอดจริงๆ”อี้หยินว่าพลางกอดแขนของหลินเฟยเอาไว้ด้วยท่าทีดีใจ เท่านี้นางก็ยิ่งมั่นใจแล้วว่าหลินเฟยเหนือกว่าคุณชายลู่ทุกทาง

“กลับ….”คุณชายลู่ทราบแล้วว่ามันไม่อาจทำอะไรได้เลย สุดท้ายก็ได้แต่สั่งให้ลูกน้องของตนกลับไปเท่านั้น แม้จะแปลกใจที่หลินเฟยยอมให้มันกลับง่ายๆก็เถอะ แต่ก็ดีกว่ารอให้หลินเฟยคิดจะทำอะไรกับตระกูลลู่อยู่ดี

“น้องหลินเฟย เท่านี้เราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ”อี้หยินว่าพลางกอดแขนของหลินเฟยแน่นขึ้นมาก

“นั่นสินะขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีใจดีเช่นเดิม

“มาเถอะน้องหลินเฟย ให้ข้าช่วยทำให้เจ้าผ่อนคลายเถอะ”อี้หยินว่าพลางเริ่มถอดเสื้อของตนออกอีกครั้ง แต่หลินเฟยกลับไม่ได้โน้มตัวลงนอนอย่างที่นางคิดเอาไว้เสียอย่างนั้น

“เรื่องนี้ไม่ต้องลำบากท่านแล้ว”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ

“อะไรกัน เจ้าไม่อยากทำงั้นหรือ”อี้หยินถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีสงสัย ปกติยามนางยั่วยวนหลินเฟยเช่นนี้มันมักจะตอบสนองทันทีไม่ใช่หรือ

“คุณชาย เมื่อครู่มีเรื่องอะไรกันงั้นหรือ พวกเราเข้ามาไม่ได้เลย”ระหว่างอี้หยินกำลังงุนงงอยู่นั้น อยู่ๆหญิงสาว 3 คนก็เดินเข้ามาในตัวบ้านเพราะหลินเฟยนัดพวกนางเอาไว้ตั้งแต่หลานวันก่อนแล้ว

“อะไรกัน มีคนที่ 4 ด้วยหรือ”หญิงสาวอีกคนถามพลางเดินเข้ามานั่งบนเตียงของหลินเฟยทันที

“เปล่า แค่พวกเจ้า 3 คนก็พอแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เกี่ยว”หลินเฟยตอบพลางมองมาทางอี้หยินด้วยท่าทีเย็นชา ยิ่งเห็นพวกสาวๆเริ่มนัวเนียหลินเฟยแล้ว อี้หยินก็ยิ่งงุนงง หลินเฟยผู้ใสซื่อก่อนหน้านี้หายไปไหนกัน

“น้องหลินเฟย นี่มันเรื่องอะไรกัน”อี้หยินถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีตกใจ นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกันงั้นหรือ

“ก็อย่างที่ข้าบอก ท่านไม่เกี่ยวแล้วจะไปไหนก็ไปเถอะ”หลินเฟยตอบพลางถอนหายใจออกมา นางก็ไม่ได้สวยมากมายอะไรแต่หลินเฟยต้องทนอยู่กับนางตั้งหลายวัน บอกตามตรงว่าหลินเฟยอึดอัดไม่น้อยเลย

“เดี๋ยวสิน้องหลินเฟย ไหนก่อนหน้านี้เจ้าบอกรักข้าไง”อี้หยินถามด้วยท่าทีตกใจ นางนึกว่าหลินเฟยมีนางเพียงคนเดียวเสียอีก

“เรื่องอะไรงั้นหรือ ข้าจำไม่เห็นได้เลย”หลินเฟยตอบกลับไปด้วยประโยคที่อี้หยินพึ่งใช้กับคุณชายลู่ไปเมื่อครู่ทันที เท่านี้คุณชายลู่ก็ไม่กลับมาหาอี้หยินอีกแล้ว แน่นอนว่าอี้หยินก็ไม่มีหน้าไปพบคุณชายลู่อีก ประกอบกับนายหญิงลู่เริ่มทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว เชื่อว่าคุณชายลู่คงไม่เจ้าชู้ไปอีกพักใหญ่แน่ๆ

“เจ้ายังยืนอยู่อีกงั้นหรือ คุณชายบอกให้เจ้าออกไปไง”หญิงสาวคนหนึ่งหันมามองอี้หยินด้วยท่าทีไม่พอใจ ก่อนจะผลักนางให้ออกไปห่างๆจากเตียงราวกับจะไล่นางให้ออกไปเสียที

“……….”อี้หยินที่เห็นภาพตรงหน้าเช่นนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาของหลินเฟยยามนี้ไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย มันไม่ได้ใช้สายตาเย็นชาแต่อย่างไร เพียงแต่สายตาที่อบอุ่นของมันไม่ได้มองมาที่นางเลยเท่านั้นเอง