Chapter 225 : พวกรักต้นไม้
“ พวก ทางนี้ “ – Perfect เรียกผ่านช่องแชท
คนอื่นๆต่างก็พากันไปสมทบที่บ่อน้ำแห่งหนึ่ง Perfect ชี้ลงไปที่ของบางอย่างที่ส่องแสงอยู่ด้านล่าง
“ ชิ้นส่วนสุดท้ายอยู่ด้านล่าง “
“ เราจะเอามันออกมายังไง ?” – Flanker ถาม
“ ฉันปีนลงไปเอาเชือกมัดแล้วค่อยดึงมันขึ้นมาได้ “ – Perfect gสนอ
“ ฟังดูเข้าท่า “ – เดฟ พูดขึ้น
Perfect เอาเชือกออกมาจากช่องเก็บของและส่งปลายข้างหนึ่งให้ Fortress ไปมัดไว้รอบตัวแล้วเขาค่อยปีนลงไปที่ที่บ่อ เขามัดปลายอีกข้างไว้ที่ก้อนหินแล้วปีนขึ้นมาจากบ่อ
“ เอาล่ะ ดึงได้ “
พวกเขาได้ยืนเรียงเป็นเส้นตรงตามเชือกแล้วเริ่มดึงหินขึ้นมา หลังจากที่ใช้ความพยายามไปมากมายแต่หินก็ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
“ มันโคตรหนักเลย “ – Flanker บ่น
“ มันคงไม่ได้ผล “ – เดฟ พูดขึ้นและเรียก Spike เข้ามาหา – “ เราต้องการให้นายช่วย “
เขาได้ให้ Spike คุกเข่าลงไปเพื่อที่เขาจะได้มัดเชือกไว้กับเขาของมันได้
“ ดึง “ – เดฟ บอกกับมอนเตอร์
Spike ค่อยถอยหลังกลับมาพยายามดึงหินขึ้นจากบ่อ
“ เอาล่ะ เอาหินก้อนนี้และก้อนอื่นๆไปที่ลานประตู “ – เดฟ พูดขึ้น
ใช้เวลาอยู่สักพักกว่าที่พวกเขาจะขนหินทั้งหมดที่ลานได้ Spike นั้นเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุดซึ่งต้องคอยลากหินเหล่านั้นไปที่ลาน
ก้อนหินเหล่านั้นยังคงทำงานอยู่ พวกเขาเห็นจุดนี้ตอนที่ลากหินก้อนที่สองไปที่ลาน เมื่อมันอยู่ใกล้กับหินก้อนแรกนั้นรูนที่ตัวหินทั้งสองก้อนก็เริ่มส่องแสงสลัวออกมา เมื่อหินทุกก้อนถูกลากมาที่ลานนั้นมันก็ส่องแสงสว่างกว่าเดิมเล็กน้อยราวกับว่าคอยให้พลังงานกัน ตอนที่เอาหินมารวมกันที่แท่นประตูก็เกิดเสียงหึ่งดังขึ้นมาจากก้อนหิน
“ แล้วยังไงต่อ ? “ – พรีสถาม
“ เราใช้หินพวกนี้สร้างประตูขึ้นมาใหม่ “ – เดฟ พูดขึ้น
“ แต่หินพวกนี้มันหนักนิ “- แทงค์พูดขึ้นมา
“ ไม่ใช่สำหรับ Spike “ – เดฟ พูดขึ้น
“ แล้วยังไง ? “ – พรีสถาม
“ เราจะมัดหินพวกนี้ไว้ที่เขาของ Spike เพื่อให้เขายกมันขึ้นมา ตอนที่เขายกมันเราก็คอยปรับตำแหน่งของหิน ทำแบบนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ”
“ นายต้องการใช้ไอ้ยักษ์นี่เป็นเคนสินะ ?”
“ ใช่ “ – เดฟ พูดขึ้น
แผนการของ เดฟ นั้นสมบูรณ์แบบ พวกเขาได้ใช้ความสูงและแรงของ Spike ในการยกหินพวกนี้ขึ้นมาคอยปรับตำแหน่งให้เรียงซ้อนทับกัน ตอนที่หินก้อนสุดท้ายถูกวางประจำที่นั้นรูนก็ได้เปล่งแสงออกมาก่อนจะจางหายไป ประตูไม่ทำงาน
“ ทำไมมันถึงไม่ทำงาน ? “ – ฮันเตอร์พูดขึ้นมา
“ ฉันเองก็ไม่รู้ “ – เดฟ พูดขึ้น
***
ประตูวาร์ปไม่มีแก่นพลังงานเพียงพอ หากไม่มีแก่นมานาแล้วประตูวาร์ปจะไม่อาจจะมีพลังในการใช้งานรูนเพื่อสร้างทางเดินมิติได้
***
“ นี่โคตรแย่เลย ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องแก่นมานามาก่อนและมันก็ไม่ใช่ว่าจะโผล่มาเองได้ “ – พรีส พูดขึ้น
“ ประตูนี้ถูกทำลายเพราะบางเหตุผล นายอย่าซ่อมมัน ! “ – เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังพวกเขา
Flanker ถึงกับสะดุ้ง
พวกเขาหันกลับไปและพบผู้หญิงผมเขียวในมือถือคทาที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ มืออีกข้างชี้มาที่พวกเขาราวกับกำลังทำการร่ายเวทย์บางอย่าง เธอใส่กระโปรงที่ทำจากใบไม้และผมยาวปิดถึงหน้าอก คริสตัลส่องแสงห้อยอยู่ที่สร้อยคอซึ่งห้อยอยู่ที่อกของเธอ
“ เธอคือดรูอิด “ – Flanker พูดขึ้น
ชื่อของดรูอิดนี้เป็นสีเขียวซึ่งแปลว่าเป็นมิตร
เดฟ พยายามตรวจสอบดู
***
ตรวจสอบล้มเหลว !
***
เดฟ คิ้วขมวดแล้วถามออกมา – “ ประตูถูกทำลายได้ยังไง ? “
“ มันถูกทำลายไปโดยพลเมืองเพื่อช่วยโลกจากปิศาจ “ – ดรูอิดพูดขึ้น
“ ฉันคิดว่าปิศาจถูกขังไว้ในโลกใต้ดิน “
“ ใช่แต่ประตูนี้ไปถึงโลกใต้ดินได้ ห้ามเปิดมันขึ้นมาอีก ! “
***
คุณได้รับเบาะแสในการเข้าสู่โลกใต้ดิน
คุณสามารถเข้าสู่โลกใต้ดินได้ด้วยการซ่อมประตูของเมืองที่สูญหาย Urburg
เตือน : การเปิดประตูนี้จะทำให้พวกที่อยู่ในโลกใต้ดินใช้มันขึ้นมาที่โลกเบื้องบนได้
ถ้าปิศาจใช้ประตูนี้เพื่อเข้ามายังโลกเบื้องบน ความสัมพันธ์ของคุณกับ Ramsha จะกลายเป็นศัตรู
***
“ บ้าเอ้ย “
เขาหวังว่าเขาจะสามารถใช้ประตูนี้กลับไปที่โลกใต้ดินและเริ่มเก็บเลเวลด้วยความเร็วอันน่าทึ่งได้อีกแต่ถ้าปิศาจหนีออกมาจากประตูได้เพราะการกระทำของเขา มันก็คงเป็นการสร้างปัญหาระหว่างเขากับ Ramsha
“ มันต้องมีทางกันไม่ให้ปิศาจใช้ประตูนี้ “ – พรีสค้านขึ้นมา
ดรูอิดส่ายหน้า – “ ไม่มีหรอก “
“ แก่นมานานของประตูอยู่ที่คอเธอใช่มั้ย ? “ – เดฟ ถาม
“ ใช่แต่ฉันคงไม่ให้มันกับนาย “
ชื่อของดรูอิดได้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
“ ปิศาจได้ผ่านประตูเข้ามารุกรานสิ่งมีชีวิตในป่า ต้นไม้และป่าต่างก็ปนเปื้อน สัตว์เริ่มกลายเป็นมอนเตอร์ดุร้าย ประตูนี้จะไม่เปิด ออกไปซะไม่งั้นก็ตาย !”
Flanker พูดขึ้นในช่องปาร์ตี้ – “ เราลองฆ่าเธอดูได้และค่อยเอาแก่นมานานจากเธอ “
“ มันเสี่ยงเกินไป เราไม่รู้เลเวลรึว่าเธอแข็งแกร่งแค่ไหน เธออาจจะไม่ดรอปแก่นมาแม้ว่าเราจะเอาชนะเธอได้ ฉันคิดว่าเราควรยอมแพ้กับการเปิดใช้งานประตูนี้ “ – เดฟ พูดขึ้น
ดรูอิดมองพวกเขาพูดคุยกันด้วยท่าทีสงสัย
“ ไปซะ! “ – ดรูอิดตะโกนขึ้นมา
อยู่ๆรากไม้ก็โผล่มาจากพื้นและเลื้อยเข้าหาผู้เล่นราวกับงู
การโจมตีของดรูอิดนั้นทำให้พวกเขาต้องล้มลง
“ หยุดได้แล้ว “ – เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา รากที่โจมตีพวกเดฟนั้นได้กรีดร้องและตายทันที
เด็กหนุ่มผมโมฮอร์คได้โผล่มาคั่นกลางระหว่างผู้เล่นทั้งสี่และดรูอิด
“ ฉันไม่คิดว่านายจะมาเจอ Urburg ได้ เด็กน้อย “
“ นายรู้จักไอ้บ้านี่เหรอ Stroke ? “ – Perfect ถาม
“ ใช่ เขาอยู่ข้างเรา ประมาณนั้น “ – เดฟ ตอบกลับ
“ นายเป็นใคร ?” – ดรูอิดถาม
เทพอันเดตเหมือนจะไม่สนใจและชี้ไปที่สร้อยคอของดรูอิด
“ ฉันจะเอาแก่นมานานจากเธอ “
ชื่อของดรูอิดได้เปลี่ยนเป็นสีแดง – “ ไม่มีทาง ! ฉันจะปกป้องป่าแห่งนี้ “
เทพอันเดตกรอกตาใส่ – “ ไอ้พวกรักต้นไม้อีกแล้ว ฉันจะเอาแก่นมานาจากเธอไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง “
เขาโบกมือและเกิดระเบิดควันสีดำพุ่งเข้าหาดรูอิดราวกับนักล่าที่พุ่งเข้าหาเหยื่อ ดรูอิดผงะกลับไปตอนที่ควันนั้นครอบคลุมตัวเธอไว้ เธอทรุดลงไปพร้อมกับผมที่เริ่มร่วง ไม่นานมันก็เกิดขึ้นกับตัวของเธอ เนื้อที่หน้านั้นเริ่มเน่าหลุดออกไป
“ นะ—นายทำอะไร ? การอวยพรจากป่า ! “ – ดรูอิดตะโกนขึ้นมา
ออร่าสีเขียวได้ล้อมรอบตัวดรูอิดเอาไว้ มันได้สู้กับควันดำนั้นพยายามที่จะให้พลังกับดรูอิด
สกิลของเทพอันเดตน่ะแรงเกินไปกว่าที่ดรูอิดจะรับมือไหว ไม่นานเธอก็ได้กลายเป็นกองฝุ่น
“ ไปอีกหนึ่ง เหลือแต่ฝุ่น “ – เทพพยักหน้าแล้วลูบหน้าขาตัวเอง
เขาหันกลับมาสนใจของที่ดรูอิดเหลือทิ้งเอาไว้และกระดิกนิ้วราวกับร่ายเวทย์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นเทพก็ส่ายหน้าและหัวเราะออกมา
“ บ้าเอ้ย ! ฉันลืมอีกแล้ว นี่ท่อนจบของฉันเลยนะ นายต้องรีบไปหาของมาให้ฉันให้เร็วที่สุด เด็กน้อย ฉันให้พรอันเดตกับนายไม่ได้จนกว่านายจะหาของมา “
เทพอันเดตคุกเข่าลงและหยิบเอาแก่นสีฟ้าจากกองเถ้า จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและหันไปหา เดฟ
“ Urburg เป็นหนึ่งในเมืองที่ฉันชอบ มันเป็นที่จัดคอนเสิร์ตที่ดี “ – เขาดูเหมือนจะคิดบางอย่างไปด้วยตอนที่พูดแบบนั้น
“ นี่ “ – เทพได้ส่งแก่นมานาให้กับ เดฟ – “ นายใช้มันเปิดประตูได้แล้ว ปิศาจจะไม่สามารถใช้มันได้อีกต่อไป
เดฟ รับแก่นที่ส่องแสงสีม่วงเอาไว้ ตอนที่เขาเงยหน้ากลับไปมองอีกฝ่าย เทพอันเดตก็หายไปแล้ว
***
คุณได้รับเควสลับ : ฟื้นฟูเมือง Urburg ให้กลับสู่ความรุ่งเรือง
เมนูจัดการเมืองปลดล็อค(การเข้าใช้งานจำกัด)
หลังจากที่เปิดประตูวาร์ปขึ้นมาแล้วคุณสามารถนำสิ่งของและเชิญ NPC มาช่วยสร้างเมืองได้
***
“อู้ น่าสนใจดีนิ “