บทที่ 538 จุดสุดยอด2

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 538 จุดสุดยอด2
คณาธิปได้เห็น สีหน้าซีดขาวอย่างรุนแรง เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความกระวนกระวายที่เกิดขึ้นภายในใจ แล้วแสดงสีหน้าออกมาว่ากำลังโมโหอย่างรุนแรง

“แสนรัก คุณไม่ยอมโอนหุ้นที่อยู่ในมือมาให้ผมใช่ไหม ไม่เป็นไร ผมเคยพูดไปแล้ว ถ้าคุณไม่ยอมให้บริษัทนี้ เป็นของพวกเราสองพี่น้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องพูดคำพูดแบบนี้ออกมา คุณอยากให้พวกเขาเป็นคณะผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ของบริษัทพวกเราตอนนี้ เป็นเรื่องของภายใน พวกเราสองพี่น้องกำลังเปิดศึกแย่งชิงมรดกอย่างนั้นเหรอ”

“……”

ไม่ยอมรับไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ แสดงเก่งมากจริงๆ

ทั้งที่ถูกกดดันจนไม่มีทางไปขนาดนี้แล้ว

แต่ว่า เขายังสามารถใช้สถานการณ์แบบนี้มาทำให้นักข่าวนั้นเกิดความงุนงง ให้พวกเขาเข้าใจว่า แสนรักพูดออกมาแบบนี้ ก็เพราะว่าไม่ยอมโอนหุ้นที่อยู่ในมือออกไป

ธนากร ไม่เลวเลยจริงๆ ลูกชายแท้ๆของคุณมีมันสมองแบบนี้

แสนรักจึงอธิบายให้ชัดเจนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะก๊อกๆ แล้วเผยยิ้มออกมา :“คุณคิดผิดแล้ว ผมยินยอมมอบสิ่งเหล่านี้ให้คุณ แต่ก่อนอื่น การตายของเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย”

“……”

คำพูดแบบนี้อีกแล้ว!

คณาธิปโมโหเกือบจะเป็นบ้าแล้ว มีวิธีใดที่จะทำให้เอาคนคนนี้เหยียบลงให้จมธรณีได้

เวลานี้ ทางเข้างานแถลงข่าวมีคนคนหนึ่งกำลังเข้ามา

อีกทั้งหลังจากคนคนนี้เข้ามา คนในงานพบว่า ด้านหลังของเขามีผู้ชายวัยกลางคนสวมชุดกาวสีขาว ในมือของผู้ชายคนนี้ถืออะไรบางอย่างอยู่

นี่เป็นใครอีกล่ะ?

นักข่าวต่างมองไปยังทั้งสองคนอย่างสงสัย

แต่คณาธิป แม้แต่เนติที่พักผ่อนรออยู่ที่ห้องด้านหลังได้เห็นแล้ว ภายในใจรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

“ต้องขออภัยทุกท่านด้วย ท่านนี้คือคุณหมอมาจากโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหารจากเมืองหลวงเขามีเรื่องที่อยากจะบอกกับทุกคน”

ชายหนุ่มที่กำลังขมวดคิ้วและแฝงไปด้วยความกล้าหาญหลังจากมาถึงในงานแล้ว เขาไม่ได้แนะนำสถานะของตัวเอง

แต่เพียงชี้ไปที่คุณหมอที่เขาพาเข้ามา แล้วแนะนำอย่างละเอียด

มาจากโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหารของเมืองหลวงงั้นเหรอ?

เหล่านักข่าวต่างตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ ทุกคนต่างเอากล้องจับมาที่คุณหมอคนนี้ทันที

แต่คุณหมอ เปิดปากพูดออกมาอย่างใจเย็น :“สวัสดีทุกท่าน ผมคือหัวหน้าศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหาร ตอนที่คุณท่านตระกูลหิรัญชาถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ผมเป็นแพทย์ผู้ดูแลการผ่าตัด”

“งั้นเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อหัวใจตายหรือเปล่า”

“ใช่ แต่ว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายแบบที่ปกติไม่อาจพบได้ กล้ามเนื้อหัวใจตายของเขา เกิดขึ้นเพราะว่ามียาชนิดหนึ่งเป็นสาเหตุ”

หัวหน้าศัลยแพทย์คนนี้ เขานำเอาตู้เย็นขนาดมินิที่ถือมาด้วยเปิดออกมา ต่อหน้าทุกคนในงาน หลังจากนั้นหยิบเนื้อเยื่อที่เก็บไว้ข้างในออกมาหนึ่งส่วน

“……”

ทันใด ทั้งงานต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา

อีกทั้งกล้องที่อยู่ในมือ ก็ถ่ายไปที่สิ่งสิ่งนี้

และพบว่า ในขณะที่พวกเขาปรับโฟกัสเสร็จแล้ว ระยะนี้เนื้อเยื่อถูกเเก็บรักษาไว้ในตัวทำละลาย(Solvent) กลับพบว่าเปลี่ยนเป็นสีฟ้าไปแล้ว เหมือนถูกสีฟ้าย้อมสียังไงอย่างงั้น

“นี่คือ……เนื้อเยื่อของจริงเหรอ”

“ใช่ ประหลาดมากใช่ไหม”หัวหน้าศัลยแพทย์ถามนักข่าวถามขึ้น ทั้งที่ความขุ่นเคืองยังไม่ทันมลายหายถามกลับไปหนึ่งประโยค

นักข่าวไม่พูดอะไร

เพราะว่า เขาประหลาดใจมากจริงๆ

ไม่เพียงแค่ประหลาดใจ มันน่าหวาดกลัวมาก ไม่เคยพบไม่เจอจอมาก่อน เป็นเรื่องร้ายแรง

เนื้อเยื่อส่วนของอวัยวะ เพราะว่าเอามาใช้ช่วยชีวิตคนไข้ในเวลาสำคัญ ปกติแล้วต้องรักษาความสดใหม่เอาไว้ ที่เรียกกันทั่วไปว่าเนื้อเยื่อมีชีวิต

อีกทั้งเนื้อเยื่อชนิดนี้ ก็ตามชื่อเลย ก็คือเหมือนมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ยังไงอย่างงั้น

แต่ว่า ตอนนี้ที่คุณหมอหยิบออกมานั้น คืออะไรกัน?

ถูกสีย้อมแล้วจริงๆอย่างนั้นหรือ?

ทุกคนต่างไม่พูดอะไรออกมา พวกเขากำลังหงุดหงิดอย่างมาก รอหัวหน้าศัลยแพทย์คนนี้อธิบายออกมา

มีเพียงคณาธิปกับเนติทั้งสองหน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะเนติที่หลบอยู่ด้านหลัง!

“ในตอนแรกพวกเราก็ไม่เชื่อ ว่าเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อหัวใจตาย จะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้ จนพวกเราได้นำเลือดของคุณท่านที่เก็บไว้ ไปทดสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ผลลัพธ์พบว่า ภายในมีสารพิษชนิดหนึ่ง”

“สารพิษ?”

“ใช่ เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งที่พวกอาชญากรชาวต่างชาติได้วิจัยขึ้นมาใหม่ เรียกว่าบูลดรีม ที่สำคัญคือทำให้เส้นประสาทและสมองส่วนหน้าเป็นอัมพาต ทำให้คนเสพติดได้เร็วขึ้น จุดนี้ พวกเราได้เชิญเพื่อนร่วมงานในเขตกองทัพทหารมาร่วมด้วยถึงได้รู้เข้า”

ประโยคสุดท้าย ฟังดูแล้วน่ากลัวเป็นอย่างมาก!

กองทัพทหารกับยาเสพติดมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่น่ากลัวได้อย่างไร?

ทั้งงานแถลงข่าวไม่มีเสียงใดส่งออกมา แต่คณาธิป ในวินาทีนี้ ใบหน้าของเขาไม่เหลือแม้แต่สีเลือดแล้ว

เขามองไปที่หัวหน้าศัลยแพทย์คนนี้ที่ในมือของเขากำลังตัดเนื้อเยื่อที่ดูเหมือนผิดปกติให้เป็นแผ่น ใบหน้าหล่อซีดเหมือนคนตาย ความโมโหที่กำลังถูกปลุกปั่น รู้สึกเบลอไปหมดแล้ว

ครั้งแรกที่เขา หมดหวังขนาดนี้

เนติเองก็รู้สึกถึงความมอดไหม้ ไม่หลงเหลือแสงสว่างในเมื่อสักครู่แม้แต่นิดเดียว

เธอคิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วแสนรักจะใช้ไม้นี้ ยังพาคนจากโรงพยาบาลในเขตกองทัพทหารมาด้วย

เขาวางแผนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เธอปล่อยคนไปอยู่เคียงข้างเขาแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรเลยล่ะ?

ผู้หญิงคนนี้มองผ่านกล้องวงจรปิดอย่างโมโหเหมือนอยากจะกินคนเข้าไป ในกล้องวงจรปิดฝูงชนกำลังวุ่นวายเธอหาคนคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง