ตอนที่ 535 พี่เหยาก็มีแฟนเหมือนกัน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

หยางจิ้งเสียนเบิกตาโตด้วยความตกใจ ถังหยาก็อ้าปากค้างเช่นกัน หยางจิ้งเสียนมองหน้าเฉียวอวี่ซินและหัวเราะอย่างทำอะไรไม่ถูก “ฮ่า ฮ่า เธอต้องล้อเล่นแน่ๆ โหรวโหรวเพิ่งกลับมาเมื่อหกเดือนก่อน จะเป็นไปได้ยังไงที่ทั้งสองคนจะคบกันมาหกเดือนแล้ว และฉันไม่คิดว่าคุณเฉียวจะสนใจโหรวโหรว ตั้งแต่ตอนที่เธอเพิ่งกลับมา” 

 

 

ถังหยาพูดไม่ออก โหรวโหรวเพิ่งจะกลับมาเพียงแค่หกเดือน เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าโหรวโหรวจะมีแฟนแล้ว 

 

 

และที่สำคัญแฟนโหรวโหรวคือเฉียวเหลียง เจ้าชายเฉียวเจ้าเสน่ห์! ในขณะที่เธอพยายามจับคู่โหรวโหรวกับหลิวเฉิงอวี่ ซึ่งหลงรักโหรวโหรว 

 

 

ในฐานะเพื่อนรักของมารดาหลิวเฉิงอวี่ เธอรู้จักเขาดี เขาเป็นชายหนุ่มที่เก่งมาก เธอสนิทกับพ่อแม่เขา แม่เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยและเป็นเพื่อนรักของเธอ นอกจากนี้แม่เขาก็ชอบโหรวโหรวมาก แต่จู่ๆ ก็มีคนมาบอกว่าลูกสาวเธอมีแฟนมาตั้งแต่หกเดือนก่อนอย่างนั้นหรือ! 

 

 

“เธออย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย เรารู้ดีว่าโหรวโหรวเป็นเด็กผู้หญิงที่เก่งขนาดไหน” เฉียวอวี่ซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมอทุกคนบอกว่าฉันจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีกแล้ว แต่โหรวโหรวฝังเข็มให้ฉัน และนวดให้ฉันทุกวัน ทำให้ฉันลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง! เฉียวเหลียงไม่มีเหตุผลที่จะไม่รักเด็กสาวที่แสนดีแบบนี้!” 

 

 

เฉียวอวี่ซินคิดว่าสิ่งที่นางพูดนั้นไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเซียวโหรวนั้นดีเพียงใด นางจึงกล่าวต่อไปอีก “โหรวโหรวปฏิบัติต่อฉันราวกับฉันเป็นแม่ของเธอเอง และฉันก็รู้สึกว่าเธอคือลูกสาวของฉัน ทุกครั้งที่เธอมาเยี่ยม ฉันชอบเตรียมอาหารทะเลให้เธอ ในเมื่อตอนนี้โหรวโหรวกับเฉียวเหลียงรักกัน ทำไมเราไม่จัดงานแต่งงานให้เขาทั้งสองล่ะ เราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันไง” 

 

 

นางมองหน้าหยางจิ้งเสียนกับถังหยาซึ่งยังคงอ้าปากค้าง และกล่าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม “ตระกูลเฉียวของเรากับตระกูลเซียวของพวกเธอจะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ดีเหรอ” 

 

 

“มามี้ คุณแม่ คุณป้าเฉียว สวัสดีค่ะ” ในทันทีที่เฉียวอวี่ซินกล่าวประโยคนี้จบ ถังซีก็ผลักประตูเปิดเข้ามา  

 

 

หยางจิ้งเสียนและถังหยาหันไปมองถังซีพร้อมกัน และยังคงพูดอะไรไม่ออก… 

 

 

เฉียวอวี่ซินโบกมือให้ถังซี ถามเธอด้วยความรักว่า “ป้าเอากุ้งมังกรที่หนูชอบมาให้จ้ะ โจ๊กอาหารทะเลเมื่อวานเป็นยังไงบ้างจ๊ะ อร่อยไหม” 

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ พยักหน้าทันที “อร่อยมากค่ะ” 

 

 

หยางจิ้งเสียนมองหน้าเฉียวอวี่ซิน “เธอเอาอาหารมาให้โหรวโหรวทุกวันเลยเหรอ” 

 

 

เฉียวอวี่ซินยิ้ม “งานถ่ายทำภาพยนตร์เป็นงานหนัก แล้วอาหารที่นี่ก็ไม่ค่อยดีเท่าอาหารที่เราทำเอง สิ่งเดียวที่ฉันทำให้โหรวโหรวได้ก็คือต้องนำอาหารมาส่งให้เธอทุกวัน” จากนั้นนางก็ขยิบตาให้ถังซี “หนูพอใจกับแม่สามีในอนาคตของหนูไหมจ๊ะ” 

 

 

ถังซีพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว แล้วจึงตระหนักได้ถึงสิ่งที่เฉียวอวี่ซินกล่าว เธอมองหน้าเฉียวอวี่ซินอย่างเคอะเขิน กลืนน้ำลาย แล้วแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูด “อะไรนะคะ” 

 

 

ถังหยาดีใจที่เห็นเฉียวอวี่ซินกับถังซีเข้ากันได้ดี เธอเดินเข้าไปหาและกวักมือเรียกถังซีให้มานั่งข้างเธอบนโซฟา “โหรวโหรว คุณป้าเฉียวเพิ่งบอกว่าหนูกับเฉียวเหลียงคบหากันอยู่ จริงหรือเปล่าจ๊ะ” 

 

 

ถังซีมองเฉียวอวี่ซินด้วยท่าทางตกใจ คุณป้าเฉียวเพิ่งบอกคุณแม่กับมามี้ว่าอะไรนะ 

 

 

เฉียวอวี่ซินยิ้มให้เธออย่างมั่นใจ “ป้ารู้ว่าหนูเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจากครอบครัว แต่ตอนนี้หนูอายุยี่สิบสี่ปีแล้วนะ เฉียวเหลียงก็ยี่สิบแปดแล้ว ถึงเวลาที่หนูทั้งสองจะแต่งงานกันแล้ว วันนี้ป้าได้พบคุณแม่ทั้งสองของหนู ป้าก็เลยบอกให้ทั้งสองคนทราบถึงความสัมพันธ์ของหนูกับอาเหลียง” 

 

 

“หนูเข้าใจค่ะ” ถังซีพยักหน้า จากนั้นก็หันไปสบตากับถังหยาและหยางจิ้งเสียน แล้วยิ้มอย่างรู้สึกผิด “คุณแม่กับมามี้คะ จริงๆ แล้วหนูตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้ให้ทั้งสองคนฟังหลังจากถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จค่ะ” 

 

 

“ลูกสองคนเริ่มคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่” หยางจิ้งเสียนถาม 

 

 

ถังซีกล่าวว่า “หนูลืมไปแล้วค่ะ ดูเหมือนจะเป็นตอนที่หนูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่ะค่ะ” 

 

 

เธอจำได้ว่าตอนนั้นเฉียวเหลียงรีบเข้ามาในห้อง และเธอเพิ่งฟื้นจากอาการโคม่า เมื่อเห็นเฉียวเหลียงเธอก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ เฉียวเหลียงจำได้ทันทีว่าเธอเป็นใคร จากนั้นเธอก็สารภาพความลับกับเขา ทั้งสองจึงถึงเวลาที่โชคชะตากำหนดไว้ว่าจะได้กลับมาคบหากันตั้งแต่คืนนั้น 

 

 

ทั้งสองคบกันมานานแสนนานแล้ว เขาปฏิบัติต่อเธอในฐานะที่เธอคือถังซี และเธอปฏิบัติต่อเขาในฐานะผู้ชายที่เธอรัก 

 

 

“จริงๆ เหรอ” หยางจิ้งเสียนถามย้ำ ใช่ ตอนนั้นเฉียวอวี่ซินมาเยี่ยมโหรวโหรว แต่เธอจำไม่ได้ว่าเฉียวเหลียงมาด้วย ทำไมทั้งสองถึงเริ่มคบกันทันทีที่โหรวโหรวหายป่วยออกจากโรงพยาบาล 

 

 

“ลูกสองคนรู้จักกันได้ยังไง” หยางจิ้งเสียนขมวดคิ้ว 

 

 

ถังซีกะพริบตาปริบๆ แล้วเริ่มสร้างเรื่องราว “หนูเคยพบกับเฉียวเหลียงสองครั้งเพราะเขามากับพี่จิ่งค่ะ และเขาก็ตกหลุมรักหนูตั้งแต่แรกเห็น เขาก็เลยสารภาพรักกับหนู” 

 

 

เฉียวอวี่ซินรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ยินเรื่องนี้ “อาเหลียงเป็นคนจีบหนูก่อนด้วยเหรอจ๊ะ” 

 

 

ถังซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ คุณป้าก็ทราบว่าหนูน่ะไว้ตัวแค่ไหน” 

 

 

ถังหยาหน้าบึ้งตึงขึ้นมา “เราไม่ได้อยากฟังเรื่องราวความรักของหนู แม่แค่อยากรู้ว่าทำไมหนูถึงไม่บอกเราว่าหนูมีแฟนแล้ว” 

 

 

ถังซีกลืนน้ำลาย หัวเราะเบาๆ “ก็หนูยังเป็นนักเรียนอยู่นี่คะ หนูกลัวว่าคุณแม่จะคัดค้านความสัมพันธ์ของเรา” 

 

 

“แล้วผู้ชายที่มารับหนูไปส่งที่โรงเรียนและไปรับหนูทุกวันเป็นใคร…” 

 

 

“เขาเป็นบอดีการ์ดที่เฉียวเหลียงส่งมาคุ้มกันหนูค่ะ หนูเคยได้รับบาดเจ็บที่โรงเรียน เฉียวเหลียงก็เลยเป็นห่วงความปลอดภัยของหนู และให้ผู้ช่วยมาคอยปกป้องหนู แต่ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ช่วยหนูไปแล้วค่ะ”  

 

 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ อาหกเป็นผู้ช่วยที่เก่งกาจมาก! 

 

 

ถังหยามองหน้าถังซีนิ่งอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะถอนหายใจ “แม่คิดว่าหนูควรอธิบายกับเราให้ละเอียดกว่านี้” 

 

 

“เอาไว้หนูค่อยอธิบายทีหลังได้ไหมคะ” ถังซีมองหน้ามารดาทั้งสอง จากนั้นก็มองหยางจิ้งเสียนด้วยสายตาน่าเวทนา ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ 

 

 

หยางจิ้งเสียนส่ายศีรษะ ส่งสัญญาณว่าไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ 

 

 

ถังซีหลับตา กล่าวอย่างสิ้นหวังว่า “อันที่จริงพี่ชายหนูก็กำลังมีความรักเหมือนกันนะคะ หนูคิดว่ามามี้ควรหันไปสนใจเขามากกว่า! เพราะเขาแก่กว่าหนู!” 

 

 

“พี่ชายหนูคนไหนเหรอ” 

 

 

“ก็พี่เหยาไงคะ มามี้” ถังซีหัวเราะเบาๆ มองหน้าหยางจิ้งเสียนที่มีสีหน้าตื่นเต้น “และแฟนพี่เหยาก็เป็นนักแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย มามี้อยากเจอเธอไหมล่ะคะ” 

 

 

หยางจิ้งเสียนมองหน้าถังซี “หนูไม่ได้ล้อแม่เล่นใช่ไหม”