ถังซีมองหน้าเฮ่อหว่านอี ดูเหมือนว่าพี่เหยาจะคบกับพี่หว่านอีแล้วไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้บอกเธอหรอกเหรอ ว่าเขากำลังไปปฏิบัติภารกิจที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย
บางทีพี่เหยาอาจจะไม่อยากให้พี่หว่านอีเป็นห่วงเขาใช่ไหม
เมื่อคิดเช่นนี้ ถังซีก็คิดว่าเธอควรเคารพการตัดสินใจของเซียวเหยา ถ้าเขาตั้งใจเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกพี่หว่านอี เพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วงกังวล ถังซีก็ไม่ควรบอกสิ่งที่เขากำลังทำให้พี่หว่านอีรู้
นอกจากนี้เธอคิดว่าถ้าพี่หว่านอีรู้ว่างานของพี่เหยานั้นอันตรายมาก เธออาจไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ครั้งนี้ก็เป็นได้…
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ได้ยินมาว่าเขากำลังปฏิบัติภารกิจลับ เขาจึงไม่สามารถติดต่อใครได้จนกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น ขอโทษนะคะที่ฉันช่วยพี่ไม่ได้ พี่หว่านอี” ถังซีถอนหายใจยาว จับมือเฮ่อหว่านอีไว้ กล่าวเบาๆ ว่า “ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เฉียวเหลียงก็ไปจัดการเรื่องธุรกิจที่ต่างประเทศนานหลายเดือน เซียวเจี่ยน พี่ใหญ่ของฉัน ก็ไม่มีข่าวส่งกลับมาตั้งแต่เริ่มเข้าเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา”
เฮ่อหว่านอีเม้มริมฝีปาก มองหน้าถังซี “พี่คิดว่าเธออาจมีข่าวบ้าง แต่กลายเป็นว่าเซียวเหยาก็ไม่ได้ติดต่อเธอเหมือนกัน เฮ้อ… จริงๆ นะ พี่น่าจะได้รับสายที่เขาโทรมา” แล้วเธอก็กล่าวด้วยความเสียใจ “ตอนที่เขาจะเดินทาง พี่กำลังถ่ายโฆษณาทีวีที่สนามบิน ถ้าพี่รับสายเขาเอง พี่ก็จะได้พบกับเขาตอนนั้น น่าเสียดายที่ผู้ดูแลพี่เป็นคนรับสาย แล้วพอพี่กลับเข้ามา เครื่องบินของเขาก็กำลังจะบินขึ้นแล้ว”
ถังซีตบหลังมือเธอเบาๆ “เดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้วค่ะ”
เมื่อถึงตอนนี้นักแสดงนำชายของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เข้ามาซ้อมบทกับถังซี ถังซีจึงลุกขึ้นไปซ้อมบทกับเขา นักแสดงคนนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนและกำลังมาแรง มีแฟนๆ มากมาย หลังจากซ้อมบทกับถังซีแล้ว เขาก็ชวนเธอไปทานอาหารค่ำ
ถังซีรู้ทันทีว่านักแสดงคนนี้อยากจีบเธอ แต่เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้ เพื่อไม่ให้กระทบการถ่ายทำภาพยนตร์ เธอคิดไม่ถึงว่าเขาจะเอ่ยปากเชิญเธอไปทานอาหารค่ำตรงๆ เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ และนักแสดงคนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ เขาแค่บอกว่า “ถ้าอย่างนั้น เอาไว้ไปทานกันวันหลังนะ” แล้วก็จากไป
ทันทีที่นักแสดงคนนั้นจากไป เฮ่อหว่านอีก็หัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นมาโอบแขนไปรอบไหล่ถังซี “ถ้าเฉียวเหลียงไม่รีบกลับมาเร็วๆ นี้ โหรวโหรวของเราอาจถูกแย่งไป โดยหนุ่มวัยละอ่อนผู้อ่อนโยนและมีเสน่ห์คนนี้แน่ๆ”
“เขาไม่ใช่ผู้ชายแบบที่ฉันชอบ” ถังซีเลิกคิ้ว
“เธอหมายความว่าเฉียวเหลียงเป็นผู้ชายแบบที่เธอชอบใช่ไหม” เฮ่อหว่านอีหัวเราะ กล่าวว่า “จริงๆ แล้วพี่ประหลาดใจมากรู้ไหม ตอนที่รู้ว่าเธอเป็นแฟนเฉียวเหลียง เธอเป็นหญิงสาวที่น่ารัก แต่เฉียวเหลียงคือภูเขาน้ำแข็งชัดๆ เธอทนเขาได้ยังไงน่ะ”
ถังซียักไหล่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่นะคะ เขาไม่เคยเป็นภูเขาน้ำแข็งเวลาอยู่กับฉัน เขาเย็นชากับคนอื่นๆ เท่านั้น”
สามีของเธอต้องรักแต่เธอ และดีกับครอบครัวเธอเท่านั้น เธอไม่ต้องการได้คนเจ้าชู้ ดีกับผู้หญิงไปทั่วมาเป็นสามีหรอก
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็หันกลับไปมองเฮ่อหว่านอีแล้วยิ้ม “พี่ชายฉันก็เป็นภูเขาน้ำแข็งเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ เขาเยือกเย็นยิ่งกว่าเฉียวเหลียงซะอีก”
เฮ่อหว่านอีเห็นด้วยกับคำพูดของถังซีอย่างที่สุด เธอพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ บางครั้งพี่ยังสงสัยว่าทำไมพี่ถึงเลือกพี่ชายเธอ เขาเคยเย็นชากับพี่มาก แทบจะไม่พูดกับพี่เลย! ทุกครั้งที่พี่พยายามคุยกับเขา เขาจะนิ่งเงียบตลอด พี่สงสัยว่าทำไมตอนเราอยู่ที่ปารีส จู่ๆ เขาถึงเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อพี่…”
เฮ่อหว่านอีแน่ใจว่า ถ้าเซียวเหยาไม่ได้ขยับเข้าหาเธอก่อน เธอคงไม่กล้ากอดเขาหรอก นับประสาอะไรกับการขอให้เขาเป็นแฟนเธอ
ถังซียิ้ม มองหน้าเฮ่อหว่านอีและกล่าวว่า “บางทีอาจเป็นเพราะพี่เก่งเกินไป พี่ชายฉันอาจกลัวว่าจะจีบพี่ไม่ติดก็ได้นะคะ”
“พี่ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” เฮ่อหว่านอีหัวเราะ
ในเวลานั้นผู้ดูแลเฮ่อหว่านอีก็เข้ามาบอกถังซีว่า “คุณเซียวคะ มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งต้องการพบคุณค่ะ หน้าตาท่านดูคุ้นๆ ท่านบอกว่าเป็นคนตระกูลเฉียวค่ะ”
ดวงตาถังซีเป็นประกายขึ้น เธอรีบเดินออกไปข้างนอก “ต้องเป็นคุณป้าเฉียวแน่เลยค่ะ ฉันไปหาท่านก่อนนะคะ”
“อ้อ น้องโหรวโหรวคะ” ผู้ดูแลรีบเรียกเธอ ถังซีหยุดเดิน หันกลับมามอง ผู้ดูแลกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่ทั้งสองของคุณก็มาด้วยค่ะ ตอนนี้ทั้งสามกำลังรอคุณอยู่”
รอยยิ้มบนใบหน้าถังซีหายไปทันที เธอถามด้วยความตกใจ “ใครมาก่อนคะ”
“คุณนายเฉียวค่ะ แต่ตอนที่ท่านบอกว่าอยากเจอคุณ คุณแม่ทั้งสองก็มาถึงพอดี…” ผู้ดูแลเกาศีรษะอย่างงุนงง และกล่าวต่อไป “แต่ดูเหมือนว่าท่านทั้งสามจะคุยกันถูกคอดีนะคะ”
ถังซีกลืนน้ำลาย หันไปสบตาเฮ่อหว่านอีเพื่อขอความช่วยเหลือ เฮ่อหว่านอีหัวเราะ โบกมือให้เธอ ถังซีส่ายศีรษะ “ไม่เอาค่ะ ช่วยฉันด้วย พี่หว่านอี!”
เฮ่อหว่านอีหัวเราะ “เธอจะยิ่งอายนะ ถ้าพี่ไปด้วย เพราะฉะนั้นพี่ไม่ไปกับเธอดีกว่า”
ถังซีเดินช้าๆ อย่างไม่เต็มใจไปที่ห้องรับรอง ซึ่งหญิงวัยกลางคนสามคนกำลังสนทนากันอย่างมีความสุข หยางจิ้งเสียนและเฉียวอวี่ซินเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทั้งสองจึงมีหัวข้อสนทนากันมากมาย หลังจากนั้นไม่นานทั้งสามก็เริ่มคุยกันว่าทำไมเฉียวอวี่ซินถึงมาหาถังซีที่นี่
เฉียวอวี่ซินยิ้ม “ฉันได้พบกับโหรวโหรวที่โรงพยาบาล เราสองคนเข้ากันได้ดีมาก โหรวโหรวช่วยเหลือฉันหลายอย่าง แล้วเราก็ติดต่อกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วันนี้ฉันก็เลยมาเยี่ยมเธอ” นางมองหน้าถังหยาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอมีลูกสาวที่ดีจริงๆ”
ถังหยาดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น จึงพยักหน้ายิ้มกว้าง “ใช่ค่ะ เธอเป็นเด็กดีจริงๆ ฉันเสียใจที่เคยปฏิบัติกับเธอแบบนั้นมาก่อน ถึงเธอจะเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน แต่เธอก็เป็นเด็กดีมาก เก่งมาก และประสบความสำเร็จมาก ตอนนี้เธอได้เริ่มอาชีพในวงการบันเทิงแล้ว”
“ใช่ ลูกชายฉันไม่เคยตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เขาบอกฉันว่าเขาจะแต่งงานกับโหรวโหรว พวกเธอรู้ไหมว่าฉันตื่นเต้นแค่ไหน!” เฉียวอวี่ซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หยางจิ้งเสียนและถังหยาทั้งคู่อ้าปากค้าง หยางจิ้งเสียนมองหน้าเฉียวอวี่ซิน “นี่เธอกำลังพูดถึงเฉียวเหลียงหรือเปล่า”
“ก็ใช่น่ะสิ เขาขอร้องให้ฉันไปที่บ้านตระกูลหยางวันนั้น เพราะเขาอยากเจอโหรวโหรว ทีแรกฉันไม่อยากออกไปข้างนอกเลยเพราะขาของฉัน แต่ฉันต้องแปลกใจ เมื่อเขาบอกฉันว่าเขารักโหรวโหรว ตอนนี้เด็กทั้งสองคบกันมาได้หกเดือนแล้ว และฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะบอกให้พวกเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่” เฉียวอวี่ซินกล่าว รอยยิ้มบนใบหน้านางกระจ่างสดใส “เขาไม่ได้มาหาโหรวโหรวกับฉันวันนี้ เพราะเขาอยู่ต่างประเทศ เมื่อเขากลับมาฉันจะให้เขาไปไหว้พวกเธออย่างเป็นทางการนะ”