อาณาจักรผี
เฉินเกอมาถึงสวนสนุกนิวเซนจูรี่ประมาณแปดโมงสี่สิบนาที สวนสนุกยังไม่เปิด แต่ว่ามีผู้เข้าชมมารออยู่ที่ทางเข้าเยอะแล้ว เห็นใบหน้าตื่นเต้นของผู้เข้าชมขณะพูดคุยกันเอง เฉินเกอก็ยิ้มกว้าง ได้รู้ว่างานของเขานำมาซึ่งความสนุกของผู้เข้าชมและช่วยพวกเขาขับไล่ความทุกข์ออกไป มันทำให้เขารู้สึกประสบความสำเร็จมาก
ท่ามกลางกลุ่มคน เฉินเกอมองเห็นคนคุ้นเคยหลายคน พวกเขามักจะกลับมาเยี่ยมชมและพูดคุยเกี่ยวกับบ้านผีสิง
การกลับมาอีกครั้งของผู้ชมหลาย ๆ คนยืนยันว่าการตัดสินใจของเฉินเกอในการจัดระดับฉากสยองขวัญออกเป็นระดับต่าง ๆ กันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง คนที่ท้าทายฉากที่น่ากลัวน้อยกว่าย่อมต้องสนใจในฉากที่น่ากลัวกว่าขึ้นมาอย่างแน่นอน ด้วย ‘กำลังใจ’ จากเพื่อน ๆ ของพวกเขา โอกาสที่พวกเขาจะกลับมานั้นสูงมาก
แอปพลิเคชันเล็ก ๆ ที่ผู้อำนวยการลั่วออกแบบให้บ้านผีสิงก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ไม่เพียงผู้เข้าชมบ้านผีสิง กระทั่งผู้นิยมเรื่องเหนือธรรมชาติและนักวิจัยวัฒนธรรมทางเลือกบนอินเตอร์เนตก็ดาวน์โหลดแอพนี้เช่นกัน แอปพลิเคชันนี้นั้นกำลังกลายเป็นสังคมโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในระดับประเทศของผู้รักบ้านผีสิงทีเดียว
จำนวนดาวน์โหลดแต่ละวันและจำนวนผู้ใช้งานที่มีการเคลื่อนไหวนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเฉินเกอก็ได้ยินจากผู้อำนวยการลั่วว่ามีผู้สนใจอยากให้การสนับสนุนหลายเจ้า แต่เขาปฏิเสธทั้งหมดนั่นไป ผู้อำนวยการลั่วนั้นมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน บ้านผีสิงนั้นเป็นเครื่องเล่นหลักของสวนสนุก และแอพนี้ก็เป็นส่วนเสริม ทุกอย่างนั้นเป็นไปเพื่อสนับสนุนการให้บริการของบ้านผีสิง ดังนั้นเขาจะไม่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานแย่ ๆ เพียงเพื่อเพราะเงินจากการโฆษณาเท่านั้น
“บอส คราวนี้คุณไปไหนมาอีกเนี่ย?” ซูว่านและเสี่ยวกู่ยืนอยู่ข้างประตู คนหนึ่งทางซ้ายอีกคนทางขวา เหมือนเป็นผู้พิทักษ์ประตูอย่างไรอย่างนั้น
“มันซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้น่ะ รอดูข่าวแล้วกัน แล้วเธอก็รู้เอง” คำตอบของเฉินเกอนั้นสั้นและตรงประเด็น
“ช่องข่าวอาชญากรรมเหรอครับ?” กระทั่งเสี่ยวกู่ที่ไม่ได้ทำงานบ้านผีสิงมานานนัก ก็ยังคุ้นเคยกับ ‘งานอดิเรก’ ของบอสของตน ตอนนี้ ห้องที่เขาอยู่นั้นเขามีรูมเมท และรูมเมทของเขาก็งุนงงกับนิสัยของเขาเพราะว่าคนในวัยเดียวกับพวกเขาส่วนใหญ่ล้วนใช้เวลาไปกับการเล่นเกมหรือดูวิดีโอ แต่กู่เฟยอวี้กลับฝังตัวเองอยู่หน้าทีวี ดูข่าวอาชญากรรมท้องถิ่น เพื่อนร่วมห้องของเขาไม่ค่อยเข้าใจเสี่ยวกู่เหมือนที่คนทั่วไปไม่เข้าใจความรู้สึกของการได้เห็นเจ้านายของตัวเองปรากฏตัวในข่าวอาชญากรรมท้องถิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากแต่งหน้าให้เสี่ยวกู่และซูว่านแล้ว สวนสนุกก็เปิดทำการอย่างเป็นทางการ ลุงซูและพนักงานคนอื่น ๆ ช่วยรักษาระเบียบระหว่างที่ในที่สุดเฉินเกอก็หาโอกาสพักได้ เห็นผู้เข้าชมเข้า ๆ ออก ๆ เฉินเกอจู่ ๆ ก็พบว่าเขามีชีวิตที่สุขสบายมากทีเดียว
“บ้านผีสิงนั้นอาศัยความไม่รู้และความแปลกใหม่ดึงดูดผู้เข้าชม มีเพียงแค่ปลดล็อกฉากใหม่ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ที่ฉันจะสามารถรักษาอาชีพนี้เอาไว้ได้”
เฉินเกอดึงโทรศัพท์เครื่องดำออกมาตรวจดูภารกิจทั้งหมด เส้นตายของภารกิจโลกหลังความตายนั้นกำลังจะมาถึงแล้ว และเฉินเกอก็ไม่มีทางยอมปล่อยฉากระดับสี่ดาวนี้ไป
“ฉันไม่สามารถถ่วงเวลาต่อไปได้แล้ว ฉันต้องไปที่อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวคืนนี้และคุยกับผู้หญิงคนนั้นที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ ในเมื่อเธอเคยเจอกับเงานั่นมาก่อน มันน่าจะไม่ยากเกินไปที่จะสื่อสารกับเธอ” เฉินเกอวางโทรศัพท์เครื่องดำลงแล้วเหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเอง “พยากรณ์อากาศวันนี้ไม่เลวเลย แต่ยังมีโอกาสที่จะมีฝนตกหนักคืนพรุ่งนี้ ฉันควรจะใช้โอกาสนี้เอารถเมล์คันสุดท้ายสาย 104 ออกไปวิ่ง ต่อให้ฉันไม่เจอกับผู้หญิงในเสื้อกันฝน ฉันก็ไม่ได้มีอะไรจะเสียถ้าได้ผู้โดยสารคนอื่น ๆ”
เขาหาปากกาและกระดาษมาจดโน้ตเล็ก ๆ น้อย ๆ “คืนนี้ ฉันจะไปที่อุโมงค์ถ้ำมังกรขาวเพื่อทำภารกิจระดับสามดาว และพรุ่งนี้ ฉันจะไปหาผู้หญิงในเสื้อกันฝน และซื้อไฟฉายแรงสูงสักชุดใหญ่ แล้วคืนถัดจากนั้น ทั้งหมดก็เตรียมการเรียบร้อยแล้ว ฉันก็จะพนักงานของฉันไปที่เมืองหลี่ว่านเพื่อท้าทายภารกิจระดับ 3.5 ดาว”
เสี่ยวปู้ครั้งหนึ่งเคยเตือนเฉินเกอว่าเขาจะตายหากก้าวเข้าไปในเมืองหลี่ว่านอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรที่ในเมืองหลี่ว่าน แต่ก็ไม่มีอะไรผิดหากเขาจะเตรียมตัวไปอย่างเต็มที่
“เสี่ยวเฉิน แกกำลังยุ่งอยู่กับอะไรหรือเปล่า?” เสียงของลุงซูดังมาจากประตูบ้านผีสิง เพราะความขี้ขลาดของเขา เขาจึงไม่เคยเข้ามาในบ้านผีสิงของเฉินเกอมาก่อน
“ลุงซู มีอะไรให้ผมช่วยครับ?”
“ผู้อำนวยการลั่วอยากพบแก”
หลังจากส่งผู้เข้าชมเข้าฉากแล้ว เฉินเกอก็เก็บกระดาษแล้วออกไปจากบ้านผีสิง ไม่ไกลนัก ผู้อำนวยการลั่วกำลังพูดคุยอยู่กับกลุ่มผู้เข้าชมในชุดลำลองกลุ่มหนึ่งอยู่ พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะดังเป็นระยะ ผู้เข้าชมหลายคนน่าจะไม่ได้คิดว่าชายวัยกลางคนที่ดูเป็นมิตรและใจดีจะเป็นเจ้าของสวนสนุกนี่
“ผู้อำนวยการลั่ว คุณหาผมเหรอครับ?” เฉินเกอรอให้การพูดคุยของพวกเขาสงบลงก่อนที่จะเดินเข้าไป
“ฉันมีบางอย่างที่สำคัญจะคุยกับเธอ” ผู้อำนวยการลั่วเดินนำเฉินเกอไปยังจุดที่ไกลคนอื่นมากขึ้น และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปอย่างช้า ๆ “เธอยังจำได้ไหมว่าฉันเคยพาผู้ชายคนหนึ่งมาที่สวนสนุกและผู้ชายคนนั้นยังถามเกี่ยวกับบ้านผีสิงของเธอด้วย?”
“คิดว่าจำได้นะครับ ผมจำชื่อเขาไม่ได้ แต่เขาบอกว่าเขาต้องการลงทุนกับสวนสนุกของเรา ช่วยเราปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องเล่นของเราและขยายพื้นที่ของสวนสนุกออกไป” เฉินเกอจำชายคนนั้นได้ และเขายังเคยเห็นใบหน้าของผู้ชายคนนั้นในโทรศัพท์ของพนักงานจากสวนสนุกแห่งอนาคตด้วย
“ชื่อจริงของเขาคือไป๋ฉิน เป็นนักลงทุนที่เก่งกาจมาก เขามีความหลงใหลเพียงอย่างเดียวในชีวิต และนั่นก็คือเงิน เพื่อเงินแล้ว เขายินดีจะทำทุกอย่าง ต่อให้สิ่งนั้นจะอยู่คนละฝั่งกับกฎหมายก็ตาม” ผู้อำนวยการลั่วพูดช้า ๆ “พวกเราครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน ดังนั้นฉันจึงรู้จักเขาดี ผู้ชายคนนั้นจะไม่ทำอะไรที่ไม่มีผลประโยชน์ ตอนที่ยังหนุ่ม เขาแต่งงานกับลูกสาวของเศรษฐีคนหนึ่ง และยังเปลี่ยนแซ่ ดังนั้นทุกวันนี้ มีคนไม่กี่คนที่รู้จักชื่อจริงของเขา”
“พวกเราจะร่วมมือกับเขาใช่ไหมครับ?”
“เครื่องเล่นของสวนสนุกนิวเซนจูรี่นั้นล้าหลังเกินไปแล้ว และหากไม่ปรับปรุง มันก็ยากที่พวกเราจะรักษาผู้เข้าชมเอาไว้จากสวนสนุกแห่งอนาคต” ผู้อำนวยการลั่วเองก็มีความคิดของตัวเอง “ตอนนี้ในจิ่วเจียงนั้นมีเพียงไม่กี่ที่ที่มอบความบันเทิงอันมีคุณภาพให้ และคนก็เริ่มไม่มีทางเลือก ดังนั้นพวกเขาก็ได้แต่มาที่นี่ หลังจากสวนสนุกแห่งอนาคตเปิด มันย่อมต้องส่งผลกระทบต่อพวกเราอย่างมาก”
“พวกเขาจะอาศัยเครื่องเล่นที่มีเทคโนโลยีสูงและการผสมผสานความบันเทิงเสมือนจริงเข้ากับทางกายภาพเป็นส่วนใหญ่ มันต่างไปจากทิศทางของสวนสนุกของเราโดยสิ้นเชิง ตราบใดที่พวกเรารอดพ้นจากคลื่นกระแทกแรกได้ ผมแน่ใจว่าในที่สุดแล้วผู้เข้าชมก็จะกลับมา”
“เธอประเมินความทะเยอทะยานของพวกเขาต่ำเกินไป” ผู้อำนวยการลั่วนั้นคือศูนย์กลางของสวนสนุก ดังนั้นน้อยครั้งที่เขาจะแบ่งปันความกังวลของเขากับผู้อื่นเพื่อไม่ให้เกิดการเสียขวัญขึ้น “ฉันลองสืบดูแล้ว และพวกเขาไม่ได้แค่วางแผนจะใช้เพียงเครื่องเล่นรุ่นล่าสุดเท่านั้น พวกเขายังวางแผนลอกเลียนแบบความคิดองค์รวมของบ้านผีสิงของเธอด้วย เพื่อการนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาเลยผุดโครงการใหม่ขึ้นมา มันเรียกว่า อาณาจักรผี”
“อาณาจักรผี?”
“มันเป็นการผสานกันทั้งฉากทางกายภาพและฉากเสมือนจริงและยังร่วมด้วยนักแสดง พวกเขาใช้เงินมากมายสร้างบ้านผีสิงที่ใหญ่ที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดในประเทศขึ้นมา” ผู้อำนวยการลั่วมองเฉินเกอ “ไป๋ฉินให้ฉันดูข้อมูลลึก ๆ บางส่วน สวนสนุกแห่งอนาคตวางแผนจะเปลี่ยนบ้านผีสิงของพวกเขาไปเป็นเกมสยองของจริงที่ให้ผู้เข้าชมเข้าไปเยี่ยมและยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กัน พวกเขามีเนื้อเรื่องหลักทั้งหมดสี่ฉากและมีเนื้อเรื่องย่อยอีกกว่าสิบฉาก ขึ้นกับตัวเลือกที่เธอเลือก ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะต่างกันไปในแต่ละครั้ง”
“นั่นฟังดูยอดเยี่ยมมาก กระทั่งผมยังอยากจะไปเยี่ยมชมเลย” เฉินเกอนั้นอยากจะแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างบริสุทธิ์ใจและอยากจะแข่งกันฉันมิตร บางที พวกเขาอาจจะได้เรียนรู้จากอีกฝ่าย เหมือนที่เขาเคยไปเยี่ยมชมโรงเรียนแพทย์เทียนเถิงก่อนหน้านี้