ครอบครัวหลีต้าฉุยไม่รู้เหตุผลที่มาของเรื่องที่เกิดขึ้นในนี้ ยิ้มกล่าวว่า “ข้ามาไม่เห็นเจ้า ยังถามแม่เจ้าอยู่เลย แม่เจ้าบอกว่าพวกเจ้าออกไปทำธุระ วันปีใหม่แบบนี้ มีเรื่องสำคัญอะไรถึงวางไว้ก่อนไม่ได้เลยหรือ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มกล่าวตอบไปว่า “เรื่องวันนี้ก็ให้มันจบวันนี้ ยิ่งเป็นเรื่องของปีนี้ ก็ทำให้เสร็จจะได้ฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข”

 

 

ครอบครัวหลีต้าฉุยพยักหน้า “ก็จริง” แล้วกล่าวถามต่อว่า “เหนื่อยแล้วล่ะสิ ข้าไปต้มเกี๊ยวให้พวกเจ้า”

 

 

“คนเยอะแยะ ให้เจ้าไปทำได้อย่างไร” เมิ่งซื่อยิ้มห้ามนางไว้

 

 

ลูกสะใภ้เหวินเปียวซานโยวหลีและเหวินเหลียนเห็นเข้าก็เดินออกไป

 

 

 

 

บนตัวของเมิ่งเชี่ยนโยวมีกลิ่นยาและกลิ่นคาวเลือด กลัวว่าคนในห้องจะได้กลิ่น กล่าวว่า “ข้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวกลับมา”

 

 

เมิ่งซื่อพยักหน้า “ไปเถิด ข้าเย็บเสื้อผ้าที่ใส่ในวันปีใหม่ไว้ให้เจ้าหลายชุด วางไว้ในตู้ของเจ้า”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหันหลังกลับไปห้องของตน เปิดตู้ออก เสื้อผ้าที่วางไว้บนสุดคือเสื้อปีใหม่ที่พับเรียบร้อยแล้ว

 

 

เลือกชุดที่มีสีเข้มเล็กน้อย หยิบออกมาสวมใส่ เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว พูดคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน

 

 

คนเยอะ รวดเร็ว ไม่นานเกี๊ยวหลายหม้อก็สุกออกจากเตา ทุกคนกินร่วมกัน

 

 

หลังจากกินเสร็จ เมิ่งเชี่ยนโยวควงแขนซุนเชี่ยนมาห้องของตน กำชับนางว่าอย่าลืมยกไปให้รั่วหลานและคนที่เฝ้า นอกเหนือจากนั้นก็ให้นางบอกรั่วหลานว่า ครอบครัวของนางถูกช่วยออกมาแล้ว จัดเตรียมไว้แล้ว ให้นางอยู่อย่างวางใจก็พอ

 

 

ซุนเชี่ยนพยักหน้าจำใว้

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวก็สั่งให้เหวินเปียวพาคนยกเกี๊ยวไปให้สาวใช้และคนใช้ที่เฝ้าอยู่ที่ในจวนของเมิ่งฉี กล่าวว่า “บอกพวกเขา สลับกันกินเกี๊ยว”

 

 

เหวินเปียวรับคำสั่ง นำคนยกเกี๊ยวที่เหลือทั้งหมดไป

 

 

กินเกี๊ยวเสร็จแล้ว ที่เหลือก็เฝ้ากลางคืน คนเยอะขนาดนี้ในห้องก็มีที่ไม่พอ ตามกฎเดิมให้ทุกคนต่างคนต่างกลับไปที่จวนของตัวเอง

 

 

หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว หลีต้าชุยสองสามีภรรยาอยู่ต่ออีกสักครู่ ก็กลับไปที่จวนของตัวเอง

 

 

ในห้องเหลือแค่คนในตระกูลเมิ่ง

 

 

เมิ่งซื่อจึงอดใจไม่ไหวกล่าวถามว่า “ลี่เอ๋อร์สองแม่ลูกเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

“ทั้งสองตื่นขึ้นมาแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่าร่างกายยังคงอ่อนแออยู่ ต้องดูแลรักษาดีๆ ต่อไปอีกสักพักเจ้าค่ะ” เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวตอบ

 

 

เมิ่งซื่อพยักหน้าด้วยความดีใจ “ตื่นก็ดีแล้ว ตื่นก็ดีแล้ว”

 

 

ตอนที่เมิ่งเสียนและซุนชีกลับบ้านมาบอกนาง ไม่ได้บอกเรื่องของรั่วหลาน บอกนางแค่เรื่องที่จางลี่สองแม่ลูกถูกเฉียวหมิ่นสั่งคนมาทำร้าย เมิ่งซื่อคิดแค่ว่าเฉียวหมิ่นทำแบบนี้กับจางลี่สองแม่ลูกเพื่อแก้แค้นเรื่องในปีนั้น

 

 

“ถึงเวลาพวกเขาสองแม่ลูกควรกินยาแล้ว ข้าและพี่รองไปก่อน คืนนี้ไม่อยู่เฝ้ายามกับทุกคนแล้ว”

 

 

เมิ่งซื่อโบกมือไปมา “ช่วยคนสำคัญที่สุด พวกเจ้ารีบไป ถ้าหากคนไม่พออยู่ไม่ไหว ให้พี่ใหญ่และซ้อใหญ่ของเจ้าไปช่วย”

 

 

“ไม่ต้องเจ้าค่ะ พวกเขาสองแม่ลูกดื่มได้แค่ซุปโสมประทังไปก่อน ไม่ต้องให้คนดูแลเยอะ”

 

 

เมิ่งซื่อได้ยินแบบนี้ หันหลังไปบนเตียงคั่ง หยิบกล่องหลายกล่องออกมาจากตู้บนเตียงคั่ง ยื่นให้เมิ่งฉี “นี่คือโสมที่อี้เซวียนให้พวกข้ามา พวกเจ้าเอาไป ต้มให้ลี่เอ๋อร์สองแม่ลูกดื่ม”

 

 

เมิ่งฉีรับมาถือไว้บนมือ เดินออกจากประตูบ้านกับเมิ่งเชี่ยนโยว กลับไปที่เรือนของตน

 

 

หลังจากเหวินเปียวนำคนยกเกี๊ยวมาแล้ว ก็ไม่ได้กลับไป แต่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูแทนพวกเขา ให้พวกเขาไปกินเกี๊ยวกัน

 

 

ถึงในเรือน เมิ่งฉีนำโสมทั้งหมดไปที่ห้องครัว เมิ่งเชี่ยนโยวกลับเดินตรงกลับไปที่ห้อง

 

 

ชิงหลวนและจูหลีอยู่ข้างเตียงคั่ง เฝ้าจางลี่สองแม่ลูก

 

 

 

 

“พวกเจ้าสองคนไปกินเกี๊ยวเถิด ข้ามาดูพวกเขา” พอเมิ่งเชี่ยนโยวเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวกับทั้งสอง

 

 

ทั้งสองรับคำสั่ง เดินออกไปข้างนอก

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้อง มองดูจางลี่สองแม่ลูกที่หัวใกล้กันแล้วหลับสนิทอย่างสงบ

 

 

ค่ำคืนนี้ จางลี่สองแม่ลูกไม่ได้ตื่นขึ้นมา เมิ่งเชี่ยนโยวก็ไม่กล้าประมาท ทุกสี่ชั่วโมงก็บังคับป้อนยาพวกเขาหนึ่งครั้ง จนถึงเช้าวันแรกของปีใหม่ อาการของทั้งสองแม่ลูกไม่ทรุดลง เมิ่งเชี่ยนโยวถึงวางใจจริงๆ

 

 

ลุกขึ้น บิดขี้เกียจ สั่งชิงหลวนและจูหลีว่า “ข้าจะไปสวัสดีปีใหม่ผู้ใหญ่ในบ้าน พวกเจ้าเฝ้าพวกเขาไว้ให้ดี”

 

 

ทั้งสองรับคำสั่ง

 

 

เมิ่งฉีรออยู่ในเรือนแล้ว สองพี่น้องกลับไปฝั่งเมิ่งซื่อท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดสนิท

 

 

ครอบครัวเมิ่งทุกคนตื่นขึ้นมากันหมดแล้ว แม้แต่เส้าเอ๋อร์ก็ไม่ยกเว้น กระโดดไปมาในห้องอย่างดีใจ กล่าวว่าเดี๋ยวสวัสดีปีใหม่ก็จะได้อั่งเปาแล้ว”

 

 

ทุกคนหลุดหัวเราะออกมา

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโอบเส้าเอ๋อร์เข้ามากอดไว้ หอมลงบนหน้าผากของเขาหนึ่งที กล่าวว่า “ใช่แล้ว เดี๋ยวป้าไปกับเส้าเอ๋อร์ ครั้งนี้เราสองคนจะรวยอีกแล้ว”

 

 

ทุกคนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังเพราะนาง

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวให้ความสำคัญกับอั่งเปามากเป็นพิเศษ แม้ว่าในซองจะมีแค่หนึ่งอีแปะ นางก็มีความสุขไปเกือบครึ่งวัน เส้าเอ๋อร์ได้นางไปเต็มๆ

 

 

เมิ่งซื่อยิ้มกล่าวว่านาง “วันนี้เจ้าก็เป็นสาวอายุสิบเก้าปีแล้ว จะไปขออั่งเปาเหมือนเด็กๆ ได้อย่างไร”

 

 

“สิบเก้าปีแล้วอย่างไรเจ้าคะ ข้ายังไม่แต่งออกเรือนหนึ่งวัน ก็ยังเป็นเด็กหนึ่งวัน ถ้าหากใครบอกว่าข้าอายุมากแล้ว ไม่ให้อั่งเปา ข้าจะไม่ยอมเด็ดขาด” เมิ่งเชี่ยนโยวกล่าวด้วยความจริงจัง

 

 

ทุกคนหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งเพราะนาง

 

 

ทุกคนกินอาหารเช้าด้วยกันอย่างมีความสุข เมิ่งเชี่ยนโยวคนโตและเส้าเอ๋อร์คนเล็ก ยื่นมือออกมาขออั่งเปากับทุกคน

 

 

ทุกคนยิ้มส่ายหัวไปมา หยิบอั่งเปาที่เตรียมไว้ออกมาให้พวกเขา ทั้งสองดีใจมาก เส้าเอ๋อร์ทำสายตาระยิบระยับ ยื่นมือไปข้างหน้าเมิ่งเชี่ยนโยว “ท่านป้า อั่งเปาของข้าล่ะ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมัวแต่ยุ่งกับการช่วยชีวิตจางลี่สองแม่ลูก ไม่ได้เตรียมอั่งเปา เลยหยุดชะงักไป

 

 

เมิ่งซื่อหลุดหัวเราะออกมา เลยหยิบอั่งเปาออกมาสองซอง ซองหนึ่งยื่นให้เส้าเอ๋อร์ อีกซองยื่นให้เมิ่งเจี๋ย “เตรียมไว้ให้พวกเจ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เอาไป”

 

 

ทั้งสองรับมาด้วยความดีใจ

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวมองพวกเขาด้วยสายตาอิจฉาอย่างไม่ปิดบังแม้แต่เล็กน้อย

 

 

ทุกคนหัวเราะออกมาอีกครั้ง

 

 

อารมณ์กดดันของครอบครัวเมิ่งสองสามวันนี้ ได้ถูกทำลายไปหมดด้วยเสียงหัวเราะนี้

 

 

ต่อจากนี้ก็ไปเรือนใหญ่เพื่อไปสวัสดีปีใหม่เมิ่งจงจวี่สองสามีภรรยา ยังมีเมิ่งต้าจินสองสามีภรรยาและเมิ่งเหรินสองสามีภรรยา

 

 

เส้าเอ๋อร์ หงเอ๋อร์และเย่ว์เอ๋อร์เล็กสุด แน่นอนว่าได้อั่งเปาเยอะที่สุด ทั้งสามก็ไม่กลัวหนาว ถืออั่งเปาวิ่งไล่กันในเรือนใหญ่อย่างมีความสุข เสียงหัวเราะเสียงใสดังก้องอยู่ในเรือน

 

 

เมิ่งต้าจินนำทุกคนไปสวัสดีปีใหม่ผู้ใหญ่ทั้งหลายในตระกูล

 

 

ตอนนี้ครอบครัวเมิ่งไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผู้ใหญ่ในตระกูลก็ไม่กล้าประมาท เห็นครอบครัวเมิ่งเข้ามา ก็รีบออกไปต้อนรับ แม้แต่หัวหน้าตระกูลคนเดิมก็ตัวสั่นถูกลูกชายพยุงออกมา เชิญครอบครัวเมิ่งเข้าไปนั่งด้วยตัวเอง

 

 

หลังจากสวัสดีปีใหม่ทุกคนแล้ว ฟ้าจึงค่อยๆ สว่าง เมิ่งเอ้ออิ๋นนำทุกคนในครอบครัวกลับมาที่บ้านของตน ไปที่เรือนของหลีต้าฉุยสองสามีภรรยา

 

 

หลีต้าฉุยสองสามีภรรยาได้รอแต่เช้าแล้ว ได้ยินเสียงก็เดินออกมาต้อนรับกัน ยิ้มเชิญทุกคนเข้าไปในบ้าน

 

 

หลีต้าฉุยสองสามีภรรยาหยิบอั่งเปาที่เตรียมไว้ออกมาให้เมิ่งเชี่ยนโยว เมิ่งเจี๋ยและเส้าเอ๋อร์

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่เกรงใจ รับมา เมิ่งเจี๋ยและเส้าเอ๋อร์ก็กล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ

 

 

หลังจากสวัสดีปีใหม่หลีต้าฉุยสองสามีภรรยาเสร็จแล้ว จึงไม่มีอะไรอีกแล้วจริงๆ เมิ่งเชี่ยนโยวกลับไปที่ห้องของตัวเอง นำอั่งเปาที่ได้ใส่ลงไปในตู้ แล้วรีบกลับไปที่เรือนฝั่งจางลี่สองแม่ลูกพร้อมกับเมิ่งฉี

 

 

ชิงหลวนกำลังยืนมองอยู่ที่หน้าประตูพอดี เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวก็รีบรายงานด้วยความตื่นเต้นดีใจ “นายหญิง พวกเขาสองแม่ลูกตื่นแล้วเจ้าค่ะ”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวดีใจ รีบเดินเข้าไปในห้อง จางลี่สองแม่ลูกมองนางด้วยรอยยิ้ม เสียงเรียกที่อ่อนแรงออกเสียงออกมาพร้อมกันว่า “พี่โยวเอ๋อร์” “คุณป้า”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวเดินไปข้างหน้าทั้งสอง หยุดลง ก้มหัว มองดูคนโตคนเล็กคู่นี้ ยิ้มกลับไป

 

 

เสี่ยวเอ๋อร์ยิ้มรอยยิ้มเล็กๆ ออกมา หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้ว น้อยใจ “ท่านป้า ยาขมมาก”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มจนตาแดง สั่งว่า “ไปทำน้ำหวานมา”

 

 

จางลี่ก็ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าน่ะ ตามใจเขาจนอาจเสียคน”

 

 

พูดจบ ก็หันหน้ามองเสี่ยวเอ๋อร์ด้วยความรัก

 

 

ชิงหลวนยกน้ำหวานมา เมิ่งเชี่ยนโยวรับมา ป้อนเสี่ยวเอ๋อร์ดื่มลงไปด้วยตัวเอง ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากเสี่ยวเอ๋อร์หายเร็วๆ ท่านป้าไม่เพียงทำน้ำหวานให้เจ้าดื่ม ยังจะพาเจ้าไปเมืองหลวง ซื้อผลไม้ชุบน้ำตาลให้เจ้ากิน ให้ปากของเจ้าหวานทุกวัน”

 

 

เสี่ยวเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ แสดงใบหน้าดีใจออกมา “ท่านป้าวางใจได้เลย ข้าจะต้องดีขึ้นเร็วๆ นี้แน่นอน”

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวยิ้มพยักหน้า

 

 

สองแม่ลูกฟื้นแล้วจริงๆ สามารถดื่มยาและทานอาหารด้วยตนเองได้แล้ว ในใจของทุกคนถึงจะวางใจได้แล้วจริงๆ

 

 

ผ่านไปสองวัน ถึงวันที่สามของปีใหม่ กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เมิ่งเชี่ยนโยวเหมือนกับทุกวัน พูดเรื่องราวของเมืองหลวงให้สองแม่ลูกฟัง เสียงร้อนรนของเมิ่งฉีที่เรียกนางดังมาจากในเรือน “น้องเล็ก เจ้าออกมาหน่อย

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวฟังเสียงที่ผิดปรกติของเขาออก เดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

 

มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ เมิ่งฉี เห็นเมิ่งเชี่ยนโยวเดินออกมา รีบกล่าวออกมาทันทีว่า “แม่นางเมิ่ง ข้าเป็นคนใช้ในจวนเชีย คุณชายของพวกข้าให้ข้าส่งจดหมายมาให้ท่าน” พูดจบ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก ยื่นให้เมิ่งเชี่ยนโยวด้วยความเคารพ

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวรับมา เปิดออก ในกระดาษแผ่นใหญ่ๆ มีเพียงตัวหนังสือบิดๆ เบี้ยวๆ หนึ่งตัว “ช่วย”