บทที่ 1257 ผู้นำพันธมิตรที่หายตัวไปหลายปี? / บทที่ 1258 บุคคลที่ไม่ควรหาเรื่อง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1257 ผู้นำพันธมิตรที่หายตัวไปหลายปี?

“ท่าสวย ลาตีลังกา!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชม

“บ้านยายแกสิ นี่มันหนึ่งในสุดยอดกระบวนท่าของพันธมิตรอู๋เว่ยเรานี่…พยัคฆ์กระโจน!” ชายฉกรรจ์คนที่เป็นหัวหน้าตกตะลึง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าอยู่ในพันธมิตรอู๋เว่ยมานานกว่าคนอื่น จึงได้ยินเรื่องราวภายในมาบ้าง

โดยเฉพาะท่าพยัคฆ์กระโจนนี้ ได้ยินมาว่าผู้นำพันธมิตรเคยสู้กับเสือร้ายตัวหนึ่งตอนอายุสิบกว่าปี หลังจากฆ่าเสือร้ายก็คิดค้นท่านี้ขึ้นมาได้ นี่เป็นท่าที่ผู้นำพันธมิตรคิดค้นขึ้นมาเอง แล้วก็เป็นท่าที่ล้มคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาไม่น้อย…

“ให้ตาย! หรือว่า…ผู้หญิงคนนั้นคือผู้นำพันธมิตรที่หายตัวไปหลายปีของพวกเรา?!”

ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าไม่อยากเชื่อ ไม่รอให้คนอื่นทันพูดอะไร เขาก็สาวเท้าวิ่งไปที่รถยนต์พวกนั้นแล้ว

พอเห็นพวกเขาวิ่งเข้าไป ด้วยความจนใจ รถพวกนั้นจึงจำเป็นต้องจอดชั่วคราว

“แม่เอ็งเถอะ อยากตายรึไงวะ ไสหัวออกไป เดี๋ยวแม่ก็ชนให้ตายเลย!” คนขับเลื่อนกระจกลง แล้วชะโงกหน้าออกมาด่าชายฉกรรจ์

“แม่แกสิวะ!” ชายฉกรรจ์เดือดดาล ตวัดฝ่ามือใหญ่ตบใส่หน้าคนขับอย่างแรง

เมื่อเสียงเพียะดังขึ้น คนขับสลบเหมือดคาพวงมาลัยทันที

เห็นเช่นนี้ ประตูของรถยนต์อีกหลายคันที่เหลือก็ถูกเปิดออก ชายชุดดำสิบกว่าคนเดินลงมา

“มีคนช่วยด้วยเหรอ?”

ชายชุดดำสิบกว่าคนนึกว่าคนเหล่านี้เป็นพวกเดียวกับเยี่ยหวันหวั่น ดังนั้นจึงไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบล้อมชายฉกรรจ์พวกนี้ไว้ทันใด

“เข้ามาเลย ฉันไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายวันแล้ว…”

ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าแค่นยิ้ม สายตาที่มองชายชุดดำสิบกว่าคนเหมือนกำลังล่าเหยื่อ

“เดี๋ยวพวกฉันช่วยเอง!”

ไม่นาน ชายฉกรรจ์ที่เหลือต่างก็ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ตั้งท่าพร้อมโจมตีเต็มที่

“ไปไกลๆ เลย ฉันเหมาหมด…ใครก็ห้ามแย่ง!” ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าส่ายหน้า

พอเห็นพวกชายฉกรรจ์เอาแต่เถียงกันเอง ชายชุดดำสิบกว่าคนก็โมโหจัด

ทว่า…

เมื่อเยี่ยหวันหวั่นได้เห็นฝีมือของชายฉกรรจ์คนนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป เธอนึกว่าตัวเองแข็งแกร่งมากแล้ว แต่พอเทียบกับผู้ชายคนนั้น เรียกได้ว่าห่างชั้นกันมาก บ้าเอ๊ยนี่เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า…

ชายฉกรรจ์คนเดียวสู้กับชายชุดดำสิบกว่าคน เพียงไม่ถึงสิบห้านาที เสียงร้องครวญด้วยความเจ็บปวดดังมาเป็นระลอก ยังมีเสียงกระดูกหักกล้ามเนื้อฉีก และอีกสารพัดเสียง

“หนีเร็ว…”

สุดท้าย ชายชุดดำต่างแตกตื่นหวาดกลัว นึกโทษพ่อแม่ที่ให้ขาพวกเขามาแค่สองขา วิ่งหนีขึ้นรถแล้วขับหายไปในพริบตา

“ขอบคุณ…”

เยี่ยหวันหวั่นเดินเข้ามา ขอบคุณชายฉกรรจ์พวกนั้นที่เข้ามาช่วยเธอ

“ละ…ลูกพี่!” หลังเห็นเยี่ยหวันหวั่น ชายฉกรรจ์มีสีหน้าตื่นเต้น “คุณคือพี่แบดเจอร์ใช่ไหม…คุณคือผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราใช่หรือเปล่า…ลูกพี่ หลายปีมานี้หายไปไหนมา…ลูกพี่ ตอนนั้นบอกว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่กลับไปทีก็ไม่มีข่าวคราวหลายปี พันธมิตรอู๋เว่ยตามหาลูกพี่กันอย่างยากลำบาก…ลูกพี่รีบกลับไปกับพวกเราเถอะ…ลูกพี่…”

“พวกเรา…พวกเราโดนลบชื่อออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยแล้วนะ…” ชายฉกรรจ์อีกคนเตือนเสียงเบา

ชายฉกรรจ์ชะงักทันทีเมื่อได้ยิน เหมือนจะมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น…

“หัวหน้า หัวหน้าต้องทวงคืนความยุติธรรมให้พวกเรานะ พวกเบื้องบนในพันธมิตรมอบหมายภารกิจให้พวกผมไปทำลายตระกูลหนึ่งให้สิ้นซาก…พวกผมก็ทำลายสิ้นซากแล้ว แต่บ้านนั้นเลี้ยงหมาไว้ตัวหนึ่ง มันวิ่งหนีเร็วมาก พวกผมไล่ตามไม่ทัน…พวกนั้นเลยไล่พวกผมออกเพราะเรื่องนี้…ตั้งแต่หัวหน้าหายไป ในกลุ่มพันธมิตรก็วุ่นวายมาก…พวกผมลำบากสุดๆ เลย…พวกคนระดับสูงในกลุ่มตั้งใจเล่นงานพวกผมเห็นๆ…” ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าร้องห่มร้องไห้

ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ยืนทำหน้างงอยู่กับที่

นี่มันเรื่องบ้าอะไรล่ะเนี่ย?

————————————————————————————-

บทที่ 1258 บุคคลที่ไม่ควรหาเรื่อง

พันธมิตรอู๋เว่ย…

ทำไมชื่อนี้เหมือนจะคุ้นหูจัง?

เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดสักครู่ จู่ๆ ก็นึกออก ก่อนหน้านี้เธอสนใจเรื่องรัฐอิสระมาก จึงพูดคุยกับคุณมู่ไปมากมาย ตอนนั้นคุณมู่เคยบอกว่าในรัฐอิสระ กลุ่มอำนาจที่ไม่ควรไปยุ่งด้วยมากที่สุดก็คือพันธมิตรอู๋เว่ย

ในรัฐอิสระ พันธมิตรอู๋เว่ยเป็นกลุ่มแก๊งหนึ่งที่ชั่วร้ายและน่ากลัวมาก ผู้นำเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่คนนอกตั้งฉายาให้เธอว่าแบดเจอร์ ตัวตนของเธอลึกลับมาก คนนอกแทบไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของแบดเจอร์เลย

หากกลุ่มอำนาจไหนทำให้พันธมิตรอู๋เว่ยไม่พอใจ ก็จะโดนกวาดล้างจนสิ้นซาก ไม่เว้นแม้แต่หมาหรือแมว ไม่มีทางรอดไปได้แม้แต่ชีวิตเดียว…

ตอนนั้นเยี่ยหวันหวั่นสงสัยมาก ทำไมผู้นำของพวกเขาถึงมีฉายาว่าแบดเจอร์ มันมีความหมายว่ายังไงกันแน่?

เธอเพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ‘แบดเจอร์’ เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าแอฟริกา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าฮันนี่แบดเจอร์

เพราะหัวของฮันนี่แบดเจอร์ค่อนข้างเรียบแบน มองจากที่ไกลๆ จะเหมือนหัวแบน ดังนั้นจึงถูกตั้งฉายาว่า ‘พี่หัวแบน’ (แบดเจอร์)

ตอนเยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเห็นภาพสัตว์ที่ชื่อฮันนี่แบดเจอร์ ก็ยังนึกว่าเป็นสัตว์ตัวเล็กน่ารัก แต่หลังจากค้นคว้าเพิ่มเติม ถึงได้รู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่อันตรายแค่ไหน

ถึงแม้บนหัวจะมีขนสีขาวดูไปแล้วน่ารัก แต่กลับได้รับสมญานามว่าเป็น ‘สัตว์ที่ไร้ซึ่งความกลัวมากที่สุดในโลก’

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดเจ้านี่ก็ไม่เกรงกลัว สิ่งที่ชอบทำมากที่สุดก็คือหาเรื่อง หาเรื่องสิงโตหาเรื่องเสือ กินงูพิษเหมือนกินขนมล่าเถียว เวลาส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้กำลังมีเรื่อง ก็อยู่ระหว่างเดินทางไปหาเรื่อง

บนโลกใบนี้ไม่มีสวนสัตว์แห่งใดสามารถขังมันได้ มันต่างจากสัตว์ที่ชอบนอนอุดอู้อยู่ในรูชนิดอื่น แม้มันจะขุดหลุมไว้แต่กลับไม่ชอบอยู่ในบ้านนัก ชอบเดินเตร่หาความท้าทายไปทั่ว

ว่ากันว่าคนจนกลัวคนพาล คนพาลกลัวคนบ้า คนบ้ากลัวคนไม่รักชีวิต แม้เจ้าฮันนี่แบดเจอร์จะตัวไม่ใหญ่ แต่เพราะมันไม่รักตัวกลัวตาย แถมยังเจ้าคิดเจ้าแค้นทั้งยังมีพิษในตัวเอง สัตว์ส่วนใหญ่จึงพากันกลัวและหลีกเลี่ยงมัน แม้กระทั่งสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารยังหลีกเลี่ยงมัน กลัวว่าจะไปทำให้มันไม่พอใจเข้า

ฉะนั้น…แค่ได้ยินฉายานี้ ก็เดาได้แล้วว่าผู้นำของพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นคนที่น่ากลัวขนาดไหน…

แต่ในเวลานี้ ชายฉกรรจ์สิบกว่าคนตรงหน้ากลับบอกว่าพวกเขาเป็นคนของ ‘พันธมิตรอู๋เว่ย’ ที่ชั่วร้ายสุดขีดในรัฐอิสระ ซ้ำยังบอกว่า…บอกว่าเธอเป็นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย…

นี่เธอฝันอยู่รึเปล่า? หรือว่าคนพวกนี้สมองเลอะเลือนไปแล้ว…

“หัวหน้า หัวหน้าฟังพวกผมอธิบายก่อนนะ พวกเราถูกบีบจนไร้ทางเลือกถึงต้องมาที่ประเทศจีนนี่…หัวหน้าพาพวกผมกลับไปเถอะนะ…พวกผมอยากเข้าพันธมิตรอู๋เว่ยอีกครั้ง แล้วก็อยู่เคียงข้างหัวหน้า…” ชายฉกรรจ์ที่เป็นหัวหน้าทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น แล้วกอดขาเยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมปล่อย

“หัวหน้า พาพวกผมกลับพันธมิตรอู๋เว่ยเถอะ…” ชายฉกรรจ์ที่เหลือก็พูดด้วยน้ำตา

“เอ่อ…”

เยี่ยหวันหวั่นทำหน้างงงัน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย

“หัวหน้า พวกผมรับรองว่าต่อไปจะทำภารกิจให้สำเร็จ ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเด็ดขาด หัวหน้าพาพวกผมกลับพันธมิตรอู๋เว่ยเถอะ…”

เหล่าชายฉกรรจ์จ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้าขอร้องอ้อนวอน

“ขอโทษนะคะ…พวกคุณน่าจะจำคนผิด…” เยี่ยหวันหวั่นมองพิจารณากลุ่มชายฉกรรจ์ตรงหน้าครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยปาก

ถึงตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นจะรู้ว่าความจำเดิมที่เป็นของเธอถูกซือเยี่ยหานลบไปหมดแล้ว แถมยังโดนเอาความจำของเยี่ยหวันหวั่นมายัดใส่แทนที่ แต่เธอมั่นใจได้ว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับรัฐอิสระ และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรอู๋เว่ยที่ชั่วร้ายน่ากลัวที่สุดในรัฐอิสระด้วย