ตอนที่ 496 น่าสนใจ
สีหน้าฝานเจียวเจียวแข็งทื่อ จากนั้นก็เชิดมุมปากขึ้นอย่างล้อเล่น “อะไรนะ หรือคุณซีเหมินกลัวเธอ ฉันเป็นลูกสาวสกุลฝานยังสามารถอยู่กับคุณที่นี่ เธอก็แค่ลูกสาวบุญธรรมแค่นั้น ทำไมคุณต้องตื่นเต้นด้วย?”
ซีเหมินหลงเซี่ยวดึงมือตัวเองกลับ ศีรษะฝานเจียวเจียวร่วงลงบนหมอนทันที เธอไม่พอใจเมื่อรู้สึกเสียอ้อมกอด แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่ไม่ชอบที่คุณไม่พูดความจริงกับผม!” แววตาซีเหมินหลงเซี่ยวหมองลง ที่เขาเล่นงานเฉวียนกรุ๊ปครั้งนี้ อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงต้องรู้แน่นอน
บัดนี้พวกเขากลายเป็นศัตรูแล้ว เรื่องนี้ไม่มีทางถอย เขาไม่มีอดทนอย่างหนานหลิวเฟิงที่รู้จักยอมรับผิด ในพจนานุกรมของเขาซีเหมินหลงเซี่ยวไม่มีคำว่ารับผิด
ขณะที่พูดซีเหมินหลงเซี่ยวค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สีหน้าเฉยเมย
ฝานเจียวเจียวเลิกคิ้วขึ้น “เรื่องนั้นช่างเถอะ ที่ฉันไม่พูดเพราะคิดว่าเธอเป็นคนที่ไม่สลักสำคัญอะไร ฉันต้องการเล่นงานเธอ คุณต้องการเล่นงานเฉวียนหมิง เป้าหมายของเราสองคนไม่ขัดกันจริงไหม?”
“อืม” เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ร่วมมือกันเช่นนี้ แต่ต่อมากลายเป็นทั้งคู่พบปะกันเป็นประจำ เป็นการผ่อนคลายความกดดัน
ด้วยรสนิยมและฐานะของซีเหมินหลงเซี่ยว ผู้หญิงทั่วไปไม่ใช่จะเข้าใกล้เขาได้ ส่วนฝานเจียวเจียวนั้นเธอชอบบุคลิดของซีเหมินหลงเซี่ยว เมื่ออยู่กับเขาทำให้เธอสำราญทั้งกายและใจ
“เพราะฉะนั้นคุณมีอะไรต้องวิตกอีก ยกเว้นในสายตาคุณ ฉันไม่อาจเทียบอีลั่วเสวี่ยได้” ฝานเจียวเจียวเบ้ปาก ดึงผ้าห่มปิดร่าง ดวงตากลอกไปมา แล้วพลิกตัวขึ้นข้างบน
แววตาซีเหมินหลงเซี่ยวหมองลง แล้วฉีกยิ้ม “ไม่เคยลอง ผมจะรู้ได้อย่างไร แต่ว่าคุณ…” เขาไม่พูดต่อ แต่ลงมือทำแล้ว
ไหลย่ากรุ๊ปของเขาอยากยืนอย่างมั่นคงในเมืองเอฟ ก็ต้องเล่นงานกลุ่มธุรกิจที่มีรากฐานมั่นคงเหล่านี้ หนานกรุ๊ปเข้าหุ้นในไหลย่ากรุ๊ปไม่มาก ส่วนเฉวียนกรุ๊ปไม่มีหุ้นเลย
วันหน้าบริษัทเขาจะดำเนินธุรกิจที่นี้ให้ราบลื่นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเขายิ่งต้องการสร้างอาณาจักรธุรกิจของตนเอง และก่อนหน้านั้นเฉวียนกรุ๊ปต้องล้มลงก่อน พอดีกับที่ฝานเจียวเจียวต้องการเล่นงานเฉวียนกรุ๊ป เขาจึงช่วยโยนฟืนลงไป
แต่สำหรับเขตทหารที่สิบสองแล้วกลับต้องสนใจบ้าง ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สนใจเธอมากนัก เวลานี้สนใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเขามองเธอพลาดไป เธอก็แค่นักศึกษาสาวที่ยังเรียนไม่จบ ที่ผ่านมาวางตัวเงียบๆ ไม่โดดเด่น แล้วเกิดมีความเกี่ยวข้องกับเขตทหารที่สิบสองตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาแปลกใจกับเรื่องเหล่านี้มาก บางทีสิ่งที่เขาเห็นภายนอกของผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงส่วนน้อย เบื้องหลังยังมีเรื่องที่เขาไม่รู้ อีลั่วเสวี่ยหรือ จู่ๆ เขาอยากลองเอาชนะเธอดู
พอคิดเช่นนี้แล้ว การกระทำของเขาเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้น จนฝานเจียวเจียวร้องครางเบาๆ “อูย…”
เสียงร้องของเธอกลับกระตุ้นให้ซีเหมินหลงเซี่ยวโกรธ ท่าทางราวกับสัตว์ร้ายที่พยายามไล่ล่าในอาณาเขตของตัวเอง โถมใส่อย่างสุดกำลัง
ทางด้านฝานเจียวเจียว เธอนึกเองว่าตนเองทำเรื่องทั้งหมดอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ถูกพบเห็น แต่คนที่อวิ๋นเว่ยทิ้งไว้ที่เมืองเอฟให้ช่วยปกป้องอีลั่วเสวี่ยกลับค่อยๆ มองเห็นบางอย่างแล้ว แล้วรายงานเรื่องนี้ต่ออวิ๋นเว่ย
อย่างไรฝานเจียวเจียวย่อมไม่อาจจะไม่ปรากฏตัวเลย เมื่อเป็นเช่นนี้จึงถูกตรวจสอบไม่ยาก
“พี่อวิ๋น สถานการณ์ไม่สู้ดีนักครับ คุณหนูใหญ่เผชิญกับศัตรูแล้ว” จ้าวจวินถอดหมวกออก เคาะประตูห้องแล้วก้าวเข้าไปในห้องของอวิ๋นเว่ย
ตอนที่ 497 เราไม่มีทางถอย
อวิ๋นเว่ยเงยหน้าขึ้น เดิมเขามีสีหน้ารำคาญ พอได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอีลั่วเสวี่ยก็สีหน้าเปลี่ยนเป็นสนใจขึ้นมาทันที “เรื่องอะไร เกี่ยวกับเสวี่ยเอ๋อหรือ นั่งลงค่อยๆ พูด”
จ้าวจวินรู้สึกตื้นตันใจ ไม่เสียทีที่เป็นคุณหนูใหญ่ มีความสำคัญมากกว่าพวกเขาด้วยซ้ำ พออวิ๋นเว่ยได้ยินชื่อเธอ ก็เปลี่ยนจากผู้บังคับบัญชาที่เคร่งครัดเป็นพ่อที่ใจดีทันที
จ้าวจวินไม่อ้อมค้อม พูดเข้าเรื่องทันที “ข่าวล่าสุดจากเมืองเอฟ คุณหนูฝานไปที่นั่น กำลังสร้างความเดือดร้อนให้คุณหนูใหญ่ ทั้งยังเล่นงานเฉวียนกรุ๊ปด้วย”
“อะไรนะ ยายหนูเจียวเจียวบังอาจทำอย่างนั้นหรือ ทำไมฉันจึงไม่ได้ยินเสวี่ยเอ๋อกับอาเหมาเอ่ยถึงเรื่องนี้เลยล่ะ” แม้เขาจะมาที่นี่ แต่ก็โทรคุยกับอีลั่วเสวี่ยทุกสองสามวัน
แม้จะคุยกันเป็นประจำ ต้องพูดคุยไต่ถามสภาพระยะใกล้ของกันและกัน แต่เขากลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย
“คุณหนูใหญ่มีนิสัยชอบเอาชนะ ท่านแม่ทัพก็รู้ดี คิดว่าเธอคงไม่อยากให้คุณกังวล” ที่จริงก็เป็นแบบนั้น อีลั่วเสวี่ยคิดว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้ว เธอสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้เอง
ถ้าเธอไม่มีความสารถจัดการเรื่องนี้ได้ เท่ากับตัวเธอทำให้อวิ๋นเว่ยขายหน้า
อวิ๋นเว่ยได้ยินก็ขมวดคิ้วทันที “เสวี่ยเอ๋อก็เหลือเกินจริงๆ หรือจะปล่อยให้ฝานเจียวเจียวข่มเหงตามใจชอบ ไม่ได้ จะยอมให้ใครมารังแกลูกสาวฉันไม่ได้”
เขาอยากเอาเธอมาปกป้องไว้ในมือด้วยซ้ำ ฝานเจียวเจียวถึงกับบังอาจแอบไปเมืองเอฟเพื่อรบกวนการเรียนและการใช้ชีวิตของเธอ ยอมไม่ได้เด็ดขาด!
จ้าวจวินกะพริบตา “ท่านแม่ทัพ ท่านจะทำอะไรหรือ ฟังผมพูดให้จบก่อน เจ้าหนุ่มเฉวียนหมิงเริ่มโต้กลับแล้ว ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทำไมไม่ปล่อยให้คุณหนูใหญ่แสดงความสามารถครับ”
“พูดบ้าๆ นายจะรู้อะไร ยายหนูต้องการชีวิตที่เงียบสงบ ฉันไม่สนใจ สกุลฝานหรือ แล้วจะได้เห็นดีกัน!” อวิ๋นเว่ยตบโต๊ะแรงๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นเดินออกไป
“ท่านแม่ทัพ รอเดี๋ยวครับ ฟังผมพูดก่อน…” จ้าวจวินตามออกไปเหมือนอยากบอกอะไร แต่เมื่อเห็นสีหน้าโหดเ**้ยมของอวิ๋นเว่ย ท่าทางเขาเหมือนจะบอกว่าขืนยังพูดมาก เดี๋ยวถูกสั่งให้วิ่งรอบสนาม จ้าวจวินจึงชะงักทันที
จากนั้นอวิ๋นเว่ยก็โทรออก แล้วเดินไปยังที่ที่ลับตาคน
อีกด้านหนึ่งเฉวียนหมิงเองก็มีสมองด้านธุรกิจดีเยี่ยม บวกกับที่หนานกรุ๊ปเพิกเฉย รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากหลิงเป่าถังและอีกหลายบริษัท ทำให้การดำเนินงานของเฉวียนกรุ๊ปค่อยๆ เข้าสู่เส้นทางปกติ พวกเขาจึงเริ่มโต้กลับ
การโจมตีกลับของเฉวียนกรุ๊ปรุนแรงเช่นเดียวกัน ทำให้เมืองเอฟปั่นป่วนระยะหนึ่ง ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างบริษัทสกุลฟางเริ่มวิตกกังวล มีการเรียกประชุมกัน
“ผู้จัดการฟาง เรื่องที่จะเล่นงานเฉวียนกรุ๊ป พวกเราเพลามือลงดีไหม?” ฝ่ายตรงข้ามมาอย่างน่ากลัว พวกเขาเริ่มรับมือไม่ไหว”
ฟางจื่อชิวนั่งอยู่ข้างๆ เหลือบมองพี่ชายตนเองที่นิ่งเงียบ ฟางจื้อหมิงเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทในเครือสกุลฟาง เป็นพี่ชายเธอ
“เพลามืองั้นหรือ เราอยากเพลามือลง แต่เฉวียนหมิงจะให้โอกาสเราหรือ อย่าไร้เดียงสาเลย เดินหน้าต่อ คราวนี้เราไม่มีทางถอยแล้ว เลิกประชุม!” ฟางจื้อหมิงโบกมือแล้วพูด
คนอื่นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สุดท้ายก็หยิบข้าวของของตนแล้วจากไปเงียบๆ
หลังจากทุกคนออกไปแล้ว ฟางจื้อหมิงขมวดคิ้วพลางมองน้องสาวตนเอง “จื่อชิว ว่าไง ไหนบอกว่าไหลย่ากรุ๊ปกับบุคคลลึกลับจะช่วยพวกเรา ดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย”
ฟางจื่อชิวชะงัก “พวกเขาสนับสนุนด้านการเงินมากแล้ว ยังมีไหลย่ากรุ๊ปกับบริษัทของมั่วเฉินเซวียน พี่ เธอไม่โกหกฉันหลอก” ผู้หญิงคนนั้นเกลียดชังอีลั่วเสวี่ย แค้นจนอยากทำลายชื่อเสียงเธอให้ย่อยยับ คงไม่โกหกเธอหรอก