แดนนิรมิตเทพ บทที่ 966
ที่แท้วังนั่นเป็นแค่ประตูใหญ่เพียงหนึ่งบาน หลังจากเข้ามาในวัง กลับเป็นอีกโลกหนึ่ง อีกทั้งยังกว้างขวางกว่าข้างนอกมาก

เฉินโม่ยืนอยู่ท่ามกลางโลกใหม่ด้านหน้า เขารับรู้อย่างชัดเจนว่าชี่ทิพย์ของที่นี่ รุนแรงกว่าโลกภายนอกเป็นพันเท่า

ถึงเป็นค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาล ที่เขาวางไว้ที่ทะเลสาบกลับคืนรัง ก็ยังไม่รุนแรงเท่าชี่ทิพย์ที่นี่

อีกทั้งยังมีอีกจุดหนึ่ง ที่นี่ไม่มี ค่ายกลรวมทิพย์ที่รูปแบบคล้ายกับค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาล งั้นชี่ทิพย์รุนแรงของที่นี่ มาจากไหนกันแน่

ตั้งแต่พบเขาซูคง เฉินโม่รู้สึกว่าที่นี่มีความลึกลับทุกที่ ช่วงที่ไม่ค่อยชัดเจน เหมือนเขาสัมผัสกับชี่ทิพย์ได้เล็กน้อย

ดาวไอกาไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้!

“เมื่อเข้าไปในเขาซูคง ต้องได้เป็นปรมาจารย์”

“อันที่จริงประโยคนี้คงพูดถึงชี่ทิพย์รุนแรงของที่นี่! การที่นักบู๊ยากจะทะลุถึงปรมาจารย์แดนแปรภาพ วิชาที่ฝึกฝนเป็นเพียงส่วนหนึ่งในนั้น อีกส่วนสำคัญก็เพราะชี่ทิพย์บนดาวไอกาน้อยมาก”

“ถ้าให้คนธรรมดาแช่น้ำชีวิตทั้งวัน เมื่อเวลาผ่านไปนานก็สามารถเข้าสู่แดนแปรภาพได้!”

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่อยู่ข้างๆ หลับตาลง สูดชี่ทิพย์รุนแรงของที่นี่จนสุดปอด

“เฉินโม่ ฉันรู้สึกว่าอากาศของที่นี่ดีมาก! ฉันรู้สึกอยากนอน!”

ไม่ใช่แค่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่เป็นแบบนี้ ขนาดนักบู๊จำนวนมากนั่งลงบนพื้น แล้วเริ่มฝึกฝนทันที

“เดินไปข้างหน้ากันเถอะ ไม่รู้ที่นี่จะปิดเมื่อไร รีบไปดูให้ชัดเจน!” เฉินโม่พูด

“อืม!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า เธอควบคุมตัวเองได้อยู่แล้ว

เขาซูคงใหญ่มาก หลังจากผ่านประตูใหญ่ของวัง พื้นที่ในนี้เหมือนกับเป็นโลกอีกใบ

แต่เฉินโม่รู้ว่าชี่ทิพย์รุนแรงในนี้ ต้องให้กำเนิดชีวิตที่แข็งแกร่งออกมาแน่นอน

เดินได้ไม่ไกลเท่าไร จู่ๆ มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากกลุ่มคนด้านหลัง เสียงน่าเวทนา!

นักบู๊คนหนึ่งใบหน้าช็อก ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม บนตัวยังเปื้อนเลือดด้วย เหมือนตกใจจนช็อกไปแล้ว

“เกิดอะไรขึ้น” ผู้อาวุโสอายุมากที่อยู่ข้างๆ ตวาดถาม ดูท่าว่าจะเป็นผู้อาวุโส ซึ่งเป็นอาจารย์ของนักบู๊คนนั้น

ชายหนุ่มคนนั้นตะโกนออกมาทันที “ปีศาจ มีปีศาจ! ศิษย์พี่โดนมันกินเข้าไปทีเดียว อาจารย์ เรากลับกันเถอะ ที่นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“หุบปาก กลางวันแสกๆ แบบนี้ มีปีศาจที่ไหนกันล่ะ นายอย่าพูดไร้สาระ!” ผู้อาวุโสคนนั้นตำหนิอย่างโมโห แต่ใบหน้าก็มีความกลัวเช่นกัน

เหมือนชายหนุ่มคนนั้นกลัวพลานุภาพของผู้อาวุโส จึงไม่กล้าพูดอะไร ตามหลังผู้อาวุโสตัวสั่นงันงก มองรอบๆ อย่างหวาดระแวง

พวกนักบู๊รอบๆ ก็ตั้งสติเตรียมพร้อม นักบู๊คนนั้นไม่มีความจำเป็นต้องพูดโกหก อีกทั้งถึงเขาโกหก จงใจสร้างบรรยากาศตึงเครียด แต่เลือดบนตัวเขาก็หลอกคนไม่ได้

เฉินโม่เชื่อสนิทใจ ชี่ทิพย์รุนแรงขนาดนี้ ถ้าไม่มีสัตว์อสูรที่มีพละกำลังแข็งแกร่งสักสองสามตัว แบบนั้นสิถึงจะแปลก

“ตามฉันมา!” เฉินโม่พูดกำชับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนอีกครั้ง

“อืม!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตกใจจนหัวหด ดึงแขนเฉินโม่ มองไปรอบๆ ไม่หยุด

“อ๊าก!”

ทุกคนเดินได้ไม่นานเท่าไร ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอีก ในบรรดานักบู๊ด้านหลัง มีคนหายไปอีกหนึ่งคน

แต่ครั้งนี้ เฉินโม่เห็นสิ่งนั้นชัดเจนแล้ว

ผู้อาวุโสที่อายุค่อนข้างมาก ตะโกนเสียงขรึมว่า “ทุกคนระวัง ที่นี่มีอะไรแปลกๆ ทุกที่ อีกทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักลอบโจมตีด้วย ฉันแนะนำให้ทุกคนรวมตัวกัน อย่าแยกกัน ให้สัตว์ประหลาดที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่มีโอกาสเข้ามาได้!”

“อืม มีเหตุผล!” มีคนเห็นด้วย

นักบู๊ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะไม่ว่าผู้ใดก็ไม่มีความคิดแตกแยกต่อความน่ากลัวที่ไม่รู้จัก ภายใต้การเรียกของผู้อาวุโสคนนั้น นักบู๊รวมตัวกันเป็นวงกลม

ครั้งนี้เดินไปหลายนาที ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ขณะที่ทุกคนผ่อนคลายลงเล็กน้อย จู่ๆ เฉินโม่เด้งตัวขึ้นไปกลางอากาศ กระแทกหมัดไปทางหัวผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง