บทที่ 542 คืนสินน้ำใจ

รักหวานอมเปรี้ยว

ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า ฐานะของตนเองกับมายมิ้นท์ในใจของเขา ไม่นึกว่าจะไม่เท่ากัน

เธอ แพ้ให้มายมิ้นท์แล้ว!

พิศมัยราวกับได้รับแรงกระแทกลูกใหญ่ มึนงงไปหมด ท้ายที่สุดจึงนั่งลงไปบนโซฟา ดวงตาทั้งคู่ไม่มีชีวิตชีวา เหม่อลอย

เห็นอย่างนี้ แววตาของเปปเปอร์จึงปรากฏความรู้สึกออกมาไม่ชัดเจน แล้วโบกมือ ให้ผู้ช่วยเหมันตร์เข็นเขาขึ้นไปข้างบน

ผู้ช่วยเหมันตร์จึงรีบทำตาม

อย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนก็มาถึงด้านบนแล้ว

ผู้ช่วยเหมันตร์เปิดประตูห้องของเปปเปอร์ เข็นเขาเข้าไป “ประธานเปปเปอร์ คุณพูดอย่างนี้กับคุณนาย ไม่กลัวคุณนายเสียใจเหรอครับ?”

เปปเปอร์พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ: “บางเรื่อง มันยากที่จะหลีกเลี่ยง ทำให้เธอได้รู้ว่าฉันจะปฏิบัติต่อเธอกับมายมิ้นท์ยังไงก็ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ เธอจะได้เกรงใจมายมิ้นท์บ้าง ไม่กล้าหาเรื่องมายมิ้นท์อีก”

“ก็จริงนะครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า

เปปเปอร์หยิบดวงใจสีครามออกมาจากในกระเป๋า “ไปเตรียมน้ำยาล้างเครื่องประดับมาแก้วนึง”

สร้อยเส้นนี้โดนพิศมัยสวมไปแล้ว ถ้าไม่ล้างให้สะอาด เขาก็ไม่กล้าเอาไปให้มายมิ้นท์อีก

“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์รู้ว่าเขาจะทำอะไร หลังจากตอบรับ จึงไปเตรียมทันที

เนื่องจากพิศมัยมีเครื่องประดับมากมาย ดังนั้นภายในคฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์จะเตรียมน้ำยาทำความสะอาดที่เอาไว้ใช้สำหรับเครื่องประดับมากมายโดยเฉพาะตลอดทั้งปีเลย

ผู้ช่วยเหมันตร์ลงไปถามคนรับใช้ ไม่นานก็ถือน้ำยาล้างเครื่องประดับที่อยู่ในแก้ววัดปริมาตรขนาดใหญ่กลับมาที่ห้องของเปปเปอร์

เปปเปอร์ให้ผู้ช่วยเหมันตร์วางน้ำยาล้างไว้บนโต๊ะ หลังจากวางอย่างดีแล้ว เขาถึงได้หย่อนดวงใจสีครามเข้าไปในน้ำยาล้าง

ไม่กี่วินาที น้ำยาล้างก็เปลี่ยนเป็นสีขุ่นขึ้นมา

เปปเปอร์หยิบแท่งแก้วยาวๆแท่งหนึ่งขึ้นมาคนๆ คนดวงใจสีครามในน้ำยาล้างเบาๆ เพื่อให้ดวงใจสีครามได้รับการชำระล้างทุกซอกทุกมุม

ผู้ช่วยเหมันตร์กำลังประคองผ้าขนหนูผืนหนึ่งยืนมองอยู่ข้างๆ

หลังจากรอให้น้ำยาล้างกลับมาใสอีกครั้ง เขาจึงส่งผ้าขนหนูไปให้ “ประธานเปปเปอร์ครับ”

เปปเปอร์หยิบผ้าขนหนูมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วใช้ที่คีบคีบดวงใจสีครามที่อยู่ในแก้ววัดปริมาตรขึ้นมา วางลงไปในผ้าขนหนู

ทำความสะอาดดวงใจสีครามเสร็จแล้ว มันเปลี่ยนไปเปล่งประกายแวววาวจ้าตามากกว่าตอนที่ยังไม่ได้ล้าง

โดยเฉพาะเพชรเม็ดหลัก ภายใต้แสงไฟที่สาดลงมา ยิ่งสะท้อนแสงออกมาหลากหลายสีสัน เปล่งประกายแวววาวมาก

เปปเปอร์หยิบผ้าขนหนูขึ้นมา เช็ดดวงใจสีครามเบาๆ เช็ดน้ำยาล้างที่หลงเหลืออยู่ที่ด้านบนออกไปจนหมดจด

“ไปที่ห้องเก็บเสื้อผ้าของฉัน หยิบกล่องออกมากล่องนึง” เปปเปอร์พลางเช็ด พลางสั่งผู้ช่วย เหมันตร์

ผู้ช่วยเหมันตร์ไปแล้ว ไม่นานก็ถือกล่องสวยๆกล่องหนึ่งออกมา

เปปเปอร์วางดวงใจสีครามที่เช็ดเสร็จแล้วลงไปในกล่อง “นายกลับไปเถอะ”

“ครับ!” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า หมุนตัวเดินออกไป

เปปเปอร์จึงหยิบมือถือขึ้นมา โทรไปหามายมิ้นท์

มายมิ้นท์รับสายอย่างรวดเร็ว “ดึกขนาดนี้แล้ว มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“รบกวนคุณหรือเปล่า?” เปปเปอร์วางมือถือไว้ที่ข้างหู พูดเบาๆ ไม่ตอบแต่ย้อนถามกลับ

มายมิ้นท์กำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ได้ยินเขาพูด จึงเอนคอที่ค่อนข้างแข็งไปมา ยิ้มเล็กน้อย “ไม่รบกวน ฉันยังไม่นอนน่ะ ไม่ถือว่ารบกวนหรอก”

“งั้นก็ดี” เปปเปอร์กำลังเล่นกล่องที่อยู่ในมือ แล้วถามขึ้น: “ทำไมคุณถึงคืนดวงใจสีครามกลับมาล่ะ?”

มายมิ้นท์ชะงักเล็กน้อย สีหน้าแปลกไป “คุณมาถามฉันตอนนี้ คงไม่ได้เพิ่งจะรู้หรอกนะ?”

เปปเปอร์อืมออกมา “ใช่”

“จะเป็นไปได้ยังไง!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ตอนนั้นฉันไปที่ห้องคนไข้ของคุณ มอบดวงใจสีครามให้พิศมัยไปแล้ว ให้เธอเอาไปคืนคุณ จะเป็นไปได้ยังไงที่คุณ……”

พูดถึงตรงนี้ จู่ๆเธอก็นึกถึงพฤติกรรมของพิศมัย สีหน้าจึงแย่ขึ้นมาทันที “พิศมัยเก็บดวงใจสีครามเอาไว้ส่วนตัว ไม่ได้เอาให้คุณใช่ไหม?”

“ใช่” เปปเปอร์พยักหน้า ไม่ได้ปิดบัง “คืนนี้ผมกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ แล้วเจอเธอกำลังสวมดวงใจสีครามอยู่ ถึงได้รู้ว่าคุณคืนดวงใจสีครามกลับมา”

“เป็นอย่างนี้จริงๆด้วย เธอนี่ก็……”

มายมิ้นท์เม้มปาก เดิมทีอยากจะบอกว่าพิศมัยหน้าไม่อาย แต่ก็รู้สึกตัวได้ในทันทีว่าเขาเป็นลูกชายของพิศมัย จะพูดต่อหน้าเขาอย่างนั้นมันไม่ค่อยดี จึงฝืนยับยั้งคำพูดเอาไว้

เพียงแต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เปปเปอร์ยังพอเดาได้ว่าเธออยากจะพูดอะไร แต่กลับไม่ได้โกรธ

อันที่จริงพิศมัยทำอย่างนี้ ก็หน้าไม่อายจริงๆนั่นแหละ

“ดวงใจสีคราม ผมเอาคืนมาแล้ว” เปปเปอร์กำลังลูบกล่อง พูดขึ้นเบาๆ

มายมิ้นท์จึงคลายกังวลได้ทันที “ก็ดีแล้ว”

“ดังนั้นผมจึงอยากรู้ว่า ทำไมคุณถึงคืนดวงใจสีครามมาให้ผม?” เปปเปอร์หรี่ตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

อะไรๆเธอก็คืนให้เขาหมดเลย คิดจะตัดขาดกับเขาไปเลยใช่ไหม?

ฟังออกถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของฝ่ายชาย มายมิ้นท์จึงปล่อยเม้าส์แล้วตอบกลับ: “ที่ฉันคืนดวงใจสีครามให้คุณ เป็นการตัดสินใจหลังจากที่ฉันครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้ว คุณกระโดดจากหน้าผามาช่วยชีวิตฉัน ทำให้ฉันรู้ว่าฉันติดค้างคุณมากมาย จนแทบจะชดใช้ได้ไม่หมดแล้ว ส่วนฉันที่แบกบุญคุณเอาไว้มากมายขนาดนั้น ก็รู้สึกกดดันมาก ดังนั้นฉันจึงทำได้เพียงคืนไปทีละนิด ดวงใจสีคราม ก็เป็นสิ่งแรกที่ฉันคืนไปก่อน”

อย่างนี้นี่เอง

คิ้วที่ขมวดแน่นของเปปเปอร์แผ่ออกแล้ว

เพราะเขาเข้าใจความคิดของเธอ

พวกเขาในตอนนี้ ยังไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกัน

ดังนั้นทุกๆเรื่องที่เขาทำเพื่อเธอ จึงทำให้เธอมีความกดดันเพิ่มมากขึ้น จนหมดหนทางที่จะรับเอาไว้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย

นิสัยของเธอก็เป็นอย่างนี้ เพียงแค่ติดค้างคนอื่น ก็ต้องชดใช้คืนให้ ไม่งั้นในใจก็จะปล่อยวางไม่ได้

“ผมรู้แล้ว ดวงใจสีคราม ผมจะเก็บเอาไว้” เปปเปอร์วางกล่องไว้บนโต๊ะ พูดขึ้น

ในเมื่อเธอต้องการจะคืน ก็ให้เธอคืนมาเถอะ

เพียงทำให้ในใจของเธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง เขาก็จะยอมรับ

รอวันข้างหน้า ที่พวกเขาจะได้กลับมาคบกันอีกครั้ง สิ่งที่เหลือ เขาก็จะทำได้อย่างสง่าผ่าเผย ทำให้เธอไม่ต้องคืนเขาอีกแล้ว

มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเปปเปอร์กำลังคิดอะไรอยู่ ได้ยินคำพูดของเขาก็ยิ้มออกมา “เก็บไว้ก็ดี”

เขาเก็บเอาไว้ ก็หมายความว่าเขายอมรับบุญคุณที่เธอคืนกลับไปนิดนึงแล้ว

เป็นอย่างนี้ สิ่งที่เธอติดค้างเขา ก็จะน้อยลงไปหนึ่งอย่างแล้ว ความกดดันในใจ ก็จะเบาบางลงไปบ้าง

ส่วนอย่างอื่น ก็ค่อยๆคืน

“ใช่สิ” จู่ๆมายมิ้นท์ก็นึกถึงอะไร นั่งยืดตัวขึ้นมา “เอ่อ……ฉันพูดกับเต้ไปแล้วนะ เรื่องที่ต่อไปอย่าเรียกฉันอย่างนั้นอีก”

“เร็วขนาดนี้เลย?” เปปเปอร์เลิ่กคิ้วเล็กน้อย แววตาปรากฏความประหลาดใจออกมา

เขายังคิดว่า เธอจะค่อยๆหาโอกาสให้ลาเต้ทำอย่างนี้ซะอีก

เขาเตรียมใจไว้อย่างดีแล้วที่จะต้องฟังลาเต้ เรียกเธอว่าที่รักไปอีกสักพัก

คิดไม่ถึง ไม่นึกว่าเธอจะบอกให้ลาเต้ไม่ต้องเรียกเธออย่างนั้นอีกแล้วเร็วขนาดนี้

นึกถึงตรงนี้ ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์ก็ยิ้มออกมา อารมณ์ดีขึ้นมาอย่างชัดเจน

เนื่องจากยิ่งเธอทำเร็ว ก็แสดงว่า เธอยิ่งแคร์เขาน่ะสิ

ก็ไม่ได้เร็วมากนะ“ แววตาของมายมิ้นท์เป็นประกาย ก้มหน้าตอบ: “ตอนเย็นฉันอยู่กับเต้พอดีน่ะ จึงถือโอกาสบอกเต้ไปเลย”

“เขาตกลงเหรอ?” เสียงของเปปเปอร์อ่อนโยนมากขึ้น

มายมิ้นท์พยักหน้า “อืม ตกลงแล้ว เพียงแต่……”

“เพียงแต่อะไร?”

“ไม่มีอะไร” มายมิ้นท์ส่ายหัว มองเวลาที่มุมขวาล่างของคอมพิวเตอร์ “เอาล่ะประธานเปปเปอร์ ดึกแล้ว ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

“อื้ม” ถึงเปปเปอร์จะยังสงสัยมากว่าระหว่างเธอกับลาเต้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ได้ยินเธอบอกว่าอยากพักผ่อน จึงเก็บกดความสงสัยนี้เอาไว้

เขาไม่อยากทำให้เธอเหนื่อย

“นอนเร็วหน่อยนะ ราตรีสวัสดิ์” ริมฝีปากบางๆของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟังกำลังพูดว่าราตรีสวัสดิ์

มายมิ้นท์ฟังแล้วรู้สึกหูไร้เรี่ยวแรง เหมือนมีสิ่งของที่เป็นขนๆประเภทนั้นกำลังเกาเธออยู่เบาๆ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเอียงหัวถูๆอยู่ที่หู ตอบกลับเบาๆ: “ราตรีสวัสดิ์”

คุยโทรศัพท์เสร็จ เปปเปอร์จึงวางมือถือลง แล้วหยิบกล่องขึ้นมา ควบคุมรถเข็นเคลื่อนไปทางห้องเก็บเสื้อผ้า