ส่วนที่ 4 ตอนที่ 184 ยากที่จะห้ามใจ

ความลับแห่งจินเหลียน

จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็พลันนึกถึงปัญหาครั้งนั้นที่สวี่อี้หรานพูดขึ้นมา เขาบอกว่าดวงชีวิตของหยกราชางูแข็งแกร่งมาก หากอยากเจียระไนออกมาก็มีความเป็นไปได้สองอย่าง…อย่างแรก ราชางูที่มีชีวิตอยู่ในหยก​ตั้งนาน หากเจียระไนออกมาแล้ว เมื่อสัมผัสเข้ากับอากาศ อาจจะไม่ทันได้มีเวลาให้ปรับตัวก็คงตายไปในที่สุด

 

อย่างที่สองก็คือ ราชางู​ถูกขังอยู่​ในหยกตั้งหลายปีขนาดนี้ แต่ยังไม่ตาย เมื่อถึงเวลาเจียระไนหินออกมา มันก็ยังสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือหากสิ่งมีชีวิตนี้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด สำหรับมนุษย์ก็เท่ากับว่ารอภัยพิบัติได้เลย…เพราะสัญชาตญาณของมนุษย์อ่อนแอเหลือเกิน

 

และสิ่งที่เหมือนกับไข่งู​ก็คือราชาหยก มันมีแหล่งที่มาเดียวกันเหมือนกับราชางูอย่างไม่ต้องสงสัย            ซีเหมินจินเหลียนเคยคิดว่ามันเป็นไข่ที่มาจากราชางูหรือเปล่า?

 

งูมีอายุขัยที่แข็งแกร่ง แถมชนิดหลากหลาย แต่ก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตอยู่เป็นร้อยล้านปี นอกจากนี้หมอมองโกลก็บอกไว้ว่าหยกราชางูกับมนุษย์มีชีพจรคล้ายคลึงกัน

 

“หมอมองโกล คุณจะลองไหม” ซีเหมินจินเหลียนสื่อไปทางหินหยกลายน้ำ                                          

 

“ลองอะไรเหรอครับ” จ่านป๋ายถามอย่างไม่เข้าใจ

 

“ลองดูว่าหินหยกข้างในนี้มีอะไร!” ซีเหมินจินเหลียนอธิบาย

 

“เมื่อวานตอนที่ผมเห็นก็รู้สึกได้ว่ามันน่าจะผิดปกติ!” หมอมองโกลขมวดคิ้วพูด “คุณซีเหมิน หินลายน้ำนั้นน่าจะเหมือนกับหยกราชางูที่มีสิ่งมีชีวิตบางอย่าง แต่ปัญหาก็คือ…ข้างในหยกพวกนี้ทำไมถึงมีสิ่งมีชีวิตด้วย? คุณไม่เคยคิดมาก่อนเหรอ”

 

“​ฉันเองก็เคยคิด…” ซีเหมินจินเหลียนเอียงหัวพูด “หลายร้อยปีมานี้ เปลือกโลกขยับตัว บางทีอาจจะเกิดจากภูเขาไฟระเบิดทำให้แผ่นดินไหว…ยังไงมันก็มีสาเหตุมาจากธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เปลือกโลกแยกจากกัน สิ่งมีชีวิตที่เดิมทีอาศัยอยู่บนพื้นโลกก็ไม่ทันได้หลบหนี รับโศกนาฏกรรมทับถมอยู่ล่างพื้นดิน จากนั้นด้วยการก่อตัวกำเนิดของหยกเลยกลายเป็นเช่นนี้” พูดพลางเธอก็ผายมือยิ้ม หากจะเจียระไนค่อนข้างจะต้องระวัง แถมยังต้องจัดการให้เป็นทางการและถูกหลักวิทยาศาสตร์

 

“แต่…” จ่านป๋ายมองซีเหมินจินเหลียน ลังเลว่าจะพูดดีไหม

 

ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาใส่เขาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณอยากพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ เลยเถอะ จะมาพูดร่ายพร่ำเพรื่อเหมือนตาแก่ๆ เพื่ออะไรกัน?”

 

“ผมกลัวว่าถ้าผมพูดไปแล้วคุณอาจจะไม่ดีใจ” จ่านป๋ายเดินไปและนั่งบนหยกสีแดงด้วยกันกับเธอ “จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันนี้ แร่ธาตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโ​ลกอย่างช้าๆ หากมองในมุมมองของทฤษฎีก็ไม่น่ามีการดำรงอยู่ของหยกแล้ว”       

 

“ใช่ๆๆ!” สวี่อี้หรานเห็นพ้องกับความคิดของจ่านป๋ายและพยักหน้าพูด “สองวันมานี้ผมลองคิดดูแล้ว มีบางอย่างที่มีความเป็นไปได้”

 

“อืม อะไรที่เป็นไปได้?” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

“แช่แข็ง!” สวี่อี้หรานส่ายหน้าครุ่นคิดไปมา เรียบเรียงถ้อยคำพูด “จะพูดยังไงดีล่ะ ตอนนั้นเปลือกโลกอาจจะมีสิ่งมีชีวิตกำลังใช้ชีวิตกันอยู่ อย่างเช่นงู​ตัวนี้…” ในขณะที่พูดเขาก็ชี้ไปที่หยกราชางู

 

หยกราชางูเบิกดวงตามองไปที่สวี่อี้หรานที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างใสซื่อ

 

“ตอนนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่างู​ตัวนี้น่าจะกำลังฟักไข่งูอยู่ และในเวลานั้นอุณหภูมิของโ​ลกก็ลดลงถึงขั้นติดลบไปหลายองศา เลยทำให้งู​​ที่กำลังฟักไข่ลูกงูถูกแช่แข็งทั้งหมด จากนั้นก็ก่อกำเนิดขึ้นมาเป็นหยก!” สวี่อี้หรานพูด

 

“เหลวไหล!” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า

 

“ผมเหลวไหลยังไง?” สวี่อี้หรานปากจู๋แสดงความไม่พอใจ

 

“พวกเราไม่สามารถสร้างหยกแบบนี้ได้ในความเป็นจริง สิ่งที่คุณพูดเมื่อสักครู่สามารถลองทำตามได้ เอาอย่างนี้ไหม พวกเราลองหาสัตว์สักอย่างมาแช่แข็ง แล้วหลังจากนั้นให้คุณลองสำรวจดูว่าสัตว์พวกนี้ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนพูด “หากอยากใช้งูที่ยังไม่ตายมาทดลอง มันก็เป็นเรื่องง่าย!”

 

จ่านป๋ายคิดไปมาพร้อมส่ายหน้าพูด “อย่าใช้งู​เลย พวกคุณไม่รู้สึกว่ามันน่าขยะแขยงเหรอ? งูตัวอื่นไม่ได้สวยเหมือนงู​​ตัวนี้นะ”

 

“ผมได้ยินมาว่ามีปลาในเขตร้อนพันธุ์หนึ่งที่อายุขัยแข็งแรงมาก!” สวี่อี้หรานพูด “ผมก็อยากทดลองอยู่​เหมือนกัน หากคุณไม่พูดขึ้นมา ผมก็คงคิดไม่ออก!”

 

ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อปลาเขตร้อนมา แล้วนำไปใส่ในแท็งก์น้ำทำให้แข็งตัว จากนั้นใช้วิธีแปลกประหลาดของคุณมาจับชีพจรว่าปลาพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่​ไหม?”

 

สวี่อี้หรานพยักหน้าพูด “วิธีนี้ใช้ได้เลย จากนั้นก็สามารถพิสูจน์​ได้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ผิดปกติหรือสัตว์ที่ถูกแช่แข็งหลังจากนั้น ความจริงแล้วสามารถเอาตัวรอดเพื่อรักษาชีวิตได้”

 

จ่านป๋ายก็รู้สึกตื่นเต้นตามๆ กัน “พรุ่งนี้ผมจะไปซื้อแล้วกัน”

 

“พรุ่งนี้พวกคุณว่างตอนไหน” สวี่อี้หรานพูด “ผมจะได้มา แล้วก็พวกคุณมีเตรียมอุปกรณ์แช่แข็งแล้วใช่ไหม”

 

“ถ้าไม่มี ค่อยไปซื้อก็ได้!” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องหรอก พรุ่งนี้พวกคุณก็มาที่บ้านผมก็ได้” สวี่อี้หรานพูด “ผมก็อยู่ในย่านหลานกุ้ย สักบ่ายสองแล้วกันนะ หากสามารถยืนยันได้จริงๆ ว่าการแช่แข็งสามารถรักษาสภาพให้สัตว์มีชีวิตได้ นี่จะเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย”

 

“คุณอาจจะคว้ารางวัลโนเบลสาขาการแพทย์เลยก็ได้นะ!” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้ม

 

“ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้น!” สวี่อี้หรานส่ายหน้าพูด “ผมแค่อยากรู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรอยู่​กันแน่ เหมืองหยกจะมาจากการแข็งตัวเหรอ แต่ไม่ได้เกิดจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกอย่างช้าๆ จนกลายเป็นเหมืองหยก? หรือจะมีเทพธิดาหนี่วาฝึกหินปิดฟ้าอยู่​จริงๆ?”

 

“ใครจะไปรู้?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูดยิ้มฝืน ในใจของเธอ เธ​อยอมรับว่าหยกมาจากการที่เทพธิดา​หนี่วาฝึกหินและหลงเหลือไว้ แต่หลักการพูดนี้มันก็เป็นเรื่องที่ไร้สาระ สัญชาตญาณเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า จึงพยายามหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบาย… น่าจะตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่เธอเป็นโรคถูกทฤษฎีทางไสยศาสตร์มาเบี่ยงเบน

 

“นี่ก็ดึกแล้ว คุณซีเหมิน ผมคงไม่รบกวนคุณแล้ว แต่…ผ่านไปอีกหลายวันผมค่อยมาดู​ใหม่ได้ไหม?” พูดพลางเขาก็ชี้ไปที่หินหยกลายน้ำก้อนนั้น

 

“ไม่มีปัญหา!” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “ยินดีเสมอ”

 

จ่านป๋ายเดินไปส่งสวี่อี้หรานออกไป เสร็จแล้วเดินกลับเข้ามาในบ้านปิดประตูลง มองไปทางซีเหมินจินเหลียนที่ยังนั่งอยู่​บนหยกสีเลือด ดูหยกราชางู​อย่างเลื่อนลอย อดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำออกมาว่า “จินเหลียน คุณไม่ควรให้เขาเข้ามาที่ห้องใต้ดินนะ…ความโลภของมนุษย์ไม่เคยพอ แม้ว่าตระกูลสวี่จะร่ำรวย แต่ใครจะไปรู้​หากเขาเห็นหยกมากมายขนาดนี้แล้วล่ะก็ จะไม่มีความคิดชั่วร้ายอยู่ในใจ? ระวังใจที่จะทำร้ายคน แต่ก็ควรระวังคนที่จะมาทำร้ายใจด้วย!”

 

“เขาไม่เหมือนกัน” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด “เขาทำให้ฉันรู้สึกถึงความพิเศษบางอย่าง”

 

จ่านป๋ายสับสน มองเธอด้วยความไม่เข้าใจ ซีเหมินจินเหลียนเอียงศีรษะพยายามรวบรวมถ้อยคำอยู่​นาน “ความรู้สึกนี้แปลกมาก คงยากที่คุณจะเข้าใจ แม้ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงหน้าฉัน แต่ฉันก็รู้สึกว่าเขาและพวกเราไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน…”

 

“คุณเจอผีเข้าแล้วเหรอ?” จ่านป๋ายพูดไร้เรี่ยวแรง

 

“คุณต่างหากที่เจอผี!” ซีเหมินจินเหลียนหมดปัญญาจะพูด

 

“สิ่งที่เหมือนกันย่อมอยู่ด้วยกันได้ หากผิดแปลกจะตีห่างทันที!” จ่านป๋ายพูด “เขาก็บอกว่าคุณไม่เหมือนมนุษย์ ตอนนี้คุณก็พูดแบบนี้?”

 

“แล้วคุณที่มาพักด้วยกันกับคนที่ไม่ใช่มนุษย์อย่างฉัน เป็นอะไรล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนถลึงตาใส่เขา เพียงแต่สายตาของเธอไม่ได้มีความดุดันเลยสักนิด

 

จ่านป๋ายยิ้มแย้มออกมา ก่อนจะรีบย้ายหยกราชางูใส่ไว้ในตู้เซฟข้างใน หยกอื่นก็ช่างมันเถอะ แต่หยกสามก้อนนี้ต้องใส่ตู้เซฟล็อกป้องกันอย่างแน่นหนา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่วางใจ

 

ซีเหมินจินเหลียนเอื้อมมือไปแตะหินลายน้ำ ครั้งแรกที่เธอเห็นหินลายน้ำก็ตกตะลึงอยู่ตลอดจนถึงตอนนี้ คนอื่นอาจจะมองไม่ออกว่าภายในลายน้ำนั้นซ่อนอะไรไว้อยู่ที่เหมือนจะเป็นสีขาวแต่ไม่ขาว สีดำหรือไม่ดำ แต่จากการมองของเธอสามารถมองออกได้อย่างชัดเจน

 

 เพราะว่ามองออกได้อย่างชัดเจน เธอจึงยากที่จะเชื่อ หรือว่านี่จะเป็นเรื่องบังเอิญ? แต่ความบังเอิญนี้ก็ยากเกินกว่าจะให้ใครเชื่อได้ จากการสำรวจของเธอ ขอแค่เป็นสิ่งมีชีวิตเธอก็ไม่สามารถมองทะลุผ่านได้ แต่หากไม่ใช่ เธอก็มองออกได้อย่างชัดเจน

 

ลายน้ำพวกนั้นเป็นของเหลวก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้ลายน้ำพวกนี้ไหลตลอดคืออะไร? สิ่งที่อยู่ตรงกลางราวกับกำลังหายใจอยู่​ ในระหว่างที่สู​ดลมหายใจเข้าออก ลายน้ำก็เหมือนหมุนวนเป็นรอบ บวกกับการหักเหของแสงและสะท้อนของหยก มองด้วยตาเปล่าเลยไม่สามารถมองได้ว่าสิ่งที่อยู่​ตรงกลางนั้นเป็นอะไร

 

สิ่งมีชีวิตนั้น ทำไมถึงต้องมีรู​ปร่างลักษณะที่แปลกประหลาดด้วย

 

ซีเหมินจินเหลียนมองไปที่หินลายน้ำด้วยสติที่ล่องลอย

 

“จินเหลียน…คุณเป็นอะไรไป?” จ่านป๋ายย่อตัวนั่งยองๆ ข้างๆ เธอ

 

“เสี่ยวป๋าย คุณรู้หรือเปล่าว่าตรงกลางนั้นคืออะไร” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

“ผมดู​ไม่ออกหรอกครับ” จ่านป๋ายส่ายหน้าพูด “ลายน้ำนี้ มองนานๆ ก็ทำให้ตาลาย ส่วนของที่อยู่ตรงกลางก็ไม่ได้ใหญ่มาก ยากที่จะแยกออกได้จริงๆ”

 

“แต่ฉันรู้!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มฝืน “สายตาของฉันย่อมดีกว่าคนอื่น ดังนั้น…ฉันเลยพอดูออกบ้าง”

 

“อ้อ?” จ่านป๋ายแปลกใจ คนที่เดิมพันหินส่วนใหญ่ต่างมีดวงตาที่เฉียบคม ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างนี้เขาเลยเชื่อ

 

ซีเหมินจินเหลียนคว้ามือเขาและวาดรูปตรงกลางฝ่ามือ “ข้างในเป็นแบบนี้ และที่สวี่อี้หรานหมอมองโกลคนนั้นพูดก็ไม่ผิด ของที่อยู่ตรงกลางน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต และที่สำคัญก็คือ…มันยังมีชีวิต”

 

“นี่คืออะไรกันแน่?” จ่านป๋ายงงงัน ในมือที่ซีเหมินจินเหลียนวาดรูปให้เขา เป็นลวดลายภาพหยินหยาง…

 

“ฉันก็สงสัยมาก สงสัยจนอยากจะเอามันมาผ่าออกมาให้เห็นเต็มตา!” ซีเหมินจินเหลียนพูด

 

 จ่านป๋ายมองเธอด้วยความแปลกใจและถามขึ้น “จินเหลียน คุณพู​ดจริงเหรอ?”

 

“​การที่ฉันต้องการไปที่พม่าด้วยตัวเอง ประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่การซื้อหยกหรอก ฉันอยากไปดู…ว่าที่นั่นมีอะไรมหัศจรรย์กันแน่” ซีเหมินจินเหลียนสูดลมหายใจลึกและผ่อนลง “หากมันจำเป็น ฉันก็จะตัดออกมาดู” เธอพูดพลางชี้ไปที่หินลายน้ำ