ตอนที่ 216: ลงโทษ โดย Ink Stone_Romance

วันรุ่งขึ้นตอนที่เฉินเยี่ยนไปดูหวางนิว หวางนิวตื่นแล้ว แต่ตัวเธอยังไม่มีชีวิตชีวา เธอออกเสียงง่ายๆ ได้ แต่เฉินเยี่ยนไม่ให้เธอพูด ต้องพักผ่อนอีกหลายวันถึงจะดีขึ้น

สีหน้าเฉินจงดูเหนื่อยล้า แค่สภาพจิตใจฟื้นฟูกลับมาไม่น้อยแล้ว ดูเหมือนตอนที่หวางนิวตื่นเขาน่าจะได้คุยกับหวางนิวไม่น้อยเลย ทั้งสองคนน่าจะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว

เฉินเยี่ยนทำอาหารเช้า เฉินกุ้ยและหลัวเหมยก็มาแล้ว บอกว่าเฉินเยี่ยนอยู่ฝั่งตะวันตก เมื่อวานน่าจะร้องไห้ทั้งคืน แต่ตอนที่พวกเขาออกมาก็ไม่ได้ยินเสียงเฉินเวยแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้เรียกเธอ

เฉินเยี่ยนป้อนหวางนิวกินโจ๊กธัญพืช

หวางนิวเจ็บคอ สภาพจิตใจก็ไม่ดี เลยไม่อยากกินเท่าไร แต่เฉินเยี่ยนเรียกให้เธอกินเข้าไปหน่อย ไม่อย่างนั้นร่างกายจะฟื้นฟูกลับมาได้ยังไง

เฉินกุ้ยไปโรงงานแล้ว เฉินจงอยู่ที่บ้าน เฉินเยี่ยนก็อยู่บ้าน ดังนั้นเฉินกุ้ยเลยต้องไป แต่หลัวเหมยอยู่ที่นี่ดูแลหวางนิว

ตอนสายเก้าโมงกว่าเฉินเวยก็มา

ท่าทางเฉินเวยดูย่ำแย่ ผมเพ้ารุงรัง น่าจะไม่ได้หวีผม คิดว่าแขนเธอคงเจ็บ อยากจะหวีก็ไม่มีแรง

ตาเธอก็บวมช้ำ แดงก่ำ เหมือนกระต่ายตาแดง

ใบหน้าก็บวม ดูแล้วยังมีรอยเขียวช้ำอยู่ ดูน่ากลัว

เฉินเยี่ยนกลับไม่รู้สึกสงสารเธอสักนิด

เฉินเวยเข้ามาในห้อง เห็นหวางนิว เธอไม่พูดอะไรรีบคุกเข่าลง

หวางนิวเห็นเฉินเวยทำแบบนี้ เธออยากจะยื่นมือไปดึงเฉินเวย แต่มือเพิ่งยื่นออกไป เธอก็หดมือกลับ เธอคิดถึงเรื่องเมื่อวาน สายตาที่มองเฉินเวยดูสับสนมาก

นี่คือลูกสาวของเธอ เธอคลอดมาเอง ตั้งแต่เล็กเพราะว่าเธอร่างกายไม่แข็งแรง ดังนั้นในลูกสี่คนนี้ เธอรักเฉินเวยมากที่สุด ทำดีกับเฉินเวยที่สุด แต่เฉินเวยทำเรื่องที่เธอไม่สามารถให้อภัยได้ เธอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

หวางนิวหันหน้าไป เธอไม่มองเฉินเวย

“แม่ ขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้ว ผีบังตาหนู หนูคิดว่าแม่กับพ่อไม่รักหนูแล้ว ไม่ต้องการหนูแล้ว เห็นพ่อแม่ทำดีกับพี่ หนูเสียใจนะ หนูไม่อยากให้พี่แต่งงานกับซินห้าว หนูพลาดไปแล้ว หนูไม่ใช่คน แต่ตอนนั้นเห็นแม่เป็นแบบนั้น หนูเสียใจจริงๆ หนูอยากจะรับความทรมานแทนแม่ ตายแทนแม่”

“แม่ หนูรู้ว่าแม่โทษหนู หนูก็โทษตัวเองเหมือนกัน แม่รีบพักฟื้นร่างกายเถอะค่ะ หายแล้วแม่จะตีหนู ด่าหนู หนูรับหมดค่ะ อีกหน่อยหนูจะเชื่อฟัง หนูไม่เถียงแล้ว แม่ให้หนูทำอะไรหนูก็ทำ ถ้าแม่ยังไม่ให้อภัยหนู หนูจะดื่มยาที่เหลือทั้งหมด แม่”

เฉินเวยพูดไปก็ร้องไห้ไป หน้าตาดูเศร้าโศกเสียใจมาก

เฉินเยี่ยนไม่พูดอะไร ดูเฉินเวยแสดงละคร เธอคิดไว้แล้วว่าเฉินเวยต้องเป็นแบบนี้ แต่เธอไม่ได้ห้าม เธอจะดูว่าแม่จะให้อภัยเฉินเวยหรือไม่

“แม่ถามลูกหน่อย ลูกอยากจะให้แม่ตายจริงหรือ?”

ผ่านไปนานกว่าหวางนิวจะถามประโยคนี้ออกมา ลำคอเธอแหบแห้งมาก

“หนูไม่คิด หนูไม่คิด ยานั่นหนูซื้อมาเตรียมให้ตัวเองดื่มเอง หลายวันนี้หนูนอนไม่หลับทุกคืน หนูเสียใจ หนูคิดว่าถ้าพี่แต่งงานแล้ว หนูก็จะไม่อยู่แล้ว เมื่อวานเห็นพี่กับซินห้าวไปแล้ว หนูเสียใจมาก คิดแค่ว่าให้พ่อกับแม่หม้ายคนนั้นมีเรื่องนิดหน่อย ทะเลาะกัน ให้พี่กับซินห้าวมีเรื่องขัดแย้งกันก็พอ แต่กลับมาหนูเห็นแม่เสียใจขนาดนั้น ใจหนูไม่รู้ว่าทำไมถึงผิดปกติไป หนูไม่อยากให้แม่เกิดเรื่อง เลยใส่ยาลงไปนิดหน่อย ถ้าหนูอยากให้แม่ตายจริง หนูไม่เอายาใส่ลงไปทั้งหมดหรือ? ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว หนูจะตามแม่ไปแน่นอน แม่ จริงๆ นะ แม่เชื่อหนูสิ”

เฉินเวยร้องไห้ ดูเหมือนจริงใจจริงจัง ฟังแล้วอดน้ำตาไหลไม่ได้

เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา ซื้อให้ตัวเอง? ใครจะเชื่อกัน!

สีหน้าหวางนิวดูผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย ไม่ว่าที่เฉินเวยพูดจะจริงหรือไม่ เธอก็ยอมที่จะเชื่อ ทำไม? เพราะคนเป็นพ่อแม่ไม่อยากจะคิดว่าลูกจะแย่แบบนั้น

“แม่ หนูผิดไปแล้ว หนูผิดจริงๆ ถ้าแม่คิดว่าหนูไม่ใช่คนแล้ว งั้นหนูจะกินยาที่เหลือให้หมด ชดใช้ชีวิตให้แม่”

ครั้งนี้เฉินเวยพูดไปพร้อมโขกศีรษะ โขกจนเสียงดัง

“อย่า”

หวางนิวรีบห้าม เธอให้ลูกสาวกินยาที่เหลือไม่ได้

หลัวเหมยอยู่ข้างๆ มองดูเฉินเวย แล้วมองเฉินเยี่ยน เธอถอนหายใจเบาๆ เรื่องนี้เธอเข้าไปแทรกไม่ได้

เฉินเวยโขกศีรษะต่อ เพราะหวางนิวยังไม่ให้อภัยเธอ

ไม่นานหน้าผากเฉินเวยก็แดง

เฉินจงมองเฉินเวย เขาอยากจะพูดอะไร แต่อ้าปากแล้วก็พูดไม่ออก

“ลุกขึ้นมาเถอะ”

ในที่สุดหวางนิวก็เรียกให้เฉินเวยลุกขึ้น

แม่ แม่ให้อภัยหนูแล้ว?”

เฉินเวยคุกเข่าเดินไปข้างหน้าสองก้าว มองหวางนิวด้วยความดีใจ

หวางนิวมองเฉินจง

“เฉินเวย เรื่องที่ลูกทำพ่อกับแม่ก็มีส่วนรับผิดชอบ เป็นพวกเราที่สั่งสอนลูกไม่ดีเอง ลูกทำเรื่องแบบนี้ พ่อกับแม่ลูกเสียใจจริงๆ ตอนนี้แม่ลูกไม่เป็นอะไรแล้ว พ่อก็ไม่พูดอะไรแล้ว แต่เฉินเวย ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพ่อจะหาสามีให้ลูก รอพี่สาวลูกแต่งงานแล้ว ก่อนสิ้นปีลูกก็แต่งงานแล้วกัน หลังจากนี้ถ้าลูกคิดถึงแม่ ก็กลับมาเยี่ยมแม่ ถ้าไม่อยากจะกลับมา พ่อก็ไม่ว่าอะไร ลูกก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่แล้ว อยู่ฝั่งนั้นถ้ายังมีใจ ก็ให้อยู่บ้านไป ถ้าไม่สำนึกผิดและกลับตัวกลับใจใหม่ ลูกก็ออกไปเถอะ และอย่ามาพูดเรื่องจะดื่มยาอีก พูดแล้วแม่เขาไม่สบายใจ”

เฉินจงบอกบทลงโทษเขากับเฉินเวย จากน้ำเสียงเขาฟังออกว่าเขาหมดใจกับเฉินเวยแล้ว

หวางนิวหลับตาลงอีกครั้ง

เฉินเยี่ยนรู้ว่านี่คือผลที่พ่อกับแม่ปรึกษากันมาแล้ว

เฉินเวยนั่งเป็นอัมพาตอยู่ที่พื้น สีหน้าไม่อยากเชื่อ

“ไม่ พ่อ แม่ ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่ได้ หนูอายุยังไม่ถึง พ่อแม่จะให้หนูไปแต่งกับใครก็ได้ไม่ได้ หนูไม่ต้องการ หนูไม่แต่งงาน หนูจะหาเอง”

เฉินเวยตอบกลับและเข้าไปดึงแขนหวางนิว เธอไม่ต้องการผลแบบนี้ รีบขนาดนี้ บ้านเฉินจะหาคนที่ดีให้เธอได้ยังไง เธอชอบซินห้าว เธอไม่ต้องการคนอื่น

“ไม่แต่งก็ไม่ต้องแต่ง”

เฉินเยี่ยนพูดมาประโยคหนึ่ง ทุกคนในห้องมองมาที่เธอ รวมถึงเฉินเวย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินเยี่ยนถึงใจดีช่วยพูดแทนเธอ

“จะได้ไม่ต้องไปทำร้ายคนอื่น”

เฉินเยี่ยนพูดต่อ

เฉินเวยกัดฟัน แต่เธอไม่ได้ตอบโต้เฉินเยี่ยน ตอนนี้ไม่ให้เธอได้แต่งงานเป็นเรื่องสำคัญกว่า

เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไรอีก เฉินเวยไม่อยากแต่งงาน ถึงแม้เธอจะอยากแต่ง เธอก็แต่งไม่ได้

เฉินเยี่ยนไม่ได้ไล่เฉินเวยไป และไม่ได้ด่าเฉินเวย ตีเฉินเวย นี่ทำให้เฉินจงคาดไม่ถึง แต่ตอนนี้เขาไม่มีใจจะคิดเรื่องพวกนี้ เขากำลังคิดว่าครอบครัวอยู่กันดีๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมเฉินเวยถึงได้เป็นแบบนี้

ตั้งแต่เมื่อวานถึงตอนนี้เฉินเวยยังไม่ได้กินอะไร คนบ้านเฉินก็ไม่มีใครถามเธอ ไม่มีใครให้เธอไปกินอะไร เธอเลยนั่งอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครสนใจเธอ ดูอึดอัดมาก

จะเที่ยงแล้ว ข้างนอกมีเสียงพูดคุย เฉินเยี่ยนไปดูที่หน้าประตู เห็นคนใส่หมวกปีกกว้าง เป็นคนจากสถานีตำรวจมาถึงแล้ว

“ขอถามหน่อยนี่ใช่บ้านของเฉินจงหรือเปล่า?”

คนจากสถานีตำรวจมาสองคน คนหนึ่งอายุมากหน่อย อีกคนอายุน้อย